เครื่อง ตรวจจับความเร็ว อัตโนมัติ การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั้ง
ระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่าย
ภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง
วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะ
ตรวจสอบทะเบียนรถและ ออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป
และหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยัง
กรมการขน ส่ง  เพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร  
International Association of Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ
เพื่อทำการคาริเบธเครื่องเป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ
ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อ ย่างแม่นยำ
เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้   มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่
            1.   เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี   2   จุด
            2.   เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา   2   จุด
            3.   เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น   2   จุด  
            4.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึ ง นครสวรรค์   1   จุด  
            5.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก   1   จุด  
            6.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่   1   จุด  
            7.   เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว   1   จุด  
            8.   เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว   1   จุด  
            9.   เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน   1   จุด  
            10.   เส้นทางสายเพชรเกษม   (   เลี่ยงเมือง   )   ชะอำ ถึง ปราณบุรี   1   จุด  
            11.   เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร   1   จุด  
            12.   เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี   1   จุด  
            13.   เส้นทางสายบางนา   -   ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง   1   จุด  
            14.   เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา   1   จุด  
            15.   เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง   2   จุด  
            16.   และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี   1   จุด
                  ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวง
จึงได้จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทางหลวงกองกำกับการ
และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผี เหล่านี้
โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮเทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงพบว่า
เพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้งเครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง   42,304   ราย
ซึ่งจะนำไปสู่การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่
จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพิ่มอีก 45 ชุด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2 ชุดคลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย
หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ คือ ใบสั่งที่ส่งให้ทางไปรษณีย์  
เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด
            บนทางหลวง ในเขตเทศบาล
            รถเก๋งหรือรถปิกอัพ ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน   80   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   60   กม./ชม.
            บนทางหลวง นอกเขตเทศบาล
            ให้รถเก๋งหรือปิกอัพ ใช้ความเร็วไม่เกิน   90   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   80   กม./ชม.  
           บนมอเตอร์เวย์
            รถเก๋งหรือปิกอัพ ไม่เกิน   120   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   100   กม./ชม.  
            ทั้งนี้ในเชิงเทคนิค ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากทั่วโลก การขับขี่รถที่ ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.
นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้   15-20%   ยังช่วยลดการตายบนถนนได้  12-24%  
แต่ความเร็วดังกล่าว ไม่สามารถลดอุบัติเหตุได้ หากทุกคน ประมาท เมามายขณะขับรถ
และการไม่ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎหมาย
ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานนโยบาย
ตามนี้อ่ะครับ พอดีรถที่บริษัทไปโดนมาเหมือนกัน ตรงเส้นพระราม2 ประมาณ กม.40-กม.50 อ่ะครับ
ก็เลยมีพี่เค้าหาข้อมูลให้ ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยน่ะครับ 
