AE. Racing Club
25 กรกฎาคม 2568 02:37:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ  (อ่าน 3100 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:00:45 »

เรื่องสยองขวัญๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกกลัวมากๆ

กลางดึกคืนหนึ่ง...........

ประวิทย์.........ชายหนุ่มผู้ตั้งใจศึกษาเรื่องราวของผีปีศาจและอาถรรพ์ต่างๆ
ในค่ำคืนนั้นเขาตั้งใจจะไปซื้อตำราศาสตราโบราณเพื่อนำมาศึกษา
เขาจึงเดินทางไปร้านหนังสือเก่าแก่ร้านหนึ่ง  ซึ่งเป็นร้านที่มีหนังสือและบันทึกเรื่องราวหน้ากลัว
ต่าง ๆ ไว้อย่างมากมาย

ขณะที่เขากำลังค้นหาหนังสือลึกลับอยู่นั้น  ชายหนุ่มก็ได้พบเจ้าของร้าน
ซึ่งมีท่าทางน่ากลัวมาก ๆ เป็นชายแก่ ๆ ไว้หนวดเครา อายุไม่น่าจะต่ำกว่า 70 ปี
มีสายตาที่เย็นชามาก  ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้พบหนังสือเล่มหนึ่ง
เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการบันทึกเรื่องราวศาสตร์มืด
หน้าปกก็เหมือนมีมนต์ขลังอะไรซักอย่าง  เมื่อชายหนุ่มได้หยิบหนังสือและจะนำไปจ่ายเงิน

ชายหนุ่มสังเกตุว่าเจ้าของร้านนั้น
หน้่าซีดและดูหวาดกลัวหนังสือเล่มนั้นมาก............

เมื่อชายหนุ่มถามราคาเจ้าของร้าน  เจ้าของร้านตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและแหบแห้งว่า


" หนึ่งพันสองร้อยบาท  สำหรับหนังสือเล่มนี้...."

ชายหนุ่มเห็นสีหน้าท่าทางหวาดกลัวของเจ้าของร้านทันที...สายตาที่เริกลัก...ไม่กล้าสบตา ..เหงือเม็ดโตไหลซึมออกมาทั่วใบหน้าอันเ..เซนเซอร์..่ยวย่นของชายแก่....เมื่อเขาควักเงินจ่ายค่าหนังสือแก่เจ้าของร้าน  ชายหนุ่มคล้อยตัวเดินออกจากร้านก็ได้ยินเสียงเจ้าของร้่านที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ

"พ่อหนุ่มอย่าเปิดหน้่าสุดท้ายเด็ดขาด...จำคำฉันไว้ให้ดี......"

เมื่อกลับถึงบ้านชายหนุ่มก็ได้เปิดหนังสือโดยปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าของร้านอย่างเคร่งครัด
ว่าห้ามเปิดหน้าสุดท้ายอย่างเด็ดขาด  เมื่ออ่านหนังสือสักพักด้วยความอ่อนเพลีย...ชายหนุ่มก็ได้เผลอหลับไป.....

และขณะนั้นเอง....

เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น....

สายลมที่พัดโชยมาจากทางหน้าต่างซึ่งชายหนุ่มเปิดทิ้งไว้ทำให้หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ

ค่อย ๆ เปืดออกที่ละหน้า...



จนถึงหน้าสุดท้าย.........


เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็พบว่า...
มือทั้งสองข้างของเขารู้สึกเย็นเฉียบ.....

แต่ภายในร่างกายของเขากลับรู้สึกร้อนรุ่มดังมีเพลิงแห่งความโกรธแค้นมาแผดเผา..ความเงียบเข้าปกคลุมเนินนานราวกับไม่มีวันจะสิ้นสุด


เมื่อเขาได้พบข้อความสั้น ๆ ที่เขียนไว้ในบรรทัดสุด.........

ข้อความนั้นเขียนไว้ว่า...............






หนังสือเล่มนี้ราคา  35  บาท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 พฤศจิกายน 2552 18:24:42 โดย DraftMAN » บันทึกการเข้า
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:04:07 »

เที่ยวลาว : ผู้หญิงไปกันเองโดยลำพังต้องระมัดระวังให้มาก อันตรายครับ

เที่ยวนี้ผมเข้าลาวเป้าหมายไปหลวงพระบาง-วังเวียง โดยเวียงจันทน์เป็นทางผ่าน ผมเข้าลาวตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 1 กพ.พักที่วียงจันทน์ก่อน รุ่งขึ้นเข้าหลวงพระบาง

ที่หลวงพระบาง
ผมเดินเที่ยวเองในเมือง เนื่องจากความตั้งใจต้องการไปวัด โบราณสถาน โรงเรียนและใส่บาตรข้าวเหนียวเป็นหลัก
ซึ่งส่วนใหญ่สถานที่หลักๆก็อยู่ในเมือง ส่วนสถานที่อื่นๆ หากมีเวลาก็ไป พักอยู่สองคืนก็เดินทางย้อนกลับเข้าวังเวียง พักสองคืน

ที่วังวียง
เป้าหมายคือธรรมชาติ กระโดดน้ำ ถ้ำน้ำ ถ้ำอื่นๆ และหากอยู่แล้วชอบอาจพักหลายคืน
เนื่องจากเที่ยวนี้พอมีเวลาแต่แล้วผมก็พักอยู่แค่สองคืน คืนที่สองผ่านไปรุ่งเช้าคือวันที่ 6 กพ.
ผมเก็บข้าวของเดินทางรวดเดียวจากวังเวียง-กรุงเทพฯ ต่อรถเรื่อยๆไม่หยุดพักค้างคืนที่เวียงจันทน์หรืออุดรฯอีกคืน
ทั้ง ที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะพักที่เวียงจันทน์หรืออุดรฯอีกคืนปิดท้ายการเดินทาง เนื่องจากได้รับรู้เหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาจะพบเห็น ทำให้ไม่สบายใจ

เรื่องราวที่ไม่พึงปรารถนาจะพบเห็นและทำให้ไม่สบายใจ เกิดขึ้นที่วังเวียง

เหตุการณ์เกิดตอน 1day trip ที่วังเวียง
ผมซื้อความสบายหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีมีความปลอดภัย
ไม่ต้องดิ้นรน หนึ่งวันจะประกอบด้วย นั่งห่วงยางลอดถ้ำน้ำ
เลี้ยงอาหารกลางวันมีข้าวผัด บาบีคิว กล้วยน้ำว้าสองใบ มีน้ำดื่มให้หนึ่งขวดใหญ่
พายเรือคะยัค กระโดดน้ำ และพายเรือคะยัคต่อหรือล่องห่วงยางถึงวังเวียง แล้วแต่เวลา

1day trip ผมซื้อในราคา 90000 กีบโดยไม่ต่อราคา(เข้าใจว่าต่อได้)
ในคืนวันที่ 4 กพ.ที่ไปถึงวังเวียง เช้าวันต่อมา 5 กพ. คนของทัวร์มารับยังที่พัก 9.30 น.
พาขึ้นรถบรรทุกตะเวนรับนักท่องเที่ยวตามที่พักหรือสำนักงานขายทัวร์รวมกันไปด้วยรถบรรทุกสองคัน
ช่วงที่รับคนญี่ปุ่นขึ้นรถ ได้ยินชาวลาวคุยกันว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นสวยด้วยแล้วก็หัวเราะกัน (ภาษาลาว แต่พอฟังออก)
ทั้งหมดรวมกันประมาณ 24-27 คน ผมจำไม่ได้แน่นอน

ใน trip นี้มีผมเป็นคนไทยคนเดียว นอกนั้น ผู้ชายชาวอินโดฯ 1 คน
ชายชาวเกาหลีหนึ่งคนมากับผู้หญิงชาวลาว(คาดว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน)
สาวญี่ปุ่น 4 คน นอกนั้นฝรั่งทั้งนั้นหลายชาติหลายภาษา

รถบรรทุกขับพาลูกทัวร์ออกนอกเมืองไปประมาณ 15 กิโลฯทางที่จะขึ้นไปหลวงพระบาง
เมื่อไปถึงรถเลี้ยวจากทางหลักเข้าซอยที่เป็นฝุ่นแดงไม่ไกลนัก คณะทัวร์ก็ลงจากรถเดินเข้าไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงถ้ำน้ำ
ตรงนี้ไกด์จะจัดแบตเตอรี่พร้อมหลอดไฟมีสายคาดที่ศรีษะโดยให้หลอดไฟอยู่ตรงหน้าผากนักท่องเที่ยวพานั่งห่วงยางเข้าไปในถ้ำน้ำใช้เวลา
ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงแล้วแต่เวลาเหมาะสม ตอนนี้ก็สนุกดี น้ำเย็น สะอาดอยู่ เหนื่อยนิดหน่อย ผมไม่ได้ถ่ายรูปเพราะกลัวเปียกน้ำ
ไป คนเดียวถ่ายรูปตัวเองขณะนั่งห่วงยางลอดถ้ำน้ำก็ไม่ได้และเป็นภาระ นำแต่กระเป๋าเงินกับกุญแจห้องพักและกุญแจล็อคกระเป๋าเดินทางใส่ถุงพลาสติก ที่เตรียมมาจากบ้านเอง ใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นที่มีซิป(ทัวร์จะมีถุงกันน้ำให้ แต่ผมไม่ต้องใช้เพราะไม่เอาอะไรติดตัวไป หากใครนำผ้าเช็ดตัว หมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด กล้องถ่ายรูป และอื่นๆก็ต้องใช้ถุงกันน้ำ) อ่อ..ฝรั่งบางคนกล้องถ่ายรูปกันน้ำ เขาก็นำติดตัวไป เข้าใจว่าแพง ผมไม่มีปัญญาซื้อ

ช่วงระหว่างลอดถ้ำน้ำ ไกด์จะเข้าไปด้วยบางคน บางคนก่อไฟปิ้งบาบีคิว เพื่อเป็นอาหารกลางวันสำหรับนักท่องเที่ยว

หลังจากเสร็จจากถ้ำน้ำก็ทานข้าวกลางวันกันที่นั่น ไกด์มากัน 6 คน ก็ช่วยกันแจกข้าวกล่อง
บาบีคิวคนละสองไม้ ขนมปังแบบฝรั่งเศส 1 ชิ้น กล้วยน้ำว้า 2 ใบ เมื่อทานเสร็จไกด์ก็เรียกนักท่องเที่ยวบอกเราจะไปถ้ำช้างกัน
ช่วงนี้เองเริ่มมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น

เรื่องผิดปกติคือเมื่อไกด์เรียกนักท่องเที่ยวไปต่อ ผมเดินขึ้นไปก่อน
ส่วนคนอื่นๆก็เก็บข้าวของทยอยตามมา ช่วงที่รอคนอื่นผมก็ยืนคุยกับไกด์ชาวลาว สะดุดตรงคำพูดที่ว่า

"ไกด์ : พี่มาคนเดียวหรือ กลับพรุ่งนี้หรือป่าว ค่ำนี้ค้างแถวสไลด์เดอร์เช้าเขาจะไปส่งที่พัก
ผม : มีอะไรหรือ ถึงให้ค้างที่นั่น
ไกด์ : ผู้หญิงญี่ปุ่น 4 คน ไม่มีผู้ชายมาด้วย เดี๋ยวผมจัดให้พี่หนึ่งคน (สาวญี่ปุ่นมากันสี่คนยังเด็กทั้งหมดเรียนหนังสืออยู่ เพราะได้ทักทายกันบ้างนิดหน่อย)
ผม : พยักหน้า แต่ไม่พูดอะไร (ในตอนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าผิดปกติ ไกด์มีสิทธิ มีอำนาจสั่งคนญี่ปุ่นได้ขนาดนั้นหรือ และ"จัดให้" ที่ว่าหมายถึงอะไร)"

พอนักท่องเที่ยวอื่นๆเดินมาถึงก็หยุดคุยกันและเดินต่อไปถ้ำช้าง ไปถึงผมก็เข้าไปไหว้พระ
ไกด์ก็อธิบายให้นักท่องเที่ยวคนอื่นฟังเกี่ยวกับพระพุทธรูปและเรื่องราวทางศาสนา ผมไหว้พระเสร็จก็ออกมายืนฟัง

เสร็จจากถ้ำช้างไกด์ก็เรียกขึ้นรถ รถขับพากลับไปทางที่จะเข้าวังเวียงประมาณ 5 กิโลฯ เพื่อเอาเรือคะยัคลงลำน้ำชอง
ไกด์ก็อธิบายการพายเรือให้นักท่องเที่ยวฟัง แล้วก็จัดให้นักท่องเที่ยว ใครจะพายคนเดียว ใครจะพายสองคน
ช่วงนี้ไกด์จัดให้คนญี่ปุ่นหนึ่งคนลงเรือคะยัคไปกับผม ผมปฏิเสธบอกพายเรือไม่เป็น ขอไปกับไกด์ดีกว่า

เมื่อเรือคะยัคพายมาได้ช่วงหนึ่ง ถึงตรงกระโดดน้ำก็หยุด แวะให้นักท่องเที่ยวกระโดดน้ำ
ผมโดดไปสองหนก็สนุกเที่ยวแรก เที่ยวหลังเริ่มไม่หวาดเสียวก็เลยพอ ยืนดูดีกว่า ฝรั่งสนุกสนานมากกินเหล้ากินเบียร์กัน
ผมหันไป-มามองคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย หันไปเจอกลุ่มไกด์กำลังก่อไฟในเตาถ่านปิ้งปลาที่จับในลำน้ำชองกินกับข้าวเหนียว
ไกด์กวักมือเรียกผม ผมก็เดินเข้าไป ไกด์ชวนให้กินด้วย ผมบอกอิ่มกินไม่ไหว ไกด์จึงล้วงขวดเหล้าออกมา ยี่ห้อเหล้าไม่คุ้น
เข้าใจเองว่าเป็นเหล้าท้องถิ่นของลาวชวนผมกินด้วย ผมบอกกินเหล้าไม่เป็น

ผมนั่งคุยกับไกด์ได้สักพัก เหล้าเหลือครึ่งขวด ไกด์ล้วงกระเป๋าสะพายดึงของออกมาสองซอง
ฉีกแล้วเทลงขวดเหล้าที่เหลือครึ่งขวด (ผมเห็นแบบนั้นนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของไกด์ทันที
"ผู้หญิงญี่ปุ่นสวยด้วย"ตอนเพิ่งขึ้นรถในวังเวียง กับ "พี่มาคนเดียว ค่ำนี้พักที่นี่ เดี๋ยวผมจัดคนญี่ปุ่นให้หนึ่งคน")
ซองแบบนั้นผมเคยเห็นเมื่อตอนที่ไปแม่สายข้ามไปท่าขี้เหล็ก คนที่เคยไปคงนึกภาพออกถึงคนพม่าสะพายตะกร้าห้อยคอขายไวอะกร้าและสินค้าอื่นๆ
รวมทั้งซองแบบนี้ด้วย บนซองจะมีภาพพิมพ์รูปผู้หญิง ผมบอกไกด์ปวดถ่ายเบาลุกเดินออกมา แล้วเดินไปหาที่ถ่ายเบา
ในความคิดตอนนั้นเริ่มแน่ใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่มันอาชญากรรมแล้ว ผมจะจัดการกับเหตุการณ์นี้อย่างไร

เมื่อถ่ายเบาเสร็จ ผมเดินไปดูตรงที่กระโดดน้ำ ซึ่งคนญี่ปุ่นสี่คนกระโดดน้ำแล้วมายืนอยู่แถวนั้น
ผมยืนและครุ่นคิดในใจจะเอาไงดี จะบอกคนญี่ปุ่นดีหรือไม่ ผมมายืนตรงนี้หลังจากถ่ายเบาประมาณไม่ถึงนาที
หนึ่งคนในคณะไกด์ก็เดินมาพร้อมขวดเหล้า ผมไม่ได้หันไปมอง ตาน่ะมองคนกระโดดน้ำ แต่หางตามองไปทั่ว สมองก็คิดเริ่มเครียด

ไกด์ รินเหล้าใส่แก้วใสใบเล็กๆให้คนญี่ปุ่นกิน เขาก็กินแฮะ ชิมนิดหน่อย ไกด์กวักมือแสดงท่ากินให้หมด คนญี่ปุ่นก็ว่าง่ายกินหมดแก้ว จนครบ 4 คน

ผมเข้าใจว่า คนญี่ปุ่นคงนึกว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของบริการใน trip อาจจะประกอบกับอาการสนุกสนาน ตื่นเต้น เหนื่อย ระคนกันไป ที่สำคัญยังเด็กด้วย

ผมยืนอยู่ข้างๆห่างไม่เกินสองเมตรเห็นเหตุการณ์นั้น ไม่สบายใจเลย

สักพักหลังจากคนญี่ปุ่นกินเหล้าครบทั้ง 4 คน ไกด์เรียกกลับแล้ว (เร็วกว่าเวลาตาม trip หนึ่งชั่วโมง) ร
ะหว่างทางเดินจากที่กระโดดน้ำถึงเรือคะยัค ไกด์เดินมาคุยกับผมบอก จะแยกกรุ๊ปทัวร์ออกเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรกเขากับเพื่อนอีกคนจะพานักท่องเที่ยวพายเรือคะยัคกลับเข้าวังเวียงจบ trip แล้วแยกคนญี่ปุ่น 4 คนกับผมออกไปที่สไลด์เดอร์
โดยมีหนุ่มเกาหลีกับสาวกลางคืนชาวลาวและคณะไกด์ที่เหลืออีก 4 คนอยู่ด้วย โดยไกด์บอกผมว่าไปส่งนักท่องเที่ยวกลับแล้วเดี๋ยวจะกลับมา

ตามโปรแกรมทัวร์ สไลด์เดอร์ไม่อยู่ในรายการ trip นี้ และคนที่เคยไปคงนึกภาพออกแถวสไลด์เดอร์มีร้านขายเหล้าเบียร์มีดนตรี
และละแวกนั้นมีบังกะโลหรือจะเรียกกระท่อมเป็นหลังๆ ก็แล้วแต่จะเรียก คนไม่เยอะ ไม่เหมือนแถวกระโดดน้ำ
ระหว่างพายเรือคะยัคจากจุดกระโดดน้ำถึงสไลด์เดอร์น่าจะประมาณไม่เกิน 10 นาที ผมนั่งมาในเรือกับไกด์เหมือนเดิม
ถึงไลด์เดอร์ ไกด์พายเรือจะเข้าฝั่งส่งผม แล้วค่อยพานักท่องเที่ยวฝรั่งอื่นๆกลับวังเวียง พอเรือใกล้ฝั่งผมหันไปบอกไกด์ผมเหนื่อยมาก
เพลียและเจ็บตัวจากที่ขาผมขูดกับเตียงนอนของที่พักเป็นแผล เมื่อโดนน้ำแล้วผมกลัวไม่สะอาดจะรีบกลับไปทำแผล
แล้วผมไม่ชอบคนญี่ปุ่นชอบคนไทยมากกว่า เขาตอบกลับมาว่าเที่ยวนี้ไม่มีคนไทย อาทิตย์ที่แล้วสิคนไทย ผมได้ยินแบบนั้นก็ทำเฉยๆ
บอก ไปอีกว่าผมกลับดีกว่า (ช่วงนั้นผมไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องอื่น คิดอยู่แต่เรื่องจะทำอย่างไรดี เอาไงดี รวมเวลาตั้งแต่ที่แน่ใจว่าจะเกิดเหตุอะไรคือเห็นฉีกซองใส่ขวดเหล้าจนถึง สไลด์เดอร์น่าจะประมาณ 15-20 นาที ) ไกด์จึงตะโกนบอกเพื่อนให้ชวนหนุ่มอินโดฯอยู่ด้วย หนุ่มอินโดฯก็เลือกที่จะอยู่

ที่ผมตัดสินใจกลับเข้าวังเวียง นึกอยู่ว่า นี่ต่างถิ่น ไกด์ 6 คนและอาจมากกว่า ส่วนผมคนเดียว เครื่องมือสื่อสารก็ไม่มี
ผมตัดสินใจนิ่งเฉยปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไร ฉีกตัวเองออกจากเหตุการณ์

เมื่อ กลับถึงที่พักก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมานั่งสั่งข้าวกินที่รีสอร์ท ระหว่างกินไปก็ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ ลำดับเหตุการณ์ ยิ่งนึกก็ยิ่งไม่สบายใจ
ใจอยากกลับเมืองไทยเดี๋ยวนั้น แต่ความจริงกลับไม่ได้หรอก ไปไม่ทันด่านปิดแน่ คืนนั้นผมนอนไม่หลับเกือบตลอดคืน
ทั้งๆที่เหนื่อย เพลีย ปวดเมื่อยไปหมด นึกถึงแต่เหตุการณ์และการตัดสินใจของตนเอง ผมยอมรับนอนน้ำตาไหลบนที่นอน
ทั้งๆที่เด็กสาวชาวญี่ปุ่นไม่เกี่ยวข้องกับผม ไม่ใช่ญาติพี่น้องผมเลย

เช้าวันรุ่งขึ้นผม หารถ minivan (รถตู้เล็กฮุนได) กลับเข้าเวียงจันทน์ เช้าวันนั้น 6 กพ.
ที่วังเวียงฝนตกหนักด้วย ถึงเวียงจันทน์ที่ตลาดเช้า ผมซื้อตั๋วขึ้นรถเที่ยวบ่ายสองกลับไทยโดยไม่แวะเที่ยวที่เวียงจันทน์แล้ว


พูดถึงระยะเวลาของเหตุการณ์สั้นๆ 15-20 นาที ตอนนั้น แต่ในความรู้สึกผมมันช่างยาวนานมากเหลือเกิน คิด เลือกที่จะตัดสินใจกลับไป-มาหลายตลบเสมือนหนึ่งสับสนด้วย เครียดด้วย แล้วกับเด็กสาวชาวญี่ปุ่นทั้ง 4 คน คืนนั้นคงเป็นคืนที่ยาวนานมากกว่าผมหลายร้อยหลายพันเท่า

ตอนที่คิดกลับไป-มาหลายตลบนั้นมีหลายหนทางเหลือเกิน
-ชนเลยดีไม๊
-เลือกอยู่ต่อที่สไลด์เดอร์ดีไม๊
-เจรจากับไกด์ดีไม๊
-สุดท้ายผมตัดสินใจก่อนเรือถึงฝั่งที่สไลด์เดอร์ว่ากลับเมืองวังเวียง พร้อมทั้งนึกในใจพี่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ช่วยน้องเลย
ที่ ผมตัดสินใจกลับวังเวียง เนื่องจากคิดว่าผมไม่ใช่ตัวละครในไดฮาร์ดหรือแรมโบ้ อยู่กลางเขาสายน้ำชอง ต่างถิ่น ใกล้ค่ำแล้ว เครื่องมือสื่อสารก็ไม่มี หากชนผมคงไม่ได้กลับเมืองไทย

อย่างหนึ่งคือ ตอนนั้นผมนึกถึงข้อความที่คุณป้อมโพสไว้ในนี้ว่า "ที่ลาวให้ระวังคนดีมากกว่าคนร้าย"

ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่สบายใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้เหตุการณ์ไม่ได้เกิดผลร้ายต่อผม เพียงถูกไกด์พยายามดึงให้เข้าไปมีส่วนร่วม

ทำไมผมไม่โวยวายตรงกระโดดน้ำ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวฝรั่งเป็นร้อยเต็มไปหมด
ทำไมผมกลับถึงเมืองวังเวียงไม่เล่าให้เจ้าของรีสอร์ตฟัง
ทำไมผมไม่ไปแจ้งความกับตำรวจลาว
ทั้งสามกรณีผมบอกได้เลยว่าตอนนั้นนึกไม่ออก
ผม ไปลาวเที่ยวนี้ ตั้งใจไปไหว้พระทำบุญ ตักบาตรข้าวเหนียว แต่กลับมาด้วยความไม่สบายใจ พบเห็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่รู้ว่าตัวเองไปได้บุญหรือได้บาปกลับมา ไม่รู้ว่าตนเองเลือกหนทางถูกหรือไม่ ไม่รู้ว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือไม่ ผมนิ่งเฉยไม่ทำอะไรทั้งๆที่คาดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวชาวญี่ปุ่น ทั้ง 4 คน

ผมได้แต่กลับมาเตือนคนไทยด้วยกัน ไปเที่ยวลาว ผู้หญิงไปกันเอง ใช่ว่าปลอดภัย หากแต่อันตรายมาก
บันทึกการเข้า
oilnarit
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 5,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:04:18 »

น้าเบิ้ลคือเจ้าของร้านใช่ปะ    
บันทึกการเข้า
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:06:27 »

 
บันทึกการเข้า
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:24:04 »

ภรรยาผู้ประเสริฐ
 

      น่าอ่านมาก ๆ เลย แหละ     

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคู่แต่งงานใหม่หวานแหวว     

      ที่เพิ่งผ่านพิธีมาได้สองอาทิตย์   

    ! ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน     

      แต่ฝ่ายสามี     

      ก็อดรนทนไม่ได้ที่จะนัด สหายหาญทั้งหลาย     

      เพื่อไปสังสรรค์ด้วยกันในตัวเมือง       

      สามีจึงเอ่ยกับภรรยาใหม่ว่า   

      'ที่รักจ๋า ผมไปข้างนอกสักครู่นะ     

เดี๋ยวกลับมาจ๊ะ' 

      ภรรยาถามสามีว่า ' สุดที่รักจะออกไปไหนเหรอคะ'     

      คนสวยของผม ขอผมไปที่บาร์หน่อยนะ ไปดื่มเบียร์สักแก้วสองแก้วเดี๋ยว     

      เสร็จแล้วก็กลับจ๊ะ   

สามีส่งเสียงอ้อนวอนภรรยา

      ที่รักอยากได้เบียร์ทำไมไม่บอกล่ะคะ     

      ว่าแล้วก็เปิดประตูตู้เย็นค้างไว้   

      ให้สามีเห็นว่า เธอได้เตรียมเบียร์ไว้ให้มากกว่า 25 ชนิด     

      จาก 12 ประเทศ :เยอรมัน ฮฮลแลนด์ ญี่ปุ่น  อินเดีย และอื่นๆ       

      สามีได้ยินดังนั้น ก็อึ้งไป ก่อนจะเอ่ยกับภรรยาว่า  เยอะจังเลย     

ที่รักน่ารักที่สุดในโลกเลย      รู้มั๊ย....แต่ว่า...ที่บาร์เค้ามีแก้วแช่แข็งด้วยนะ..     

      ก่อนที่สามีจะพูดจบประโยค       

ภรรยาก็ได้ขัดจังหวะสามี      'โถ น่าเอ็นดูจริง อยากได้แก้วแช่แข็งก็ไม่บอก นี่คะชั้นเตรียมไว้แล้ว '







  ภรรยาพูดพลางหยิบแก้วที่แช่แข็งออกมาจากตู้เย็น  แก้วเย็นมากขนาดที่เธอรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที     

      ฝ่ายสามีเริ่มหน้าซีด    ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า ' ที่รักจ๋าที่บาร์มีออร์เดิร์ฟอร่อยๆให้เลือกเยอะเลย ผมคง   

ไปไม่นานหรอกเสร็จแล้วจะรีบกลับทันทีเลย   ดีมั๊ยจ๊ะ ' 

      ' แหมอยากได้ออร์เดิร์ฟก็ไม่บอกกันแต่แรก 

      ชั้นเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ '

ภรรยาเดินไปเปิดเตาอบและนำ

ออร์เดิร์ฟ 5 อย่างออกมาวางตรงหน้าสามี
อันได้แก่ ปีกไก่ หมูห่อผัก เห็ดยัดไส้  และหมูแดดเดียว
สามีพยายามอ้อนวอนภรรยาต่อไป

'แต่ว่า
ที่บาร์มีอย่างอื่นนะ
อย่างเวลาคุยกันกับเพื่อนๆ
ที่นั่นเราใช้คำไม่สุภาพหรือคำหยาบบ้าง
มันก็ได้บรรยากาศดีนะคนดี'
อ๋อ อยากได้บรรยากาศก็ไม่บอกแต่แรก
ฟังให้ดีนะ

ไอ้ควาย ..คุณ..เอาเบียร์ไปใส่แก้ว

แช่แข็งห่าเหวไรเนี่ยกระแทกปาก..คุณ..ซะ
แล้วก็..หม่ำ..ๆ ไปซะไอ้ออร์เดิร์ฟ..น่ารัก..ๆเนี่ย

แล้ว..คุณ..ก็จำไว้ให้ดีนะ
ว่าคืนนี้... ..คุณ..ต้องไม่ไปไหน
เป็นอันขาด ....เข้าใจมั๊ย ไอ้สาดดดดดด
บันทึกการเข้า
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:47:35 »











 
บันทึกการเข้า
ป้านู๋อ้อ_TZ#051
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 10,130


สังกัด โซนธนบุรี


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:51:04 »

นึกถึงตอนตัวเองไปวังเวียงเลย

แต่ไม่เห็นมีใครให้กินไร 
บันทึกการเข้า



---  อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน อยากถึงฝันต้องอดทน ---
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:52:53 »

นึกถึงตอนตัวเองไปวังเวียงเลย

แต่ไม่เห็นมีใครให้กินไร 

วังเวียน ? ที่ไหนอะป้า
บันทึกการเข้า
ป้านู๋อ้อ_TZ#051
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 10,130


สังกัด โซนธนบุรี


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:53:48 »

นึกถึงตอนตัวเองไปวังเวียงเลย

แต่ไม่เห็นมีใครให้กินไร 

วังเวียน ? ที่ไหนอะป้า

อย่าบอกนะว่าโพสต์ แต่ไม่ได้อ่านเลย 
บันทึกการเข้า



---  อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน อยากถึงฝันต้องอดทน ---
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 18:54:28 »

ไม่ได้อ่าน ใครจะไปอ่าน ยาวซะขนาดนี้
บันทึกการเข้า
Pencom.CZ 49
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 19:23:29 »

ใครจะอ่านเนี้ย 
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
ป้านู๋อ้อ_TZ#051
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 10,130


สังกัด โซนธนบุรี


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 19:27:24 »

ใครจะอ่านเนี้ย 

เค้าอ่านนะ 
บันทึกการเข้า



---  อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน อยากถึงฝันต้องอดทน ---
Pencom.CZ 49
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 19:34:35 »

ใครจะอ่านเนี้ย 

เค้าอ่านนะ 

เหลาให้ฟังหน่อยสิป้า 
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
ป้านู๋อ้อ_TZ#051
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 10,130


สังกัด โซนธนบุรี


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2552 19:43:59 »

ใครจะอ่านเนี้ย 

เค้าอ่านนะ 

เหลาให้ฟังหน่อยสิป้า 

อ่านไปก็บ่นไป ทำไมมันยาวอย่างงี้เนี้ย
บันทึกการเข้า



---  อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน อยากถึงฝันต้องอดทน ---
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2552 08:15:46 »

อิอิ
บันทึกการเข้า
Pencom.CZ 49
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2552 08:35:29 »

อิอิ

สรุปมาเลยๆ
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2552 08:47:48 »

อาวๆ บอกแล้วว่ายังไม่ได้อ่านเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
Pencom.CZ 49
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2552 08:55:23 »

 
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
nuvo3816
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2552 08:55:49 »

เอ็งอ่านแล้วสรุปสิ นายไผ่
บันทึกการเข้า
Pencom.CZ 49
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13,950


นู๋คุณ รักในหลวง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2552 09:11:52 »

ไม่อ่านอ่า ยาวสุดๆ 
บันทึกการเข้า

** 35ํ vol. **
** 4ทุ่มท่าพระ **
หน้า: [1] 2  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!