หาดนางรำ 
 คือเมื่อปี 243 ช่วงเดือน พฤษภาคม เรากับพวกเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่จังหวัด 
ชลบุรี ที่หาดจอมเทียนเราก็ไปกันในช่วงกลางคืนและพวกเราก็ได้ดื่มเหล้ากัน 
และพูดเรื่องลามกกัน พอตอนเช้าเราก็ไปเที่ยวกันต่อที่หาดนางรำ 
ใกล้ ๆ กับท่าเรืออู่ตะเภา เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า แฟนเราเนี้ยเขากินเหล้า 
และก็พูดเหมือนหลบหลู่สิ่งที่มองไม่เห็น แต่ยังไม่ได้ลงเล่นน้ำ 
พอดีที่หาดนั้นมีเกาะเล็ก ๆ ห่างจากหาดประมาณ 1กิโลเมตร 
ลืมบอกไปหาดนี้เป็นเขตของทหาร เราจำได้ว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 
ปีเดียวกันที่เรามาเที่ยวที่นี้ น้ำยังไม่ลงถึงขนาดข้ามไปที่เกาะนั้นได้เลย 
แต่พอมาคราวนี้สามารถข้ามไปได้ พอประมาณ บ่าย 3 โมงเย็น แฟนเรา 
กับเราก็ชวนพวกเพื่อน ๆ ไปดูว่าบนเกาะนั้นมีอะไร แต่เพื่อน ๆ 
บอกให้เรากับแฟนไปก่อน เราก็เลยบอกให้แฟนไปก่อนขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน 
แล้วแฟนเราก็ออกไปก่อน เราก็ตามแฟนเราไป หากกันประมาณ 500 เมตร 
เราตะโกนเรียกแฟนเราเมื่อเขาใกล้ถึงป่าบนเกาะแฟนเราก็หันมามองเรา 
แล้วแฟนเราก็วิ่งหายไปในป่านั้น แต่แล้วเรื่องไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น 
เราไปถึงจุดที่แฟนเราเดินหายเข้าไป เราเห็นแฟนเราวิ่งปี๋ออกมา 
เราก็ถามว่าจะรีบออกมาทำไมกำลังจะตามไป แฟนเราบอกว่าออกไปเร็ว ๆ 
เราถามว่าทำไม เขาก็ไม่พูด เขาจูงมือเราวิ่งในน้ำ แล้วบอกว่า 
พอถึงหาดให้เตรียมธูปให้ด้วย 9 ดอก เรารู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น 
ต่างคนต่างพากันวิ่งไปให้เร็วที่สุด และก็มีพวกที่เห็นเราข้ามไปที่เกาะนั้น 
เริ่มเดินตามเราเข้าไป แต่พวกทหารก็เรียกให้กลับ 
พวกนั้นเห็นเรากับแฟนกลับก็เลยกลับกันหมด แต่พวกเขายังไปไม่ถึงไหนกันเลย 
พอเรากับแฟนมาถึงหาด แฟนเราก็บอกกับเรากับเพื่อน ๆ ว่า อย่าเข้าไปนะที่นั้นมีของ 
แล้วแฟนเราก็หลับไป 
เราตัดสินใจไปถามทหารที่เรียกให้กลับมาที่ฝั่ง แต่พวกเขาไม่บอกได้แต่ยิ้ม ๆ 
เราก็เลยบอกว่าบอกมาเถอะพี่เราเจอมาแล้ว เขาก็เลยยอมบอกว่า 
ที่นั้นมีคนตายทุกปี ก็พวกที่ข้ามไปนี้แหละ เมื่อช่วงประมาณก่อนสิ้นปี 42
ก็เป็นผู้หญิง 4 คน ตายหมด เนื่องจากเกาะนั้นมีถ้ำ เวลาน้ำขึ้นจะขึ้นเร็วมาก 
และจะเป็นวังน้ำวน ออกมาไม่ได้ 
เขาก็บอกว่าเมื่อก่อนที่นี้เป็นท่าเรือพวกประมง 
เวลาใครออกเรือแล้วไม่ไหว้ก่อนจะเห็นว่ามีนางรำอยู่ที่เกาะนั้น 
(เป็นที่มาของชื่อหาดนางรำ) 
แล้วเรือประมงที่ออกทะเลไปก็จะล่มและตายกันบ่อยมาก 
เราจึงตัดสินใจกับเพื่อน ๆ พาแฟนมานอนที่รถ 
แล้วเราก็เอาพระของเพื่อนเรามาวางบนอกแฟนเรา 
แฟนตะโกนออกมาอย่างดังเลยว่า ร้อน ๆ เอาออกไป 
เราจึงชวนเพื่อนเราคนหนึ่งไปกราบขอขมาเรื่องที่หลบหลู่ 
กับศาลเจ้าแม่นางรำที่ตีนเขาอีกด้านหนึ่ง 
พอถึงศาลลักษณะของทางขึ้นจะเป็น 3 ระดับ 
เพื่อนเราบอกว่าจะรออยู่ข้างล่างไม่ขึ้นไปด้วย 
พอเราก้าวเท้าขึ้นไประดับที่ 2
ด้วยระดับสายตาเราจะมองเห็นระดับที่ 3 
แล้วเราก็ได้รู้วันนี้เองว่า ขนหัวลุกมันเป็นอย่างไร 
สายตามองเห็นก็คือชุดนางรำวางอยู่ 
และมีหุ่นนางรำใส่ชุดนางรำยืนอยู่ 
เรารีบจุดธุปขอขมาแล้วรีบวิ่งลงมาด้วยความรวดเร็วที่สุด 
เท่าที่ทำได้ บอกได้คำเดียว ช็อคสุด ๆ พอมาถึงรถ 
เราก็รีบกลับกรุงเทพกันทันที ซึ่งแฟนเรายังหลับไม่รู้เรื่องอะไร 
พอมาถึงปั้มน้ำมันก่อนถึงตลาดหนองมน 
พวกเราก็แวะเข้าห้องน้ำกัน 
อยู่ๆ แฟนเราก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแล้วลุกขึ้นแรง ๆ 
แล้วบอกว่าอ้าวกลับกันแล้วหรือ ยังไปไม่ถึงเกาะเลย 
แล้วเราก็บอกกับแฟนเราว่า เกิดอะไรขึ้นรู้หรือเปล่า 
แฟนเรานั่งนึกสักครู่ก็บอกกับเราค่อย ๆ 
ว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง พอมาถึงตลาดหนองมน 
ก็จอดรถเพื่อกินข้าว แฟนเราก็เริ่มเราเรื่องให้ฟังว่า 
เขาได้ยินที่เราเรียกแล้ว 
แต่พอดีเขาเห็นว่ามีคนแบกไม้เข้าไปในป่าเลยวิ่งตามเขาไป 
(ประมาณ 4-5 คน) แล้วแฟนเราก็ถามว่า พี่ ๆ จะเอาไม้ไปไหน 
พวกนั้นก็ไม่ตอบ แฟนเราก็ยังวิ่งตามเขาไปเรื่อย ๆ 
แต่พอมาถึงปากถ้ำที่มีคนตายเยอะ ๆ พวกนั้น ก็หายไปต่อหน้าต่อตา 
บอกตรง ๆ ว่าแฟนเราเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้เลย ดังนั้นพอเห็นว่า 
พวกที่แบกไม้หายไปต่อหน้าต่อตา ก็รีบวิ่งออกมาด้วยความกลัว 
พอวิ่งออกมาก็มานั่งพักเหนื่อย นั่งเกือบก้มหน้า 
แล้วแฟนเราก็เห็นและได้ยินเสียงผู้หญิงที่ใส่ชุดนางรำ 
ยืนอยู่ตรงหน้าบอกว่า 
อย่าเข้าไปนะลูกที่นั้นเขามีเจ้าของ 
พอแฟนเราจะเงยมองหน้าเท่านั้นแหละ ไม่พบอะไรเลย 
เลยรีบวิ่งออกมา แล้วก็มาเจอเรานั้นแหละ 
โดนผีหลอกกลางวันแสก ๆ ประมาณ บ่าย 4 โมงเย็น 
กลัวมากพอกลับถึงกรุงเทพ เล่นเอานอนไม่หลับเลย 
ตั้งแต่นั้นมาเพื่อน ๆ คนอื่นๆ ที่ไม่ได้ไปด้วยคราวนั้นก็ 
ชวนเราไปอีก สาบานได้เลยว่าไม่ไปเหยียบอีกเป็นอันขาด 
สยองจริง ๆ ค่ะ
ข้อมูจาก 
http://www.shockfmonline.com/