นรกลาบุตตา เมืองมรณะจากคลื่นยักษ์ 6 เมตร พายุไซโคลนนาร์กิสที่พม่า ตามคำขอครับ

ภาพถ่ายวันที่ 7 พ.ค.2551-- ศพเหยื่อพายุนาร์กิสยังคงให้เห็นเกลื่อนกลาดตามท้องทุ่งนาใกล้กับหมู่บ้านต่างๆ รอบๆ เมือลาบุตตา "เมืองมรณะ" ที่เจ้าหน้าที่ทหารในท้องถิ่นกล่าวว่ามีคนราว 80,000 ถูกคลื่นยักษ์กวาดหายไปวันศุกร์ที่แล้ว (ภาพ: AFP)

ภาพถ่ายวันที่ 5 พ.ค.2551 เขตชนบทใกล้กับกรุงย่างกุ้ง ที่นี่อยู่ห่างจากเมืองลาบุตตาราว 200 กม. แต่สภาพไม่ต่างกันคือน้ำนองไปทั่ว ต่างกันก็ตรงที่นี่ไม่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน (ภาพ: Reuters)

ภาพถ่ายวันที่ 7 พ.ค. ศพของเหยื่อพายุนาร์กิสยังคงให้เห็นตามท้องทุ่งรอบๆ เมืองลาบุตตา ขณะที่ชาวบ้านในท้องถิ่นเดินผ่านไปมาจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เนื่อง
"คนกับควาย" เพื่อนชีวิตทั้งในยามที่มีลมหายใจอยู่และสิ้นลมแล้ว ภาพเช่นนี้มีให้เห็นเกลื่อนกลาดในท้องนารอบๆ เมืองลาบุตตา เอเอฟพีเผยแพร่ภาพนี้เป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ (7 พ.ค.)
ภาพที่สำนักข่าวเอเอฟพีได้รับและนำออกเผยแพร่ในวันพุธ (7 พ.ค.) นี้ ระบุว่าเป็นศพคนและสัตว์เลี้ยงที่ลอยขึ้นอืดตามท้องนาในเขตเมืองลาบุตตา (Labutta) ปากแม่น้ำอิรวดี
ผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้คนล้มตายและสูญหายเป็นจำนวนมาก ในวันเสาร์ (3 พ.ค.) ที่ผ่านมา ในเขตเมืองลาบุตตา (Labutta) เมื่อไซโคลนนาร์กีสทำให้เกิดฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำในแม่น้ำอิรวดีเอ่อล้นขึ้นสูง 20 ฟุต หรือ 6 เมตรเท่าๆ กับความสูงของอาคาร 2 ชั้น ซึ่งได้กวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทาง
กระแสน้ำที่เอ่อสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ได้เอ่อขึ้นท่วมบ้านเรือนราษฎร ท่วมทุกสิ่งทุกอย่างสูงถึงยอดไม้ ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เล่าเรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในพื้นที่
เมืองลาบุตตา ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำสายหลักของประเทศ ก่อนวันเสาร์ที่ผ่านมา เคยเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรราว 90,000 คน บัดนี้ได้กลายเป็นเมืองร้าง ผู้คนส่วนใหญ่ไร้ที่อยู่และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ตลอดช่วง 5 วันที่ผ่านมา
ผู้รอดชีวิต กล่าวว่า เคยมีทหารเดินทางเข้าไปยังเขตเมืองลาบุตตา โดยเรือ นำสิ่งของไปแจกจ่ายเพียงเล็กน้อย แต่เรือก็ไปจอดตายอยู่ที่นั่นเนื่องจากน้ำมันหมด
มีเจ้าหน้าที่ขององค์การเวิลด์วิชัน (World Vision) เดินทางไปถึงที่นั่นเช่นเดียวกัน แต่ทำได้เพียงแค่แจกจ่ายสารสำหรับกวนน้ำให้ใส ให้เป็นน้ำสะอาด
ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า มีผู้รอดชีวิตอยู่ในเขตเมืองนี้จำนวนเท่าไร ในขณะที่ผู้คนนับพันๆ ได้ตัดสินใจทิ้งเมือง มุ่งหน้าสู่เมืองอื่นเพื่อหาอาหารและน้ำดื่มประทังชีวิต
สำนักข่าวเอเอฟพี ได้เผยแพร่ภาพศพคนและสัตว์เลี้ยงในสภาพที่กำลังขึ้นอึดลอยอยู่ตามท้องนาที่น้ำท่วมขังใกล้กับเมืองลาบุตตา ศพเริ่มเน่าเปื่อย และส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ
ผู้รอดชีวิตที่เมืองลาบุตตากำลังรอการช่วยเหลือ เอเอฟพีได้รับและเผยแพร่ภาพนี้ในวันพุธ (7 พ.ค.) โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นภาพถ่ายในวันใด (ภาพ: AFP)
รอบๆ ตัวเมืองเต็มไปด้วยร่างคนกับสัตว์ตายที่เริ่มกลายเป็นสีดำ ส่วนใหญ่เริ่มเน่าเปื่อย ใต้แสงแดดที่แผดร้อน หลายศพขึ้นไปติดค้างตามริมทางเดินเมื่อน้ำเริ่มลดระดับลงหลังพายุผ่านไปเมื่อ 5 วันก่อน
?กลิ่นแห่งความตายคละคลุ้งไปทั่วเมือง ผู้คนเดินผ่านศพโดยใช้ผ้าหนาปิดจมูกกันกลิ่นเหม็น บ้างก็ใช้ยาหม่องทาเพื่อช่วยบรรเทากลิ่น..? ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี อ้างการบอกเล่าของผู้รอดชีวิต
ก่อนหน้านี้ เคยมีการบอกเล่าเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวเมืองเบ๊าะกาเลย์ (Bokalay) ที่อยู่ในเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีเช่นกัน เมืองนี้เพียงแห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตถึง 10,000 คน แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากผู้ที่เห็นเหตุการณ์