มันก้แค่ 20% เองครับ
แต่มันเหนแก่ตัวไปหน่อย ตรงที่เอาน้ำจืด ที่ทั้งโลกมีอยู่ น้อยนิด มาเปนพลัง งาน เซงจิด ตอนนี้ ก้ขวดละ 7 บาท แล้ว นะ 500 cc
จะให้มันแพง พอ ๆ กะ น้ำมันเลยหรอ หรือ เอาแพงแค่ตะวันออกกลาง
จริงก็ไม่ถึงขนานนั้นนะครับ น้ำจืดที่มาทำพอมันโดนแยกแล้วน้ำไปเผาไหม้ มันออกไปเดี่ยวมันก็มีขบวนการ ให้กลับมาใหม่เป็นน้ำจืดอีกอ่ะครับ ไม่อย่างนี้นน้ำหมดโลกไปนานแล้วครับ ผมเห็นในเวปเขาใช้กับเครื่องยนต์เล็ก โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมันเลย อย่างนีั้ผมเห็นด้วย เพราะพลังงานสะอาดกว่าน้ำมันเยอะ แต่ถ้าในรถยนต์อย่างเราๆ ผมว่ายังไม่ค่อยคุ้ม ราคาคับ
ผมเห็นด้วยคับ แต่เท่าที่อ่านมา เห็นเขาบอกว่าสามารถแยกตะกอนของน้ำที่มาเิติมทิ้งได้ด้วยน๊ะคับ แสดงว่าไม่จำเป็นต้องน้ำจืดหรือเป่า เป็นน้ำอะไรก็ได้หรือเป่าคับ น้ำประปา หรือน้ำคลอง หรือน้ำเค็มจากทะเลอะไรประมาณเนี้ยอ่ะคับ ถ้าเราใช้น้ำพวกนี้ได้เราก็ไม่ต้องไปเบียดเีบียนน้ำดื่มแล้วใช่มั้ยคับ
น่าจะใช่นะครับ
เค้าบอกเพียงน้ำสะอาด เช่น น้ำบ่อ น้ำคลอง หรือน้ำในนาข้าว
ผมเห็นว่าแม้จะประหยัดเพียงร้อยละ ๒๐ ก็ดีนะครับ เพราะในชนบททั่วๆ ไป
เค้าอาจจะคิดว่าเป็นประโยชน์กับพวกเค้าก็ได้นะครับ คำนวณแล้วปีหนึ่งก็ประหยัดไปหลายตังนะครับ
ส่วนเรื่องการคิดค้นนั้น มันเป็นเรื่องการเริ่มต้นนะครับ ต่อไปหากมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ก็อาจจะมีการนำน้ำที่ว่า(น้ำบ่อ น้ำคลอง น้ำในนาข้าว) มาใช้เติมโดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำมัน ถึงตอนนั้น พวกรถไถนา เครื่องสูบน้ำในนาข้าว บ่อกุ้ง หรืออะไรๆ พวกนี้ ก็จะได้ประโยชน์
ในเบื้องต้นนี้นำมาใช้กับรถยนต์ได้ ก็ดีแล้วครับ เมื่อขายไป คิดค้นเพิ่มเติมต่อ ผู้ผลิตก็จะมีทุน เมื่อมีทุนการวิจัยใหม่ๆ ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นสูง
ผมชื่นชมเค้านะครับ ที่กล้าเป็นอิฐก้อนแรกที่ถมบ่อร้าง หวังว่าจะมีอิฐก้อนต่อไปเพื่อการปรับบ่อร้างนั้นจะได้สมบูรณ์ ถึงเวลานั้น เราจะได้ใช้รถยนต์เติมน้ำที่ไม่ต้องซื้อหา(น้ำคลอง น้ำบ่อ น้ำในนาข้าว) น้ำซึ่งประเทศเรามีอย่างสมบูรณ์