AE. Racing Club
02 สิงหาคม 2568 22:48:01 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่องแอร์โฟ กับ แมพ หน่อยครับ  (อ่าน 1395 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
UN_ZeeM
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,202



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2552 19:26:48 »

         อยากทราบ ความแตกต่างของ  แอร์โฟ กับ แมพ  2 ตัวนี้อ่าครับ

         ที่เคยเข้าใจมา คือ เมพอ่านค่าอากาศได้เที่ยงตรงกว่าและเป็นเทคโนโลยีที่สูงกว่าแอร์โฟ ผมเข้าใจแบบนี้มาตลอดโดยอ้างอิงจากเครื่อง 20 v

      
               แต่แปลกใจ ทำไมถึง รถที่ออกมา ปี 2000 + ถึงยัง ใช้แอร์โฟอยุ่อ่าครับ   แล้วเครื่องพวก แอร์โฟ ติดแก๊สแล้ว มีปัญหามั้ยครับ
 i

                         ใครพอทราบบ้างครับ เรื่อง เทคโนโลยีแอร์โฟ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 ตุลาคม 2552 20:05:16 โดย Greatt » บันทึกการเข้า

doctorchao
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 217


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2552 19:42:57 »

ต้องบอกว่าแอร์โฟร์อ่านค่าได้ละเอียดกว่า MAP ครับ  แต่ข้อเสียของแอร์โฟล์คือ พังง่าย(ถ้าไม่บำรุงรักษาดีๆ)
บันทึกการเข้า
UN_ZeeM
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,202



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2552 20:22:21 »

ต้องบอกว่าแอร์โฟร์อ่านค่าได้ละเอียดกว่า MAP ครับ  แต่ข้อเสียของแอร์โฟล์คือ พังง่าย(ถ้าไม่บำรุงรักษาดีๆ)

    รถที่บ้าน จากป้ายแดงใช้มา 5-6 ปี แอรฺโฟ พังอ่าครับ หมดไป 7-8 พันบาท
บันทึกการเข้า

carboys
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,571


ใช้สำหรับซิ่ง และ ซ่อม เท่านั้น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2552 08:59:00 »

Airflow Meter เป็น sensor วัดการไหลผ่านอากาศที่มีความแม่นยำสูง แต่มีอายุการใช้งานต่ำ
และมีความอ่อนไหวต่อการดัดแปลงค่อนข้างมาก มักใช้ในรถยนต์ที่ต้องการความละเอียดใน
การปรับแต่งการ tune สูง เช่นในรถ NA เป็นต้น

Map Sensor เป็นการวัดแบบโดยอ้อม โดยอาศัยการวัดแรงดัน และคำนวนตามเส้นผ่านศูนย์กลาง
เพื่อที่จะได้ปริมาณลมที่ผ่านไปได้

ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้ว MAP sensor จะหยาบกว่า แต่ว่าไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง
จึงนิยมใช้ในรถดัดแปลง หรือมี Turbo เพราะมันพังยากกว่าและเชื่องในการปรับแต่งกว่า ต่อให้ค่า
ที่ได้ไม่ถูกต้อง อะไรก็แล้วแต่ แรงแล้วไม่จุกจิกเป็นพอ
บันทึกการเข้า


Step Ahead with MasterCRAFT
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!