ดื่มอย่างไรไม่ให้เสียของพร้อมสัมผัสกับรสชาติที่แอบซ่อน
รู้จักคำว่า'เสียของ'กันบ้างมั้ย?คนไทยเราน่ะชอบทำให้เสียของอยู่เรื่อย
โดยเฉพาะนิสัย'การดื่มแบบผสมมิกเซอร์'ทั้งหลาย
นั่นแหละคือการทำให้วิสกี้ชั้นดีที่บางทีไม่ควรผสมใดๆต้อง'เสียของ'
วันนี้จะหยิบเอาเรื่องวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่วอล์กเกอร์มาพูดกันซะหน่อย
เพราะว่าตระกูลนี้มีหลาย'เลเบิ้ล'เหลือเกินซึ่งมีวิธีการดื่มเฉพาะซะด้วย
เริ่มจาก
'เรดเลเบิ้ล' (Red Label)กันก่อนเลยดีกว่า
จอห์นนี่วอล์กเกอร์เรดเลเบิ้ลน่าจะดูถูกใจคนไทยที่สุด
เพราะน้องเล็กสุดขวดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการดื่มตลอดค่ำคืน
พูดง่ายๆก็คือกินได้นานๆสนุกสนานกันทั้งคืนนั่นแหละ
แถมวิธีการกินที่ถูกต้องนั้นก็ต้องผสมกับ'มิกเซอร์'ทั้งหลาย
อันเป็นวิธีการดื่มที่นิยมในหมู่คนไทยอยู่แล้วซะอีก
ตอนนี้จอห์นนี่วอล์กเกอร์เรดเลเบิ้ลก็เลยขายดีที่สุดไปโดยปริยาย
ง่ายๆจะใส่น้ำแข็งผสมโคล่าชามะนาวหรือโซดาก็ได้ทั้งนั้น
สุดแล้วแต่ว่าจะชอบรสชาติแบบไหนหลังผสมมิกเซอร์แล้วเท่านั้นเอง
แต่นักดื่มมืออาชีพมักนิยมผสมน้ำก่อนแล้วจึงผสมโซดาตามลงไป
ในอัตราส่วน2:1หรือที่เรียกกันว่า"โซดาลอย"นั่นเอง...
ผสมเสร็จก็เอ็นจอยดริ๊งกิ้งกันได้ทั้งคืน(แต่อย่ าขับรถหลังดื่มนะ)
โตขึ้นมาหน่อยกับความเคร่งขรึมแบบ
จอห์นนี่วอล์กเกอร์แบล็คเลเบิ้ล วิสกี้ชั้นดีจากการหมักบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่คลาสสิกที่สุดนานถึง12ปี
วิธีการดื่มที่ถูกต้องนั้นก็คลาสสิกไม่แพ้รสชาติของตัววิสกี้
ง่ายๆเท่ๆดูดีด้วยสไตล์ที่เรียกกันว่า'ออนเดอะร็อก'นั่นเอง
หรือถ้าอยากย๊ากอยากจะผสมมิกเซอร์เหลือเกิน
ก็ต้องใส่น้ำแข็งเข้าไปเยอะๆวิสกี้ครึ่งแก้วและโซดาอีกครึ่งแก้ว
แค่นี้แหละก็จะได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของจอห์นนี่วอล์กเกอร์แบล็คเลเบิ้ล
มาถึงวิสกี้ตระกูลจอห์นนี่วอล์กเกอร์ที่ไม่ค่อยจะเห็นบ่อยนักบ้างดีกว่า
เริ่มจาก
จอห์นนี่วอล์กเกอร์โกลด์เลเบิ้ลอายุ 18ปีกันก่อน
แค่นำจอห์นนี่วอล์กเกอร์โกลด์เลเบิ้ลไปใส่ในช่องแช่แข็งสัก24ชั่วโมง
ถ้าที่ในช่องแช่แข็งยังเหลือก็นำแก้วทรงสูงเปล่าๆแช่ไว้ด้วย
พอได้เวลาก้รินใส่แก้วที่แช่ไว้ข้างกันๆนั่นแหละแล้วดื่มเข้าไปเลย
ทันทีที่วิสกี้เย็นจัดปะทะกับความอุ่นในปากกลิ่นหอมหวนนุ่มลิ้นจะอบอวล
แหม...ยิ่งถ้ามีช็อกโกแล็ตดีๆไว้กินเข้าคู่ล่ะก็จะเป็นความสุขที่ลืมไม่ลงเลยเชียว
ส่วน
จอห์นนี่วอล์กเกอร์กรีนเลเบิ้ลที่มีจำหน่ายแบบจำกัดประเทศนั้น
หาน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆสักก้อนใส่ในแก้วปากกว้างเพียงแค่ก้อนเดียว
ไม่ต้องกลัวว่าน้ำแข็งก้อนนั้นจะเหงาเพราะเราจะเฝ้ามองอย่าทะนุถนอม
จากนั้นรินจอห์นนี่วอล์กเกอร์กรีนเลเบิ้ลล งไปไม่ต้องท่วมน้ำแข็ง
แกว่งแก้วเล็กน้อยให้อุณหภูมิของวิสกี้ชะอุณหภูมิของน้ำแข็งก้อนโต
ดมกลิ่นวิสกี้ที่ระเหยขึ้นมาเล็กน้อยก่อนลิ้มรสวิสกี้ที่อุณหภูมิพอเหมาะพอดี
งานนี้จะได้รสชาติกลิ่นและแสงที่วิสกี้ตกกระทบกับก้อนน้ำแข็งชวนมอง
(อันนี้เคยเสียของมาครั้งหนึ่งแล้ว)
ปิดท้ายกันที่วิสกี้ชั้นสูง
จอห์นนี่วอล์กเกอร์บลูเลเบิ้ล อายุ25ปี
ที่หมักบ่มจากมอลต์คุณภาพสูงตามวิธีการคลาสสิกแบบศตวรรษที่19
วิธีการดื่มวิสกี้ชั้นสูงนี้ก็คลาสสิกมากเตรียมแก้วบรั่นดีสวยๆไว้สัก2ใบ
แก้วนึงรินวิสกี้รอไว้ส่วนอีกแก้วนึงรินน้ำแร่เย็นๆไว้เช่นกัน
ดื่มน้ำแร่เย็นๆเพื่อปรับอุณหภูมิในช่องปากกันก่อน
จากนั้นจิบจอห์นนี่วอล์กเกอร์บลูเลเบิ้ลในแก้วบรั่นดีอีกใบตาม
เมื่อน้ำแร่เย็นๆที่หลงเหลืออยู่ในช่องปากผสมกับวิสกี้ชั้นดีนี้
รสชาติที่แอบซ่อนจะซึมผ่านเพดานปากไปมัดใจนักดื่มเหล้าทั้งหลายไม่รู้ลืม
เสร็จสิ้นครบทั้ง5เลเบิ้ลของตระกูลจอห์นนี่วอล์กเกอร์กันแล้ว
ต่อจากนี้นักดื่มเหล้าชาวไทยทั้งหลายก็จะดื่มได้แบบไม่เสียของกันแล้ว
แต่ที่สำคัญที่สุดดื่มแล้วจะมึนน้อยหรือมึนมากก็อย่าขับรถเลย
เก็บชีวิตที่มีค่าไว้สัมผัสกับสิ่งดีๆที่รอเราอยู่มากมายในวันข้างหน้าดีกว่า...
รึจะใช้ เหล้าขาว ผสม น้ำแดง จิ้มมะขามเปียกก็ได้นะ