AE. Racing Club
18 กรกฎาคม 2568 11:31:08 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [«10] [«5]  «  1 ... 19 20 [21] 22 23 ... 77  »  [5»] [10»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่อVCEลิ้นแปรผันติดเพิ่มเฉยๆก็เร่งดีขึ้นไวตั้งแต่ออกตัวDynoครั้งที่1,2และ3  (อ่าน 192890 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #400 เมื่อ: 10 มกราคม 2556 21:07:50 »

Isuzu All New D-Max3.0 AT เชียงใหม่


 


หมายเลขพัสดุ EJ 6911 4508 8 TH

ถ้าเราซื่อตรงต่อกัน ผมซื่อตรงต่อคุณ คุณซื่อตรงต่อผม ทุกอย่างก็จะราบรื่นไร้ปัญหาใดๆ

ที่ผ่านมาบางคนอาจจะต้องเสียเวลาค้นดูก่อนว่า รถที่ตนเองใช้งานอยู่มีท่านใดได้ติดตั้งท่อ VCE ไปบ้างและผลเป็นยังไง ทีนี้ ต้องไม่ลืมว่าแต่ละท่านที่ได้ติดตั้งท่อ VCE ไปแล้วส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่ได้เป็นสมาชิกกัน หรือ คงจะไม่มีเวลา อาจจะไม่มีเวลามาตอบบอกรายละเอียดผลที่ได้ให้ได้รับทราบกัน  

แต่เดี๋ยวนี้คุณรู้แล้วว่ารถสปอร์ตหลายๆ รุ่นในปัจจุบันก็ติดตั้งระบบไอเสียแบบวาริเอเบิลนี่แหละมาจากโรงงาน อย่าง แลมโบกีนีก็ใช้งานท่อระบบนี้ เฟอร์รารี่ ฯลฯ  รวมทั้ง BMW, Benz สปอร์ตร์รุ่นใหม่

รถสปอร์ตพวกนี้ทำเวลาจาก 0 ถึง 100 เพียงแค่ 3-4 วินาทีเท่านั้น

บีเอ็มดับบลิว, เบนซ์ เมื่อก่อนไม่ได้เป็นรถที่พุ่งตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ ต้องได้รอบก่อนถึงจะพุ่ง (จึงเสียเวลาไปมากกับช่วงที่ต้องรอให้ได้รอบก่อนนี่แหละ) มีเบนซ์และบีเอ็มฯ หลายคันแล้วที่มาติดตั้งท่อ VCE  จากเกียร์ 1 ไป 2 และจาก 2 ไป 3 ที่กระตุกระหว่างเกียร์ก็หายกระตุกและพุ่งขึ้นกว่าเดิมได้ตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ

ท่อ VCE จึงไม่ใช่ท่อที่ดูไม่สวยเท่านั้น แต่เป็นท่อที่ใช้เทคนิคล่าสุดที่ดีที่สุดของท่อไอเสียปัจจุบัน ปรับให้ระบบไอเสียที่เป็นระบบเก่าระบบเดิมที่ให้ผลเพียงพอประมาณที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ให้ดีขึ้น (ให้มากที่สุดเท่าที่ระบบไอเสียจะให้ได้) โดยไม่ไปลบจุดที่ดีอยู่แล้วในรอบสูง (แม้จะเป็นเทคนิคที่รู้กันมาก่อนแล้วหลายสิบปีแต่ก็ไม่ค่อยมีใครได้นำไปปฏิบัติใช้จริงจัง/ยังใช้งานในวงแคบอยู่เฉพาะรถสปอร์ตบางคันที่ฝีเท้าจัดๆ และเริ่มจากทำงานแคบๆ ในรอบเครื่องสูงๆ) และ บังเอิญว่าท่อ VCE ก็คิดค้นขึ้นมาและเป็นของคนไทยก็เท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2556 23:45:01 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #401 เมื่อ: 11 มกราคม 2556 11:20:32 »

Pajerosport 2.4 MT หม้อพักเดิมมีแคทติดแก๊ส LPG

 

คันนี้ สมาชิก www.pajerosport-thailand.com ก่อนมาติดตั้งเล่าให้ฟังว่าช่วงรอบเครื่องต่ำๆ มีอืดๆ บ้าง แต่ถ้าเลย 2000 รอบไปแล้วจะพุ่งดี สังเกตว่าต้องเลยความเร็ว 100 ขึ้นไปจึงจะพุ่ง
สำหรับคันนี้ ในกระทู้ก็ให้ข้อสงสัยว่าทำไมจึงไม่ค่อยมีใครมาให้ความเห็น แต่วันนี้มาติดตั้งแล้ว

ผลคร่าวๆ ….(จากเจ้าของรถน้องคนขับว่ามาผมก็ว่าไปตามนั้น) เขาบอกว่า ขับมันส์ขึ้น เร่งแซงทันใจขึ้น (เกียร์ 1 เกียร์ 2 พุ่งขึ้นชัดเจน) ตอนนี้ราวๆ สัก 70, 80 ก็จิ๊ดแล้ว (จากของเดิมที่ต้องราวๆ 100 ขึ้นไป )

ของเดิมเกียร์ 1 เวลาออกตัวต้องรีบกดคันเร่ง หลังติดตั้งท่อ VCE (เพิ่มเข้าไปเฉยๆ) แค่ปล่อยคลัชไปประมาณครึ่งหนึ่งยังไม่ได้กดคันเร่งรถก็ไหลออกไปแล้ว (ของเดิมจะไม่ไหล) ทำให้ขับง่ายขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2556 23:44:26 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #402 เมื่อ: 13 มกราคม 2556 14:27:05 »

Toyota Sport Rider 3.0 AT ไม่มีแคท มีกล่องพ่วง (ติดตั้งท่อ VCE เพิ่่มเข้าไปเฉยๆ หน้าหม้อพัก)
 
 

 Sport Rider คันนี้ก็พุ่งตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ อยู่แล้ว แต่อยากให้พุ่งขึ้นอีก



จากการที่ติดตั้งท่อ VCE เข้าไปทำให้บูสต์มาไวขึ้นมาเป็นราวๆ 1100 รอบ จากเดิมที่มาประมาณรอบที่ 1500 รอบ

มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นได้ตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย)

จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ซึ่งไม่มีใครทำได้
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #403 เมื่อ: 14 มกราคม 2556 11:52:35 »

ท่อไอเสีย VCE ส่งให้คุณไพจิตร จันทบุรี


Pajerosport 3.2, Camry 2.2

ติดตามรายละเอียดท่อสูตร VCE เพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

ท่อสูตร VCE อาจจะไม่สวย แต่แค่ติดตั้งเพิ่มก็ได้แรงบิดเพิ่มตั้งแต่รอบเดินเบา ทุกเกียร์ลากเกียร์ได้ยาวขึ้น (จะเร่งจะแซงแทบไม่ต้องเชนเกียร์ไม่ต้องคิ๊กดาวน์ ) ความเร็วต้นและกลางพุ่งปลายก็พุ่งอีก เวลาถอนคันเร่งยังไหลไปต่อ (ทดสอบง่ายมาก ด้วยเกียร์ 2 เมื่อทำได้จริง รถปิ๊คอัพเกียร์ MT จากของเดิมลากได้ 2500-2600 ตื้อๆ จะลากได้ยาวขึ้นถึง 3000 หรือถึง 3500 รถเก๋งจากของเดิมลากได้ 2500-2600 ตื้อๆ ก็ลากได้ถึง 4000 หรือมากกว่า)

ในขณะที่ท่อแต่งอื่นๆ ซื้อไปแล้วจะได้ตามข้างบนหรือไม่ ซื้อไปแล้วไม่ได้ตามที่ว่าแล้วจะเหมารวมว่าก็คงจะเหมือนกันไม่ได้ เพราะผมเตือนคุณแล้วว่า ท่อแต่งอื่นๆ เป็นแบบอั้น หรือ โล่ง ที่ทำงานแบบคงที่ทั้งนั้น  (ถ้าได้ช่วงหนึ่งก็จะเสียช่วงหนึ่ง) แบบอั้นคงที่ก็จะได้ช่วงรอบต่ำดีขึ้น (แต่ก็ไม่ได้เต็มที่เพราะจะทำให้ดีเต็มที่ก็ไม่ได้ปลายก็จะแย่ลงไปอีก) สังเกตจากเวลาวิ่งทางเป็นเนินจะไม่ค่อยไหวต้องเร่งรอบสูง เวลาถอนคันเร่งรอบจะตกวูบ แบบโล่งก็ช่วงรอบต่ำแย่กว่าเดิม ไปแต่เสียงความเร็วไม่พุ่งตาม (เกียร์ AT รอบขึ้นช้าเปลี่ยนเกียร์ช้า ใช้รอบสูง ระหว่างเกียร์ไม่ราบรื่น เกียร์ MT ลากเกียร์รอบขึ้นช้าและหมดเร็ว) ช่วงกลางดีขึ้นรอบสูงดีขึ้นแต่ปลายสุดๆ ก็ไม่ค่อยไหล ไม่สามารถลากเกียร์ได้ยาวขึ้น ไม่หนีความจริงเหล่านี้

ในขณะที่ท่อสูตร VCE เป็นแบบวาริเอเบิล มันคงละเรื่องกันเลย มันทำงานปรับขนาดรูท่อให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
 
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #404 เมื่อ: 15 มกราคม 2556 19:22:49 »

ผลการทดสอบ Mazda 2 MT  GEAR 2
Gear 2 ระบบไอเสียเดิมๆ ลากรอบเครื่องได้แค่ 2500 รอบ
 

ติดตั้งท่อสูตร VCE (เพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบไอเสียเดิมๆ ) Gear 2 ลากรอบเครื่องได้ 4400-4700 รอบ




\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

ผลการทดสอบ Mazda 2 MT  GEAR 2
Gear 2 ระบบไอเสียเดิมๆ ลากรอบเครื่องได้แค่ 2500 รอบ




ติดตั้งท่อสูตร VCE (เพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบไอเสียเดิมๆ ) Gear 2 ลากรอบเครื่องได้ 4400-4700 รอบ
 



 (รถปิ๊คอัพ Diesel Turbo  เกียร์ 2 จากเดิมลากได้ประมาณ  2500-2600  รอบ ก็จะลากได้ 3000 กว่าๆ ถึง 3500 รอบ หรือถึง  4000 รอบ /แล้วแต่รุ่น/ อันนี้ไม่ได้ดูจากไดโนแต่ดูจากเข็มวัดรอบขณะทดสอบบนถนน)


ผลการทดสอบ จะเห็นว่า เมื่อติดตั้งท่อสูตร VCE (เพียงติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ เท่านั้น) สามารถลากรอบได้สูงขึ้น
แต่ละเกียร์จะลากรอบได้สูงขึ้น (เกียร์ 1, 2,3 ความแตกต่างของการลากรอบจะมากกว่าเกียร์ 4,5 ตามลำดับ)

เมื่อลากรอบได้สูงขึ้นปลายจึงไม่อั้นแต่ดีกว่าเดิม
ได้แรงบิดสูงขึ้น ได้แรงม้าสูงขึ้น ได้ความเร็วปลายเพิ่มขึ้น ( ได้แรงบิดช่วงลากเกียร์เพิ่มขึ้น  10.3  Nm  และแรงม้าสูงสุดเพิ่มขึ้นช่วงลากเกียร์  40.1 HP) ได้เพิ่มทุกคันไม่ว่าเบนซิน แก๊ส หรือ ดีเซลเทอร์โบ (กรณีวัดที่เกียร์ 4 / รอบเครื่องที่ลากได้จะแตกต่างกันน้อยกว่าเกียร์ต่ำๆ /ก็จะได้แรงม้าเพิ่มประมาณ 3 HP หรือถ้าใช้กับระบบไอเสียโล่งมากๆ จะได้ถึง 9HP)

ที่สำคัญ การเร่งแซงและการทำความเร็วในแต่ละช่วงความเร็วจะดีขึ้น  (เพราะได้แรงบิดและแรงม้าในช่วงลากรอบได้สูงกว่า)
สำหรับเกียร์ AT จากแรงบิดและแรงม้าเพิ่มก็จะทำความเร็วได้ดีขึ้นทุกช่วง และทำความเร็วช่วงปลายได้เพิ่มเช่นกัน  ซึ่งในขณะที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ลิ้นในท่อ VCE ที่หรี่ลงมาเหลือขนาดรูท่อเล็กๆ ก็จะเพิ่มแรงบิดช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ได้ดีกว่า  (เพิ่มขึ้นทั้งเกียร์ AT และ MT)

AT ที่ปกติปล่อยเบรครถก็เริ่มไหลก็จะไหลแรงขึ้นและจะไหลไปต่อเนื่องไม่วูบ (รถบางรุ่นที่เดิมแค่ปล่อยเบรคไม่เหยียบคันเร่งรถไม่ไหลก็จะไหลออกไปได้)  เกียร์ MT จากเดิมรถบางรุ่นแค่ปล่อยคลัชถ้าไม่เหยียบคันเร่งช่วยรถไม่ไหลก็จะกลายเป็น แค่ปล่อยคลัชไม่ถึงครึ่งยังไม่ได้เหยียบคันเร่งรถก็ไหลออกไปแล้ว

(ท่อสูตร VCE เทคนิคลิ้นแปรผัน/เทคโนโลยี่ที่มีใช้ในรถสปอ์ตขั้นนำฝีเท้าจัดๆ/ มีลิ้นปรับขนาดรูท่อไอเสียโดยอัตโนมัติ)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

นั่นคือ ชัดเจน ท่อสูตร VCE แรงบิดเพิ่มตั้งแต่รอบเครื่องต่ำมากๆ และทำความเร็วช่วงกลาง และลากช่วงปลายได้ดีกว่าแน่ๆ ไม่ต้องลุ้นหรือไปถามใครๆ (ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะให้ข้อมูลที่ผิดพลาด) / พี่พร ท่อสูตร VCE 0851423903
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กรกฎาคม 2556 17:06:30 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #405 เมื่อ: 16 มกราคม 2556 12:05:16 »

ดูผลการทดสอบบนไดโนเมื่อติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบท่อไอเสียเดิมโรงงานที่หน้า 1

และดูผลการทดสอบบนไดโนเมื่อติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับรถที่ระบบไอเสียได้ทำให้โล่งๆ มากๆ ที่หน้า 1

ดูผลทดสอบกับ Performance Box  เมื่อติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบไอเสียเดิมโรงงาน รถเกียร์ AT ทำอัตราเร่งไวขึ้นทุกช่วงความเร็วเกือบๆ 2 วินาทีที่หน้า 1



[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]



ท่อแทนแคท ท่อแทนพักกลางมีหลายเจ้า คุณพอใจอันไหนเลือกเอาครับ

แต่ที่ไม่ควรเกิดขึ้นก็คือ บางคนเข้าใจผิดคิดว่าท่อเหล่านั้นดีกว่าท่อสูตรลิ้นแปรผัน VCE  เข้าใจผิดว่าท่อที่เป็นระบบช่องทางเดินแบบตายตัวนั้นดีกว่าช่องทางเดินไอเสียแบบปรับขนาดรูท่อได้แบบ VCE

หลายคนไม่เชื่อว่า เมื่อทำให้ช่วงรอบต่ำดีที่สุดแล้วจะสามารถทำให้ช่วงรอบปลายดีขึ้นด้วยได้ (กรณีท่อสูตรลิ้นแปรผัน VCE แม้ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่กับระบบไอเสียเดิมซึ่งด้วยสามัญสำนึกเราก็คิดว่าขนาดรูท่อก็ไม่ได้ถูกทำให้ขยายกว้างขึ้นไปจากระบบไอเสียเดิมอยู่ดี แล้วทำไมจึงลากรอบเครื่องได้มากขึ้นขนาดนั้น อันนี้ตอบไม่ได้ชัด แต่ทั้งการใช้งานจริงและบนไดโน่ก็เป็นเช่นนั้น)

ไม่เถียงถ้าท่อแทนแคท ท่อแทนพักกลางเหล่านั้นซึ่งเป็นระบบตายตัว (ถึงจะมีช่องทางเป็นเกลียววนให้ไอเสียหมุนวนก็ไม่อาจจะหมุนวนไอเสียได้ทันในรอบสูงมากๆ จึงเป็นสาเหตุให้ความเร็วปลายลดลงจากเดิม) ซึ่งยังเป็นระบบเฉลี่ยระหว่างรอบเครื่องต่างๆ  (ได้ต้นก็ไม่เต็มที่ปลายก็มีปัญหา) ที่ต้องทำใจว่าเมื่อได้ต้นดีขึ้นก็ต้องยอมให้ปลายหายไปบ้าง

โดยที่หลายๆ คนที่บอกว่ายอมให้ปลายหายๆ ไปบ้างนั้นแต่ไม่รู้ความจริงว่า ไม่ใช่อยู่ๆ ปลายก็หายไปเฉยๆ  แต่มันจะเริ่มไม่ดีมาตั้งแต่ความเร็ว 80-90 ขึ้นมาแล้ว ก็จะวิ่งไม่ดี สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ลากเกียร์ได้จำกัดขึ้นเร่งไม่ขึ้น) และเครื่องร้อน (เวลาต้องเร่งรอบสูงๆ เช่นทำความเร็วสูงยาวๆ หรือขึ้นเขาแต่เร่งไม่ขึ้นเพราะมีอะไรไปอั้นๆ ไว้)

อย่าคิดว่าไม่ค่อยได้ใช้ความเร็วสูงบ่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่าแม้เวลาขับในเมือง เวลาคิ๊กดาวน์หรือเชนเกียร์ก็ต้องดึงกำลังมาจากการลากรอบสูงๆ อยู่ดี ถ้าไม่สามารถลากเกียร์ได้เยอะกว่าเดิม (ได้แรงบิดแรงม้าเยอะกว่าเดิมในช่วงลากเกียร์) แล้วจะเอาพลังมาจากไหนในการเร่งแซงละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 มกราคม 2556 14:26:11 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #406 เมื่อ: 17 มกราคม 2556 19:46:51 »

กล่องพัสดุที่ส่งไป
 


Isuzu All New D-Max3.0 AT เชียงใหม่ ที่สั่งซื้อไปเมื่อวันก่อน รีวิวไว้ในลิงค์นี้ครับ http://www.newdmax-club.com/index.php/topic,21507.30.html
/ขอบคุณครับ/พี่พร {ในวงเล็บพี่พรได้อธิบายเพิ่มเติมครับ}


“All new D-max Hi 4D ZP 3.0AT  
     All new D-max Hi 4D ZP 3.0 AT เชียงใหม่ครับ มาแชร์การติดตั้งท่อสูตร VCE แต่เดิมที่ผมได้ไปเปลี่ยนท่อแทนแคทมา ซึ้งจะทำให้รอบมาไวและในการกดคันเร่งช่วงออกตัวจะรู้สึกว่าคันเร่งเบาจึงต้องกดไปให้รอบเครื่องขึ้นไปที่ประมาณ 1800 - 2200 รอบถึงจะได้แรงบิดที่จะทำให้เข็มความเร็วเพิ่มขึ้นตามลำดับ
และถ้าเราขับรถตอนที่รถเริ่มติด ({{จังหวะถอนคันเร่ง/พี่พร)}) จะทำให้รอบเครื่องสวิงขึ้นลงเร็วมากพร้อมกับเข็มวัดความเร็วก็จะลดลงเร็วเช่นกัน ทำให้เราต้องคอยเติมคันเร่งอยู่ตลอด ( ขับในแบบที่ไม่ได้เน้นการลากเกียร์ /{{หรือขับแบบไหลๆ/พี่พร)})

พอได้มาลองติดตั้งท่อสูตร VCE เข้าไปที่หน้าหม้อพักไอเสีย ( เอาไว้เดี๋ยวจะเอารูปมาลงให้ดูอีกที่ครับ )

ความรู้สึกแรกที่รู้สึกก็คือ เสียงที่ออกมาจากท่อนั้นจะวี๊ดแน่นขึ้นกว่าเดิม และลองได้ขับดูก็จะเห็นได้เลยว่าการออกตัวทำได้ดีขึ้นโดยที่ไม่ต้องกดคันเร่ง รถก็จะมีแรงไหลมากขึ้นกว่าเดิม
โดยเฉพาะตอนที่ใช้เกียร์ถอยหลัง จะมีแรงดึงออกตัวมากขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้กดคันเร่ง

พอมาถึงตอนขับขี่ปกติรอบในการเปลี่ยนเกียร์จะมาอยู่ที่ 1400 - 1800 รอบ ในการขับทั่วๆไป ซึ่งแรงบิดจะมาในรอบที่ต่ำกว่าเดิมมาก แต่ที่เพิ่มมาอีกคือความเร็วจะเพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ้งจะต่างจากตอนที่ใส่แต่แทนแคทที่ความเร็วจะเพิ่มขึ้นก็ต้องที่รอบขึ้นไปที่ 1800 รอบขึ้นไป
ก็คือว่าจะได้แรงบิดในรอบที่ต่ำลงและได้ความเร็วเพิ่มขึ้นมาด้วยถือว่าเป็นผลดีมาก


ตอนขับใช้งานนั้น เวลาปล่อยคันเร่งแล้วความเร็วจะค่อยๆ ลดลงทำให้ไม่ต้องเติมคันเร่งบ่อยๆ ไม่ได้ลดลงเร็วเหมือนก่อนหน้านี้

และที่ดีอีกอย่างก็จะเป็นตอนที่มีการเปลี่ยนเกียร์นั้นจะไม่มีการกระตุกในช่วงของการเปลี่ยนเกียร์ ( ของผมเป็นแบบเกียร์ AT )
{{ของเดิมจะมีอาการวูบเล็กน้อยระหว่างเกียร์เนื่องจากแรงบิดลดลงในช่วงนั้น/พี่พร}}

ยังเหลือทดสอบการประหยัดน้ำมันในการใช้งานปกติ แล้วค่อยมารีวิวอีกที่ครับ “/ Chatcha / สมช. www.newdmax-club.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2556 23:45:41 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #407 เมื่อ: 18 มกราคม 2556 10:28:06 »

พี่พรมาอธิบายเพิ่มเติม

จากรีวิวของคุณ Chatcha สมาชิก www.newdmax-club.com
ข้อความที่ว่า
“แต่เดิมที่ผมได้ไปเปลี่ยนท่อแทนแคทมา ซึ้งจะทำให้รอบมาไวและในการกดคันเร่งช่วงออกตัวจะรู้สึกว่าคันเร่งเบาจึงต้องกดไปให้รอบเครื่องขึ้นไปที่ประมาณ 1800 - 2200 รอบถึงจะได้แรงบิดที่จะทำให้เข็มความเร็วเพิ่มขึ้นตามลำดับ”

ก่อนมาทำ (ใส่ท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเฉยๆ) คุณ Chatcha ได้ไปเปลี่ยนแทนแคทมา สังเกตว่ารอบมาไวขึ้น (ในความหมายนี้ ที่เขาพูดกันบ่อยๆ  เวลากดคันเร่งคันเร่งจะเบากว่าเดิม ทีนี้ คันเร่งที่เบามากในช่วงรอบต่ำมากๆ นี่ถ้าคุณเอารถขึ้นไดโนจะเห็นทันทีเลยว่าแรงบิดในช่วงรอบต่ำที่คันเร่งเบาๆ นั้นจะลดลงไปจากเดิม กดคันเร่งแล้วรอบมันกวาดเร็ว แต่รอบเครื่องพุ่งนำหน้าไปแต่ความเร็วไม่ได้พุ่งเร็วตามแต่จะพุ่งตามไปช้าลงไปจากเดิม สังเกตจาก รอบตวัดขึ้นไปค้างเติ่งอยู่แต่รถจะนิ่งอยู่นานพักหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆ รู้สึกตัว /นิ่งอึ้งยิ่งกว่าตอนมีแคทอยู่ )


“ประมาณ 1800 - 2200 รอบถึงจะได้แรงบิดที่จะทำให้เข็มความเร็วเพิ่มขึ้นตามลำดับ”
สังเกตว่า ต้องได้รอบประมาณ 1800 ขึ้นไปจึงจะรู้สึกว่ารถมีแรง และผมเข้าใจว่าพอรอบครื่องพุ่งผ่าน2200 รอบ รถจะพุ่งแรงขึ้นกว่าตอนมีแคทอยู่ อันนี้แลกกัน ตามหลักวิศวกรรมท่อไอเสีย เมื่อโล่งขึ้น Back Pressure ลดลง แรงบิดช่วงรอบต่ำจะลดลงแต่ช่วงรอบกลางไปทางสูงจะดีขึ้น

จังหวะขับรถตามๆ กันไปความเร็วค่อนข้างคงที่ เมื่อรถเข้าใกล้รถคันหน้าเราจะถอนคันเร่ง จังหวะนั้น กับรถสภาพเดิมโรงงานมีแคทอยู่ก็มีอาการรอบตกเร็วและความเร็วที่ไหลไปเรื่อยๆ จะตกเร็ว ยิ่งแคทโล่งขึ้น ในความเร็วช่วงต่ำ (60 ถึง 70 ลงมา) ก็จะยิ่งตกเร็ว ยิ่งวูบแบบหัวทิ่ม ทำให้ไม่ราบรื่น “จะทำให้รอบเครื่องสวิงขึ้นลงเร็วมากพร้อมกับเข็มวัดความเร็วก็จะลดลงเร็วเช่นกัน ทำให้เราต้องคอยเติมคันเร่งอยู่ตลอด”

กลับกันเมื่อคุณติดตั้งท่อ VCE เสริมเข้าไปในระบบ จังหวะที่ถอนคันเร่ง รถยังไหลไปอยู่ที่ความเร็วเดิมครู่หนึ่งก่อน ก่อนจะค่อยๆ ลดลง และบางครั้งเราต้องกดเบรกเมื่อเห็นว่าเพียงเราถอนคันเร่งยังไม่พอรถยังพุ่งไปใกล้คันหน้า พอเราปล่อยเบรก รถยังไหลไปต่อ ยังตามคันหน้าไปที่ความเร็วเท่าๆ กับคันหน้ายังไหลไปยังไม่ต้องเติมคันเร่ง คุณยังมีเวลาอยู่อีกครู่หนึ่ง (ถ้าแคทโล่งไปแล้วในช่วงความเร็วต่ำๆ ต้องรีบเติมคันเร่งตั้งแต่ทีแรกที่ถอนคันเร่ง ทำความเร็วก็ไม่ลื่นไหล วูบๆ วาบๆ รถจะไม่พุ่งทันทีที่กดคันเร่ง/ถ้ามีแคทถ้าความเร็วระดับปานกลางก็พอจะไหลๆ ได้ดีใช้ได้อยู่แต่ก็หมดเร็วกว่ามีท่อ VCE ยิ่งความเร็วไม่สูงก็ยิ่งต่างกันมากและต้องรีบเติมคันเร่งหลังจากเบรคเหมือนกัน)

 นี่คือความแตกต่างที่ทำให้ขับรถสบายขึ้นไหลๆ ขึ้นไม่เครียดกับการที่ต้องรีบเติมคันเร่ง (และมีผลต่อการประหยัดเชื้อเพลิงด้วยครับเมื่อถอนคันเร่งรถยังไหลแรงกว่าไหลนานกว่า ไม่ต้องเติมคันเร่งบ่อย และเมื่อกดคันเร่งรถก็พุ่งตามเท้าดีกว่าและไม่ต้องกดลึกก็มาแล้วครับ)

ส่วนใหญ่ก่อนที่จะเป็นลูกค้าท่อ VCE เขาจะคิดกันว่าเป็นไปได้อย่างไร ซึ่งคำตอบคือ เมื่อถอนคันเร่ง ลิ้นในท่อ VCE มันจะค่อยๆ หรี่ลงมา แรงบิดจะไม่ลดฮวบทันทีแต่จะยังคงรักษาแรงบิดในระดับเดิมไว้ก่อนจะค่อยๆ ลดลงมาครับ/พี่พร 0851423903
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #408 เมื่อ: 19 มกราคม 2556 10:04:35 »




All New D-Max 3.0 AT ภาพขณะติดตั้งท่อ VCE ที่เชียงใหม่ครับ ภาพโดยคุณ Chatcha จาก  www.newdmax-club.com
กล่องพัสดุที่ส่งไป
 

]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

เมื่อติดตั้งท่อ VCE (เพียงติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ) เกียร์ AT จะเปลี่ยนเกียร์ราบรื่นขึ้น ระหว่างเกียร์จะต่อเนื่องไม่กระตุก (ความเร็วจะพุ่งไปอย่างต่อเนื่องไม่ชะลอ) เกียร์ MT ช่วงระหว่างเกียร์แทนที่ความเร็วจะชะงักหรือความเร็วอยู่ที่เดิมก็จะพุ่งขึ้นไป ถ้าลากเกียร์จะลากเกียร์ได้ยาวขึ้น (ช่วงที่ลากเกียร์ได้แรงบิดและแรงม้าเพิ่ม รถจะพุ่งเพิ่มขึ้นไปอีก) ถ้ารถสเป็คเดียวกัน ทางราบเหมือนเราขับลงเนินนิดๆ ทางลาดชันขึ้นเหมือนเราวิ่งทางราบ ทั้งขับได้คล่องตัวลื่นไหลขึ้นและประหยัดขึ้นครับ / พี่พร ท่อ VCE 0851423903
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2556 23:46:21 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #409 เมื่อ: 20 มกราคม 2556 10:57:30 »

All New Ford Ranger 2200cc AT
 

ส่งทางรถทัวร์ สยามเดินรถ ลงสงขลา ครับ
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #410 เมื่อ: 21 มกราคม 2556 10:17:18 »

หลังจากลังเลอยู่พักนึง จึงลองกับรถตัวเอง (Pa 2.4 เบนซิน LPG) หลังจากติดตั้งVCE มาได้เกือบสัปดาห์ขอรายงานผลดังนี้
ออกตัวปกติถอนครัชแล้วต้องเหยียบคันเร่งด้วย หลังจากติด VCE แล้วแค่ปล่อยครัชเบาๆ รถเริ่มไหลแล้ว
จากนั้นช่วงเลี้ยวซ้าย...ขวา ปกติออกด้วยเกียร์2 ออกไม่ค่อยได้ เครื่องจะกระตุกต้องเปลี่ยนเป็นเกียร์ 1   แต่หลังจากติด VCE ออกเกียร์ 2 ได้เลย

ช่วงกลาง 60-80 ปกติกำลังไม่ค่อยมีเหยียบขยี้แล้วก็ไม่ค่อยพุ่ง  แต่หลังจากติด VCE แล้วปัญหาดังกล่าวหมดไป เข็มไมล์ไต่ขึ้นเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด  แต่ช่วงปลาย 140-160-170 ยังไม่ได้ทดสอบ

สุดท้ายช่วงเบาถอนคันเร่งแล้วรอบยังคงอยู่  ความเร็วรถตกลงช้ามาก

ข้อเสีย คือราคาค่อนข้างแรงและตัดสินใจยากเนื่องจากข้อมูลในการตัดสินใจน้อย  และรูปแบบก็ไม่น่าดูตรงตะแกรงที่ใส่แม่เหล็กแต่ถ้าไม่สังเกตุคงไม่เป็นไร    
ต้องขอบคุณพี่พร เจ้าของไอเดียด้วยครับ/Dorn.U / สมช. www.pajerosport-thailand.com

ตามลิงค์นี้ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=10368.msg427589


 
ออลนิว ปาเจโร่สปอร์ต 2.4 MT LPG ป้ายแดงคันข้างบนครับ / ขอบคุณครับ/พี่พร (ต้องเป็นสมาชิกเว็บบอร์ด www.pajerosport-thailand.com ก่อนจึงจะสามารถเปิดอ่านกระทู้ได้ครับสำหรับเวบบอร์ด www.pajerosport-thailand.com)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2556 23:43:48 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #411 เมื่อ: 22 มกราคม 2556 21:15:42 »

All New Ford Ranger คันนั้นที่ติดตั้งท่อ VCE ไปแล้ว (ประมาณ 3 เดือนมาแล้ว)
 
ที่สั่งซื้อผ่านคุณ ชาตรี หาดใหญ่

บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #412 เมื่อ: 23 มกราคม 2556 10:19:15 »


Pajerosport 2.5 EMS ถึงพรุ่งนี้ครับ
รหัส EJ 7396 7198 1 TH นครพนม

บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #413 เมื่อ: 24 มกราคม 2556 11:54:41 »


ภาพที่ไม่ขึ้นจะมาทะยอยอัพขึ้นใหม่วันหลังครับ

Tiger 2.5 ของคุณชาตรี (รถที่จอดข้างหน้าคุณชาตรีคือ All New Ford 2.2 คันข้างบนครับ)

คุณชาตรีบอกว่า หลังจากติดตั้งท่อ VCE ไปแล้วทำความเร็วจัดมากตั้งแต่ออกตัว (แทบจะกระโดดออกไปเลย)

ท่อสูตร VCE รับประกันว่าจัดจ้านแน่นอน รถปิ๊คอัพจะลากเกียร์ได้ยาวขึ้นแน่ (จาก 2500-2600 รอบต้องได้ 3000 รอบขึ้น รถเก๋งจาก 2500-2600 รอบต้องได้มากกว่า 4000 รอบในเกียร์ MT เกียร์ AT ช่วงความเร็วสูงๆ เวลาคิ๊กดาวน์ที่เคยได้แค่ 4000 รอบนิดๆ จะได้ถึงเกือบๆ 5000 รอบ)

ถ้าขับเหมือนเดิมจะประหยัดขึ้นนอกจากจะทันอกทันใจกว่า เพราะเหยียบคันเร่งน้อยลง ถอนคันเร่งรถยังไหลดีกว่า ไม่ต้องเชนเกียร์บ่อย ไม่ต้องคิ๊กดาวน์บ่อย กดเบาๆ ก็เร่งได้ดีพอแล้ว (เพราะแรงบิดดีกว่าเดิมทั้งช่วงรอบต่ำและรอบสูง)
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #414 เมื่อ: 25 มกราคม 2556 14:14:43 »

Soluna Vios AT ระบบไอเสียเดิม
 

ติดตั้งท่อ VCE ช่วงก่อนจะออกปลายท่อ
 
/////////////////////////////////////////////////////\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
เพิ่มอัตราเร่งเวลาคิ๊กดาวน์ และเพิ่มอัตราเร่งเวลาออกตัวแรงๆ ให้พุ่งมากขึ้น (ลดช่วงแรกๆ ที่แรงบิดยังไม่มาให้เหลือสั้นลง) เพิ่มอัตราเร่งเวลาเบรกแล้วไปต่อในช่วงความเร็ว 40 ถึง 80 ให้ลื่นไหลมากขึ้น
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #415 เมื่อ: 26 มกราคม 2556 10:34:45 »

D-Max 3.0 AT

ไปส่งให้ที่วัดสายไหมครับ

D-Max 3.0 AT ผมเคยขับ สังเกตว่าเมื่อความเร็วมากกว่าร้อยขึ้นไปจะพุ่งใช้ได้ แต่ความเร็วต่ำกว่านั้นจะรอรอบเล็กน้อย (อาการคันเร่งหยุ่นๆ กดคันเร่งกับผ่อนคันเร่งความเร็วก็ไม่เปลี่ยนแปลง) ช่วงที่รอรอบ ถ้าพยายามกดคันเร่งรถก็จะไม่พุ่งขึ้นทันที จะขับรถแบบไหลๆ กดคันเร่งแบบเบาๆ จะไม่ได้ผล

[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]

ท่อไอเสีย VCE แม้ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบไอเสียเดิมโรงงานก็ได้ผล
โดยดูจากผลการทดสอบบนไดโน่ก็เห็นชัดเจนว่า นอกจากให้แรงบิดช่วงรอบเครื่องต่ำๆ เพิ่มขึ้น ยังให้แรงบิดช่วงรอบกลาง และรอบสูงบางช่วงเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังให้แรงบิดและแรงม้าช่วงปลายเพิ่มขึ้น สามารถลากเกียร์ได้ยาวขึ้น

 
และเมื่อขับขี่ใช้งาน จากเดิมรถเกียร์ MT คันที่ทดสอบ (รุ่นที่ทดสอบ) เวลาออกตัวแค่ปล่อยคลัชไม่เหยียบคันเร่งรถจะไม่ไหลออกตัว แต่เมื่อติดตั้งท่อไอเสีย VCE แล้ว แค่ปล่อยคลัชไม่ถึงครึ่ง รถก็เริ่มไหลออกตัวไปแล้ว และแต่ละเกียร์ก็สามารถลากรอบได้ยาวขึ้น

เกียร์ AT รถบางรุ่น เวลาออกตัวแค่ปล่อยเบรกไม่กดคันเร่งรถไม่ไหลออกตัว เมื่อติดตั้งท่อ VCE (แค่เพิ่มเข้าไปเฉยๆ ในระบบ) รถคันนั้น (รุ่นนั้น) ก็แค่ปล่อยเบรคยังไม่หมดรถก็เริ่มไหลออกตัวไปแล้ว
สำหรับรถเกียร์ AT ทั่วไปที่แค่ปล่อยเบรกไปเล็กน้อยรถก็เริ่มไหลออกตัวไปแล้ว สังเกตว่าถ้าเรารอให้ปล่อยเบรกจนหมดแล้วค่อยกดคันเร่งตามไปเบาๆ รถจะเคลื่อนตัวไม่ราบรื่น จะมีการรอรอบช่วงที่เข็มวัดรอบกวาดไปจากเดินเบาขึ้นไปยังไม่ถึง 1000 รอบ ทำให้รถไหลออกตัวแล้วกระตุกเมื่อแรงบิดเริ่มมา และช่วงระหว่างเปลี่ยนเกียร์จะมีอาการกระตุกเล็กน้อย รวมทั้งช่วงความเร็วที่ต่ำกว่าร้อยจะมีอาการรอรอบมากกว่าช่วงที่ความเร็วมากกว่าร้อย

ต่างจากเมื่อติดตั้งท่อ VCE เข้าไป (เพียงติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ) รถเกียร์ AT ทั่วๆ  ไปที่เวลาออกตัวแค่ปล่อยเบรกนิดๆ รถก็ไหลออกตัวไปได้ดี แต่มีอาการรอรอบถ้าเรากดคันเร่งเบาๆ จะหายไป จะดีขึ้น จะราบรื่นขึ้นแม้เรากดคันเร่งเบาๆ รถก็มีอาการตอบสนอง (ไม่ใช่ต้องรอให้กดลึกก่อนจึงจะตอบสนอง) แรงบิดก็จะมาแบบต่อเนื่องทำให้รอยต่อช่วงปล่อยเบรกกับช่วงกดคันเร่งเบาๆ มีความราบรื่นไม่มีอาการกระตุก  ช่วงกระตุกระหว่างเกียร์จะราบรื่นขึ้น อาการรอรอบในช่วงความเร็วต่ำกว่าร้อยจะลดน้อยลง (เร่งได้ทันใจใกล้เคียงเกียร์ MT) ไม่ต้องกดคันเร่งลึกแรงบิดก็มา เร่งได้ทันใจใกล้เคียงกับความเร็วที่เกินร้อยขึ้นไป

ที่ทำได้แบบนี้ (ทำได้บนไดโน่และการใช้งานจริง) เพราะท่อไอเสีย VCE  ใช้เทคนิค ลิ้นควบคุมไอเสียสัมพันธ์กับรอบเครื่อง แรงบิดจึงดีขึ้นทั้งช่วงรอบตำมากๆ และรอบกลาง รวมทั้งช่วงรอบสูงบางช่วง และช่วงรอบเครื่องสูงสุด

ต่างจากท่อไอเสียอื่นๆ ที่ถ้าเน้นที่รอบต่ำก็จะได้ผลเพียงเล็กน้อย แต่ต้องแลกกับช่วงรอบกลางไปทางสูงที่ไม่ดีเหมือนเดิม
หรือท่อไอเสียที่เน้นช่วงรอบกลางก็ให้ช่วงรอบต่ำไม่ดีเท่าเดิม
ต้องแลกกับบางช่วงได้เพิ่มขึ้นแต่จะเสียบางช่วงไป


อย่าไปเชื่อคำโฆษณาโดยไม่ดูหลักการทำงานจริงๆ ซึ่งก็เป็นระบบตายตัวทำงานคงที่ ที่ถ้าบีบช่องทางเดินไอเสียมากเพื่อให้ช่วงรอบต่ำดีขึ้นช่วงรอบสูงก็จะอั้น ถ้าให้โล่งมากขึ้นเพื่อไม่ให้ช่วงรอบสูงอั้นช่วงรอบต่ำก็เสียแรงบิดไป ไม่มีจุดที่ดีที่สุดมีแต่จุดที่เฉลี่ยๆ กันไป

ท่อไอเสียเหล่านั้นจึงไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปที่ต้องได้บางช่วงแต่เสียบางช่วงไม่ได้อย่างใจ อย่าเชื่อคนที่กล่าวเท็จ หรือ การโฆษณาที่ขัดแย้งกับทฤษฎีเรื่องท่อไอเสีย ในความจริงที่ว่าโล่งได้ช่วงรอบสูงแต่เสียรอบต่ำ อั้นได้ช่วงรอบต่ำแต่เสียช่วงรอบสูง ท่อไอเสียเหล่านั้นแม้ดูเผินๆ บางแบบเหมือนจะไม่ใช่แบบคงที่ แต่ดูให้ดีๆ เป็นเกลียวเหมือนกันแต่จะทำเป็นร่องไว้ (คล้ายแบบเกลียวแต่ทำเป็นร่อง) ซึ่งถ้ามีการอั้นที่ช่วงรอบต่ำช่วงรอบสูงก็จะอั้นเช่นกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มกราคม 2556 14:26:53 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #416 เมื่อ: 27 มกราคม 2556 08:39:35 »

Tiger  3.0 ดันรางล้อโต
 

ท่อ VCE เมื่อติดตั้งไปแล้วจะสังเกตเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อขับรถผ่านทางที่เป็นเนิน หรือ ขับขึ้นห้างที่ทางค่อนข้างชันช่วงแคบๆ เพราะแรงบิดที่ดีขึ้นในช่วงรอบเครื่องต่ำมากๆ จะทำให้รถไม่วูบเร็วในช่วงที่ปล่อยเบรกแล้วไปเหยียบคันเร่ง และใช้รอบเครื่องต่ำๆ (ต่ำกว่าเดิม) ก็สามารถขึ้นทางชันในห้างได้ ผ่านทางชันก็ยังมีเรี่ยวแรงเร่งความเร็วต่อได้ดีกว่าเดิม
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #417 เมื่อ: 29 มกราคม 2556 10:23:43 »

 Honda Freed 1.5AT เดิมๆ (ติดตั้งท่อสูตร VCE เข้าไปเฉยๆ หลังพักกลาง)
 
คันนี้เคยติดตั้งท่อ VCE ไปแล้วกับ Toyota Innova คันนั้นทำมาทุกอย่างแล้ว กล่องพ่วงก็มีแต่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ก็ได้เพิ่มไม่เท่าไหร่
 
เขาบอกว่า Freed คันนี้แฟน (ผู้หญิง) เป็นคนขับ เคยบ่นว่าเวลาขึ้นห้างเยาฮันจะมีอาการไม่ค่อยไหว 
ส่วนนตัวเขาเองเห็นว่า Freed ช่วง 60-90 จะมีอาการอืดๆ บ้าง และช่วง 120 ขึ้นไปจะขึ้นช้า


หลังติดตั้งท่อสูตร VCE อาการอืดๆ ในช่วง 60-90 ดีขึ้นหายอืด และพบว่า ช่วงต่อเกียร์ระหว่าง 1 ไป 2 ที่ของเดิมจะห้อยๆ เล็กน้อยนั้นได้หายไปด้วย แต่ยังไม่ได้ลองช่วง 120 ขึ้นไป (แต่เมื่อถามแฟนผู้หญิงเขาก็เฉยๆ /คงต้องรอให้ขึ้นเยาฮันอีกครั้งก่อน)
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #418 เมื่อ: 30 มกราคม 2556 19:37:12 »

Toyota Wish 2.0 AT ไม่มี CAT
 
ติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปหลังหม้อพักกลาง
 
บันทึกการเข้า
phorn
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,513


ดูรายละเอียด
« ตอบ #419 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2556 07:40:13 »


ท่อ VCE ไม่ต้องลุ้นว่าได้ผลหรือไม่

เพราะแค่ติดตั้งเพิ่ม ทดสอบง่ายๆ ถ้าเกียร์ธรรมดา MT หากของเดิมปล่อยคลัชไม่ได้เหยียบคันเร่งรถไหลออกตัวไปได้เมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวแรงกว่าอยู่ดี ถ้าของเดิมแค่ปล่อยคลัชถ้าไม่เหยียบคันเร่งรถไม่ไหลออกตัวเมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวไปได้ (นั่นคือ แรงขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาชัดเจน)

รถเกียร์ AT หากของเดิมปล่อยเบรกไม่ได้เหยียบคันเร่งรถก็ไหลออกตัวไปได้เมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวแรงกว่าอยู่ดี และถ้าของเดิมแค่ปล่อยเบรกถ้าไม่ได้เหยียบคันเร่งรถไม่ไหลออกตัวเมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวไปได้ (นั่นคือ แรงขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาชัดเจนเช่นกัน)


และทั้งเกียร์ MT และ AT เมื่อถอนคันเร่ง ความเร็วและรอบเครื่องจะไม่ตกวูบทันทีแต่จะลอยตัวอยู่ที่ความเร็วเดิมและรอบเครื่องเดิมครู่หนึ่งก่อน ก่อนจะค่อยๆ ลดลง (ตกช้ากว่าเดิมอยู่ดี)

เกียร์ MT จะลากเกียร์ได้ยาวกว่าเดิมเห็นชัดเจนไม่ต้องลุ้น (เกียร์ AT เวลาคิ๊กดาวน์มาเร็วและแรงกว่า) การลากเกียร์ได้ยาวขึ้นไม่ใช่ว่าจะหลอกกันได้ การไหลออกตัวที่แรงขึ้นก็ไม่ใช่ว่าจะหลอกกันได้ เช่นกันกับกรณีรอบเครื่องตกช้าลง

ท่อ VCE ทำได้ด้วยหลักการไหลของไอเสีย, เรื่อง Back Pressure ซึ่งขนาดท่อไอเสียสัมพันธ์กับรอบเครื่องอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ท่ออื่นๆ ทำได้เพียงเฉลี่ยไปทางด้านรอบต่ำหรือรอบสูงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือกลางๆ ถัวเฉลี่ยกันไป
บันทึกการเข้า
หน้า: [«10] [«5]  «  1 ... 19 20 [21] 22 23 ... 77  »  [5»] [10»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!