| 
			| 
					
						| LPG_INSIDE | 
								|  | « ตอบ #80 เมื่อ: 17 มีนาคม 2552 10:53:19 » |  | 
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	|  | 
	| 
			| 
					
						| น้าเสก LOG.RYZ | 
								|  | « ตอบ #82 เมื่อ: 18 มีนาคม 2552 11:13:34 » |  | 
 
 10 สัญญาณเตือนภัยของรถคุณ คนใช้รถทุกวันนี้ บางคนอาจจะแค่ขับไปทำงานแล้วกลับบ้าน บางคนก็ขับไปไกลๆ
 ถึงต่างจังหวัด มีหลายคนที่ขับอย่างเดียว โดยที่ไม่สนใจหรือเอาใจใส่รถของตัวเอง
 ว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้าง ทั้งที่รถทุกคันควรได้รับการดูแลและตรวจเช็คก่อนออก
 เดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
 "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" จึงแนะนำวิธีตรวจเช็ครถของคุณเบื้องต้น กับ 10 สัญญาณ เตือนที่จะบ่งบอกได้ว่ารถของคุณนั้นอาการน่าเป็นห่วง
 1. สัญญาณเตือน
 เราสามารถรับสัญญาณบอกอาการผิดปกติของรถได้ โดยใช้ประสาททั้ง 5 คือ การเห็น การฟังเสียง การได้กลิ่น การจับต้องชิ้นส่วนนั้น ๆ และการลองขับดู ถ้าสังเกตพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ ให้รีบทำการตรวจเช็คและซ่อมแซมโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ มากขึ้นกว่าเดิม
 2. เครื่องยนต์
 เครื่องยนต์คือหัวใจของรถ ถ้าเครื่องยนต์มีอาการดังนี้
 - เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไร ความร้อนก็ขึ้นสูงเสียแล้ว
 - เครื่องเย็นเกินไป แม้จะขับมาระยะทางไกลพอสมควรแล้ว เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่กระดิก
 - มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์
 ควรนำเข้าตรวจสภาพที่ศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ
 3. ยาง
 การสึกหรอของดอกยางแบบต่าง ๆ บอกเราได้ว่ายางผิดปกติไปอย่างไร
 - ดอกยางตรงกลางล้อ สึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป
 - ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป
 - ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง
 - ดอกยางเป็นบั้ง ๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ
 นำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่
 4. คลัตซ์
 คลัตซ์ที่มีปัญหา จะทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้ อย่าละเลยอาการเหล่านี้
 - คลัตซ์ลื่น หรือเข้าคลัตซ์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตซ์แล้ว แต่ยังเข้าเกียร์ได้ยาก
 - คลัตซ์มีเสียงดัง เมื่อเหยียบแป้นคลัตซ์
 - แป้นคลัตซ์สั่นขึ้น ๆ ลง ๆ ขณะกำลังขับ
 ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมช่วงล่าง หรือศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ
 5. เกียร์
 เกียร์จะทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็ว
 สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ
 - มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่
 - เปลี่ยนเกียร์ยาก มีอาการติดขัด หรือต้องขยับอยู่นาน
 - มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ ทั้ง ๆ ที่เหยียบคลัตซ์แล้ว
 - ห้องเกียร์มีน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา
 ควรนำรถเข้าอู่ตรวจสอบห้องเกียร์
 6. พวงมาลัย
 พวงมาลัยที่มีปัญหาเหล่านี้ จะทำให้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย
 - พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว
 - พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว
 - พวงมาลัยสั่นในขณะขับ
 ควรนำเข้าศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ
 7. เบรก
 ถ้าพบว่าเบรกมีอาการผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขทันที เพราะเบรกชำรุดนำมาซึ่งอุบัติภัยได้ง่ายที่สุด
 ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย
 - เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ แม้จะไม่ได้ลุยน้ำ
 - เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง
 - แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้ง ๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว
 ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมเบรกทันที
 8. ไฟชาร์จ
 ไฟชาร์จ ควรจะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่อง และเมื่อสตาร์ทติดแล้ว ครู่หนึ่งก็จะดับลง แต่ถ้าไฟชาร์จไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ อาจเกิดจากไดชาร์จผิดปกติหรือสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้ ที่แน่ ๆ คือไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบนำรถเข้าอู่ไดชาร์จหรือระบบไฟ
 9. หลอดไฟ
 หลอดไฟขาดบ่อย ๆ หรือต้องเติมน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไป แสดงว่าอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า "เรกูเลเตอร์" ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมชำรุด  ควรนำรถเข้าอู่ระบบไฟ เพื่อซ่อมเรกูเลเตอร์ หรือหากชำรุดก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่
 10. น้ำมันหล่อลื่น
 ถ้าสัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นในขณะขับขี่รถยนต์ หมายถึงว่า เครื่องยนต์กำลังทำงาน โดยปราศจากน้ำมันหล่อลื่น รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที
 ถ้าอู่อยู่ไกล ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าเป็นสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันหล่อลื่นแห้ง ควรใช้รถลากไปอู่ซ่อม
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| น้าเสก LOG.RYZ | 
								|  | « ตอบ #83 เมื่อ: 20 มีนาคม 2552 13:02:32 » |  | 
 
 เพื่อนๆเราที่ กรุงเทพฯ เขาโดนมา  เลยเอามาฝากเผื่อมีใครหลงเข้าไป
 ถ้าใครแอร์เสียแถวร่มเกล้า ข้างม.สุภาวัลย์ อย่าเข้าร้านนี้เด็ดขาด ชื่อร้านรุ่งเรืองการช่าง ผมเจอมากับตัวเอารถไปทำตอนแรกบอกค่าแรงรื้อตู้ใน แค่พันกว่าบาทรวมแว๊คเติมน้ำยา แต่พอทำเสร็จคิดค่า แรง 2500 ค่าแว๊คเติมน้ำยา+น้ำมันคอม 1100 ฟิวส์เมนใหญ่บวกพัดลมอีก 600 ทั้งๆที่ใช้ของเก่าผมและรื้อตัดสายไฟผมออกแล้วทำระบบช๊อต รวมแล้วโดนไป 4200 ส่วนตู้ในผมซื้อเองถูกกว่าที่ร้านบอกครึ่งนึง แถมพอออกมาจากร้านไม่ถึงวัน น้ำยารั่วอีก กลับไปร้านบอกท่อน้ำยารั่วอีก คิดค่าท่อ+น้ำยาบอกอีกประมาณพันกว่าบาท แถมจะให้ผมไปซื้อท่อเองแล้วกันที่ร้านไม่มีท่อแบบนี้ แล้วสรุปว่าไม่ทำรถต่อให้ไปหาร้านอื่นทำ ผมงงมากเลยไม่รู้ว่าเค้าทำอะไรกับรถผมบ้าง ขอระบายหน่อยนะครับ ว่าใครเจอแบบผมจะทำอย่างไร เซ็งมากเลย ก่อนหน้ารถก็เพิ่งชนมาเสียไปสามหมื่นกว่า โดนค่าแอร์อีก เก้าพันกว่าบาท นี่ยังไม่จบต้องหาร้านแอร์ใหม่ ไม่ทราบว่าใครมีร้านแอร์ดีๆ แถวมีนบุรี ร่มเกล้า ช่วยแนะนำให้หน่อยครับ
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| โน่ SRC ™ | 
								|  | « ตอบ #84 เมื่อ: 20 มีนาคม 2552 14:31:35 » |  | 
 
 เพื่อนๆเราที่ กรุงเทพฯ เขาโดนมา  เลยเอามาฝากเผื่อมีใครหลงเข้าไป
 ถ้าใครแอร์เสียแถวร่มเกล้า ข้างม.สุภาวัลย์ อย่าเข้าร้านนี้เด็ดขาด ชื่อร้านรุ่งเรืองการช่าง ผมเจอมากับตัวเอารถไปทำตอนแรกบอกค่าแรงรื้อตู้ใน แค่พันกว่าบาทรวมแว๊คเติมน้ำยา แต่พอทำเสร็จคิดค่า แรง 2500 ค่าแว๊คเติมน้ำยา+น้ำมันคอม 1100 ฟิวส์เมนใหญ่บวกพัดลมอีก 600 ทั้งๆที่ใช้ของเก่าผมและรื้อตัดสายไฟผมออกแล้วทำระบบช๊อต รวมแล้วโดนไป 4200 ส่วนตู้ในผมซื้อเองถูกกว่าที่ร้านบอกครึ่งนึง แถมพอออกมาจากร้านไม่ถึงวัน น้ำยารั่วอีก กลับไปร้านบอกท่อน้ำยารั่วอีก คิดค่าท่อ+น้ำยาบอกอีกประมาณพันกว่าบาท แถมจะให้ผมไปซื้อท่อเองแล้วกันที่ร้านไม่มีท่อแบบนี้ แล้วสรุปว่าไม่ทำรถต่อให้ไปหาร้านอื่นทำ ผมงงมากเลยไม่รู้ว่าเค้าทำอะไรกับรถผมบ้าง ขอระบายหน่อยนะครับ ว่าใครเจอแบบผมจะทำอย่างไร เซ็งมากเลย ก่อนหน้ารถก็เพิ่งชนมาเสียไปสามหมื่นกว่า โดนค่าแอร์อีก เก้าพันกว่าบาท นี่ยังไม่จบต้องหาร้านแอร์ใหม่ ไม่ทราบว่าใครมีร้านแอร์ดีๆ แถวมีนบุรี ร่มเกล้า ช่วยแนะนำให้หน่อยครับ
 
  เยี่ยมมากคับท่าน นายกฯ   อิอิ |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| LPG_INSIDE | 
								|  | « ตอบ #85 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 15:33:25 » |  | 
 
 ได้รับ FW เมลมาครับ
 เรียนพี่น้องไทยออยล์ที่รักทุกท่าน
 วันนี้ผมอยากจะเล่าประสพการณ์จริงให้กับทุกท่านฟัง เพื่อที่ท่านจะได้ระมัดระวังกันไว้ คือวันที่ 22 มีนาคม 52 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ผมได้พาครอบครัวโดยมีผม ภรรยา ลูกสาวคนโต และลูกสาวคนเล็ก ไปเดินซื้อสินค้าที่ตลาดศรีราชาไนท์สแคว โดยผมได้จอดรถกระบะ วีโก้ 4 ประตูไว้ใกล้ๆกับร้านอาหาร COSMOS  ตรงข้ามกับบริษัท กีฟฟารีน  ซึ่งเป็นสถานที่ไม่เปลี่ยวเลย เมื่อผมและครอบครัวซื้อสินค้าเสร็จโดยใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงกว่าๆ จึงเดินกลับมาเพื่อจะขึ้นรถ แต่ได้แวะซื้อผลไม้ก่อน เมื่อซื้อเสร็จผมได้ปลดล๊อกระบบกันโขมยเพื่อให้สมาชิกครอบครัวได้ขึ้นรถแต่ยังไม่ทันขึ้นรถ ขณะที่ผมไขกุญแจฝาครอบกระบะท้ายเพื่อเก็บผลไม้ อยู่ๆก็มีคนร้ายยื่นกระดาษมาให้หนึ่งแผ่นแล้วคนร้ายก็วิ่งไปล็อกคอลูกสาวคนเล็ก (อายุ 10 ปี)ที่กำลังจะขึ้นรถที่ประตูหลังด้านขวา ( ด้านหลังคนขับ ) พร้อมใช้อาวุธมีดจี้คอเอาไว้ ผมอยู่ท้ายรถผมได้ดูที่กระดาษที่คนร้ายส่งให้ ซึ่งมีข้อความขึ้นต้นว่า ?อยู่เฉยๆ ? ผมอ่านได้แค่นี้ผมได้ตะโกนว่า โจรจี้ๆ และให้ภรรยาแจ้งตำรวจด้วย  ส่วนผมไปอยู่ทางด้านซ้ายของรถ ขณะนั้นคนร้ายเริ่มเปิดประตูรถแต่ยังไม่ได้ขึ้นรถ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเข้าไปเปิดประตูด้านหลังซ้ายแล้วล้วงเอาอาวุธปืนที่เก็บไว้ในรถออกมาพร้อมขึ้นลำเตรียมยิงทันที เมื่อคนร้ายเห็นว่าผมมีอาวุธปืนจึงได้รีบวิ่งหนีไป และอีก 5 นาทีต่อมาตำรวจจึงมาถึงที่เกิดเหตุ ผมและครอบครัวจึงได้พากันไปแจ้งความ  และต่อไปนี้คือข้อความแบบเต็มๆที่คนร้ายเขียนด้วยดินสอและยื่นให้ผมครับ.
 ?อยู่เฉยๆ ผมไม่ทำอะไรลูกคุณหรอก แต่ถ้าคุณดัง ผมพร้อมตายพร้อมลูกคุณ ผมแค่อยากเจรจาด้วย เอาโทรศัพท์ส่งมา 1 เครื่อง แล้วอีก 5 นาทีโทรหาผม ผมขอกระเป๋าเงินของพี่ 2 คนด้วย ขอยืมกุญแจรถพี่ด้วย รับรองรถและลูกพร้อมกระเป๋าของพี่จะปลอดภัย ผมกระจายกันอยู่ หากพี่กระโตกกระตาก ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ผมขอเวลาไม่นาน ขอบคุณ?
 และนี่คือประสพการณ์จริงที่อยากจะฝากเตือนพี่ๆน้องๆไทยออยล์ทุกท่านโปรดระมัดระวังด้วยว่าขณะที่ท่านกำลังซื้อสินค้าหรือไปไหนมาไหนอาจมีคนแอบติดตามและจ้องทำร้ายท่านอยู่โดยที่ท่านอาจไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบด้วยความปรารถนาดี
 ด้วยรักและห่วงใยทุกท่าน
 ธรรมรงค์  ปานโต
 D-3 SHIFT TEAM โทร 4033
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| GT-Sevenboxs | 
								|  | « ตอบ #86 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 16:09:02 » |  | 
 
   มีเรื่องได้ร้อยแปดไม่รุจะเอาสติมาจากไหนเมื่อเกิดเหตุ เพราะยิ่งนับวันยิ่งมากๆ เซงจิงๆ |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| Red-Car@RYZ | 
								|  | « ตอบ #87 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 16:31:40 » |  | 
 
   มีเรื่องได้ร้อยแปดไม่รุจะเอาสติมาจากไหนเมื่อเกิดเหตุ เพราะยิ่งนับวันยิ่งมากๆ เซงจิงๆ เลือกอาวุธไว้ใช้สักเล่มซิ...เพื่อความอุ่นใจอะ.....  |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| LPG_INSIDE | 
								|  | « ตอบ #88 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 16:33:47 » |  | 
 
   มีเรื่องได้ร้อยแปดไม่รุจะเอาสติมาจากไหนเมื่อเกิดเหตุ เพราะยิ่งนับวันยิ่งมากๆ เซงจิงๆ เลือกอาวุธไว้ใช้สักเล่มซิ...เพื่อความอุ่นใจอะ..... อยากพกปืนแบบถูกกฎหมายบ้าง ต้องทำไงบ้างอ่ะคับน้า |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	|  | 
	| 
			| 
					
						| Red-Car@RYZ | 
								|  | « ตอบ #90 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 16:37:38 » |  | 
 
   มีเรื่องได้ร้อยแปดไม่รุจะเอาสติมาจากไหนเมื่อเกิดเหตุ เพราะยิ่งนับวันยิ่งมากๆ เซงจิงๆ เลือกอาวุธไว้ใช้สักเล่มซิ...เพื่อความอุ่นใจอะ..... อยากพกปืนแบบถูกกฎหมายบ้าง ต้องทำไงบ้างอ่ะคับน้ายากส์ส์ส์....ครับส่วนใหญ่มีแต่ ใบอนุญาตให้มีได้ แต่พกพาไม่คอยมีครับ.... |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| LPG_INSIDE | 
								|  | « ตอบ #91 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 16:45:09 » |  | 
 
   มีเรื่องได้ร้อยแปดไม่รุจะเอาสติมาจากไหนเมื่อเกิดเหตุ เพราะยิ่งนับวันยิ่งมากๆ เซงจิงๆ เลือกอาวุธไว้ใช้สักเล่มซิ...เพื่อความอุ่นใจอะ..... อยากพกปืนแบบถูกกฎหมายบ้าง ต้องทำไงบ้างอ่ะคับน้ายากส์ส์ส์....ครับส่วนใหญ่มีแต่ ใบอนุญาตให้มีได้ แต่พกพาไม่คอยมีครับ....คือให้มีติดบ้านได้ แต่ห้ามพกพารึคับ |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| Red-Car@RYZ | 
								|  | « ตอบ #92 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 16:52:37 » |  | 
 
   มีเรื่องได้ร้อยแปดไม่รุจะเอาสติมาจากไหนเมื่อเกิดเหตุ เพราะยิ่งนับวันยิ่งมากๆ เซงจิงๆ เลือกอาวุธไว้ใช้สักเล่มซิ...เพื่อความอุ่นใจอะ..... อยากพกปืนแบบถูกกฎหมายบ้าง ต้องทำไงบ้างอ่ะคับน้ายากส์ส์ส์....ครับส่วนใหญ่มีแต่ ใบอนุญาตให้มีได้ แต่พกพาไม่คอยมีครับ....คือให้มีติดบ้านได้ แต่ห้ามพกพารึคับใช้แล้วครับ...มันเรียกว่าใบ ป.4 หรือไงเนี่ย....ใบอนุญาตพกพาก็ห้ามลูกอยู่ในรังเพลิง ให้แยกตัวปืนกับลูกกระสุนออกจากกันครับ.... |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	|  | 
	| 
			| 
					
						| TMN_Rescue_ry | 
								|  | « ตอบ #94 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 16:58:20 » |  | 
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| GT-Sevenboxs | 
								|  | « ตอบ #95 เมื่อ: 24 มีนาคม 2552 17:33:27 » |  | 
 
   มีเรื่องได้ร้อยแปดไม่รุจะเอาสติมาจากไหนเมื่อเกิดเหตุ เพราะยิ่งนับวันยิ่งมากๆ เซงจิงๆ เลือกอาวุธไว้ใช้สักเล่มซิ...เพื่อความอุ่นใจอะ..... อยากพกปืนแบบถูกกฎหมายบ้าง ต้องทำไงบ้างอ่ะคับน้ามีแบบไม่ถูกกฏหมายเอาป่ะคับ สนใจ 082-2047729 คับ หลังไมค์คับ |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| น้าเสก LOG.RYZ | 
								|  | « ตอบ #96 เมื่อ: 25 มีนาคม 2552 12:56:24 » |  | 
 
 เรียนพี่น้องไทยออยล์ที่รักทุกท่าน วันนี้ผมอยากจะเล่าประสพการณ์จริงให้กับทุกท่านฟัง เพื่อที่ท่านจะได้ระมัดระวังกันไว้ คือวันที่ 22 มีนาคม 52 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ผมได้พาครอบครัวโดยมีผม ภรรยา ลูกสาวคนโต และลูกสาวคนเล็ก ไปเดินซื้อสินค้าที่ตลาดศรีราชาไนท์สแคว โดยผมได้จอดรถกระบะ วีโก้ 4 ประตูไว้ใกล้ๆกับร้านอาหาร COSMOS  ตรงข้ามกับบริษัท กีฟฟารีน  ซึ่งเป็นสถานที่ไม่เปลี่ยวเลย เมื่อผมและครอบครัวซื้อสินค้าเสร็จโดยใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงกว่าๆ จึงเดินกลับมาเพื่อจะขึ้นรถ แต่ได้แวะซื้อผลไม้ก่อน เมื่อซื้อเสร็จผมได้ปลดล๊อกระบบกันโขมยเพื่อให้สมาชิกครอบครัวได้ขึ้นรถแต่ยังไม่ทันขึ้นรถ ขณะที่ผมไขกุญแจฝาครอบกระบะท้ายเพื่อเก็บผลไม้ อยู่ๆก็มีคนร้ายยื่นกระดาษมาให้หนึ่งแผ่นแล้วคนร้ายก็วิ่งไปล็อกคอลูกสาวคนเล็ก (อายุ 10 ปี)ที่กำลังจะขึ้นรถที่ประตูหลังด้านขวา ( ด้านหลังคนขับ ) พร้อมใช้อาวุธมีดจี้คอเอาไว้ ผมอยู่ท้ายรถผมได้ดูที่กระดาษที่คนร้ายส่งให้ ซึ่งมีข้อความขึ้นต้นว่า ?อยู่เฉยๆ? ผมอ่านได้แค่นี้ผมได้ตะโกนว่า โจรจี้ๆ และให้ภรรยาแจ้งตำรวจด้วย  ส่วนผมไปอยู่ทางด้านซ้ายของรถ ขณะนั้นคนร้ายเริ่มเปิดประตูรถแต่ยังไม่ได้ขึ้นรถ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเข้าไปเปิดประตูด้านหลังซ้ายแล้วล้วงเอาอาวุธปืนที่เก็บไว้ในรถออกมาพร้อมขึ้นลำเตรียมยิงทันที เมื่อคนร้ายเห็นว่าผมมีอาวุธปืนจึงได้รีบวิ่งหนีไป และอีก 5 นาทีต่อมาตำรวจจึงมาถึงที่เกิดเหตุ ผมและครอบครัวจึงได้พากันไปแจ้งความ  และต่อไปนี้คือข้อความแบบเต็มๆที่คนร้ายเขียนด้วยดินสอและยื่นให้ผมครับ. ?อยู่เฉยๆ ผมไม่ทำอะไรลูกคุณหรอก แต่ถ้าคุณดัง ผมพร้อมตายพร้อมลูกคุณ ผมแค่อยากเจรจาด้วย เอาโทรศัพท์ส่งมา 1 เครื่อง แล้วอีก 5 นาทีโทรหาผม ผมขอกระเป๋าเงินของพี่ 2 คนด้วย ขอยืมกุญแจรถพี่ด้วย รับรองรถและลูกพร้อมกระเป๋าของพี่จะปลอดภัย ผมกระจายกันอยู่ หากพี่กระโตกกระตาก ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ผมขอเวลาไม่นาน ขอบคุณ?
 และนี่คือประสพการณ์จริงที่อยากจะฝากเตือนพี่ๆน้องๆไทยออยล์ทุกท่านโปรดระมัดระวังด้วยว่าขณะที่ท่านกำลังซื้อสินค้าหรือไปไหนมาไหนอาจมีคนแอบติดตามและจ้องทำร้ายท่านอยู่โดยที่ท่านอาจไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบด้วยความปรารถนาดี
 ด้วยรักและห่วงใยทุกท่าน
 ธรรมรงค์  ปานโต
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| โน่ SRC ™ | 
								|  | « ตอบ #97 เมื่อ: 25 มีนาคม 2552 16:02:26 » |  | 
 
 เรียนพี่น้องไทยออยล์ที่รักทุกท่าน วันนี้ผมอยากจะเล่าประสพการณ์จริงให้กับทุกท่านฟัง เพื่อที่ท่านจะได้ระมัดระวังกันไว้ คือวันที่ 22 มีนาคม 52 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ผมได้พาครอบครัวโดยมีผม ภรรยา ลูกสาวคนโต และลูกสาวคนเล็ก ไปเดินซื้อสินค้าที่ตลาดศรีราชาไนท์สแคว โดยผมได้จอดรถกระบะ วีโก้ 4 ประตูไว้ใกล้ๆกับร้านอาหาร COSMOS  ตรงข้ามกับบริษัท กีฟฟารีน  ซึ่งเป็นสถานที่ไม่เปลี่ยวเลย เมื่อผมและครอบครัวซื้อสินค้าเสร็จโดยใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงกว่าๆ จึงเดินกลับมาเพื่อจะขึ้นรถ แต่ได้แวะซื้อผลไม้ก่อน เมื่อซื้อเสร็จผมได้ปลดล๊อกระบบกันโขมยเพื่อให้สมาชิกครอบครัวได้ขึ้นรถแต่ยังไม่ทันขึ้นรถ ขณะที่ผมไขกุญแจฝาครอบกระบะท้ายเพื่อเก็บผลไม้ อยู่ๆก็มีคนร้ายยื่นกระดาษมาให้หนึ่งแผ่นแล้วคนร้ายก็วิ่งไปล็อกคอลูกสาวคนเล็ก (อายุ 10 ปี)ที่กำลังจะขึ้นรถที่ประตูหลังด้านขวา ( ด้านหลังคนขับ ) พร้อมใช้อาวุธมีดจี้คอเอาไว้ ผมอยู่ท้ายรถผมได้ดูที่กระดาษที่คนร้ายส่งให้ ซึ่งมีข้อความขึ้นต้นว่า ?อยู่เฉยๆ? ผมอ่านได้แค่นี้ผมได้ตะโกนว่า โจรจี้ๆ และให้ภรรยาแจ้งตำรวจด้วย  ส่วนผมไปอยู่ทางด้านซ้ายของรถ ขณะนั้นคนร้ายเริ่มเปิดประตูรถแต่ยังไม่ได้ขึ้นรถ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเข้าไปเปิดประตูด้านหลังซ้ายแล้วล้วงเอาอาวุธปืนที่เก็บไว้ในรถออกมาพร้อมขึ้นลำเตรียมยิงทันที เมื่อคนร้ายเห็นว่าผมมีอาวุธปืนจึงได้รีบวิ่งหนีไป และอีก 5 นาทีต่อมาตำรวจจึงมาถึงที่เกิดเหตุ ผมและครอบครัวจึงได้พากันไปแจ้งความ  และต่อไปนี้คือข้อความแบบเต็มๆที่คนร้ายเขียนด้วยดินสอและยื่นให้ผมครับ. ?อยู่เฉยๆ ผมไม่ทำอะไรลูกคุณหรอก แต่ถ้าคุณดัง ผมพร้อมตายพร้อมลูกคุณ ผมแค่อยากเจรจาด้วย เอาโทรศัพท์ส่งมา 1 เครื่อง แล้วอีก 5 นาทีโทรหาผม ผมขอกระเป๋าเงินของพี่ 2 คนด้วย ขอยืมกุญแจรถพี่ด้วย รับรองรถและลูกพร้อมกระเป๋าของพี่จะปลอดภัย ผมกระจายกันอยู่ หากพี่กระโตกกระตาก ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ผมขอเวลาไม่นาน ขอบคุณ?
 และนี่คือประสพการณ์จริงที่อยากจะฝากเตือนพี่ๆน้องๆไทยออยล์ทุกท่านโปรดระมัดระวังด้วยว่าขณะที่ท่านกำลังซื้อสินค้าหรือไปไหนมาไหนอาจมีคนแอบติดตามและจ้องทำร้ายท่านอยู่โดยที่ท่านอาจไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้ จึงเรียนมาเพื่อทราบด้วยความปรารถนาดี
 ด้วยรักและห่วงใยทุกท่าน
 ธรรมรงค์  ปานโต
 
 
 เลวมากๆเลย |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| น้าเสก LOG.RYZ | 
								|  | « ตอบ #98 เมื่อ: 26 มีนาคม 2552 07:55:37 » |  | 
 
 เสียเวลาอ่านนิดนึ่งนะ...อันตรายทีไม่มีใครรู้...มาก่อน                                   ไต้หวัน-- -- หญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้ง 7 โดยไม่รู้สาเหตุ เสียชีวิตในข้ามคืนเดียว จากการ
 ชันสูตรศพเบื้องต้น  ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู แล้วสารหนูมาจากไหนล่ะ
 ตำรวจเริ่มสืบสวนในวงกว้าง และเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี
 ศาสตราจารย์ตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลัน
 " ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่ตายเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกมันฆ่า" ศาสตราจารย์
 ฟันธง
 ผู้คนงงเป็นไก่ตาแตก อะไรคือ "มันฆ่า " แล้วสารหนูมาจากไหน
 ศาสตราจารย์กล่าวว่า สารหนูเกิดในกระเพาะผู้ตาย ผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่
 เธอกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น  กินกุ้งโดยลำพังก็ไม่มีปัญหา คนในบ้านกินกันก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ผู้ตาย
 กินวิตามินซีพร้อมกันด้วย ปัญหาจึงเกิดตรงนี้แหละ
 นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทำการทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่นกุ้งมีสารประกอบอาเซ
 นิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทาน
 วิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออก
 ไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O 3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ซึ่งมีพิษ หรือภาษา
 ชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั้นเอง
 พิษสารหนูจะทำให้การทำงานของเส้นโลหิตฝอยและเอนไซม์ของซัลฟีดรีลขัดข้อง เกิดอาการเลือดคั่งใน
 หัวใจ ตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้น ผู้ที่รับพิษจนตาย จะมี
 เลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด
 เพราะฉะนั้น ในระยะที่รับประทานวิตามินซี ต้องงดกินอาหารประเภทกุ้ง เพื่อความไม่ประมาท
 เมื่ออ่านจบ โปรดส่งต่อไปยังญาติโยมเพื่อนฝูง
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| GT-Sevenboxs | 
								|  | « ตอบ #99 เมื่อ: 26 มีนาคม 2552 07:58:20 » |  | 
 
 เสียเวลาอ่านนิดนึ่งนะ...อันตรายทีไม่มีใครรู้...มาก่อน                                   ไต้หวัน-- -- หญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้ง 7 โดยไม่รู้สาเหตุ เสียชีวิตในข้ามคืนเดียว จากการ
 ชันสูตรศพเบื้องต้น  ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู แล้วสารหนูมาจากไหนล่ะ
 ตำรวจเริ่มสืบสวนในวงกว้าง และเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี
 ศาสตราจารย์ตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลัน
 " ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่ตายเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกมันฆ่า" ศาสตราจารย์
 ฟันธง
 ผู้คนงงเป็นไก่ตาแตก อะไรคือ "มันฆ่า " แล้วสารหนูมาจากไหน
 ศาสตราจารย์กล่าวว่า สารหนูเกิดในกระเพาะผู้ตาย ผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่
 เธอกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น  กินกุ้งโดยลำพังก็ไม่มีปัญหา คนในบ้านกินกันก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ผู้ตาย
 กินวิตามินซีพร้อมกันด้วย ปัญหาจึงเกิดตรงนี้แหละ
 นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทำการทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่นกุ้งมีสารประกอบอาเซ
 นิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทาน
 วิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออก
 ไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O 3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ซึ่งมีพิษ หรือภาษา
 ชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั้นเอง
 พิษสารหนูจะทำให้การทำงานของเส้นโลหิตฝอยและเอนไซม์ของซัลฟีดรีลขัดข้อง เกิดอาการเลือดคั่งใน
 หัวใจ ตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้น ผู้ที่รับพิษจนตาย จะมี
 เลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด
 เพราะฉะนั้น ในระยะที่รับประทานวิตามินซี ต้องงดกินอาหารประเภทกุ้ง เพื่อความไม่ประมาท
 เมื่ออ่านจบ โปรดส่งต่อไปยังญาติโยมเพื่อนฝูง
 
 
 และในการอดสารอาหารระหว่างทดแทนกันคือ 12 ชม.ครับ คือทานให้ห่างกันอย่างน้อย 8-12 ชม. ในส่วนวิตามินซีไม่ต้องวิตกกังวลมันมีประโยชน์คับ ทุกคนพอทราบ และยังช่วยรักษาโรคหวัด ไอ เจ็บคอได้ด้วย ในปริมาณไม่เกิน 1000 mg/day แนะนำเด็กๆที่ชอบทาน vit c ปริมาณมากๆด้วย |  
						| 
								|  |  
								| « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มีนาคม 2552 08:04:01 โดย spasm_joopๆ » |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	|  |