อยากรู้ว่าจริงไหม มันจะจริงหรือนี่

หาข้อมูลมา
บุกค้นอู่รถสปอร์ตหรู นำเข้าอะไหล่มือสองประกอบขายตัดราคา-อายัด 3 คัน
ตำรวจ 191 บุกค้นอู่รถในซอยโชคชัย 4 นำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่รถสปอร์ตมือสองจากญี่ปุ่นมาประกอบขายเองทั้งคันในราคาถูกกว่าผู้ประกอบการนำเข้ารถหรูถึง 20-30 เปอร์เซนต์ พบมีใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิตเป็นขอเปิดเป็นโรงงาน แต่พบรถมีพิรุธ 3 คัน เลยอายัดรถส่งไปตรวจ ด้านเจ้าของยันอะไหล่ทุกชิ้นมีเอกสารนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (17 ก.ย.) พ.ต.ต.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร.ต.ท.นันทพล ทองน่วม ร.ต.ท.สุรพล จันทร์สมศักดิ์ รอง สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 2 นำหมายค้นศาลอาญารัชดาเลขที่ 368/2553 ลงวันที่ 17 ก.ย.53 เข้าตรวจค้นภายในอู่สุพจน์เจริญยนต์ ตั้งอยู่เลขที่ 23/99 หมู่ 13 ปากซอยโชคชัย4 ซอย 61 แขวงและเขตลาดพร้าว ซึ่งมีนางประภาภัส คงเกรียงไกร อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของอู่ดังกล่าว
การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้สืบเนี่องจากที่มีกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์หรูเข้าร้องเรียน พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ ผบก.สปพ. ว่าอู่แห่งนี้มีการนำเข้าอะไหล่รถยนต์มือสองแยกชิ้นมาจากต่างประเทศ ก่อนนำมาประกอบขึ้นเป็นตัวรถทั้งคันเพื่อส่งขายให้กับลูกค้าในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด 20-30 เปอร์เซนต์ สร้างความเสียหายให้กับกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบอู่แห่งนี้ว่ามีการจดทะเบียนกับกรมสรรพสามิต และมีการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพื่อประกอบโดยผิดกฏหมายตามที่ได้รับร้องเรียนหรือไม่
จากการอู่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนอะไหล่และโครงรถสปอร์ตจากประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก เช่น รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอส 2000 รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น เอ็มอาร์เอส รถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นสกายไลน์ จีทีอาร์ รวมถึงรถยนต์หรูที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างนิสสันคิวบ์ และรถยนต์นำเข้ารุ่นแปลกๆ ซึ่งบางคันมีการประกอบเป็นตัวรถทั้งคันพร้อมสวมทะเบียนออกวิ่งตามท้องถนนได้ทันที
ทางเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารการการขออนุญาตเปิดเป็นโรงงานประกอบรถยนต์จากอะไหล่มือสอง ปรากฏว่า อู่ดังกล่าวมีใบจดทะเบียนจากกรมสรรพสามิต เมื่อวันที่ 30 เม.ย.53 ระบุว่าเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ในนามของบริษัทออโต้แฟคทอรี่ จำกัด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขอตรวจสอบเลขตัวถังของรถทุกคันที่อู่ประกอบขึ้นว่า ชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆมีการนำเข้าอย่างถูกกฏหมายและมีการเสียภาษีศุลกากรหรือไม่
หลังจากทำการตวจสอบเอกสารเจ้าหน้าที่ได้ทำเรื่องขออายัดรถเก๋งจากอู่ดังกล่าวจำนวน 3 คันไปตรวจสอบ ประกอบด้วยรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน คิวบ์ สีขาวจำนวน 2 คัน เนื่องจากเอกสารการจดทะเบียนของรถทั้งสองคันมีความผิดปกติในส่วนของการจดขอทะเบียนจากกรมการขนส่ง จ.นนทบุรี โดยระบุว่าเป็นรถใช้แก๊ส แต่ในวันเดียวกันนั้นเองก็ได้มีการไปยื่นขอเปลี่ยนทะเบียนที่กรมการขนส่งกรุงเทพมหานคร พร้อมกับยกเลิกการใช้แก๊ส กลับมาเป็นการใช้เชื้อเพลิงตามปกติ จึงคาดว่าอาจเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสมอ. รวมถึงที่บริเวณท้ายรถพบร่องรอยการเจาะลักษณะคล้ายกับเคยมีการติดตั้งถังแก๊สมาก่อน
ส่วนคันที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค จีทีอาร์ สีขาว แบบ 3 ประตู ที่มีการนำทะเบียนป้ายแดงมาติดโดยที่รถดังกล่าวยังไม่ได้มีการไปยื่นขอจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งรถที่ทำการอายัดจะประสานกับทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและกรมการขนส่งทางบกให้ช่วยตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปทำการสอบสวนต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบรถซูเปอร์คาร์ เช่น เฟอร์รารี่ และลัมโบกินี จอดอยู่ภายในอู่แห่งนี้ด้วย แต่ทางเจ้าของอู่อ้างว่าเป็นรถของลูกค้าที่นำมาฝากตรวจซ่อมสภาพที่อู่เท่านั้น ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบรถซุปเปอร์คาร์เหล่านั้นได้
ด้านนางประภาภัส เจ้าของอู่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเปิดอู่ดังกล่าวมาแล้ว 20 กว่าปี โดยตอนแรกเปิดเป็นอู่รับเคาะพ่นสี ทำช่วงล่างรถยนต์ ต่อมาได้มีลูกค้ามาสอบถามถึงเรื่องการสั่งประกอบรถยนต์ว่าทางอู่มีใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิตหรือไม่ หากไม่มีก็ไม่สามารถประกอบชิ้นส่วนรถยนต์มือสองได้
นางประภาภัส เกล่าวต่อว่า ลูกชายตนเห็นว่ามีช่องทางที่จะทำธุรกิจดังกล่าวได้ เนื่องจากมีญาติอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ตนจึงไปดำเนินการขอจดทะเบียนโรงงานจากกรมสรรพสามิต และให้ลูกชายทำการติดต่อสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์มือสองจากประเทศญี่ปุ่นโดยต้องแยกมาเป็นชิ้นส่วน ก่อนที่จะนำมาประกอบใหม่ที่อู่แห่งนี้ โดยการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ทุกชิ้นตนมีเอกสารพร้อมให้ตรวจสอบว่ามีการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย