AE. Racing Club
29 กรกฎาคม 2568 17:28:26 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [«10] [«5]  «  1 ... 17 18 [19] 20 21  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไปเจอมาจาก Pantip เป็น เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ใน คลับเราหรือป่าว ครับ  (อ่าน 70572 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
กอ เอ๋ย กอ ไก่ ฉึก ฉึก
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 476


วัด กู ก็ จะ เข้า เหล้า กู ก็ จะ กิน ^^


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #360 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553 22:06:42 »

 

และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ยินดีต้อนรับ พี่ๆจากเวป pantip ด้วยครับ

อ่านเสร็จแล้ว ก็ช่วยด่าผมทีนะครับ 

 

ขอเชิญมาเป็นบุคคลที่สาม ในการปกป้องเพื่อน(ที่พี่ไม่รู้จัก)ของพี่ๆด้วยนะครับ

 

  อ่ะ ลืมไป ใจร้อนด้วยนี้น่า จะโดนป่าวอะเรา




 
บันทึกการเข้า

norma_niggy
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,019



ดูรายละเอียด
« ตอบ #361 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553 22:17:20 »

อย่านั่งหลังคีย์บอร์ดแล้วทำตัวกร่างไปวันๆครับ มันไม่ใช่วิสัยของลูกผู้ชายเค้าทำกัน อำนาจที่แท้จริงมันไม่ได้อยู่ที่คีย์บอร์ด
บันทึกการเข้า

มีแค่เนี๊ย
Haltech E6X
MSD DIS4 PLUS
akegg
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 249


power by TROOPS SERVICE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #362 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553 23:38:30 »

ที่ผมต้องการให้ทุกคนขับรถด้วยความใจเย็น ( ผมขับรถจนตอนนี้เย็นอย่างกับใจแช่ช่องฟิตเลยครับ )

สิ่งที่อยากให้ทุกคนคิดอย่างนี้ เพราะคนเรามาตรฐานการขับรถนั้นไม่เหมือนกัน บางคนโดนรถคนอื่นแทรกมาก็โมโห ( แม้แต่อารมณ์โมโหก็ไม่เท่ากันอีก )
บางคนแค่บ่นแค่ด่าในรถ บางคนก็ยกไม้ยกมือให้ของลับ บางคนไม่ยอมต้องเอาคืน สิ่งพวกนี่ล้วนเป็นมาตรฐานที่คนเราคิดไม่เหมือนกัน
เอาง่ายๆครับ แค่คนนึงกำลังรีบจะไปทำธุระ ขับเร็วเหยี่ยบ 140 ตลอดทาง เห็นรถข้างหน้าขับอยู่ 90 ก็โมโหบีบแตรไล่ ทั้งๆที่เขาขับไม่เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด
เพราะฉะนั้น การแก้ปัญหาโดยการทำให้ตัวเองใจเย็น เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะเราไม่ทางที่จะแก้นิสัยของคนอื่นให้ขับรถมีมาตรฐานอย่างที่เราต้องการได้
เห็นภาพเลยครับเคยเถียงกะพี่ที่ทำงานเรื่องนี้เหมือนกัน เค้าบอกเค้าก็ขับขวาสุดแล้วก็ขับ 90 ตามกฎหมายแล้วก็ไม่หลบด้วยก็ถูกของเค้านะครับตามกฎหมาย ก็เลยเตือนไปว่าถ้าเจอคนใจร้อนเกิดยิงขึ้นมาก็ไปฟ้องยมพบาลว่าเค้าทำผิดกฎหมายล่ะกันเนอะ สุดท้ายก็เห็นด้วยอ่ะครับมาตรฐานการขับแต่ละคนไม่เหมือนกัน ใจเย็นๆดีที่สุด
 แต่เรื่องทางเอก กับทางโท นี่ผมว่ากฎหมายจราจร  มันก็บอกอยู่น๊า แต่ด้วยความที่เราทำผิดจนชินก็เลยคิดว่ามันไม่ผิดป่าวอ่ะ ตัวอย่างง่ายๆครับการเปลี่ยนช่องทางต้องเปิดไฟให้สัญญาณไม่น้อยกว่า .... ม. (จำไม่ได้เหมือนกัน 555)  แต่ลองดูนะครับว่ามีกี่คันที่ทำ    ขอบ่นต่อ
1. รถในช่องทางโทเปลี่ยนเลนเข้าทางเอก แบบที่เป็นประเด็น = อาจเกิดอุบัติเหตุกาณีที่รถช่องทางเอกเบรคไม่ทัน
2. ตั้งใจเบรคกระทันหัน = อาจเกิดอุบัติเหตุกรณีรถคันหลังเบรคไม่ทัน 
ทั้ง 2 กรณีอาจมีผลลัพท์เหมือนกัน ต่างกันที่เจตนาของคนที่อยู่หลังพวงมาลัย แต่ก็ล้วนส่งผลให้เกิดความเสียหายเหมือนกันทั้งคู่ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 พฤษภาคม 2553 23:50:52 โดย akegg » บันทึกการเข้า


TROOPS SERVICE
INNER LINE
FUEL UP
panaejorn
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,309


_~=*_ พ เ น จ ร_*=~_


ดูรายละเอียด
« ตอบ #363 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 01:31:10 »

วันไหนอ่ะ

จะเคลียวันไหนเหรอ

ถึงผมจะไม่รู้จักK.Sleeper เป็นการส่วนตัว

ก็ PM มาบอกผมก่อน1วัน

ถ้าว่างผมจะไปด้วยครับ

เผื่อเจอหมาจะเข้ามากัด เดี๋ยวจะช่วยฟาดให้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2553 09:11:54 โดย panaejorn » บันทึกการเข้า

AE Racing Club
Panaejorn @ AE Racing Club.Net
No More Game-Friend Indeed
All Zone
ปากขมก็อมยา ปากหมาก็อมตีน
ป้านู๋อ้อ_TZ#051
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 10,130


สังกัด โซนธนบุรี


ดูรายละเอียด
« ตอบ #364 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 02:19:41 »



และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ยินดีต้อนรับ พี่ๆจากเวป pantip ด้วยครับ
อ่านเสร็จแล้ว ก็ช่วยด่าผมทีนะครับ 
 
ขอเชิญมาเป็นบุคคลที่สาม ในการปกป้องเพื่อน(ที่พี่ไม่รู้จัก)ของพี่ๆด้วยนะครับ 
  อ่ะ ลืมไป ใจร้อนด้วยนี้น่า จะโดนป่าวอะเรา

 

น้าไก่...ฮาอะ 
บันทึกการเข้า



---  อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน อยากถึงฝันต้องอดทน ---
,,A@[E]~* รักในหลวง
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,374


ดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #365 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 09:05:36 »

เวปพันทิปเข้าไม่ได้ถึงตอนสิบเอ็ดโมงแน่ะ

ไม่รู้ไอ่เจ้าของกระทู้มันไปถึงไหนแล้ว

เปนนักเลงคีย์บอร์ด น้ำลายแตกฟอง

บันทึกการเข้า

I'm Sorry
Free Style Running Since 1996
[ Sir-Drag-A-Lot ]
Tune by Child1300

ไ ม่ เ ห ม า ะ ส ำ ห รั บ ผู้ ดี !!
[/b]
sleeper
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540



ดูรายละเอียด
« ตอบ #366 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 10:26:04 »

8 พฤษภาคม 2553

เรื่อง   ความเห็นทางกฎหมาย
เรียน   คุณ………………….    

ตามที่ได้รับมอบหมาย เรื่องนี้มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยสองส่วน คือ 1. กรณีของการเฉี่ยวชน และ 2. กรณีของการแจ้งความกับสถานีตำรวจวิภาวดี
   ในกรณีที่ 1 ในเรื่องของการเฉี่ยวชน มีลำดับขั้นตอนการปฎิบัติดังนี้ การชนกันระหว่างรถยนต์ด้วยกัน และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บนั้น ตรงส่วนนี้อำนาจจะอยู่ที่ตำรวจแทบทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล ตำรวจมีอำนาจสอบสวน และเปรียบเทียบปรับได้ ในกรณีของการชนแล้วหนี เมื่อเจ้าพนักงานได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวแล้ว เจ้าพนักงานจะสันนิฐานไว้ก่อนว่าฝ่ายที่หนีเป็นฝ่ายกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติจารจรทางบกฯ และจะทำการรวบรวมพยานหลักฐาน เช่น จัดให้ถ่ายภาพแสดงร่องรอยและสภาพรถที่เสียหายไว้ และ/หรือจะจัดให้ถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุประกอบเพื่อให้พยานหลักฐานมั่นคงขึ้น และ/หรือสอบปากคำผู้เสียหายก็ได้ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง และหาตัวผู้กระทำผิด และอื่นๆ ถ้าเจ้าพนักงานเห็นสมควร ต่อมาเมื่อรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว เจ้าพนักงานจะทำการส่งหมายเรียกไปยังผู้นั้น การส่งหมายเรียกลักษณะนี้เป็นเพียงการเรียกมาเพื่อสอบปากคำเท่านั้น
   ในการสอบสวนลักษณะนี้ เพื่อหาความถูกผิด จะเป็นการใช้การวินิจฉัยของเจ้าพนักงานในการดูว่า มีการขับขี่ไปในทิศทางใด, การจารจรในบริเวณโดยรอบมีลักษณะเป็นอย่างไร และรวมถึงความเสียหายจากการชนด้วยว่าตรงกันหรือไม่ มีลักษณะอย่างไร ทั้งนี้จะพิจารณาในรายละเอียดอื่นๆ มากกว่านี้ก็ได้ตามที่เห็นสมควร จากที่กล่าวมาข้างต้นการตรวจสอบพิสูจน์ว่ามีการชนกันจริงหรือไม่นั้น คาดว่าเจ้าพนักงานต้องพิจารณาจากบาดแผลที่เกิดจากการชนเป็นสำคัญ เนื่องจากจะทราบได้ว่ารถยนต์ทั้งสองคันชนกันจริงหรือไม่นั้น บาดแผลของรถทั้งสองคันต้องสอดคล้องกัน พร้อมกับพยานแวดล้อมในขณะเกิดเหตุ จึงจะทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการชนกันของรถยนต์ตามพิพาทกันจริง ในการตรวจสอบนั้นโดยทั่วไป เจ้าพนักงานสามารถดูได้ด้วยตา และฟังจากพยานแวดล้อม ก็สามารถวินิจฉัยได้โดยทันที แต่ในกรณีนี้มีการทิ้งเวลาไว้เนิ่นนาน มิได้มีการตรวจสอบทันทีขณะเกิดเหตุ ซึ่งพยานแวดล้อมไม่น่าจะมีแล้ว ถ้าเจ้าพนักงานคาดเห็น หรือคู่กรณีคาดเห็นว่าน่าจะมีการซ่อมแซมร่องรอยการชนแล้ว เจ้าพนักงานจะต้องส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่ามีบาดแผลการชนกันจริงหรือไม่ มีการทำสีใหม่หรือไม่ หรือถ้ามีร่องรอยการชนจริง เป็นการชนกันในลักษณะใด บาดแผลเป็นเช่นไร
เรียนปรึกษาว่า จากที่ได้เห็นตัวรถยนต์แล้วไม่มีร่องรอยใดทั้งบริเวณตัวรถและยาง จึงเชื่อว่าผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานย่อมเป็นในลักษณะที่ว่าไม่มีร่องรอยของการชน และมิได้มีการทำสีใหม่ เมื่อพิจารณาประกอบกับภาพถ่ายรถยนต์ในวันเกิดเหตุที่ทั้งสองฝ่ายแสดงไว้ในกระทู้แล้ว จึงมีความเห็นว่า เจ้าพนักงานจะมีความเห็นในทางที่ว่ารถยนต์ทั้งสองคัน ไม่ได้มีการชนกันจริงตามที่ได้กล่าวอ้าง และรอยบาดแผลดังกล่าวมิได้เกิดจากการชนกับรถยนต์ป้ายทะเบียน ณพ 101
แต่ถ้าเจ้าพนักงานเห็นว่าน่าจะมีการชนเกิดขึ้นจริง จากข้อเท็จจริงที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน และยอมรับกันในการพูดคุยในกระทู้ น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เจ้าพนักงานเห็นว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากความประมาทของทั้งสองฝ่าย ความผิดลักษณะนี้เจ้าพนักงานจะทำการเปรียบเทียบปรับทั้งสองฝ่าย หรือจะยอมเสียค่าปรับในอัตราอย่างสูงเพื่อให้คดีเลิกกันก็ทำได้ และในส่วนของค่าเสียหายก็คิดตามสัดส่วนว่าใครประมาทมากน้อยกว่ากันเท่าใด แต่โดยปกติแล้ว ถ้าไม่มีผู้ใดเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ บริษัทประกันภัยของทั้งสองฝ่ายจะตกลงซ่อมรถยนต์ของฝ่ายผู้เอาประกันกับตัวเอง แทนที่จะทำการพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้ที่ประมาทมากกว่ากัน และค่าเสียหายตามพฤติการณ์เท่าใด เพราะในการพิสูจน์ในส่วนนี้ต้องให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัย (พิจารณาค่าเสียหายตามพฤติการณ์ คือ ถ้าต่างฝ่ายต่างประมาทเท่าๆกัน ค่าความเสียหายก็ตกเป็นพับกันไปทั้งคู่ คือไม่ต้องจ่าย แต่ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประมาทมากกว่าก็จ่ายตามส่วนต่างตรงนั้น)
   ในส่วนของกรณีที่ 2 ในเรื่องที่คู่กรณีเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจของสถานีตำรวจวิภาวดีนั้น วันนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปยังคู่กรณี เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของการแจ้งความว่า ได้มีการแจ้งความไว้จริงหรือไม่ ถ้ามีการแจ้งความจริงได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวนท่านใด วัน และเวลาเท่าใด แต่ทางคู่กรณีไม่ยอมบอกอะไร เพียงแต่บอกว่าแจ้งความแล้วที่ สน.วิภาวดี และบอกให้รอที่นั้นละ เพื่อตกลงกัน จะไปหานานหน่อย เพราะต้องเดินทางมาที่ สน. นี้ ระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตร จึงไม่ได้รอ
   และตามข้อมูลที่ได้รับทราบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 เวลาโดยประมาณ 19.45 น. จึงคาดการณ์ว่าคู่กรณีน่าจะเข้าแจ้งความในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุไปจนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2553 จึงได้เข้าไปตรวจสอบกับเจ้าพนักงาน เพื่อค้นหาบันทึกประจำวันดังกล่าว แต่ปรากฎว่าในบันทึกประจำของวันที่ 4 และ 5 พฤภาษคม 2553 ของสน.วิภาวดีนั้น ไม่ปรากฎหมายเลขป้ายทะเบียน ณพ 101 ในบันทึกประจำวันดังกล่าว เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลอื่นใดเลย ไม่ว่าจะเป็นชื่อของเจ้าพนักงานที่รับแจ้งความ วันและเวลาที่แจ้งความ หรือชื่อผู้ที่เข้าแจ้งความ จึงทำให้ค้นหาต่อไปไม่ได้
   จึงเรียนปรึกษาว่า ตามกล่าวข้างต้นคาดเห็นได้ว่าคู่กรณีน่าจะยังมิได้มีการเข้าแจ้งความในกรณีดังกล่าวไว้กับเจ้าพนักงานตำรวจ แต่ถ้าได้มีการแจ้งความไว้จริง (เนื่องจากคาดเห็นว่าการเครมรถยนต์กับทางประกันภัยในลักษณะนี้ ส่วนมากจะต้องมีการแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน และลงบันทึกประจำวัน เพื่อนำบันทึกประจำวันดังกล่าวแนบไปด้วยกัน) ตามที่ได้ปรึกษากับเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์ มีความเห็นตรงกันว่า ต้องรอหมายเรียก หรือต้องทราบรายละเอียดข้อมูลของการแจ้งความตามข้างต้นเท่านั้น 
   ดังนั้นในส่วนของการแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน กรณีแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน จึงไม่อาจทำได้ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าได้มีการแจ้งความตามที่ได้กล่าวไว้ในกระทู้จริงหรือไม่ ดังที่ได้เคยกล่าวไว้ว่าต้องมีการแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานก่อนแล้วเท่านั้น จึงจะเป็นความผิด ไม่ว่าการแจ้งข้อความนั้นจะมีลักษณะเป็นการร้องทุกข์ ตามมาตรา 2(7) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือเป็นการแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยไม่ประสงค์จะให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษก็ตาม แม้ต่อมาจะได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้วก็ตาม ก็ถือว่าได้แจ้งข้อความนั้นต่อเจ้าพนักงาน จึงมีความผิดฐานนี้แล้ว แต่ถ้ายังมิได้มีการแจ้งข้อความตามที่ได้กล่าวไว้ในกระทู้ต่อเจ้าพนักงาน ความผิดฐานนี้ก็ยังไม่เกิด   
   จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ
บันทึกการเข้า
sleeper
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540



ดูรายละเอียด
« ตอบ #367 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 10:45:06 »

ผมเบื่อ และไม่อยากจะพิมกันมาในอินเตอร์เน็ตแล้ว มันไม่จบ ซักที

หลังจากที่ผมได้ปรึกษากับนักกฏหมาย

และเมื่อวานช่วงเย็นผมไป สน. เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง ว่าผมไม่ได้ชนคู่กรณีแล้วหนี ได้เอารูปถ่าย และนำรถผมไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู
แล้วก็จะไปแจ้งความกลับ

อย่างน้อยๆ ก็ 1 กระทง คือข้อหาแจ้งความเท็จ และยังมีอีกหลายกระทงที่ผมต้องการจะแจ้งแต่ขอ อุบไว้ก่อน.....
แต่ปรากฏว่า ในสมุดบันทึกประจำวัน วันที่ 4 และ 5 ไม่มีบันทึกใดๆ เกี่ยวกับการแจ้งความ เกี่ยวกับผมและคู่กรณี
(ซึ่งแสดงให้เห็นว่า) คู่กรณีผมไม่ได้ไปแจ้งความจริง ตามที่เค้าได้กล่าวอ้างมา (หรือแจ้งไว้วันอื่น)

ผมได้เข้าไปพบ ร้อยเวร และได้ไปพูดคุย
ร้อยเวรบอกกับผมว่า ถ้าไม่ได้ชนจริงก็ไม่ต้องกลัว หลักฐานมันพิสูจน์กันได้
และถ้าคู่กรณีแจ้งความจริง ก็รอหมายเรียกจากทาง สน. พอได้หมายเรียก ก็มารายงานตัวเพื่อพิสูจน์
ใครถูกใครผิด สามารถพิสูจน์กันได้ (ในกรณีที่ผมถูกกล่าวหา)

ผมก็เลยอยากให้เรื่องมันจบๆ เลยโทรไปหาคู่กรณี เพื่อขอชื่อร้อยเวร วันและเวลา ที่เค้าได้ไปแจ้งความไว้
เค้าก็ไม่ยอมบอกผม บอกแค่ว่าให้ผมรออยู่ สน. เค้าอยู่ ตจว. 100 กว่าโลเอง ประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ เค้าจะมาหาที่สน.

แล้วใครจะไปรอหละครับ เพราะผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อน ตอน 5 โมงเย็น (สรุปผมต้องว่างให้เค้าเสมอ)

ตอนนี้ผมก็รอหมายเรียก เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
และรอคู่กรณีผมว่าเค้าจะกล้าบอก ชื่อร้อยเวร วันและเวลาที่เค้าไปแจ้งความหรือไม่ ผมจะได้ดำเนินการทางกฏหายให้มันถูกต้องต่อไป



ขอบคุณทุกๆ ความเห็นครับ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2553 11:16:56 โดย sleeper » บันทึกการเข้า
รักคนอ่าน ㋡™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,326


DORAEMONSTER 9X


ดูรายละเอียด
« ตอบ #368 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 10:49:18 »

เราไม่ผิกก็อย่าไปยอมครับว่ากันตามกฏหมายไปเป็นกำลังใจให้ครับ
บันทึกการเข้า
sleeper
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540



ดูรายละเอียด
« ตอบ #369 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 10:52:34 »

เวปพันทิปเข้าไม่ได้ถึงตอนสิบเอ็ดโมงแน่ะ

ไม่รู้ไอ่เจ้าของกระทู้มันไปถึงไหนแล้ว

เปนนักเลงคีย์บอร์ด น้ำลายแตกฟอง



น้องผมบอกเว็บพันทิพ ปิดปรับปรุงตั้งแต่เมื่อคืนครับ(ผมอยู่งานแต่ง น้องผมโทรมารายงาน)

ตอนนี้เรื่อง ออกทะเล เปลี่ยนประเด็นกันไปใหญ่แล้วครับ เพราะว่าคู่กรณีผมชอบพูดจาไม่รู้เรื่อง


เรื่องตอนนี้ก็ได้กลายเรื่อง Drama ไปแล้วครับ ผมขอปล่อยให้กฏหมายเป็นตัวตัดสินแล้วกัน


แล้วถ้าเค้านัดผมที่ สน. วันไหนเวลาใด ผมจะแจ้งให้ทราบนะครับ
เผื่อท่านใด ว่างอยากไปคุยเป็นการส่วนตัว ขอบคุณครับ

บันทึกการเข้า
norma_niggy
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,019



ดูรายละเอียด
« ตอบ #370 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 10:57:55 »

บ๊ะ แล้วววววววววววววววววววววววววว

แบบนี้มันแจ้งข้อมูลต่อสาธารณะชนอันเป็นเท็จ

ชื่อเสียงหลายปีในพันธุ์ทิพ จะช่วยคุณได้ไหมน้อออออออ
บันทึกการเข้า

มีแค่เนี๊ย
Haltech E6X
MSD DIS4 PLUS
ป้านู๋อ้อ_TZ#051
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 10,130


สังกัด โซนธนบุรี


ดูรายละเอียด
« ตอบ #371 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 11:01:59 »

พี่ sleeper ทำถูกแล้วค่ะ

เรื่องผ่านหลายวันแล้ว ฝ่ายโน้นเค้ายังลีลาก็ปล่อยเค้า เค้าจะเอายังไงก็เรื่องของเค้าแล้ว...

แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรา..ทำให้ถูกต้อง..ดีที่สุด ค่ะ 
บันทึกการเข้า



---  อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน อยากถึงฝันต้องอดทน ---
oilnarit
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 5,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #372 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 11:05:02 »

แต่พันธิปบางคนที่ไปอ่านแล้วไม่รู้ข้อเท็จจริงเนี่ยดิ มันน่ามะ 
บันทึกการเข้า
illusionx<NC.Z>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,252


ปลวกคนเดิม


ดูรายละเอียด
« ตอบ #373 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 11:05:39 »

ผมติดตามมาหลายวัน ผมใช้ความคิดพินิจพิเคราะห์แล้ว ดูยังไงๆ เจ้านั้นก็ผิดเต็มๆ แต่ออกมาแถจะให้แฟนตัวเองถูกจนวันยันค่ำ

แต่เค้าพูดเอาดีใส่แฟนตัวเองมากไปจนทำให้หลุดออกมาบางหลักฐาน

สรุปฝั่งนั้นมั่วได้ใจจริงๆ

สู้ๆครับเราไม่ผิดก็สู้ต่อไป เอากฏหมายมาสู้กันเลยก็ได้
บันทึกการเข้า



https://www.facebook.com/stevesecondhandtire76.5shop
Steve 2nd tire racing & Termostat 76.5c
วาวน้ำอุณหภูมิต่ำ 76.5c / ยาง%ซิ่ง ขอบ17-20 / TE37ขอบ18 / ล้อยางป้ายแดงสั่ง
sleeper
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540



ดูรายละเอียด
« ตอบ #374 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 11:17:37 »

พี่ sleeper ทำถูกแล้วค่ะ

เรื่องผ่านหลายวันแล้ว ฝ่ายโน้นเค้ายังลีลาก็ปล่อยเค้า เค้าจะเอายังไงก็เรื่องของเค้าแล้ว...

แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรา..ทำให้ถูกต้อง..ดีที่สุด ค่ะ  




ใช่เลยครับ
บันทึกการเข้า
จิ๊กโก๋..โรแมนติก <RZ>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,635


เข้าป่าพอไหว..ขับไวเค้ากัววว


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #375 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 11:42:33 »

โดนตรีนหายครับเกรียนพวกนี้

 ผมไม่นิยมความรุนแรง


แต่เกลียด พวกปัญญาอ่อน
บันทึกการเข้า

หันมาเล่นออฟโรดดีกว่า

ไม่ได้เหลือ..แค่เบื่ออะไรเดิมๆ
jen@171
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,966


Wanna be...!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #376 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 13:24:30 »

555+   เริ่มจะเห็นความเป็นไปของเรื่องนี้แล้วว   อิอิสนุกๆๆๆ

อยากรู้จัก พวกใน1000ทิป เค้าจะว่าอย่างไรกัน  เห็นด่าทางเรามาซะยาวเหยียด  55555+


สู้ๆๆ ครับพี่  คนอย่างงี้ต้องประจานให้สังคมรับรู้  อิอิ
บันทึกการเข้า

TunedByJen
พรชัย เฮดเดอร์
CORONA CLUB
Club JZ
Mercedes Mania
กะเรกะราด
AE101@CODE
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 479


Varity Car Club Thailand จับกังEngineer


ดูรายละเอียด
« ตอบ #377 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 13:28:38 »

สู้ต่อไปครับเป็นกำลังใจให้

ถึงท่านที่อยู่ที่นั่นนาน 10 ปีนะครับ ถ้าเข้ามาอ่านก็เอาไปคิดหน่อย
คนเชื่อวาจา หม..เชื่อปลอกคอ คนกลับกลอก หม... ไม่มีปลอกยังดีกว่า
 
บันทึกการเข้า

Pencom.CZ 49
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #378 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 14:35:55 »

เสียดาย เว็บปิดปรับปรุง ไม่งั้นมีหงายหลังเงิบแน่ๆ 
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
Ghostor
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 227



ดูรายละเอียด
« ตอบ #379 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 15:32:54 »

คดี พลี๊กกกกกกก

ทำตัวแดงไว้ให้เพื่อใครไม่ได้อ่าน (ขี้เกียจอ่าน) ยาวๆ นะคับ

8 พฤษภาคม 2553

เรื่อง   ความเห็นทางกฎหมาย
เรียน   คุณ………………….    

ตามที่ได้รับมอบหมาย เรื่องนี้มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยสองส่วน คือ 1. กรณีของการเฉี่ยวชน และ 2. กรณีของการแจ้งความกับสถานีตำรวจวิภาวดี
   ในกรณีที่ 1 ในเรื่องของการเฉี่ยวชน มีลำดับขั้นตอนการปฎิบัติดังนี้ การชนกันระหว่างรถยนต์ด้วยกัน และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บนั้น ตรงส่วนนี้อำนาจจะอยู่ที่ตำรวจแทบทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล ตำรวจมีอำนาจสอบสวน และเปรียบเทียบปรับได้ ในกรณีของการชนแล้วหนี เมื่อเจ้าพนักงานได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวแล้ว เจ้าพนักงานจะสันนิฐานไว้ก่อนว่าฝ่ายที่หนีเป็นฝ่ายกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติจารจรทางบกฯ และจะทำการรวบรวมพยานหลักฐาน เช่น จัดให้ถ่ายภาพแสดงร่องรอยและสภาพรถที่เสียหายไว้ และ/หรือจะจัดให้ถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุประกอบเพื่อให้พยานหลักฐานมั่นคงขึ้น และ/หรือสอบปากคำผู้เสียหายก็ได้ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง และหาตัวผู้กระทำผิด และอื่นๆ ถ้าเจ้าพนักงานเห็นสมควร ต่อมาเมื่อรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว เจ้าพนักงานจะทำการส่งหมายเรียกไปยังผู้นั้น การส่งหมายเรียกลักษณะนี้เป็นเพียงการเรียกมาเพื่อสอบปากคำเท่านั้น
   ในการสอบสวนลักษณะนี้ เพื่อหาความถูกผิด จะเป็นการใช้การวินิจฉัยของเจ้าพนักงานในการดูว่า มีการขับขี่ไปในทิศทางใด, การจารจรในบริเวณโดยรอบมีลักษณะเป็นอย่างไร และรวมถึงความเสียหายจากการชนด้วยว่าตรงกันหรือไม่ มีลักษณะอย่างไร ทั้งนี้จะพิจารณาในรายละเอียดอื่นๆ มากกว่านี้ก็ได้ตามที่เห็นสมควร จากที่กล่าวมาข้างต้นการตรวจสอบพิสูจน์ว่ามีการชนกันจริงหรือไม่นั้น คาดว่าเจ้าพนักงานต้องพิจารณาจากบาดแผลที่เกิดจากการชนเป็นสำคัญ เนื่องจากจะทราบได้ว่ารถยนต์ทั้งสองคันชนกันจริงหรือไม่นั้น บาดแผลของรถทั้งสองคันต้องสอดคล้องกัน พร้อมกับพยานแวดล้อมในขณะเกิดเหตุ จึงจะทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการชนกันของรถยนต์ตามพิพาทกันจริง ในการตรวจสอบนั้นโดยทั่วไป เจ้าพนักงานสามารถดูได้ด้วยตา และฟังจากพยานแวดล้อม ก็สามารถวินิจฉัยได้โดยทันที แต่ในกรณีนี้มีการทิ้งเวลาไว้เนิ่นนาน มิได้มีการตรวจสอบทันทีขณะเกิดเหตุ ซึ่งพยานแวดล้อมไม่น่าจะมีแล้ว ถ้าเจ้าพนักงานคาดเห็น หรือคู่กรณีคาดเห็นว่าน่าจะมีการซ่อมแซมร่องรอยการชนแล้ว เจ้าพนักงานจะต้องส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่ามีบาดแผลการชนกันจริงหรือไม่ มีการทำสีใหม่หรือไม่ หรือถ้ามีร่องรอยการชนจริง เป็นการชนกันในลักษณะใด บาดแผลเป็นเช่นไร
เรียนปรึกษาว่า จากที่ได้เห็นตัวรถยนต์แล้วไม่มีร่องรอยใดทั้งบริเวณตัวรถและยาง จึงเชื่อว่าผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานย่อมเป็นในลักษณะที่ว่าไม่มีร่องรอยของการชน และมิได้มีการทำสีใหม่ เมื่อพิจารณาประกอบกับภาพถ่ายรถยนต์ในวันเกิดเหตุที่ทั้งสองฝ่ายแสดงไว้ในกระทู้แล้ว จึงมีความเห็นว่า เจ้าพนักงานจะมีความเห็นในทางที่ว่ารถยนต์ทั้งสองคัน ไม่ได้มีการชนกันจริงตามที่ได้กล่าวอ้าง และรอยบาดแผลดังกล่าวมิได้เกิดจากการชนกับรถยนต์ป้ายทะเบียน ณพ 101
แต่ถ้าเจ้าพนักงานเห็นว่าน่าจะมีการชนเกิดขึ้นจริง จากข้อเท็จจริงที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน และยอมรับกันในการพูดคุยในกระทู้ น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เจ้าพนักงานเห็นว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากความประมาทของทั้งสองฝ่าย ความผิดลักษณะนี้เจ้าพนักงานจะทำการเปรียบเทียบปรับทั้งสองฝ่าย หรือจะยอมเสียค่าปรับในอัตราอย่างสูงเพื่อให้คดีเลิกกันก็ทำได้ และในส่วนของค่าเสียหายก็คิดตามสัดส่วนว่าใครประมาทมากน้อยกว่ากันเท่าใด แต่โดยปกติแล้ว ถ้าไม่มีผู้ใดเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ บริษัทประกันภัยของทั้งสองฝ่ายจะตกลงซ่อมรถยนต์ของฝ่ายผู้เอาประกันกับตัวเอง แทนที่จะทำการพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้ที่ประมาทมากกว่ากัน และค่าเสียหายตามพฤติการณ์เท่าใด เพราะในการพิสูจน์ในส่วนนี้ต้องให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัย (พิจารณาค่าเสียหายตามพฤติการณ์ คือ ถ้าต่างฝ่ายต่างประมาทเท่าๆกัน ค่าความเสียหายก็ตกเป็นพับกันไปทั้งคู่ คือไม่ต้องจ่าย แต่ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประมาทมากกว่าก็จ่ายตามส่วนต่างตรงนั้น)
   ในส่วนของกรณีที่ 2 ในเรื่องที่คู่กรณีเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจของสถานีตำรวจวิภาวดีนั้น วันนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปยังคู่กรณี เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของการแจ้งความว่า ได้มีการแจ้งความไว้จริงหรือไม่ ถ้ามีการแจ้งความจริงได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวนท่านใด วัน และเวลาเท่าใด แต่ทางคู่กรณีไม่ยอมบอกอะไร เพียงแต่บอกว่าแจ้งความแล้วที่ สน.วิภาวดี และบอกให้รอที่นั้นละ เพื่อตกลงกัน จะไปหานานหน่อย เพราะต้องเดินทางมาที่ สน. นี้ ระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตร จึงไม่ได้รอ
   และตามข้อมูลที่ได้รับทราบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 เวลาโดยประมาณ 19.45 น. จึงคาดการณ์ว่าคู่กรณีน่าจะเข้าแจ้งความในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุไปจนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2553 จึงได้เข้าไปตรวจสอบกับเจ้าพนักงาน เพื่อค้นหาบันทึกประจำวันดังกล่าว แต่ปรากฎว่าในบันทึกประจำของวันที่ 4 และ 5 พฤภาษคม 2553 ของสน.วิภาวดีนั้น ไม่ปรากฎหมายเลขป้ายทะเบียน ณพ 101 ในบันทึกประจำวันดังกล่าว เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลอื่นใดเลย ไม่ว่าจะเป็นชื่อของเจ้าพนักงานที่รับแจ้งความ วันและเวลาที่แจ้งความ หรือชื่อผู้ที่เข้าแจ้งความ จึงทำให้ค้นหาต่อไปไม่ได้

   จึงเรียนปรึกษาว่า ตามกล่าวข้างต้นคาดเห็นได้ว่าคู่กรณีน่าจะยังมิได้มีการเข้าแจ้งความในกรณีดังกล่าวไว้กับเจ้าพนักงานตำรวจ แต่ถ้าได้มีการแจ้งความไว้จริง (เนื่องจากคาดเห็นว่าการเครมรถยนต์กับทางประกันภัยในลักษณะนี้ ส่วนมากจะต้องมีการแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน และลงบันทึกประจำวัน เพื่อนำบันทึกประจำวันดังกล่าวแนบไปด้วยกัน) ตามที่ได้ปรึกษากับเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์ มีความเห็นตรงกันว่า ต้องรอหมายเรียก หรือต้องทราบรายละเอียดข้อมูลของการแจ้งความตามข้างต้นเท่านั้น 
   ดังนั้นในส่วนของการแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน กรณีแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน จึงไม่อาจทำได้ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าได้มีการแจ้งความตามที่ได้กล่าวไว้ในกระทู้จริงหรือไม่ ดังที่ได้เคยกล่าวไว้ว่าต้องมีการแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานก่อนแล้วเท่านั้น จึงจะเป็นความผิด ไม่ว่าการแจ้งข้อความนั้นจะมีลักษณะเป็นการร้องทุกข์ ตามมาตรา 2(7) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือเป็นการแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยไม่ประสงค์จะให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษก็ตาม แม้ต่อมาจะได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้วก็ตาม ก็ถือว่าได้แจ้งข้อความนั้นต่อเจ้าพนักงาน จึงมีความผิดฐานนี้แล้ว แต่ถ้ายังมิได้มีการแจ้งข้อความตามที่ได้กล่าวไว้ในกระทู้ต่อเจ้าพนักงาน ความผิดฐานนี้ก็ยังไม่เกิด   
   จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ

บันทึกการเข้า

เคยมีคนต่างชาติสงสัยว่า "ทำไมคนไทยรักในหลวง"
คำตอบคือ ............. "คุณมีเวลามากพอที่จะฟังหรือเปล่า"
หน้า: [«10] [«5]  «  1 ... 17 18 [19] 20 21  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!