ข้าพเจ้า นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ขอประณตน้อม
นมัสการ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
บิดามารดา คุณครูอาจารย์ผู้ฝึกสอน
สรรพครูโหราศาสตร์ ครูพระเวท ครูว่าน
ครูยา สรรพพระฤาษีผู้ทรงญาณทั้ง 108
สรรพครูผู้สร้างสรรพคัมภีร์
สรรพเวททั้งหลายทั้งปวง
ความรู้ เกี่ยวกับวิชาไสยศาสตร์
ของผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ นั้นส่วนใหญ่
สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ส่วนใหญ่
ก็ได้ข้อมูล ความรู้ จากหนังสือ
อาถรรพ์เวท ภาค 1-2 เป็นหลักใหญ่
คุณไสย มีอยู่หลายอย่างครับ
เช่น คุณผี (ใช้ผีมาเข้าสิง หรือทำร้าย)
คุณคน (การกระทำ โดยใช้สิ่งของ
หรืออาคมต่างๆ) , เสน่ห์ยาแฝด , ยาสั่ง
ฝังรูปฝังรอย, ลมเพลมพัด เป็นต้น
วิธีการกระทำยำยี คุณไสย
แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
1. กระทำโดยตรงถึงตัว
2. กระทำโดยมโนคติ
การกระทำยำยี โดยใช้วิชาไสยศาสตร์นั้น
ถ้าจะให้สัมฤทธิ์ผล
ต้องอาศัยเหตุ 3 ประการ
1. ผู้กระทำ ต้องกระทำด้วยความสุจริตใจ
(ไม่เห็นแก่อามิส สินจ้าง รางวัล)
2. ผู้ที่กระทำเป็นฝ่ายถูก
แต่ได้รับความอยุติธรรม
3. ผู้ที่ถูกกระทำ ต้องไม่มีการป้องกันตัว
ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไข 3 ประการนี้แล้ว
ก็ยากนักที่การกระทำยำยี นั้นจะเป็นผล
เมื่อเราทราบถึง วิธีการและเงื่อนไขแล้ว
ก็จะทำให้เราสามารถป้องกันตัวเอง
จากคุณไสย ต่างๆ ได้
คราวนี้ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ จะสอน
วิธีป้องกันไม่ให้ถูกคุณไสย
1. ต้องเป็นผู้มีศีล มีธรรม
น้อมนำพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง
หมั่นสวดมนต์ภาวนา บูชาพระรัตนตรัย
อย่างสม่ำเสมอ กล่าวกันว่าใครก็ตาม
ที่สามารถ ไหว้พระได้ สวดมนต์
บูชาคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ได้ก็แสดงว่า ไม่ได้ถูกคุณไสยกระทำ
2. ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ กับใคร
ไม่เบียดเบียนใคร ไม่สร้างความเดือดร้อน
ให้กับใคร ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ
ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ ก็ตาม
3. หลีกเลี่ยงการเชื่อมโยง(ตอบรับ ,เปิดรับ)
กับคุณไสยต่างๆ เช่น ถ้าในเวลากลางคืน
ได้ยินเสียงอะไรดังผิดปกติ ก็อย่าไปทัก
ให้อยู่เฉยๆ ไว้(ใช้สติไตร่ตรอง)อย่าเข้าไป
ในสถานที่ ที่หวงห้าม หรือกระทำ
ในสิ่งที่เป็นการลบหลู่ ,อย่าหยิบจับ
สัมผัส วัตถุอาถรรพ์ใดๆ โดยเด็ดขาด
4. ทำอาถรรพ์ กฤตยาคม ป้องกันตนเอง
เช่น การสวดมนต์คาถา , อาราธนาพระ
คล้องคอ, การทำดวงพิชัยสงคราม
ผูกดวง วางลัคนา ลงแผ่นดวง
เพื่อเอาไว้บูชาดวง,แขวนยันต์ท้าวเวสสุวรรณ
เบี้ยแก้, การฝังอาถรรพ์บริเวณบ้าน
หรือการปลูกต้นไม้ว่าน
เพื่อป้องกันคุณไสยต่างๆ
สำหรับ ว่านที่มีอิทธิฤทธิ์ ป้องกัน
และแก้คุณไสยต่างๆ ได้แก่ พญาว่าน
พระตะบะ เพชรนารายณ์ ดาบนารายณ์
มเหศวร สิงหะโมรา ไชยมงคล หางช้าง
พัดแม่ชี ธรณีสาร ขอทองแก้ เพชรกลับ
ถอนโมกขศักดิ์ กำบังภัย ไพลปลุกเศก เป็นต้น
5. ทำบุญทำทาน สร้างกุศล แล้วแผ่เมตตา
และอุทิศส่วนบุญ ให้แก่ เจ้ากรรมนายเวร
เทวดาประจำตัวที่คอยปกปักรักษาตัวเรา
หัวใจของการป้องกันคุณไสยก็คือ
การเป็นผู้มีศีลธรรม คุณธรรม ไม่วุ่นวาย
หาเรื่องใส่ตัว แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรู้จัก
หาทางป้องกัน ตามข้อ 4 ไว้บ้างก็ดีครับ
คราวนี้ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
จะสอนวิธีแก้คุณไสยต่างๆ
1. ก่อนอื่นต้องแยกแยะให้ออกก่อนว่า
สิ่งที่เป็นนั้น มีสาเหตุจากอะไร และควร
ยึดหลักวิทยาศาสตร์ก่อน ถ้าไม่ค่อยสบาย
เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องไปหาหมอ
แต่ถ้าพยายามรักษาจนถึงที่สุดแล้ว
หมอหมดทางรักษา แล้ว ก็ค่อยหันมา
ใช้วิธีทางไสยศาสตร์ การพิสูจน์ก็มีหลายวิธี
แต่วิธีที่ดีที่สุด คือ ลองให้ผู้ป่วยสวดมนต์
ไหว้พระ สวดคาถาชินบัญชร ถ้าสวดได้
จนจบ ก็พอสรุปได้ว่า คงไม่ได้
โดนคุณไสย หรอกครับ แต่อาจจะเป็นโรค
เวรโรคกรรม เป็นบุพกรรม ที่ผู้ป่วย
ได้เคยกระทำมาในอดีต ถ้าเป็นเช่นนั้น
วิธีการรักษาก็ต้องควบคู่ไปกับ
การสร้างบุญสร้างกุศล ชดใช้หนี้กรรม
2. ปรึกษาพระ หรือ ผู้ที่มีความรู้
ในการแก้อาถรรพ์ต่างๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่
คาถาที่ใช้ในการแก้คุณไสย ก็จะเป็น
คาถาธรณีสาร ถอนโบสถ์ถอนเสมา
ข่ายเพชรพระพุทธเจ้า ชินบัญชร เป็นต้น
สำหรับสูตรในการแก้ หรือถอนคุณไสย
ตามตำรับ ที่ผมทราบจะมีขั้นตอน
ในการแก้คุณไสย ดังนี้คือ ปัดเสนียด
ถอนคุณไสย - วางอาถรรพ์ คุ้มกันตัว
ถ้าสามารถรอได้ และ ต้องการให้สัมฤทธิ์ผล
อย่างแน่นอน ก็ต้องหาฤกษ์ กำหนดวัน
และเวลา ในการล้างอาถรรพ์ให้ดีด้วยครับ
3. นำน้ำมนต์ที่วัด มาอาบ
หรือ ให้ผู้ถูกคุณไสย ดื่ม
(ต้มเสียก่อนก็ดีนะครับ) และยังมีอีกหลายวิธี
ที่จะแก้คุณไสยได้ ไม่ว่า จะเป็น
การผูกดวง บูชาดวงชะตา เสริมบารมี
การใช้ว่าน ที่มีอิทธิฤทธิ์ในการแก้
และ ถอนคุณไสย ต้องเป็นว่านที่ถูกปลูก
เลี้ยง มาอย่างถูกวิธีด้วยนะครับ
รวมถึงการวางอาคม อาถรรพ์ คุ้มกัน เป็นต้น
ซึ่งถ้าพิสูจน์จนมั่นใจแล้วว่า
โดนคุณไสยแน่นอน ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่
ของ พระ หรือ ผู้ที่ทรงความรู้
หรือ หมอผี ดีกว่าครับ
ถึงตรงนี้ผม อยากจะเตือนทุกท่าน
ว่า เรื่องไสยศาสตร์เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ยา
สำหรับคนทั่วไป จึงทำให้ถูกพวกมิจฉาชีพ
พวก 18 มงกุฏ หลอกลวงได้ง่าย
เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และโอกาส
ในการรักษาเยียวยา อีกอย่าง
การทำคุณไสย ใส่ใครในสมัยนี้ผมว่า
มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
เพราะสภาพแวดล้อม สังคมที่เปลี่ยนไป
สิ่งที่จะนำมาใช้ก็หายากขึ้น และต้องเป็น
ผู้ที่มีตบะ อาคมแก่กล้า ซึ่งหาได้ยากเต็มทน
คนที่มีความละโมบในอามิสสินจ้าง
จนทำร้ายคนอื่นได้ ก็ยากที่จะเป็น
ผู้คงแก่เวท ตบะเดชะ แถมถ้าเป้าหมาย
ที่จะทำคุณไสยใส่ รู้ตัว หาทางป้องกัน
คนที่จะเดือดร้อนก็คือผู้ปล่อยของนั้นเอ
สำหรับคนที่ปล่อยของ ถ้าไม่อยู่ในศีล
หรือกระทำผิด คิดร้าย ไม่เป็นไป
ตามเหตุ 3 ประการข้างต้น
ก็ย่อมนำผลร้ายมาสู่ตัวเอง
หรือโดนของกลับเข้าตัวเอง กล่าวกันว่า
ผู้ที่ใช้มนต์ดำ ไสยดำ ทำร้ายคนอื่น
ตายไปก็จะกลายไปเป็น ปอบ หรือกระสือ
ที่หิวโหย ทุกข์ทรมาน ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ
อยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้าสู้หน้าใคร
หรือถ้าไปเกิดในชาติหน้า ก็จะกลายเป็น
คนปัญญาอ่อน สติไม่สมประกอบ
สำหรับผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ที่ผ่านมา
ผมยังไม่เคยเห็นคนที่ถูกคุณไสย
กับตาตัวเองเลย เคยเห็นแต่ผีเข้า
ซึ่งก็มักจะแก้ไม่ยาก ส่วนใหญ่
พอเหนื่อยแล้ว หรือ เจรจาต่อรองได้
สมใจแล้วก็ออกเอง ไม่ต้องถึงกับออกแรง
ไล่กัน ส่วนคนที่มาบอกว่า โดนของ
ผมพิจารณาแล้ว ก็มักเกิดจากการเข้าใจผิด
ทึกทักอุปทานไปเอง เสียมากกว่า
คนที่จะโดนของ ถูกคุณไสยได้นั้น
ส่วนหนึ่งก็คงมาจาก บุพกรรม ของแต่ละคน
นั่นแหละครับ ตามหลักธรรมทีว่า
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม นะครับ
สุดท้ายนี้ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ขอประกาศปิดสถาบันหนึ่งเหล่าซือ
เนื่องจากผมตกอยู่ในสถานะผู้ถูกกล่าวหา
ว่าฆาตกรรมภรรยาเก่าของตัวเอง
เนื่องจากมีหลายคน ไม่หวังดีกับผม
อีกอย่างคนอย่างผม ก็ไม่เคยมีเพื่อน
จึงไม่มีใครมาช่วยยืนยันนิสัยใจคอของผม
มีเพียง นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์(บิดา)
และ นางรุ่งทิวา เริ่มฤกษ์(มารดา)
สามารถยืนยันได้ว่าผมไม่ใช่ผู้ป่วยจิตเวช
จึงเป็นไปไม่ได้ว่าผมคือผู้ก่อเหตุ
แต่ตำรวจเจ้าของคดีไม่มีคุณธรรม
กล่าวหาว่าคุณพ่อและคุณแม่เข้าข้างผม
แถมยังบอกว่าให้ผมหาพยานคนอื่นมายืนยัน
สถานที่และเวลา ว่าขณะเกิดเหตุ
ผมทำอาชีพอะไร อารมณ์เป็นอย่างไร
และ อยู่ในสถานที่แห่งใด
แต่ปัญหาคือ ผมไม่รู้จักใคร แล้วใครเขา
จะมาเป็นพยานยืนยันให้ผม อีกอย่างภรรยา
คนแรกของผมขณะเสียชีวิต ก็ไม่มีใครเห็น
ในบ้านขณะเกิดเหตุมีแค่ตัวผมและภรรยา
แต่ผมนอนอยู่ชั้น2ของบ้าน
ส่วนภรรยาอยู่ชั้นล่าง แล้วใครจะมาเป็นพยาน
เอาเป็นว่าผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ขอบอกเลย
ว่าบุคคลเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผม
1.นายอัมรินทร์ ทิฐิตานนท์
2.นายประยุทธ อรุณรัตนดิลก
3.นางวิภา จิตรยมนานันท์
4.น.ส.ณัฐนันท์ พลอยประดับ(เพื่อนผู้ตาย)
ฉะนั้นอย่าพูดว่าผมเป็นคนแบบนั้นแบบนี้
ตั้งแต่คุณย่าของผมเสียชีวิต ตัวผมเองใช้ชีวิต
อยู่คนเดียว13ปี จนถึงปี2560 มีภรรยาคนแรก
บ้านของผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ไม่มีใคร
เข้ามาได้นอกจาก พ่อ แม่ และ ภรรยา
ผมเคร่งครัดเรื่องความเป็นส่วนตัวมากนะครับ
ใครจะสงสัยอะไร ผมไม่สนใจ ผมรู้เพียงว่า
บ้านของผม ผมเป็นเจ้าของ โฉนดที่ดิน
เรื่องกฏหมายที่ดินคุณแม่ของผมเชี่ยวชาญ
