ศาลพิพากษาได้...ซึ้ง สุด สุด 
จำกันได้มั๊ย กับ นายเสริม สาครราษฎร์ที่เป็นหมอฆ่าแฟนตาย 
ในคดีที่นายเสริมถูกตัดสิน นายเสริมขอลดโทษโดยอ้างเหตุว่า 
ตนฆ่าแฟน เพราะความรักที่ตนมี จนไม่อาจหักห้ามใจให้แฟนไปมีคนใหม่ได้ 
จึงขอความปราณีจากศาลให้ เห็นแก่ความรักของตน 
ศาลฎีกาได้ให้เหตุผลไว้อย่างงดงาม 
ถึงความรักที่นายเสริมอ้างว่ามีต่อแฟนของตน 
ดังฏีกาข้างล่างนี้ 
ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย 
คดีแดงที่ 6083/2546 
พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ 
นางสุดา ปรัชญาภัทร โจทก์ร่วม 
นายเสริม สาครราษฎร์ จำเลย 
ที่โจทก์ร่วมฎีกาว่า จำเลยควรได้รับโทษประหารชีวิต ศาลล่างทั้งสองไม่ควรลดโทษให้จำเลยเพราะคดี ไม่มีเหตุบรรเทาโทษนั้น 
ล้วนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น 
จึงต้องห้ามมิให้โจทก์ร่วมฎีกาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว 
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงจิตใจอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม 
เพราะจำเลยกับผู้ตายมีความสัมพันธ์ฉันคนรัก 
แต่ผู้ตายต้องการเลิกความสัมพันธ์กับจำเลยไปมีรักกับผู้ชายคนใหม่ 
จำเลยจึงบันดาลโทสะฆ่าผู้ตายนั้น 
ศาลเห็นว่า*------ (ตั้งใจอ่านตรงนี้นะ)----- 
........ความรักเป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้??.. 
ความรักที่แท้จริงคือความปรารถนาดีต่อคนที่ตนรักความยินดีที่คนที่ตนรักมีความสุข ?.. การให้อภัยเมื่อคนที่ตนรักทำผิดและการเสียสละความสุขของตนเพื่อความสุขของคนที่ตนรัก 
จำเลยปรารถนาจะยึดครองผู้ตายเพื่อความสุขของจำเลยเอง 
เมื่อไม่สมหวังจำเลยก็ฆ่าผู้ตาย เป็นความคิดและการกระทำที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของจำเลยโดยฝ่าย เดียว 
มิได้คำนึงถึงจิตใจและความรู้สึกของผู้ตาย หาใช่ความรักไม่ 
ทั้งเป็นความเห็นผิดที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง 
ดังนี้ 
? แม้จะฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยฎีกาก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็น ธรรม 
กรณีนี้ไม่มีเหตุจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 
ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต----อ่านแล้วซึ้งกันบ้างไหมนี่  ที่มา Board Yaris-Club โดยคุณ TON YC465  
 
 