AE. Racing Club
24 กรกฎาคม 2568 09:43:44 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอถามเรื่องโอเวอร์ไดร์ (Overdrive) ครับ งง  (อ่าน 7631 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Leng
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 96



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 02 เมษายน 2551 14:12:49 »




ใช้โตโยต้า AE111 โฉมไฮทอร์ค 1.6GXi-S เกียร์ออโต้

* คือถ้าผมกดให้ไฟมันขึ้นคำว่า O/D OFF แปลว่าอะไร...........
   และถ้าผมกดอีกทีนึงไฟจะดับไปแปลว่าอะไร....................

ช่วยที งง มากๆ
บันทึกการเข้า

in@PZ
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,524



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 14:32:38 »

 
บันทึกการเข้า

สี สตราด้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 14:36:08 »

น่าจะแปลว่า ทำงาน กะไม่ทำงานครับ

ไฟขึ้น OD ทำงาน เปลี่ยนสี่เกียร์

ไฟดับ OD ไม่ทำงานเปลี่ยนที่สามเกียร์

ยังไงรอท่านอื่นด้วยนะครับผมก็ไม่ค่อยชัวร์
บันทึกการเข้า
surachat_pea
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 881


อู่เล็กๆเด็กๆทำ.


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 14:39:38 »

รอดูเช่นกัน ไอ้ผมมีแค่ 3 เกียร์
บันทึกการเข้า

  Provincial Electricity Authority
New.
Web Administrator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,024


Love me, love my AE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 14:51:33 »

http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=2995.0
บันทึกการเข้า

AE92 เดิมๆ เครื่องก็ไม่แรง เชิญแซงได้เลย...
surachat_pea
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 881


อู่เล็กๆเด็กๆทำ.


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 15:16:21 »


เอาของพี่ตามมาที่นี้ก็แล้วกันนะครับ

O/D Off เหมือนกับเป็นการปิดการใช้งานเกียร์สุดท้ายครับ
ช่วยให้รถมีกำลังเพิ่มมากขึ้นคล้ายๆ กับเชนเกียร์ลง 1 เกียร์เวลาเร่งแซงประมาณนั้น
แต่เวลาใช้งานปกติถ้าวิ่งเร็วๆ ปิดไว้จะสิ้นเปลืองมากกว่าเปิดครับ เหมือนขับรถเกียร์ 3 ลากเกียร์ไปเรื่อยๆ
บันทึกการเข้า

  Provincial Electricity Authority
Leng
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 96



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 16:36:02 »


สรุปคือถ้า ไฟ O/D Off ติด แปลว่า เปิดการทำงานการปิดใช้เกียร์สุดท้าย ซึ่งจะลดเกียร์เหลือ 3
แต่ถ้าไฟ O/D Off ไม่ติด แปลว่า ปิดการทำงานการปิดใช้เกียร์สุดท้าย ซึ่งจะ 4 เต็มจำนวนเกียร์

เข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

เห็นบางคนบอกว่า เปิดให้ไฟ O/D Off ติดไว้จะดีถ้าวิ่งในเมือง ถ้านอกเมืองอัตราเร่งคงที่ให้ กดให้ไฟดับ ถูกเปล่า งง กันใหญ่
บันทึกการเข้า

boon1983
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 16:49:53 »

คืออย่างงี้ O/D off  ทำงานมันจะมีไฟขึ้นโชว์ ...ถ้า on เมื่อไหร่ มันจะมี 3 เกียร ไว้เวลาแซงรอบเครื่องจะสูงขึ้น
              O/D off  ไม่ทำงานมันจะไม่มีไฟขึ้นโชว์...ถ้า off จะไม่มีไฟโชว์ ก็ใช้งานได้ปกติคือวิ่งจนถึงเกียร 4

 งงไหม 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 เมษายน 2551 16:55:30 โดย เด็กน้อยคอยเติมลม » บันทึกการเข้า
boon1983
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 16:59:31 »

ไฟ O/D off ที่โชว์..ไม่ได้..หมายความว่า เมื่อไฟ  O/D off  โชว์ แสดงว่ามันไม่ทำงาน.. น่ะ (แต่น่ะจะหมายความว่าตอนนี้กำลัง off เกียร์สุดท้ายอยู่ทำให้จาก 4 เกียร์ เหลือ 3 เกียร์ แทนไง)

ไม่รู้ว่าเข้าใจอย่างนี้ใช่ไหม
บันทึกการเข้า
Leng
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 96



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 17:30:14 »

ปวดเฮดเนอะ
บันทึกการเข้า

in@PZ
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,524



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 17:45:05 »

 
บันทึกการเข้า

New.
Web Administrator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,024


Love me, love my AE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 18:22:53 »

OVER DRIVE มีประโยชน์อย่างไร แล้วจะใช้ตอนไหนถึงจะดี

จากหนังสือยานยนต์ เล่ม 388 ประจำเดือน กันยายน 2541

                ความหมายจริง ๆ ของคำว่า ?Overdrive Ratio? คือ "อัตราทดเฟืองเกียร์ที่ทำให้เพลากลางหมุนได้เร็วกว่าเพลาขับตัวเมนของเกียร์? จึงช่วยให้ใช้รองเครื่องต่ำลงและรถวิ่งเร็วขึ้น ซึ่งตามความหมายนี้ก็พอจะถือได้ว่า พวกเฟืองเกียร์ที่มีอัตราทดต่ำกว่า 1 นั้นเป็นเกียร์ Overdrive ส่วนผลงานของมันจะเป็นอย่างไร ได้ผลมากน้อยขนาดไหน ก็จะต้องขึ้นอยู่กับกำลังเครื่อง อัตราทดเฟืองท้ายเส้นรอบวงยาง น้ำหนักและรูปทรงของรถประกอบกัน

                จุดประสงค์หลักของการใช้งานเกียร์โอเวอร์ไดรว์ คือ ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ให้ทำงานน้อยลงกว่าเกียร์อัตราทดปกติเมื่อขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่เท่ากัน เพื่อเป็นการลดความสึกหรอและมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลงอย่างเช่น ในเกียร์ 4 ที่มีอัตราทดเกียร์ 1.000 เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่อง 3,400 รอบต่อนาที แต่พอใช้เกียร์ 5 ที่มีอัตราทดเพียง 0.850 ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. เท่ากัน ก็อาจจะใช้รอบเครื่องรถยนต์เพียงแค่ 2,800 รอบต่อนาที ย่อมมีการสึกหรอและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องยนต์ที่ทำงาน 3,400 รอบต่อนาทีแต่นั้นหมายถึงว่าเราจะต้องวิ่งด้วยความเร็วคงที่เพราะถ้ามีการเร่งแซงและเปลี่ยนแปลงความเร็วบ่อย ๆ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเกียร์ 5 หรือ เกียร์โอเวอร์ไดรว์นี้จะสร้างความประหยัดให้เสมอไป เนื่องจากเกียร์ 5 จะมีอัตราเร่งน้อยกว่าเกียร์ 4 ดังนั้นเมื่อมีการ การเร่งแซงคนขับจึงต้องกดคันเร่งลึกกว่าและนานกว่าเพื่อเรียกแรงม้าแรงบิดออกมาใช้งาน เหมือนกับตอนออกรถซึ่งถ้าออกด้วยเกียร์ 1 กดคันเร่งเบา ๆ ก็ออกตัวไปได้แล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนมาออกตัวด้วยเกียร์ 3 ก็จะต้องกดคันเร่งลึกกว่าเดิมเกียร์ 3 ซึ่งมีอัตราทดต่ำกว่าเกียร์ 1 ในความเร็วเท่ากันก็ใช้รอบเครื่องน้อยกว่า แต่การออกรถด้วยเกียร์ 3 มันไม่ได้ลดการสึกหรอและให้ความประหยัด เหมือกับการออกรถด้วยเกียร์ 1 เลย

                ด้วยเหตุนี้หากคิดจะใช้เกียร์ Over drive ให้ได้ประโยชน์จริง ๆ ก็จะต้องใช้ให้เป็น และใช้ให้ถูกวิธีด้วย

ใช้ให้ถูกวิธี

                ในการใช้เกียร์ Overdrive ให้ได้ผลเต็มที่นั้น ประการแรกคือต้องใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพการจราจร อย่างเช่น การขับขี่ในเมืองที่ใช้ความเร็วต่ำ มีการเร่งและหยุดบ่อย ๆ แบบนี้ไม่ควรเร็วต่ำ มีการเร่งและหยุดบ่อย ๆ แบบนี้ไม่ควรใช้ ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติที่มีปุ่มเปิด-ปิด ให้ใช้จังหวะ OD off จนกระทั้งเจอทางโล่ง สามารถใช้ความเร็วได้เกินกว่า 60-80 กม./ชม. (ขึ้นอยู่กับกำลังเครื่องยนต์) จึงค่อยกดสิวทซ์ OD on เพื่อให้เกียร์เปลี่ยนเป็น Overdrive

                พวกรถเกียร์อัตโนมัติที่มีเกียร์ Over drive จะพยายามอยู่ในตำแหน่งเกียร์สูงสุดเท่าที่จะสามารถ รถบางรุ่นนั้นขนาดคลานด้วยความเร็ว 40 กม./ชม. ยังไม่ยอมเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำเลยก็มี แบบนี้นอกจากทำให้แรงบิดเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น แทนที่จะเกิดความประหยัดตามความมุ่งหมาย หรือพวกรถเกียร์ธรรมดา เมื่อใช้เกียร์ Overdrive ในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำมาก ๆ จะไม่มีผลเฉพาะอัตราเร่งกับอัตราสิ้นเปลืองเท่านั้น ยังทำให้ชุดขับเคลื่อนและระบบส่งกำลังตลอดจนเครื่องยนต์เกิดชำรุดเสียหายได้อีกด้วย

ใช้ในการแซง

                เมื่อขับอยู่ในช่วงความเร็วประมาณ 60-100 กม./ชม. โดยขับเคลื่อนอยู่ในจังหวะเกียร์ Overdrive และมีความต้องการแซงรถคันข้างหน้าแบบไม่รีบร้อยเร่งด้วยอะไรมากนัก ควรกดสวิทช์เป็น OD off เพื่อเปลี่ยนเกียร์ลงมาเป็นเกียร์ต่ำก่อน แล้วกดคันเร่ง (เบา ๆ ) เพิ่มกำลังเครื่องแซงขึ้นไป พอพ้นหรือหมดความจำเป็นแล้วจึงค่อยกดสวิทช์เปลี่ยนกลับมาเป็น OD on ตามเดิม วิธีนี้จะรวดเร็วและประหยัดกว่าการเร่งแซงทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในเกียร์ Overdrive ซึ่งจะอืดอาดใช้เวลาในการแซงนานกว่า วิธีนี้จะทำให้การแซง ?นิ่มนวล? กว่าการกดคันเร่งลึกให้เกียร์ Kick Down เปลี่ยนกลับเป็นเกียร์ต่ำ เพราะการคิกดาวน์นั้นเครื่องยนต์จะมีรอบสูง อัตราเร่งรุนแรงกระชากกระชั้นเกินความจำเป็น ซึ่งก็จะนำไปสู่การสึกหรอและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเปล่าประโยชน์ (อีกแล้ว)

โอเวอร์ไดรว์ในที่คับขัน

                พวกเกียร์ Overdrive มีอัตราทดเกียร์ต่ำ ทำให้เครื่องยนต์ไม่มีเอนจิ้นเบรค ดังนั้นในการเบรกจะใช้ระยะเบรกยาวกว่าปกติด้วยเหตุนี้เพื่อความปลอดภัยและช่วยให้ใช้ระยะในการเบรกสั้นลง เวลาที่ขับรถในจุดคับขัน เช่น ขับลงทางลาด ลงสะพาน หรืออยู่ในจุดบอดไม่เห็นทางข้างหน้า ควรจะเปลี่ยนกลับมาใช้เกียร์ต่ำ โดยกดสวิทซ์เป็นตำแหน่ง OD off อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอาจเพิ่มขึ้นอีกครั้งละสิบยี่สิบตังค์ แต่ขอให้นึกเทียบกับค่าซ่อมรถเนื่องจากไปสะกิดบั้นท้ายคันอื่นแล้วจะรู้สึกกว่าคุ้มกว่ากันเยอะ โดยเฉพาะรถที่ใช้ระบบเบรค ABS ซึ่งปกติระยะเบรกก็จะยาวกว่ารถที่ไม่มี ABS อยู่แล้ว มาผสมโรงกับจังหวะเกียร์โอเวอร์ไดรว์อีกก็จะไปกันใหญ่ เบรคกันไม่ค่อยทัน ในบางครั้งเราจึงควรกดสวิทช์เป็น OD off ให้ลดลงมาเป็นเกียร์ต่ำเพื่อใช้ ?เอนจิ้นเบรค? มาช่วยลดความเร็วของรถด้วยอีกทางหนึ่ง

                ทำนองเดียวกันเวลาขับรถเขาโค้งด้วยความเร็ว ถ้าเรากดสวิทช์เป็น   OD  off    ลดเกียร์ลง จะเกิดเอนจิ้นเบรคช่วยให้การทรงตัวของรถดีขึ้น สร้างความมั่นใจได้มากกว่า อีกทั้งสามารถเร่งเครื่องพาตัวรถออกจากโค้งได้รวดเร็วกว่าอีกด้วย การลดเกียร์ลงมาจะให้ความปลอดภัยได้เหนือกว่า หรือหากไปเจอเหตุกะทันหันกลางโค้งก็จะสามารถเบรกชะลอรถและเร่งส่งบังคับควบคุมรถได้ง่ายขึ้น
บันทึกการเข้า

AE92 เดิมๆ เครื่องก็ไม่แรง เชิญแซงได้เลย...
New.
Web Administrator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,024


Love me, love my AE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 18:34:35 »

อ่อ.. อ้างอิงตามคู่มือโตโยต้าระบุว่า

ควรเปิดสวิทซ์โอเวอร์ไดรฟ์อยู่ในตำแหน่ง ON เพื่อการขับขี่
อย่างประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์เดินได้เงียบ


และ

หากมีการเปลี่ยนกลับไปกลับมาบ่อยๆ ระหว่างเกียร์ 3 และโอเวอร์ไดรฟ์
ควรจะปิดโอเวอร์ไดรฟ์ "O/D OFF" ในการขับขึ้นเขาที่ไม่สูงมากนัก
หลังจากนั้นเมื่อวิ่งทางเรียบจึงกดสวิทซ์โอเวอร์ไดรฟ์ "ON" อีกครั้ง
บันทึกการเข้า

AE92 เดิมๆ เครื่องก็ไม่แรง เชิญแซงได้เลย...
SMIRF 101
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,570


ข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่รู้แต่วินาทีนั้น "ฉันอิสระ"


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 19:27:46 »

ปิดมี3เกียรเปิดมี4เกียร
บันทึกการเข้า
[[Badd]]
Web Administrator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: มากเกินบรรยาย


トヨタ カローラ 1.6 GTi


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 02 เมษายน 2551 20:25:35 »

ไฟโชว์ทำงาน 3 เกียร์
ไฟไม่โชว์ทำงาน 4 เกียร์

ส่วนอื่น ๆ อ่านข้างบนครับ ละเอียดเลย
บันทึกการเข้า

"ขำขำคลับ"
Lee Racing 086-063-7714
จะจบไหม
http://www.facebook.com/aeracingclub
Moon_night
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,215


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 03 เมษายน 2551 11:59:06 »

ลองใช้บ่อยๆ จะรู้ครับว่ามันใช้ยังไง แล้วสนุกแค่ไหน
สำหรับผมแล้วผมใช้จนคล่อง
เวลาซัดรีบๆ o\d ช่วยได้เยอะครับรวมทั้งการเลื่อนมาที่ตำแหน่ง 2 ด้วย
ใช้มันให้เหมือนเกียร์ธรรมดา มันก็จะสนุกครับและช่วยเรื่องความปลอดภัยได้มากทีเดียว
และที่สำคัญเกียร์จะสีกหรือน้อยกว่าจากการที่เราไม่ได้กระแทกคันเร่งเพื่อเปลี่ยนเกียร์กระทันหัน ทำให้เวลาเหยียบคันเร่งเกียร์ไม่กระชากมาก
บันทึกการเข้า
ร้านสยามแก๊ส 4a-fte
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 988


ไม่สนิท อย่าล้อเล่น


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 03 เมษายน 2551 12:42:33 »

เซพรูปมาจากคุณอากง แห่งพันทิป

บันทึกการเข้า
sack
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 312


EE90+4AGE auto


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 03 เมษายน 2551 13:10:04 »

ถูกต้องคร้าบบ มันส์มากกับการขับบนทางคดเคี้ยว ลาดชัน O/D on บ้าง off บ้าง ก็คล้ายขัยเกียร์ธรรมดาหละครับ
ยิ่งกับ mode spot(power) เร่งได้ดั่งใจ(น้ำมันก็หายดั้งใจ)
ยิ่งขดเคี้ยวชันมากจนบางครั้งต้องโยกมาที่ 2 ด้วยซ้ำ(เพื่อให้เกียร์มันดึงเวลาลงเขา)
ใครบอกขับ Auto ไม่มันส์ แสดงว่ายังไม่เจอของจริงครับ
(แต่ดูคู๋มือด้วยก็ดีครับ ก่อนโยกเล่น เกียร์จะได้อยู่กับเรานานน ทางที่ดีก็ขับแบบธรรมดาดีกว่าครับ) 

บันทึกการเข้า

20th Aniversary Corolla EE90&AE92 (1989-2009)
Leng
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 96



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 03 เมษายน 2551 17:11:58 »

ขอบคุณทุกๆคน มากๆเลยครับ ได้ความรู้แน่นเลย ต่อไปก็จะได้ลองใช้ O/D ลุยยยยยยสู้กับสามล้อ 555+ ขอบคุณอีกครั้งครับ
บันทึกการเข้า

ตั้ม_NT.Z#003
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,316


เต็มที่ เต็มใจ ให้ประชาชน


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 03 เมษายน 2551 17:26:10 »

ผมก็คนนึงที่ใช้ ออโต้ ครับ มีสองคัน ก็ ออโต้ทั้งสองคัน ครับ มันส์ดีครับ ยิ่งขับลงเขา หรือทางโค้งๆ( บ้านผมอยู่ จ.น่าน ดอยเยอะมาก ) ต้องลองใช้แล้วจะเข้าใจครับแล้วทีนี้จะสนุกกับมันมากขึ้นครับ
บันทึกการเข้า


"If You Want Peace, Prepare For War"
"แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์"
หน้า: [1] 2  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!