ผมว่าพี่เค้าวัดอุณหภูมิผิดที่อ่ะครับ เค้าน่าจะเอาเซ็นเซอร์ไว้กลางรถ เพื่อวัดอุณหภูมิในห้องโดยสารจริงๆ แต่นี่พี่แกเล่นยัดตัวเซ็นเซอร์เข้าไปในช่องแอร์เลย ซึ่งผมว่ามันจะวัดได้อุณหภูมิที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมากๆๆๆๆ...แต่โดยรวม พี่เค้าก็เก่ง มีความรู้ดีครับ
(นานาจิตตังครับ ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว)
ผมจะคุยในด้านหลักความเป็นจริงกับเหตุผลให้ฟังนะครับ
เกือบทุกคนครับ ทั่วโลกเลยมั่ง และก็รวมทั้งผมด้วย วิธีการเช็ความเย็นนั้น ก็ต้องเช็คที่ช่องแอร์เท่านั้น
(การวัดแบบถูกต้องจริงๆ ต้องวัดอุณหภูมิที่หน้าคลอย์เย็นด้วยซ่ำ และอุณหภูมิจะต่ำกว่าวัดทางช่องแอร์หลายองศาเลย)
และในการใช้งานจริงๆ นั้น จุดตรงไหนที่ต้องการความเย็นจากแอร์คับ คนขับกับคนนั่งที่ต้องการเท่านั้น
ถ้าเราไปเช็คอุณหภูมิที่กลางรถ โดยวัดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารนั้นผมว่ายากมากๆๆๆๆ และก็ไม่มีใครเขาทำกันฮะ
เพราะแอร์รถยนต์มันทำความเย็นได้อยู่ที่ 1 ตันเท่านั้น
และถ้าจะวัดอย่างนั้น อุณหภูมิ ไม่มีนิ่งหลอกครับ รถวิ่งทั้งวัน แดดส่องมั่ง รถติดมั่งความเป็นจริงมันเป็นอย่างงี้
คุณจะที่ไหน เวลาไหน ให้คอมแอร์ทำงานคงที่ ที่รอบเครื่องเท่าไร ให้มันมาเป็นมาตาฐานในการวัดอุณหภูมิละคับ
และอีกอย่างทำไมตัวปรับอุณหภูมิที่หน้าปัดมันมีตัวเลขที่ 15 - 30 องศามั่ง (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วตัวตัดอุณหภูมินั้นมันก็อยู่ใต้เกะคนนั่งละคับ
ทำไมตัวตัดอุณหภูมิมันไม่ไปอยู่กลางรถอย่างที่คุณบอกละคับ และความเย็นที่ออกมาจากแอร์นั้น
สถานะมันจะอยู่ที่ต่ำคับ มันไม่ได้ลอยตัวสูงด้วยคับ
คอมแอร์มันไม่ได้ทำงานคงที่ มันไม่เหมือนกับคอมแอร์บ้านนะครับ ถ้าอย่างแอร์บ้านสิ วัดอุณหภูมิตรงไหนก็ได้ภายในห้อง
เพราะมันเป็นห้องปิด ซึ่งควบคุมอากาศให้อุณหภมิมันคงที่ได้ แล้วก็จำเป็นไหมว่า อุณหภูมิทั้งห้องต้องเท่ากัน
ยกตัวอย่างนะครับ
ห้องนอนผมยาว 30 เมตร กว้าง 15 เมตร สูง 3 เมตร ตัวผนังห้องนอนเป็นกระจกหมด และแดดส่องตลอดเวลา
คำนวนแล้วแอร์จะต้องให้จริงๆนั้นมากกว่า 5 ตันครับ ถึงจะเย็นทั้งห้อง แต่การใช้งานจริงๆแล้ว ผมใช้แอร์แค่ 1 ตันเอง
จับติดตั้งแอร์ให้มันเป่ามาตรงกับเตียงที่เรานอน ประหยัดค่าไฟฟ้าไปได้เยอะเลยนะครับ
และก็ไม่มีความจำเป็นด้วยว่าทั้งห้องจะต้องเย็นให้ได้อุณหภูมิคงที่


เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ใครว่าไม่ถูกตรงไหน ก็แย้งมานะครับ เรามาคุยกันด้วยเหตุผลครับ

ผมว่าพี่เค้าวัดอุณหภูมิผิดที่อ่ะครับ เค้าน่าจะเอาเซ็นเซอร์ไว้กลางรถ เพื่อวัดอุณหภูมิในห้องโดยสารจริงๆ แต่นี่พี่แกเล่นยัดตัวเซ็นเซอร์เข้าไปในช่องแอร์เลย ซึ่งผมว่ามันจะวัดได้อุณหภูมิที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมากๆๆๆๆ...แต่โดยรวม พี่เค้าก็เก่ง มีความรู้ดีครับ
ผิดแล้วละครับ การปรับแต่งการทำงานของระบบความเย็นนะครับ
จริงๆแล้วการวัด อุณหภูมิ นะจะต้องวัดที่ท่อไหลกลับ(ปลายคอร์ยเย็น)เลยด้วยซ่ำไปครับ และเทียบกับตารางเกจวัดนะครับ
เช่น ความดันด้าน low อยู่ที่ 30 ps อุณหภูมิตรงท่อไหลกลับต้องอยู่ ที่ ประมาณ 0-3 องศา ครับ
แต่ด้วยความลำบากในการติดตั้งตัววัด senser เลยเล่นแบบง่ายๆ คือวัดลมขาออกจากตู้แอร์เอาครับ แล้วใช้วิธีปรับเทียบค่าไม่เกิน 3-5 องศา แทนครับ
เช่น ถ้าเราวัดจากท่อไหลกลับ ที่ความดันด้าน low 30 ps อุณหภูมิตรงท่อไหลกลับต้องอยู่ ที่ ประมาณ 0-3 องศา แต่ถ้ามาวัดที่ลมขาออกเราสามารถให้ค่าได้ถึง 5-7 องศา ครับ
การที่ไปวัดจากห้องเลยนั้นผิดครับ อย่างนั้นคือมันดูอุณหภูมิ ห้องมากกว่านะครับ เพราะการปรับแต่งระบบปรับอากาศทั้วโลกเขาก็ใช้วิธีนี้
ไม่ว่าจะเป็นการวัดหาค่า subcool หรือ super heat เขาจะวัดจากท่อ ทางเดินน้ำยาเลยครับ โดยที่ไม่ต้องต้องผ่าน load ครับเพื่อให้ได้ค่าตามตารางมาตราฐานสากล
อีกอย่างนะครับ load หรือห้องแต่ละที่ก็ไม่เท่ากันครับ ความสามารถในการรักษาความเย็นไม่เท่ากัน
หรือมองง่ายๆว่าทำมัย senser เธอโม ต้องเอามาไว้ที่ตู้คอร์ยเย็น ไม่เอาไว้กลางรถละครับ หน้าคิดขึ้นมาหน่อยมัยครับ
แต่บอกไว้เลยครับ น้ำยาคุณ ter นะ ถึงจะเอาsenser มาไว้กลางรถ และไม่ให้คอมแอร์ตัดเลยนั้น ความสามารถในการทำอุณหภูมิ ทำได้สบายๆครับ วัดที่กลางห้องโดยสารนะ อย่างที่ว่านะ ได้-10 องศาครับ ในเวลา 30 นาที ที่อุณหภูมิภายนอก 30 องศา ผมลองเล่นมาแล้วละครับ ทำลองทำเพื่อความอยากรู้แต่ใช้งานจริง ก็ไม่เคยใช้หรอกครับ ได้
ผมเห็นบอกๆกันว่าได้อุณหภูมิต่ำสิบกัน และไม่เห็นมีใครเคยบอกวิธีวัดอุณหภูมิแบบนี้มาก่อน ก็เลยคาดหวังไว้สูงว่ามันจะเป็นอุณหภูมิรวมห้องโดยสารหน่ะครับ แต่ตอนนี้รู้และ ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
ปล. จะใช้น้ำยาของคุณ ter นี่ต้องไปที่ไหนครับ มีร้านรับทำหรือต้องซื้อมาทำเองครับ แล้วเวลาใช้ต้องถ่ายของเก่าออกก่อนรึเปล่าครับ