Red-Car@RYZ
|
 |
« เมื่อ: 27 ตุลาคม 2551 21:51:38 » |
|
อ่านกันก่อนขึ้นเขาใหญ่....เพื่อให้เพื่อนสมาชิก AE RACING CLUB ทุกท่าน ที่จะไปเที่ยวเขาใหญ่ได้อ่านและทำความเข้าใจกันก่อนไปนะครับผม....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 ธันวาคม 2555 08:05:36 โดย Red-Car@RYZ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2551 21:58:22 » |
|
Kao-Yai National Park : The World Heritage Site, Thailand. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ : มรดกโลก, ประเทศไทย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม 2551 08:37:00 โดย กางเขนดง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anukool Jumpa
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2551 21:59:27 » |
|
น้าหมานได้รับขัอความเรื่องที่ค้ำเต้นผมหรือยังครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2551 22:02:39 » |
|
สัตว์ป่าทุกชนิดรักชีวิตเหมือนท่าน
o พงพนา ป่าเขา ลำเนาไพร...ธรรมชาติ กำหนดให้ ใช้วิถี o ทุกชีวิต อยู่ร่วม กันอย่างดี...ใช้ชีวี เสรี ตามครรลอง o ป่าพึ่งสัตว์ สัตว์พึ่งป่า น่าฉงน...ดำรงชีพ ปะปน มิหม่นหมอง o ต่างรักษา กติกา มิถือครอง...น่ายกย่อง ธรรมชาติ กำหนดมา
o เพียงบางคน คิดร้าย ทำลายเขา?ทั้งถากเผา โค่นล้ม ทั้งไล่ล่า o ต้องพลิกฟื้น คืนชีวิต สู่พนา...ทั้งสัตว์ป่า ผืนป่า อย่าทำลาย o ควรรู้จัก รักอยู่ร่วม ธรรมชาติ...ทุกชีวิต สามารถ อยู่ร่วมได้ o หากสิ้นป่า สิ้นสัตว์ป่า อันตราย...หยุดทำลาย โลกอยู่ได้ ด้วยรักกัน " คนไทยเดิ้ง "
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2553 09:18:20 โดย Carro Rojo.RYZ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2551 23:07:25 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 กุมภาพันธ์ 2552 07:16:07 โดย กางเขนดง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
น้าเสก LOG.RYZ
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551 02:20:56 » |
|
เมื่อใหร่ครับเนี่ย น่าสนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NosDriVe
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551 07:15:57 » |
|
ภาพสวยมากๆครับ
ธรรมชาติของประเทศไทยเรา สวยไม่แพ้ชาติไหนอยู่แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้าไม่ทนเหนื่อย ทนลำบากมาด้วยกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละคนให้ใจกันแค่ไหน ใช่มั้ย พิเรณทีม
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551 08:12:22 » |
|
ข้อมูลการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครับ....
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญถึง 5 สาย เช่น แม่น้ำนครนายก แม่น้ำมูล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า กวาง เก้ง กระทิง ตลอดจนมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม
การเดินทาง
การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปได้หลายทางดังนี้
1. ถนนพหลโยธินผ่านรังสิตถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพผ่านมวกเหล็กไปทางอำเภอปากช่อง ก่อนถึงอำเภอปากช่องเลี้ยวเข้าถนนธนรัตน์ ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 205 กิโลเมตร
2. ถนนพหลโยธินผ่านรังสิต ผ่านหนองแค เลี้ยวขวาสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305 (สุวรรณศร)ที่หินกอง ผ่านตัวเมืองนครนายกถึงสี่แยกเนินหอม หรือวงเวียนนเรศวร ก่อนเข้าตัวเมืองปราจีนบุรีเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนปราจีนบุรี-เขาใหญ่ รวมระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร
3. ถนนพหลโยธิน เลี้ยวขวาบริเวณรังสิต เข้าสู่ทางหลวงสายรังสิต-องค์รักษ์ และสายองค์รักษ์-นครนายก บรรจบกับเส้นทางสายที่ 2 แล้วเดินทางต่อตามเส้นทางสายที่ 2
สถานที่กางเต็นท์ผากล้วยไม้ นำเต๊นท์และเครื่องนอนมาเอง หากไม่มีเต๊นท์และเครื่องนอน อุทยานฯมีบริการให้เช่า
หมายเหตุ : ต้องติดต่อที่สถานที่กางเต็นท์ผากล้วยไม้ก่อนเวลา 18.00 น. ของวันที่จะพักค้างแรม หลังเวลาดังกล่าวไม่อนุญาตให้พักค้างแรม
สาธารณูปโภค มีถนนระบบสองทางเชื่อมโยงไปยังจุดท่องเที่ยวและนันทนาการต่างๆอย่างทั่วถึง ความยาวรวมกันกว่า 86 กิโลเมตร มีไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง
รถบริการส่องสัตว์ไม่เกิน 12 คน ราคา 300 บาท/คัน รถบริการส่องสัตว์ไม่เกิน 25 คน ราคา 450 บาท/คัน รถบริการส่องสัตว์ไม่เกิน 40 คน ราคา 600 บาท/คัน รถสวัสดิการนำเที่ยว สายด่านตรวจศาลเจ้าพ่อฯ-น้ำตกเหวสุวัต หมายเหตุ : ให้ติดต่อสำรองรถส่องสัตว์ได้ที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ภายในเวลา 18.00 น.ของวันที่จะส่องสัตว์ อนึ่ง ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวส่องสัตว์ด้วยตนเอง ฝ่าฝืนจับ-ปรับ
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก หน่วยกู้ภัย พยาบาลสนาม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกตลอดเวลา
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพทั่วๆไปของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบด้วยเทือกเขาที่สลับซับซ้อนกันหลายลูก ได้แก่ เขาร่ม ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด 1,351 เมตร เขาแหลมสูง 1,326 เมตร เขาเขียวสูง 1,292 เมตร เขาสามยอดสูง 1,142 เมตร เขาฟ้าผ่าสูง 1,078 เมตร เขากำแพงสูง 875 เมตร เขาสมอปูนสูง 805 เมตร และเขาแก้วสูง 802 เมตร วัดความสูงจากระดับน้ำทะเลเป็นเกณฑ์ และยังประกอบด้วยทุ่งกว้างสลับกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกพื้นที่จะลาดลง ทางทิศใต้และทิศตะวันตกเป็นที่สูงชันขึ้นไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่สำคัญถึง 5 สาย ดังนี้
แม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก อยู่ในพื้นที่ด้านทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเกษตรกรรมและระบบเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคนี้ แม่น้ำทั้ง 2 สายนี้ พบกันที่จังหวัดฉะเชิงเทรา กลายเป็นแม่น้ำบางปะกงแล้วไหลลงสู่อ่าวไทย
แม่น้ำลำตะคองและลำพระเพลิง อยู่ในพื้นที่ด้านทิศเหนือ ไหลไปหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมของที่ราบสูงโคราช ไปบรรจบกับแม่น้ำมูล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของภาคอีสานตอนล่าง ไหลลงสู่แม่น้ำโขง
ห้วยมวกเหล็ก ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีปริมาณน้ำไหลตลอดทั้งปี และให้ประโยชน์ทางด้านการเกษตร โดยเฉพาะการปศุสัตว์ของภูมิภาคนี้ ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก ที่อำเภอมวกเหล็ก
ลักษณะภูมิอากาศ สภาพป่ารกทึบ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ทำให้เกิดพายุฝนตกชุกตามฤดูกาล อากาศไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัดจนเกินไป จัดอยู่ในประเภทเย็นสบายเหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว และประกอบกิจกรรมนันทนาการชนิดต่างๆอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 23 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวในที่อื่นใด แต่บนเขาสูงเช่นเขาใหญ่ อากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนเล่นน้ำในลำธารและนำอาหารไปรับประทาน ดอกไม้ป่าหลากสีสันกำลังบานสะพรั่งออกดอกออกผลตามฤดูกาล
ฤดูฝน เป็นช่วงหนึ่งของปีที่สภาพธรรมชาติบนเขาใหญ่ชุ่มฉ่ำ ป่าไม้และทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย น้ำตกทุกแห่งไหลแรงเสียงดังก้องป่าให้ชีวิตชีวาแก่ผู้มาเยือน แม้การเดินทางจะลำบากสักหน่อยแต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
ฤดูหนาว ในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นฤดูที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเขาใหญ่มากที่สุด ท้องฟ้าสีครามแจ่มใสตัดกับสีเขียวขจีของป่าไม้ พยับหมอกที่ลอยเอื่อยไปตามทิวเขา ดวงอาทิตย์กลมโตอยู่เบื้องหน้าไกลโพ้น อากาศที่หนาวเย็นในตอนกลางคืนแต่รุ่งเช้าของวันใหม่เราจะพบกับธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างไปจากเมื่อวานอีกรูปแบบหนึ่ง
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า 1.ป่าเบญจพรรณแล้ง ลักษณะของป่าชนิดนี้อยู่ทางด้านทิศเหนือซึ่งมีระดับความสูงระหว่าง 200-600 เมตร จากระดับน้ำทะเล ประกอบไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ เช่น มะค่าโมง ประดู่ ตะแบก ตะเคียน หนู แดงนนทรีย์ ซ้อ ปออีเก้ง สมอพิเภก ตะคล้ำ เป็นต้น พืชชั้นล่างมีไม้ไผ่และหญ้าต่างๆรวมทั้งกล้วยป่าด้วย ในฤดูแล้งป่าชนิดนี้จะมีไฟไหม้ลุกลามเสมอ และตามพื้นป่า จะมีหินปูนผุดขึ้นทั่วๆไป
2.ป่าดงดิบแล้ง ลักษณะป่าชนิดนี้มีอยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ราบลูกเนินในระดับความสูง 200-600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไม้ชั้นบนได้แก่ ไม้ยางนก พันจำ เคี่ยมคะนอง ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ตะแบก สมพงสอง สลึง มะค่าโมง ปออีเก้ง สะตอ ซาก และคอแลนเป็นต้น ไม้ยืนต้นชั้นรองลงมามี กระเบา กลัก หลวงขี้อาย และกัดลิ้น เป็นต้น พืชจำพวกปาล์ม เช่น หมากลิง และลาน พืชชั้นล่างประกอบด้วย พืชจำพวกมะพร้าวนกคุ้ม พวกขิง ข่า กล้วยป่าและเตย เป็นต้น
3.ป่าดงดิบชื้น ลักษณะป่าชนิดนี้เป็นป่าที่อยู่ในระดับความสูง 400-1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล จะมีชนิดไม้คล้ายคลึงกับป่าดงดิบแล้ง เพียงแต่ว่ามีพันธุ์ไม้วงศ์ยางขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ยางกล่อง ยางขน ยางเสี้ยน และกระบาก โดยเฉพาะพื้นที่ถูกรบกวนจะพบชมพูป่า และกระทุ่มน้ำขึ้นอยู่โดยทั่วไป พันธุ์ไม้ผลัดใบเช่น ปออีเก้ง สมพง และกว้าว แทบจะไม่พบเลย บริเวณริมลำธารมักจะมีไม้ไผ่ลำใหญ่ๆคือ ไผ่ลำมะลอกขึ้นอยู่เป็นกลุ่ม ป่าดิบชื้นบนที่สูงขึ้นไปจะมียางปายและยางควน นอกจากไม้ยางแล้วไม้ชั้นบนชนิดอื่นๆยังมี เคียนคะนอง ปรก บรมือ จำปีป่า พะดงและทะโล้ ไม้ชั้นรองได้แก่ ก่อน้ำ ก่อรัก ก่อด่าง และก่อเดือย ขึ้นปะปนกัน
4.ป่าดิบเขา ป่าชนิดนี้ เกิดอยู่ในที่มีอากาศเย็นบนภูเขาสูง ที่อยู่จากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตรขึ้นไป สภาพป่าแตกต่างไปจากป่าดงดิบชื้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีไม้วงศ์ยางขึ้นอยู่เลย พันธุ์ไม้ที่พบเป็นไม้เนื้ออ่อน เช่น พญาไม้ มะขามป้อมดง ขุนไม้ และสนสามพันปี และไม้ก่อชนิดต่างๆที่พบขึ้นในป่าดงดิบชื้น นอกจากก่อน้ำและก่อต่างๆ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 600-900 เมตรเท่านั้น ตามเขาสูงจะพบกำลังเสือโคร่งขึ้นกระจัดกระจาย ไม้ชั้นรองได้แก่ เก็ดส้าน ส้มแปะ แกนมอ เพลาจังหัน และหว้า พืชชั้นล่าง ได้แก่ ต้างผา กำลังกาสา ตัวผู้ กูด และกล้วยไม้ดิน
5.ทุ่งหญ้าและป่ารุ่นหรือป่าเหล่า ลักษณะป่าชนิดนี้เป็นผลเสียเนื่องจากการทำไร่เลื่อนลอยในอดีต ก่อนมีการจัดตั้งป่าเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติได้มีราษฎรอาศัยอยู่ และได้แผ้วถางป่าทำไร่ เมื่อมีการอพยบราษฎรลงไปสู่ที่ราบ บริเวณไร่ดังกล่าวจึงถูกปล่อยทิ้ง ต่อมามีสภาพเป็นทุ่งหญ้าคาเสียส่วนใหญ่ บางแห่งมีหญ้าแขม หญ้าพง หญ้าขนตาช้างเลา และตองกง และยังมีกูดชนิดต่างๆขึ้นปะปนอยู่ด้วย เช่น โขนใหญ่ กูดปิ้ด โขนผี กูดงอดแงด และกูดตีนกวาง ปัจจุบัน พื้นที่ป่าทุ่งหญ้าบางแห่งได้กลับฟื้นคืนสภาพเป็นป่าละเมาะบ้างแล้ว
สัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมาก ในบางโอกาสขณะขับรถยนต์ไปตามถนน จะสามารถเห็นสัตว์ป่าเดินผ่านหรือออกหากินตามทุ่งหญ้า หรืออาจจะเห็นโขลงช้างออกหากินริมถนนบริเวณตั้งแต่ที่ชมวิว กิโลเมตรที่ 30 จนถึงปากทางเข้าหนองผักชี ตลอดจนโป่งต้นไทร ลูกช้างเล็กๆซน และน่ารักมาก ในปัจจุบันถ้าขับรถยนต์ขึ้นเขาใหญ่ทางด่านตรวจเนินหอมข้ามสะพานคลองสามสิบไปแล้ว ก็สามารถเห็นโขลงช้างได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในตอนกลางคืน จากการศึกษาตามโครงการการอนุรักษ์ช้างป่า และการจัดการพื้นที่ป้องกัน(Elephant Conservation and Protected area management) โดย Mr. Robert J. Dobias ภายใต้ความร่วมมือของ WWF และ IUCN ในปี 2527-2528 พบว่ามีจำนวนประมาณ 250 เชือก
สัตว์ป่าที่สามารถพบเห็นได้บ่อยๆและตามโอกาสอำนวย ได้แก่ เก้ง กวาง ตามทุ่งหญ้าทั่วๆไป นอกจากนี้ยังพบเสือโคร่ง กระทิง เลียงผา หมี เม่น ชะนี พญากระรอก หรือหมาไม้ ชะมด อีเห็น กระต่ายป่า นก ฯลฯ จำนวน 200 ชนิด จากจำนวนไม่น้อยกว่า 293 ชนิดที่สำรวจพบอาศัยป่าเขาใหญ่เป็นแหล่งอาหารและที่อาศัยอย่างถาวร นกที่น่าสนใจและพบเห็นบ่อยๆได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง นกขุนแผน นกพญาไฟ นกแต้วแร้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา นกกระปูด ไก่ฟ้า และนกกินแมลงชนิดต่างๆ นกเงือกทั้ง 3 ชนิดที่พบบนเขาใหญ่ นับว่าเป็นสิ้งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบดูนกเป็นอย่างดี เพราะพบเห็นได้โดยทั่วไป พวกแมลงที่มีมากก็คือ ผีเสื้อชนิดต่างๆที่สวยงามมีประมาณ 5,000 ชนิด
จุดเด่นที่น่าสนใจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นับว่าเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญนั้นก็คือ น้ำตกที่สวยงาม มีน้ำตกน้อยใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง ซึ่งสำรวจพบและทำเส้นทางเดินเท้าไปถึงแล้วประมาณ 30 แห่ง ที่มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามสภาพธรรมชาติของภูมิประเทศ เป็นที่รู้จักกันดี เช่น
น้ำตกนางรองและน้าตกสาริกา น้ำตกทั้ง 2 แห่ง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครนายก มีชื่อเสียงมาช้านาน ก่อนการจัดตั้งอุทยานฯ การเดินทางไปยังน้ำตกทั้ง 2 แห่งนี้ ทำได้โดยสะดวกเพราะมีถนนลาดยาง แยกจากถนนสุวรรณศรเข้าไปประมาณ 20 กิโลเมตร
น้ำตกกองแก้ว เป็นน้ำตกเตี้ยๆที่เกิดจากห้วยลำตะคอง ในฤดูฝนจะดูสวยงามมากเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ใกล้บริเวณน้ำตกจะมีสะพานแขวนข้ามลำห้วย 2 สะพาน ห้วยลำตะคองเป็นแนวเขตแบ่ง 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครนายก และจังหวัดนครราชสีมา น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 100 เมตร
น้ำตกผากล้วยไม้ เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่อยู่ในห้วยลำตะคองเช่นเดียวกัน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนต์และทางเดินเท้า น้ำตกผากล้วยไม้จะมีกล้วยไม้หวายแดงขึ้นอยู่ ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของน้ำตกแห่งนี้
น้ำตกเหวสุวัต เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากจนเป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป น้ำตกเหวสุวัตนี้อยู่สุดถนนธนะรัชน์หรือจะเดินเท้าต่อจากน้ำตกผากล้วยไม้ไปก็ได้ ประมาณ 3 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตรเศษ บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธารเหมาะที่จะลงเล่นน้ำ แต่สำหรับฤดูฝนน้ำจะมากและไหลแรง และค่อนข้างเย็นจัด
น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด อยู่ทางด้านทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ๋ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้ จะไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่สองและที่สามที่อยู่ถัดลงไปใกล้ๆกัน ในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมากจนดูน่ากลัว
น้ำตกไม้ปล้อง เป็นน้ำตกที่พบมานาน ได้รับการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ มัทั้งหมด 5 ชั้น ลดหลั่นกันลงมา ชั้นสูงสุดไม่เกิน 12 เมตร มีลักษณะคล้ายคลึงกับน้ำตกเหวนรก หรือเหวสุวัต ความงามตลอดเส้นทางเดินเท้าประกอบด้วย โขดหินเล็กใหญ่และลำธารที่สวยงาม การเดินทางไปน้ำตกแห่งนี้เริ่มต้นที่วังตะไคร้ โดยการเดินเท้าตามเส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร ผู้สนใจติอต่อได้ที่หน่วย ขญ.9(นางรอง) มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ด้วย
น้ำตกวังเหว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีความกว้างประมาณ 40-60 เมตร ในฤดูฝนน้ำมากและไหลแรง อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯ ขญ.6(ไสใหญ่)ประมาณ 17 กิโลเมตร อยู่ใจกลางป่าทางด้านทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การเดินทางจะต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 วัน จึงเหมาะกับผู้ที่ชอบการผจญภัยและพักค้างแรมในป่าเป็นอย่างยิ่ง ตลอดเวลาการเดินทางจะพบกับพันธุ์ไม้นานาชนิด และแก่งหินที่สวยงามตามธรรมชาติ นับเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
น้ำตกตะคร้อ, น้ำตกสลักได,น้ำตกส้มปล่อย,น้ำตกพันธุ์ทิพย์ เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่สวยงามอยู่ใกล้กับที่ทำการหน่วยพิทักษ์ ขญ.7(ประจันตคาม)เหมาะสำหรับพักผ่อนเล่นน้ำ ในทุกๆวันจะมีนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นและใกล้เคียงไปเที่ยวชมและเล่นน้ำตกนี้ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีนักท่องเที่ยวจากถิ่นอื่นไปเที่ยวมากเหมือนกัน
น้ำตกแก่งกฤษณา น้ำตกเหว น้ำตกจั๊กจั่น น้ำตกเหวอีอ่ำ เป็นน้ำตกขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่มีความงดงามไม่แพ้แห่งอื่นๆโดยเฉพาะน้ำตกเหวอีอ่ำมีความสูงประมาณ 25 เมตร เหมาะสำหรับการพักแรมในป่าจะได้ชมทิวทัศน์ธรรมชาติรอบกายอย่างเพลิดเพลินใจ
น้ำตกผาไทรคู่ น้ำตกผากระชาย เป็นน้ำตกขนาดกลางที่เกิดจากห้วยโกรกเค้บริเวณเขาแหลมอยู่ทางด้านทิศเหนือของอุทยานฯ มีความสูงประมาณ 15 เมตร ไหลลาดไปตามพื้นหินเหมาะสำหรับผู้ชอบผจญภัยค้างแรมในป่า อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์ ขญ.2(กระดาษ) ประมาณ 12-15 กิโลเมตร น้ำตกทั้ง 2 แห่งเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง
น้ำตกแก่งหินเพลิง เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกล ประมาณ 5 กิโลเมตรจากหน่วยพิทักษ์ฯ ขญ.2(กระดาษ) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำท้องถิ่น
น้ำตกเหวไทร เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใต้ถัดไปจากน้ำตกเหวสุวัต ห่างจากน้ำตกเหวสุวัตประมาณ 700 เมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นหน้าผากว้างเต็มลำห้วย สูงประมาณ 5 เมตร ในฤดูฝนน้ำตกนี้จะไหลแรงเต็มหน้าผาสวยงามน่าชมมาก การเดินทางไปน้ำตกเหวไทรไปได้ 2 เส้นทาง คือเดินต่อไปจากเหวสุวัตระยะทางประมาณ 700 เมตร หรือจะเดินไปจากที่ทำการอุทยานฯไปตามเส้นทางเดินเท้าสายกองแก้ว-เหวสุวัตก็ได้ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ตามสองข้างทางเดินที่ผ่านไป จะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นมากมาย เช่น สมุนไพร และเห็ดป่า เป็นต้น
น้ำตกเหวประทุน เป็นน้ำตกที่อยู่ในห้วยลำตะคองอีกแห่งหนึ่งเหมือนกัน อยู่ถัดจากน้ำตกเหวไทรประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ จะเดินทางจากน้ำตกเหวสุวัตไปก็ได้ หรือจะเดินจากที่ทำการอุทยานฯไปก็ได้ เดินตามเส้นทางเดินเท้ากองแก้ว-เหวสุวัต ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นหน้าผากว้างและสูงสวยงามมาก
น้ำตกมะนาว เป็นน้ำตกขนาดเล็กๆที่สวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เดินไปตามเส้นทางเดินเท้าออกจากด้านหลังอาคารโภชนาการ ททท.เขาใหญ่ ประมาณ 5-6 กิโลเมตร จะผ่านป่าดงดิบชื้นที่มีพันธุ์ไม้เล็กใหญ่และไม้สมุนไพรที่น่าสนใจศึกษา
น้ำตกตาดตาภู่ น้ำตกนี้อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานฯ เกิดจากห้วยระย้า เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นโขดหินและลานหินที่มีน้ำไหลหลั่นเป็นทอดลาดเอียงไปข้างล่างประมาณ 100 เมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบพักค้างแรมในป่า ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใกล้ๆน้ำตกจะมีทุ่งหญ้าสลับกับป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ป่านานาชนิด ที่เห็นประจำได้แก่ เก้ง กวาง ช้างป่า กระทิง นกนานาชนิด เป็นต้น
น้ำตกตาดตาคง เป็นน้ำตกที่งดงามและสูงอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ถัดไปจากน้ำตกตาดตาภู่ประมาณ 4 กิโลเมตรเศษ การเดินทางจะเริ่มต้นที่ด่านหลังโภชนาการ ททท. เขาใหญ่ ก็ได้ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร หรือจะเริ่มต้นที่ กม.55 ถนนเขาใหญ่-ปราจีนบุรีก็ได้ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร
กลุ่มน้ำตกผาตะแบก น้ำตกนี้เป็นน้ำตกขนาดที่ไม่เล็กมากนัก เกิดบนห้วยน้ำซับลักษณะของน้ำตกเป็นชั้นๆลดหลั่นกันลงไป 5 ชั้น จากปากทางเข้าบนถนนสายเขาใหญ่-ปราจีนบุรี ช่วงระหว่าง กม. 6.5-7 จะมีทางเดินเท้าที่อุทยานฯจัดทำเอาไว้ เดินเข้าไปเพียง 500 เมตร ก็จะถึงน้ำตกแห่งแรก คือน้ำตกผากระจายและเดินต่อไปอีกจะถึงน้ำตกผาหินขวาง น้ำตกผารากไทร น้ำตกผาชมพู และน้ำตกผาตะแบก รวมระยะทางในการเดินเท้าทั้งสิ้น ประมาณ 3 กิโลเมตรเศษ
จุดชมทิวทัศน์ จุดชมวิวทิวทัศน์ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่เด่นๆมีด้วยกัน 3 จุด คือ
จุดชมทิวทัศน์ กม.30 ถนนธนรัตน์ อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 680 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถชมทิวทัศน์ด้านทิศเหนือของอุทยานฯได้เป็นบริเวณกว้างและสวยงาม มองเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน แม้แต่ทุ่งนาหมู่บ้านท่ามะปรางที่อยู่ห่างไกล ก็ช่วยแต้มเติมให้ภูมิทัศน์งดงามยิ่ง
จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว (ผาตรอมใจ) นับเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามน่าชมและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก มีลักษณะคล้ายผานกเค้าที่ภูกระดึง จะมองเห็นภูเขาร่มขวางอยู่เป็นแนวยาว และทิวทัศน์ที่สวยงามด้านจังหวัดปราจีนบุรี ตอนเช้าตรู่จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเป็นดวงกลมสีแดงเหนือสันเขาร่มที่สวยงาม
จุดชมทิวทัศน์ กม.9 อยู่ช่วงกิโลเมตรที่ 9 ถนนขึ้นเขาเขียว สามารถมองทิวทัศน์ป่าไม้และภูเขาด้านทิศเหนือตลอดแนวได้เป็นอย่างดี
เส้นทางเดินป่าประเภทเดินเที่ยวได้ภายในวันเดียว ทางเดินป่าแต่ละสายก็มีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันไป สำหรับเส้นทางเดินป่ามีดังนี้
สายน้ำตกผากล้วยไม้-เหวสุวัต ทางสายนี้เลียบริมฝั่งลำตะคองไปโดยตลอด เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วไปรู้จัก ระยะทางจากสถานที่กางเต็นท์ผากล้วยไม้-น้ำตกผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต รวมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
สายน้ำตกเหวสุวัต-น้ำตกเหวไทร-น้ำตกเหวประทุน ทางเดินสายนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เป็นทางเดินบนไหล่เขาและสันเขาผ่านป่าแล้ววกลงสู่น้ำตกในหุบเขา รวมระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร
สายหนองผักชี-คลองอีเฒ่า-บึงไผ่-ด่านช้าง เส้นทางนี้ผ่านป่าทึบและทุ่งหญ้าที่ชอบออกดอกขาวโพลนไปทั่วในช่วงฤดูฝน มีระยะทางไกลพอสมควร ใช้เวลาเดินประมาณ 5-7 ชั่วโมง มีทากเยอะ สำหรับผู้ที่ต้องพักแรมในระหว่างทางก็สามารถเตรียมอุปกรณ์ไปขอพักได้ที่บ้านพักยามสายตรวจคลองอีเฒ่า และบ้านพักยามสายตรวจบึงไผ่
สายดงงูเห่า-โป่งเครื่องบิน-ซากเครื่องบินตก เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมาก ระยะทางไม่ไกลนัก ประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1-2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินป่าตามทางสายนี้ควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง
สายน้ำตกกรองแก้ว-น้ำตกเหวสุวัต ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร เส้นทางนี้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยม เพราะทางเดินผ่านไปในป่าทึกและรกมาก ทั้งมีทากชุกชุมด้วย การเดินทางไปน้ำตกเหวสุวัตมีทางอื่นที่สะดวกกว่า
สายชายป่าเขาเขียว-น้ำตกนางรอง เป็นเส้นทางเดินที่มีระยะทางไกลมากสายหนึ่ง แต่ก็เป็นที่นิยม ใช้เวลาเดินผ่านทุ่งหญ้าคาและหย่อมป่าลาดลงเล็กๆ และมีการปีนเขาสูงชันในช่วงสุดท้าย จึงอาจต้องใช้เวลาสำหรับเส้นทางนี้หนึ่งวันเต็มๆ
เส้นทางเดินป่าที่ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวัน
การเดินทางตามเส้นทางนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมอาหารและเครื่องนอนติดไปด้วย มีเส้นทางดังนี้
จุดตรวจเนินหอม-เขาสมอปูน เส้นทางขึ้นเขาสมอปูนมีอยู่มากกว่าหนึ่งเส้นทาง แต่แนะนำให้ใช้เส้นทางขึ้นบริเวณจุดตรวจเนินหอม ซึ่งเป็นด่านขึ้นเขาใหญ่ ด้านที่เดินทางมาจากนครนายก/ปราจีนบุรี เพื่อจะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่หน่วยเนินหอมนำทางขึ้นเขาสมอปูน
เขาสมอปูน เป็นเสมือนแหล่งท่องเที่ยวขึ้นหน้ามาแรงของเขาใหญ่ เนื่องจากมีความบริสุทธิ์สวยงามมาก ลักษณะเป็นเทือกเขายอดตัด พื้นที่ราบบนยอดเขามีสภาพเป็นทุ่งหญ้าสวนหิน สลับกับป่าแคระและป่าดิบบางส่วน ด้วยสภาพที่เป็นลานหินทรายและทุ่งหญ้า ในช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวบนนั้นจะมีดอกไม้ป่าที่สวยงาม เช่น กล้วยไม้ดิน"ม้าวิ่ง" ดอกกระดุมเงิน พราวทั่วไป นับว่าคุ้มค่าต่อการปีนป่ายเขาที่สุด การเดินทางจะต้องเตรียมอาหารและเครื่องนอนไปค้างแรม
สายน้ำตกเหวสุวัต-ยอดเขาแหลม เป็นทางเดินป่าที่มีระยะทางไกลและยากลำบากมาก ในปี 2515 เคยมีการตั้งรางวัลสำหรับหญิงไทยคนแรกที่สามารถเดินป่าเส้นทางนี้ไปยังยอดเขาแหลมเป็นเงินถึง 60,000 บาท ต่อมาเส้นทางนี้มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างสูง ระยะเวลาในการเดินทางไปกลับและพักแรมตามเส้นทางนี้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน
สายมอสิงโต-น้ำตกมะนาว-น้ำตกตาดตาภู-น้ำตกตาดตาคง เส้นทางนี้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่นักเดินทาง นักนิยมธรรมชาติแต่ละคน ชอบนำมาบอกเล่าถึงความงามและการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น เป็นทางเดินป่าที่ผ่านน้ำตกมากมาย เช่นเดียวกับเส้นทาง "กม.5-น้ำตกผากระจาย-น้ำตกผาชมพู-น้ำตกผาตะแบก"
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม 2551 08:22:03 โดย กางเขนดง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CHOK@RAYONG
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2551 12:18:51 » |
|
น้าหมานสุดยอดเลยครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
นัส@นิคมพัฒนา
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2551 11:26:50 » |
|
ข้อมูลแน่นมั๊กๆ  ใช่ สงสัยเป็นแฟนพันธ์แท้เขาใหญ่ อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2551 13:09:40 » |
|
ข้อมูลแน่นมั๊กๆ  ใช่ สงสัยเป็นแฟนพันธ์แท้เขาใหญ่ อิอิ ว่าแต่ท่านหนาวนี้ไม่ไปเที่ยวเขาใหญ่หรือครับ ระยะทางไปกลับจากบ้านฉางไปเขาใหญ่ 450 กม.เอง.... ให้รางวัลแก่ชีวิตครับ.... 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พฤศจิกายน 2551 07:54:29 โดย กางเขนดง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anukool Jumpa
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2551 00:15:47 » |
|
UP
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โน่ SRC ™
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2551 20:33:10 » |
|
ข้อมูลแน่นมั๊กๆ  ใช่ สงสัยเป็นแฟนพันธ์แท้เขาใหญ่ อิอิ ว่าแต่ท่านหนาวนี้ไม่ไปเที่ยวเขาใหญ่หรือครับ ระยะทางไปกลับจากบ้านฉางไปเขาใหญ่ 450 กม.เอง.... ให้รางวัลแก่ชีวิตครับ....  ใจก็อยากไปอยู่เหมือนกันหล่ะคับน้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2551 00:04:36 » |
|
หนาวนี้ที่เขาใหญ่ 9-11 ธค. 2549
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 กุมภาพันธ์ 2552 07:27:11 โดย กางเขนดง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2551 00:34:10 » |
|
หนาวนี้ที่เขาใหญ่ 5-7 ธค. 2550
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anukool Jumpa
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2551 02:46:14 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anukool Jumpa
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2551 02:48:17 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Red-Car@RYZ
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2551 07:57:57 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 ธันวาคม 2551 22:14:33 โดย กางเขนดง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|