AE. Racing Club
28 มีนาคม 2024 16:04:37 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความร้อนขึ้นสูง  (อ่าน 8172 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
THanasak
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,863


อิอิ...ลายไม้..ทำเอง


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2017 08:56:48 »

สอบถามหน่อยครับความร้อนรถผมเออี100ขึ้นสูงมากเกือบแตะขีดแดงตลอดเวลา
จะลองไล่ดูเองก่อนว่าเป็นที่อะไรครับตอนนี้เหลือล้างหม้อน้ำกับเช็ควาล์วน้ำว่าเสียหรือเปล่า
อยากขอคำแนะนำว่าถอดวาล์น้ำออกมาอย้างไรได้ครับ พอดีช่างที่เคยทำเขาย้ายไปอยู่ทึ่อืนแล้วครับ
ขอบคุณล่วงหนัาครับ
บันทึกการเข้า
THanasak
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,863


อิอิ...ลายไม้..ทำเอง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2017 08:13:27 »

ล่าสุดเมื่อวานไปล้างหม้อน้ำมาแล้วดูเหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อยแต่ความร้อนก็ยังสูงอยู่
อยากถอดวาล์วน้ำมาต้มดูว่าเสียหรือเปล่าแต่ถอดไม่เป็น ขอคำแนะนำหน่อยครับ
บันทึกการเข้า
janejer
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 135



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2017 20:36:33 »

ตามนี้ครับ https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=8&cad=rja&uact=8&ved=0ahUKEwi7k4y-p6TUAhVKKY8KHZhYD9wQFghBMAc&url=http%3A%2F%2Fwww.aeracingclub.net%2Fforums%2Findex.php%3Ftopic%3D88044.0&usg=AFQjCNHgAxnlfl5gSWzl0LcNaUkA0YY9oA&sig2=peUGDcXktpld6usSgZ2oEQ
บันทึกการเข้า
tcassano
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2017 14:04:09 »

ผมไม่ใช้วาล์วน้ำครับ ถอดทิ้งเลย (คือกลัวว่ามันจะเสียด้วยอาการไม่เปิด เคยเจอปัญหานี้จาก civic เลยเข็ดครับ)

ความร้อนสูง แรงดันในหม้อน้ำ ก็จะสูงตามนะครับ พอแรงดันมากๆ มันก็จะดันน้ำออกจากหม้อพัก ออกจากหม้อน้ำ ระวังน้ำจะขาดระบบครับ

ความร้อนสูง อาจเกิดจากสาเหตุอื่นด้วย
1. ปั๊มน้ำเสื่อม (เปลี่ยนของใหม่ ราคาพันกว่าต้นๆ)
2. ประเก็นฝาสูบมีรอยรั่ว (สังเกตว่า ถ้าเครื่องร้อนแล้วดันน้ำออกจากหม้อพักหรือไม่ ใช้รถต้องเติมน้ำบ่อยแค่ไหน ปกติของผมเป็นเดือนๆ ก็ไม่ยุบครับ)
 
 ลองหา เกจความร้อนแบบเห็นตัวเลขอุณหภูมิ ติดแยกอีกตัวไว้เปรียบเทียบครับ (งบซัก 1100 ถ้าทำเอง) ของผมใช้ 101 ผมเอาหัววัดไว้ที่ท่อยางน้ำขาออกจากเครื่องโดยตัดท่อยางใส่ fitting เลยครับ ความร้อนที่เห็นจะอยู่ที่ 70-80C ใช้งานกลางวัน ถ้าอากาศร้อนมากๆ รถติดๆ จะไปถึง 90 แต่ไม่เกินนั้นครับ ผมใส่อีกตัวเพราะไม่ค่อยไว้ใจเกจติดรถเพราะมันเก่ามากแล้วและก็เคยเจอกับตัวมาว่า เครื่องร้อนแค่ไหนมัน ก็จะขึ้นแค่ครึ่งเดียวไม่เกินจากนั้น จนกว่าเครื่องจะ overheat มันถึงจะตีขึ้นสุด... แต่มันก็ยังใช้ได้นะครับ

 มีประสบการณ์ตรงอีกครั้งครับ
ไม่รู้ว่า ท่อยางเส้นล่างใต้หม้อน้ำแตกครับ ขับไปซัก 2 กิโลกว่า  เหลือบเห็นตัวเกจที่ติดเพิ่ม เข็มมันยังไม่ตีขึ้นเหมือนทุกครั้ง ตัวติดรถก็ขึ้นแค่ครึ่งเดียวเหมือนเดิมเลยผมรีบเลี้ยวเข้าอู่ ช่างดูก็เจอเลยครับ น้ำแห้ง ไม่มีน้ำผ่านตัวหัววัด ..... นี่คือเกจตัวเลข มันช่วยไว้เลยครับ




บันทึกการเข้า
tcassano
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2017 14:15:09 »

จะลงรูปให้ดูตังอย่าง แต่มันโหลดไม่ได้ครับ server เต็ม
บันทึกการเข้า
THanasak
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,863


อิอิ...ลายไม้..ทำเอง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2017 08:36:38 »

มาเล่าสู่กันฟังจะได้ระวังจากประสพการณ์ตรงของผมเอง
...รถผมใช้งานมาปกติโดยดีตลอด จนวันนึงได้ยินเสียงเดือดที่หม้อพักน้ำตอนดับเครื่องถามช่างบอกว่าให้เปลี่ยนฝาหม้อน้ำแต่ไม่ได้เปลี่ยนซักที(ไม่มีเวลาไปซื้อ)
คอยดูน้ำว่าหายก็เติม จนพลาดลืมเติมน้ไแห้งยังดีมองเกย์ความร้อนจลอดเวลา(เป็นนิสัย)ขึ้นแดงเลยจอดพักเย็นแล้วเติมน้ำ....สตาร์ทติดขับต่อ
ทำอย่างนี้มาเป็นเดือนจนสุดท้ายความร้อนขึ้นตลอดเวลา(เกินครึ่ง)ไปเปลี่ยนฝาหม้อน้ำคิดว่าคงหาน...แต่...ไม่หายลองถอดหม้อน้ไปล้างเพราะหม้อน้ำอาจจะตัน
ดีขึ้นนิดหน่อย(ขึ้นแต่ช้าลง) สุดท้ายได้ยินเสียงดังฟีดๆใต้เครื่อง ปั๊มน้ำรั่วแล้วเปลี่ยนปั๊มน้ำเลยบอกช่างถอดวาล์วน้ำมาดู....วาล์วน้ำตายแบบไม่เปิด
...สรุปเครื่องร้อนเพราะน้ำแห้งจนฮีทมาจากฝาหม้อน้ำ ลามไปทำให้วาล์วตาย เครื่องร้อนจัดตลอดเวลา ปั๊มน้ำรั่ว ระหว่านั้นเครื่องร้อนจนสายหัวเทียนรั่วต้องเปลี่ยนใหม่
ถ้าเปลี่ยนฝาหม้อน้ำซะตั้งแต่วันนั้นค่าใช้จ่าย.....100บาทจบ
แต่นี่
ฝาหม้อน้้ำ             100 บาท
สายหัวเทียน(เทียบ) 600 บาท
เปลี่ยนปั๊มน้ำ          950 บาท
ค่าแรง+อื่นๆ          800 บาท
วาล์วน้ำ     ยังไม้ได้ใส่ถอดออกเลยตอนนี้
.
สรุปยอด            2450 บาท
เสียน้อยเสียยากแถมขับรถลำบากมาเป็นเดือนครับ                      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กรกฎาคม 2017 10:22:18 โดย THanasak » บันทึกการเข้า
janejer
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 135



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2017 20:27:19 »

ไม่เป็นไรครับถือว่าน้อยผมเซ็งตรงพอน้ำแห้งรอไม่นานเติมน้ำเรียบร้อยครับฝาโก่งเสียไปหลายพันครับ  สุดยอด
บันทึกการเข้า
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2017 03:32:48 »

 อ่านหนังสือ เรื่องความร้อนที่ถาม เป็นปัญหาโลกแตกที่ทุกคนต้องเจอ ไม่ว่ารถเก่าหรือใหม่ป้ายแดงก็เหอะ หากไม่ระมัดระวังมีสิทธิถูกหวยได้ทั้งนั้น ยิ่งประเภทขับๆๆๆลูกเดียวไม่ดูอะไรเลย วันดีคืนดีเจอแน่ครับ ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง  อ่านหนังสือ

สามสิบกว่าปีที่ผ่านมา สอนให้บทเรียนผมมากมายเกี่ยวแก่เรื่องนี้ วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปรกติ ปรกติตีสามแทบทุกวัน หากไม่เหนื่อยมาก วันนี้คงไม่เหนื่อยมากแน่ เมื่อวานออกจากอบ.ไปทำงานที่มุกดาหาร เสร็จตีเข้าโคราชทำงานต่อวันนี้แล้วค่อยกลับอบ. ก่อนเตรียมงานประจำขอแบ่งปันเรื่องนี้ โดยเฉพาะเพื่อนสมาชิกที่ใช้สามห่วงแล้วต้องเจอกับปัญหานี้เหมือนผมในอดีตที่เคยเจอะเจอมา อ้อขับสามห่วงมาครับ ตลอดเส้นทาง ไม่มีแม้แต่คันเดียวที่ขึ้นหน้ารถผมได้ครับ อยากเรียนว่ารถยี่สิบกว่าปีที่ใช้อยู่ สภาพใกล้เคียงป้ายแดงครับ เพราะผมใช้รถไม่เคยให้มันเสีย พบปัญหาก็ให้ช่างเช็คถอดเปลี่ยอะไหล่ทันที ช่วงล่างก็ยังนิ่งเหมือนรถป้ายแดงครับน้องเรื่องนิด แต่มันเกี่ยวกับที่ถามนะ โอเคว่ากันต่อ

 เหอๆๆ อย่าลืมว่ารถที่เราใช้นี้ อายุมันเกินยีสิบปีกันทุกคันแล้วนะ จึงเป็นเรื่องปรกติที่ต้องพบกับปัญหานี้ หากท่านไม่ดูแลสุดที่รักของท่านให้ดี เอาเป็นว่าผมเรียนแบบนี้แล้วกัน สำหรับผมแล้วทำจนเป็นนิสัยครับ ทุกๆเช้า จะเปิดฝากระโปรงรถทุกคันที่ใช้ตรวจดูน้ำในหม้อน้ำ หม้อพักน้ำ นมค. นมก.ออโต้ นม.เบรก นม.เพาเวอร์ ลมยางฯลฯ เป็นการตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนทุกครั้ง แล้วถึงสตาร์ทอุ่นเครื่องจนเป็นนิสัยก่อนใช้หรือออกจากบ้าน ซึ่งบ้านผมอยู่ชายทุ่งริมนาไม่รบกวนใครเลย บางทีก็สตาร์ททั้งสี่คันแม้ใช้แค่คันเดียว

 หรือแม้แต่วันนี้ เด๋วชาวบ้านเค้าตื่น ผมก็ต้องออกไปทำแบบนี้แม้จะไม่ได้นอนบ้านในคืนนี้ก็ตาม ผมมีบ้านที่คนอื่นสร้างไว้ให้ทั่วประเทศ ดูแลให้เป็นอย่างดี แค่เราจ่ายเงินก็เข้าไปพักผ่อนหลับนอนได้สบายๆเหมือนบ้านเรา ค่ำไหนก็นอนที่นั่นทั่วประเทศ เพราะเดินทางทั่วประเทศ ลองทำแบบที่ว่าให้เป็นนิสัยดูสิ แม้แต่ลูกผมก็สอนให้เค้าทำแบบนี้ทุกครั้งก่อนใช้รถย้ำนะครับ ต้องทำทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถออกไปครับ ต้องตรวจดูก่อนสตาร์ท ดังนั้นใครก็ตามที่ใช้รถแล้วไม่ทำแบบที่ว่า ถือได้ว่าตกอยู่ในความประมาทอย่างสูงสุดแล้ว  ดังนั้น หากผมจะถามกลับจขกท. ก็น่าจะได้คำตอบว่าไม่ทำหรือนานๆทำทีใช่ไหม หากใช่ก็อ่านต่อ การที่คุณละเลย ทำให้คุณไม่ทราบหรือไม่รู้ถึงความผิดปรกติของรถคุณ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นทีละนิดๆ สะสมไปเรื่อยๆ เมื่อเลยจุดที่โรงงานเขากำหนดให้ต้องเซอร์วิส ปัญหาก็จะตามมาครับ สาเหตุมันก็มีแค่นี้จริงๆ ประเด็นก็คือคุณปล่อยให้มันเลยเถิดไปถึงไหนกันล่ะ หากมาก ก็งานเข้างานงอก ลามเหมือนไฟลามทุ่งไปถึงส่วนอื่นด้วย แค่ปัญหาความร้อนแค่ที่ถามนี่ล่ะ หากน้อยก็แล้วแต่อาการ ทั้งนี้เริ่มจากการละเลยดังที่บอกแต่แรกไง รึใครจะว่าไม่ใช่ ผมใช้รถมากว่าสามสิบปีกับรถสิบคัน ปัจจุบันเหลือห้าคันจอดปลดระวางหนึ่งคัน อีกสี่คันใช้งานสลับกัน ไม่มีสักวัน หรือไม่มีสักครั้งเลย ยกเว้นรถป้ายแดงที่เคยใช้จะมีมั่งที่ต้องรีบไปจริงๆแต่ก็น้อยครั้งมากที่จะไม่ทำแบบที่บอก ที่จะไม่ทำแบบว่า แม้รถป้ายแดง ก็ต้องเปิดฝากระโปรงดูเหมือนกันครับ วันดีคืนดี น้ำหาย เราก็เห็น ไม่ใช่สักว่าแต่ใช้ๆๆ จนมันพัง อย่าประมาทนะครับแม้มีประกันศูนย์แสนกิโลหรือสามปี แต่ถามว่าคุณจะคาดหวังอะไรจากศูนย์บริการล่ะ เข้าไปเช็คเปลี่ยนถ่ายนมค.กรอง มันยังไม่เปลี่ยให้แต่เก็บตังค์เหมือนที่เป็นข่าวไง ซึ่งมันทำมานานจนถูกจับได้และเป็นข่าว แต่ผมทราบมาเป็นสิบๆปีแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงไม่สนเรื่องประกันนี้ รถทุกคันดูแลเองหมด เสาร์อาทิตย์นี้ ผมก็เปลี่ยนถ่ายนมค.นม.เกียรออโต้ กรอง หัวเชื้อนาโน(ผมใช้ต่อเนื่องกันมาตลอดกว่าสามสิบปีแล้ว ปัจจุบันพัฒนาก้าวกระโดดไปเยอะครับ ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ราคาแพงของเรา) เจ้าเจท จัมโบ้ และเจโฟร์ ด้วยตัวเองกับลูกชาย สามคันทำสองวันแต่เราใช้เองสบายๆครับ ทำแบบนี้มาโดยตลอดกับรถทุกคัน ดังนั้นเวลาเราขายต่อก็ได้ราคา ไม่ขาดทุนมาก หรือได้กำไรด้วยซ้ำ ญาติที่ซื้อไป มันก็ไม่กลับมาต่อว่าเรา เพราะเราดูแลรักษารถเป็นอย่างดีทุกคัน สำคัญคุณทำจนเป็นนิสัยหรือไม่ตามที่บอกเท่านั้นเอง  หากทำก็จะพบกับปัญหาก่อนที่จะเจอปัญหาครับ หากไม่ทำก็จะเจอปัญหาแล้วก็ต้องมาถามปัญหาโลกแตกนี้ครับ

ทีนี้มันตอบแทนกันไม่ได้ในรถแต่ละคัน ปัญหามันไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะรถมือสองที่เราซื้อมา ต้องมาตามเก็บตามแก้กันครับ บางคันมีมากน้อยต่างกัน แต่ในรถญี่ปุ่นแก้ง่ายกว่ารถยุโรปครับ ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาผมใชรถยุโรปกับออสเตรเลีย(โฮลเด้นท์) มาโดยตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนใช้รถญี่ปุ่นแค่ประมาณเจ็ดถึงแปดปีย้อนกับไปแค่นั้นเองครับ รถยุโรปก็จอดสงบนิ่งมาประมาณแปดปีแล้ว เมื่อผมเปลี่ยนมาใช้สามห่วงเมื่อประมาณแปดปีที่ผ่านมา ตอนนั้นเป็นเครื่องคาบูสองอีเกียรมือ สภาพตอนที่ได้มากริ๊บครับ วิ่งไปทั่วไทยหลายแสนโลเหมือนกัน แล้วก็เจอกับปัญหาความร้อนแบบจขกท.ด้วย  แต่ด้วยการที่ผมใข้รถแล้วทำแบบที่บอกแต่ต้น แม้เจอปัญหาก็แก้ได้ครับ ซึ่งก็แก้กันอยู่นานพอควรเลยล่ะ สุดท้ายเมื่อแก้จบ ก็ต้องยกเครื่องลงทั้งที่เปอร์เซนต์เครื่องเกิน 90 เปอร์เซนต์ ยกสี่เอออโต้แทนใช้มาจนปัจจุบันครับ  อยากรู้ว่าผมทำอย่างไร ก็ลองติดตามย้อนกลับไปอ่านกระทู้ที่ผมเคยบอกเคยเล่าอาการปัญหาความร้อนดังที่ถาม จนแก้ได้หายขาดในกระทู้เก่าๆครับ มีแน่น่าจะย้อนหลังจากนี้ไปประมาณหกเจ็ดปีนะหากจำไม่ผิด อยู่ในนั้นล่ะ วันนี้แบ่งปันแลกเปลี่ยนแค่นี้ครับ  คำนับ:emotn คำนับ
บันทึกการเข้า

jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2017 04:00:09 »

 แหะ.. แหะ.. ลืมๆ อีกข้อ อย่าถอดวาล์น้ำนะครับ ไม่ดีกะเครื่องแน่ หากจำเป็นต้องเปลี่ยน ให้เบิกห้าง ของแท้สถานเดียวนะครับ อย่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย เปลี่ยนทีใช้กันจนลืมครับ ห้ามถอดเด็ดขาด ทำกลับมาตามของเดิมครับ ใครที่คิดว่าถอดแล้วดี ผมเรียนว่าไม่ใช่นะครับ เครื่องยนต์ต้องการอุณหภูมิทำงาน เย็นไปก็ไม่ดี ร้อนไปก็ไม่ได้ วาวล์น้ำมีหน้าที่ควบคุมตรงนี้ครับ เกี่ยวโดยตรงกับโลหะวิทยา การขยายตัวหดตัวของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ครับ เพราะฉะนั้นห้ามถอด

ใครที่ว่าถอดแล้วดี แสดงว่าเครื่องยนต์หรือระบบระบายความร้อนของรถคันนั้นมีปัญหาครับ ให้คิดแบบนี้เลย มีปัญหาใหญ่ที่ต้องหาให้เจอก่อนที่จะลามไปมากกว่านี้ครับ

เมื่อวานผมทำงานเสร็จก็ไปกินข้าวริมโขง แดดเปรี้ยงๆเลยมะวาน ผมออกจากอบ.ประมาณเจ็ดโมงนิดๆ ถึงมุกเกือบเก้าโมง ภรรยามาด้วยจอดรถหน้าศาลจังหวัดมุกดาหารไม่ดับเครื่องเปิดแอร์ ภรรยานั่งรอในรถตลอด จนเสร็จกว่าห้าโมงเช้า ถึงร้านอาหารมันไม่มีร่มเลยที่ร้านอาหาร แดดขนาดนั้น กว่าจะกินเข้าเสร็จผมว่าในรถร้อนเป็นไฟแน่ เลยไม่ดับเครื่องยนต์เปิดแอร์ทิ้งไว้  แต่ล็อครถไปนั่งกินข้าวยังได้ยินเสียงคอมแอร์ตัดต่อสลับกับพัดลมสปีดสูงทำงานสลับกันอ้อ รถผมไม่ถอดวาวน์น้ำนะครับความร้อนไม่เกินแปดสิบ  จนบ่ายโมงกว่าๆถึงได้เดินทางเข้าโคราช ถึงโคราชหกโมงเย็น รวมสิบเอ็ดชั่วโมงที่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์เลยครับ สิบเอ็ดชั่วโมงติดต่อกันต่อเนื่องกัน ความร้อนของน้ำหากจอดเปิดแอร์อยู่นิ่งๆไม่เกินแปดสิบองศา แต่เวลาวิ่งหากใช้ความเร็วสุงมากๆรอบเครื่องมากๆระดับห้าหกพันแช่ยาวๆ ก็เกินเก้าสิบครับ ประมาณเก้าสิบห้า มาร้อนสุดตอนจอดเติมแก๊ส ขึ้นไปถึงร้อยองศาเลย สรุปสิบเอ็ดชั่วโมงดับเครื่องแค่หนเดียวครับตอนเติมแก๊สที่พิมายก่อนถึงโคราช ผมวิ่งน้ำมันกะแก๊ส ตอนเติมน้ำมันไม่ดับเครื่อง อยากบอกว่าหากรถมันผิดปรกติ เราจะเห็นก่อน แค่ดูแลหมั่นดูทุกครั้งก่อนใช้ จะเห็นปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิด แล้วแก้ซะ จะใช้รถสบายๆแบบผม แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม โชคดีกันทุกคน แก้ปัญหาที่ถามให้จบครับ คำนับ


บันทึกการเข้า

jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2017 06:56:33 »

 อ่านหนังสือ ผมมีเวลาอยู่นิดหนึ่ง อยากบอกว่าการเสื่อมการเสียของรถแทบทุกอาการ ส่วนใหญ่แล้วมันจะมีอาการเตือนให้เห็นก่อนทุกๆที่ทุกๆรายการที่มันจะต้องเซอร์วิส กระทู้นี้ว่าด้วยเรื่องความร้อนที่ผิดปรกติ  เมื่อวานผมเดินทางจากโคราชกลับอบ.ถึงประมาณห้าโมงเย็น รวมทริปนี้ใช้รถไปประมาณพันกิโล ตอนไปนั้นได้เล่าให้ฟังไปแล้ว แต่ตอนกลับนี่สิ มันเริ่มแสดงอาการเตือนให้เรารู้ครับ ความร้อนที่เคยขึ้นเป็นปรกติ กลับขึ้นสูงผิดปรกติ ตอนมามันก็ยืนที่ประมาณแปดสิบห้า แต่ขากลับนี่สิ มันขึ้นไปถึงเก้าสิบแปดเลย ทั้งที่ใช้ความเร็วไม่ต่างกัน แต่วันนี้ต้องไปทำงานที่เดชอุดมอีกรอให้ร้านถ่ายเอกสารเปิด มาเล่าประสพการณ์แบ่งปันกัน เผื่อคนที่ยังไม่รู้หรือจะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ นี่ไงที่ผมบอกว่ามันจะเริ่มเตือนก่อน  แหะ.. แหะ..

 ไม่รู้ไม่ชี้ มาเข้าประเด็นกันเลย วันนี้คงวิ่งไม่ไกลมาก น่าจะมีร้อยกว่าโล จะลองจับอาการนี้อีกครั้ง แล้วค่อยจัดวันเสาร์อาทิตย์ ไม่ก็ใช้อีกคัน ในเบื้องต้น เปิดฝาหม้อน้ำเห็นตะกรันเพียบ ซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง ไว้วันเสาร์คงจัดล้างหม้อน้ำ นับครั้งสุดท้ายที่ทำกะระยะที่วิ่ง น่าจะถึงเวลาล้างแล้ว

นี่ไงที่ผมเรียนว่า เราต้องดูแลมัน อย่าสักแต่ว่าใช้ๆลูกเดียวไง ทุกอย่างเขาจะบอกจะเตือนเสมอและตลอดเวลาด้วย อยู่ที่เราจะจับความผิดปรกติหรือความเปลี่ยนแปลงนั้นได้ไหม อ้อ..... ยกธงขาว อย่าได้หวังพึ่งเกจ์ความร้อนติดรถเป็นอันขาด เกจ์ของโตโยต้าทุกคันที่ผมใช้หรือเคยใช้ แม่มชี้ตรงกลางตลอดเวลาครับ อุณหภูิเปลี่ยนแปลงไปสิบยี่สิบองศามันก็ยังอยู่กลางครับ เวลาฮีทที สะบัดทีเดียวแดงโลด ตอนนั้นยากที่จะเอาอยู่แล้ว ใครเคยฮีทบนเข้าย่อมทราบและรู้ความรู้สึกนั้นดีแน่ ผมเคยเจอถึงได้มาแบ่งปันให้อ่านกันเท่าที่จะมีเวลาครับ ที่จะสื่อก็คือ เราควรหาเกจ์แยกมาจับมาวัดต่างหากนอกเหนือจากเกจ์ที่มีติดรถ สำหรับผมแล้วจะต้องมีเกจ์วัดโวลต์ และความร้อนหม้อน้ำไม่ขาดครับ จำเป็นมากอย่าได้มองข้ามครับ แต่เจ้าเจทมันมีกล่องคอนโทรลแยกต่างหาก ซึ่งแจ้งการทำงานของเครื่องประมาณสี่สิบกว่าอย่าง หนึ่งในนั้นเป็นความร้อนจริงของน้ำในเครื่องยนต์ ผมถึงได้ทราบการทำงานของมันตลอดเวลาครับ

เมื่อวานอากาศอาจจะร้อนมากก็เป็นได้ ตอนกลางคืนผมออกมาทำธุระข้างนอก มันก็ขึ้นไม่เกินแปดสิบสามองศา วันนี้ก็น่าจะรู้ แต่ที่แน่ๆ วันเสาร์จัดล้างหม้อน้ำแน่ๆ เราใช้เค้า ก็ต้องดูแลเค้ายามเจ็บป่วยไม่สบาย ซึ่งเป็นปรกติธรรมอาครับ เช้านี้แบ่งปันแค่นี้ครับ  คำนับ
บันทึกการเข้า

Alpha
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,009


Doraemon 3S


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2017 17:20:29 »

ผมลงทุนทำใหม่หมด เย็นฉ่ำเลยทีนี้

1. หม้อน้ำอลูมิเนียม 2 ชั้น 36mm (บางคนเรียกว่าสองชั้นครึ่ง)
2. วาวน้ำ 76.5 องศา
3. ใส่เกจ์วัดความร้อนเข้าไปทั้งขาเข้าขาออก ขาออกดูความร้อนเครื่อง ขาเข้าดูพัดลมหม้อน้ำ (ถ้ามันเจ๊ง ความร้อนก็ขึ้น)
4. ใส่คูลแลนท์ Toyota
5. ให้ช่างวายริ่งระบบพัดลมใหม่ ตอนแรกพีดลมสเต็ปแรกไม่ทำงาน ก็ให้ทำงานสองสเต็ป

เคยขึ้นไปสูงสุด วัดจากเกจ์ Defi (เก๊) 93 องศา เมื่อเดือนพฤศภาคม แต่ปกติก็อยู่แถวๆ 86 องศา ไม่ค่อยเกิน 90 องศา
บันทึกการเข้า

EE90 Chaser Edition
TAOTAO-TZ#056-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,805


ไอ๊หย่ะ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2017 13:59:21 »

แหะ.. แหะ.. ลืมๆ อีกข้อ อย่าถอดวาล์น้ำนะครับ ไม่ดีกะเครื่องแน่ หากจำเป็นต้องเปลี่ยน ให้เบิกห้าง ของแท้สถานเดียวนะครับ อย่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย เปลี่ยนทีใช้กันจนลืมครับ ห้ามถอดเด็ดขาด ทำกลับมาตามของเดิมครับ ใครที่คิดว่าถอดแล้วดี ผมเรียนว่าไม่ใช่นะครับ เครื่องยนต์ต้องการอุณหภูมิทำงาน เย็นไปก็ไม่ดี ร้อนไปก็ไม่ได้ วาวล์น้ำมีหน้าที่ควบคุมตรงนี้ครับ เกี่ยวโดยตรงกับโลหะวิทยา การขยายตัวหดตัวของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ครับ เพราะฉะนั้นห้ามถอด

ใครที่ว่าถอดแล้วดี แสดงว่าเครื่องยนต์หรือระบบระบายความร้อนของรถคันนั้นมีปัญหาครับ ให้คิดแบบนี้เลย มีปัญหาใหญ่ที่ต้องหาให้เจอก่อนที่จะลามไปมากกว่านี้ครับ

เมื่อวานผมทำงานเสร็จก็ไปกินข้าวริมโขง แดดเปรี้ยงๆเลยมะวาน ผมออกจากอบ.ประมาณเจ็ดโมงนิดๆ ถึงมุกเกือบเก้าโมง ภรรยามาด้วยจอดรถหน้าศาลจังหวัดมุกดาหารไม่ดับเครื่องเปิดแอร์ ภรรยานั่งรอในรถตลอด จนเสร็จกว่าห้าโมงเช้า ถึงร้านอาหารมันไม่มีร่มเลยที่ร้านอาหาร แดดขนาดนั้น กว่าจะกินเข้าเสร็จผมว่าในรถร้อนเป็นไฟแน่ เลยไม่ดับเครื่องยนต์เปิดแอร์ทิ้งไว้  แต่ล็อครถไปนั่งกินข้าวยังได้ยินเสียงคอมแอร์ตัดต่อสลับกับพัดลมสปีดสูงทำงานสลับกันอ้อ รถผมไม่ถอดวาวน์น้ำนะครับความร้อนไม่เกินแปดสิบ  จนบ่ายโมงกว่าๆถึงได้เดินทางเข้าโคราช ถึงโคราชหกโมงเย็น รวมสิบเอ็ดชั่วโมงที่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์เลยครับ สิบเอ็ดชั่วโมงติดต่อกันต่อเนื่องกัน ความร้อนของน้ำหากจอดเปิดแอร์อยู่นิ่งๆไม่เกินแปดสิบองศา แต่เวลาวิ่งหากใช้ความเร็วสุงมากๆรอบเครื่องมากๆระดับห้าหกพันแช่ยาวๆ ก็เกินเก้าสิบครับ ประมาณเก้าสิบห้า มาร้อนสุดตอนจอดเติมแก๊ส ขึ้นไปถึงร้อยองศาเลย สรุปสิบเอ็ดชั่วโมงดับเครื่องแค่หนเดียวครับตอนเติมแก๊สที่พิมายก่อนถึงโคราช ผมวิ่งน้ำมันกะแก๊ส ตอนเติมน้ำมันไม่ดับเครื่อง อยากบอกว่าหากรถมันผิดปรกติ เราจะเห็นก่อน แค่ดูแลหมั่นดูทุกครั้งก่อนใช้ จะเห็นปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิด แล้วแก้ซะ จะใช้รถสบายๆแบบผม แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม โชคดีกันทุกคน แก้ปัญหาที่ถามให้จบครับ คำนับ




ผมลองถอดแล้ว ฝาดำ 20 V แย่มากที่รอบสูง ยกเครื่องเลย
บันทึกการเข้า

ย่องเบา....นินจา..ผลุบ..โผล่KENG SERVICE & MODIFY อู่เล็กๆเด็กๆทำถิ่นพระประแดง-คู่สร้าง แว๊นนนน KYB SR 3,999 บาท http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=144724.msg3137300#msg3137300
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2017 06:47:36 »

แหะ.. แหะ.. ลืมๆ อีกข้อ อย่าถอดวาล์น้ำนะครับ ไม่ดีกะเครื่องแน่ หากจำเป็นต้องเปลี่ยน ให้เบิกห้าง ของแท้สถานเดียวนะครับ อย่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย เปลี่ยนทีใช้กันจนลืมครับ ห้ามถอดเด็ดขาด ทำกลับมาตามของเดิมครับ ใครที่คิดว่าถอดแล้วดี ผมเรียนว่าไม่ใช่นะครับ เครื่องยนต์ต้องการอุณหภูมิทำงาน เย็นไปก็ไม่ดี ร้อนไปก็ไม่ได้ วาวล์น้ำมีหน้าที่ควบคุมตรงนี้ครับ เกี่ยวโดยตรงกับโลหะวิทยา การขยายตัวหดตัวของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ครับ เพราะฉะนั้นห้ามถอด

ใครที่ว่าถอดแล้วดี แสดงว่าเครื่องยนต์หรือระบบระบายความร้อนของรถคันนั้นมีปัญหาครับ ให้คิดแบบนี้เลย มีปัญหาใหญ่ที่ต้องหาให้เจอก่อนที่จะลามไปมากกว่านี้ครับ

เมื่อวานผมทำงานเสร็จก็ไปกินข้าวริมโขง แดดเปรี้ยงๆเลยมะวาน ผมออกจากอบ.ประมาณเจ็ดโมงนิดๆ ถึงมุกเกือบเก้าโมง ภรรยามาด้วยจอดรถหน้าศาลจังหวัดมุกดาหารไม่ดับเครื่องเปิดแอร์ ภรรยานั่งรอในรถตลอด จนเสร็จกว่าห้าโมงเช้า ถึงร้านอาหารมันไม่มีร่มเลยที่ร้านอาหาร แดดขนาดนั้น กว่าจะกินเข้าเสร็จผมว่าในรถร้อนเป็นไฟแน่ เลยไม่ดับเครื่องยนต์เปิดแอร์ทิ้งไว้  แต่ล็อครถไปนั่งกินข้าวยังได้ยินเสียงคอมแอร์ตัดต่อสลับกับพัดลมสปีดสูงทำงานสลับกันอ้อ รถผมไม่ถอดวาวน์น้ำนะครับความร้อนไม่เกินแปดสิบ  จนบ่ายโมงกว่าๆถึงได้เดินทางเข้าโคราช ถึงโคราชหกโมงเย็น รวมสิบเอ็ดชั่วโมงที่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์เลยครับ สิบเอ็ดชั่วโมงติดต่อกันต่อเนื่องกัน ความร้อนของน้ำหากจอดเปิดแอร์อยู่นิ่งๆไม่เกินแปดสิบองศา แต่เวลาวิ่งหากใช้ความเร็วสุงมากๆรอบเครื่องมากๆระดับห้าหกพันแช่ยาวๆ ก็เกินเก้าสิบครับ ประมาณเก้าสิบห้า มาร้อนสุดตอนจอดเติมแก๊ส ขึ้นไปถึงร้อยองศาเลย สรุปสิบเอ็ดชั่วโมงดับเครื่องแค่หนเดียวครับตอนเติมแก๊สที่พิมายก่อนถึงโคราช ผมวิ่งน้ำมันกะแก๊ส ตอนเติมน้ำมันไม่ดับเครื่อง อยากบอกว่าหากรถมันผิดปรกติ เราจะเห็นก่อน แค่ดูแลหมั่นดูทุกครั้งก่อนใช้ จะเห็นปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิด แล้วแก้ซะ จะใช้รถสบายๆแบบผม แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม โชคดีกันทุกคน แก้ปัญหาที่ถามให้จบครับ คำนับ





ผมลองถอดแล้ว ฝาดำ 20 V แย่มากที่รอบสูง ยกเครื่องเลย

 อินเลิฟ น้าเต๋า สบายดีเน้อ ยังใช้สามห่วงอยู่ไหมครับ ว่างก็เข้ามาบ่อยๆนะครับ ผมเล่นเฟสบ่เป็น 555 พวกเทพๆเค้าเลิกใช้กันไปเกือบหมดแล้วครับ ผมก็ตามไปเก็บอะไหล่ที่เค้าแยกมากองไว้ที่บ้าน เหอะๆๆๆ เพราะไม่คิดจะขาย ถึงวันหนึ่งก็จะปลดระวาง(หมายถึงไม่เอามาขับ) แต่จะจอดเก็บไว้เหมือนในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวทั้งสองคัน ในอนาคตไม่แน่อาจจะซื้อมาเพิ่มอีก แต่ไปเห็นซีรี่ 7 ของลูกความ แล้วมันเกิดกิเลสนิสๆ แต่ลองเรียบๆเคียงๆดูแล้วมันจุกจิกเอาเรื่อง เลยชะลอโครงการก่อน555 เพิ่งผิดหวังจากคราวมาเจสต้าไปสดๆร้อนๆ ลงทุนเปลี่ยนเส้นทางจากเชียงใหม่เข้ามาดูตัวเป็นๆที่กทม.เลย คันนี้พอผ่านผมเท่านั้น เขาขายได้ทันทีเลย คงทิ้งช่วงซักระยะ กะทำโรงรถใหม่ให้เสร็จก่อน ดีใจนะที่น้าเข้ามา ไม่เจ็บไม่จนกันทุกคนครับ  คำนับ
บันทึกการเข้า

jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2017 06:55:17 »

น้าเต๋า และเพื่อน พ้อง น้อง พี่ ให้ระวัง น้ำนะครับตอนนี้ ที่บ้านผมหลายเดือนแล้ว ริมน้ำมันไม่ลดซักทีปริมๆประมาณเกือบครึ่งล้อ(สามห่วง) ผมเองก็เพิ่งทราบว่า ที่อยุธยานั้น ชาวบ้านเขาจมน้ำ ชั้นหนึ่งมิดหลังคา ชั้นสองต้องเอาแคร่มาต่อนานต่อเนื่องกันมามากว่าห้าเดือนแล้ว แต่แม่มไม่ออกข่าวเลย น่าเวทนาและน่าสงสารจริงๆ แต่งานพ่อหลวงผ่านแล้ว เขาจะทนไม่ไหว เปิดประตูน้ำ น้ากะพรรคพวก มีสิทธิจมใต้บาดาลชัวร์  ยกธงขาว

https://www.youtube.com/watch?v=nB1BGnhT674&t=578s
บันทึกการเข้า

jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2017 08:13:24 »

 อ่านหนังสือ วันนี้ก็สี่เดือนพอดิบพอดี ผมเพิ่งกลับจากเชียงราย เอาเจ้าเจทไประยะทางไปกลับอุบลเชียงรายบวกทำงานที่แพร่ทั้งขาไปและกลับ ประมาณสองพันกิโล เมื่อวานเดินทางกลับออกจากเชียงรายแปดโมงครึ่ง แวะทำงานที่เรือนจำกลางจังหวัดแพร่ เสร็จแล้วเดินทางกลับ ถึงอุบลเมื่อคืนเกือบสามทุ่ม จากคราวที่แล้วที่มาตอบเรื่องปัญหาความร้อน ตอนไปถึงเชียงราย เช้าเช็คเปิดฝาหม้อน้ำ มันมีสนิมสีน้ำตาลเต็มไปหมด แล้วอาการก็วูปวาปๆให้เห็นแต่ไม่ค่อยมากนัก เข้าเรื่องกันเลย

 ไม่รู้ไม่ชี้ อีตอนขากลับนี่สิ ผมสังเกตอุณหภูมิน้ำ ตอนออกจากเชียงรายนั้นเต็มไปด้วยทะเลหมอก ทัศนะวิสัยปิด มองเห็นทางแค่ระยะห้าสิบถึงหนึ่งร้อยเมตร ขาวโพนไปหมด อุณหภูมิน้ำอยู่ที่ต่ำกว่าแปดสิบ พอขึ้นเขาพะเยา งาว ก็เพิ่มขึ้นเป็นแปดสิบแปด มีเก้าสิบบวกเป็นบางช่วง แต่ลงเร็ว พอถึงแพร่ผมสังเกตว่ามันลดลงช้ามาก ค้างอยู่ที่แปดสิบห้าเป็นสิบยี่สิบนาที แต่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์ ทำงานเสร็จก็ออกเดินทางต่อเลย มาเห็นชัดตอนเข้าพิษณุโลก เขาค้อนี่สิ ความร้อนมันขึ้นไปเก้าสิบแปดองศาแตะๆร้อยเลย ช่วงเชนเกียรไต่ขึ้นเขา ผมใช้ความเร็วทางชันไต่ขึ้นเขาเก้าสิบถึงร้อยยี่สิบโดยตลอด มันขึ้นไปเกือบร้อยเลย นี่ไงผมถึงบอกว่ามันจะเตือนเราก่อน รถผมมีกล่องแจ้งสถานะนี้ที่จอแสดงผลตลอดเวลา เลยรู้อาการผิดปรกตินี้ แต่พอผมใช้เกียรสูงรอบต่ำลง มันก็ลดลงมาต่ำกว่าเก้าสิบองศา พอเร่งก็ยืนที่เก้าสิบเอ็ดถึงเก้าสิบสามช่วงที่ไม่ชันมากนัก อันนี้่ยังไม่เท่าไร
 เวียนหัว ปิดปาก ตอนใกล้จะถึงด่านน้ำหนาวขาลงเขานี่สิ โค้งมันไม่หักศอกมากนัก ที่เกียรสูงรอบต่ำมันไปได้เกินร้อยยี่ทั้งที่ยกคันเร่งสุด ความเร็วลงเขามันไหลได้ขนาดนั้น แต่ต้องแตะเบรกประคองไว้ ที่ผิดปรกติคือ อุณหภูมิน้ำมันลดลงมาเหลือแค่หกสิบสามองศา เหวอ เข็มติดรถลดลงเกือบสุด ทั้งที่มันจะอยู่กลางตลอด พรุ่งนี้คงได้ถอดวาวล์น้ำมาเช็ค ว่ามันเปิดค้างไหม วันนี่พักสักวัน เลยนึกได้ว่าเข้ามาเขียนแบ่งปันสาเหตุนี้ให้สาธารณะน่าจะดี น่าจะมีประโยชน์ อาการนี้กับรถที่ใช้ผ่านมือมาสิบคัน ผมเพิ่งเคยเห็น แต่ยังไม่กล้าฟันธงลงไปว่าเกิดจากอะไร ที่บนเขานั่นข้างนอกอาจจะเย็นมากในช่วงนั้น แล้วลงเนินตลอดเกือบสิบกิโล แต่ทุกครั้งที่ผ่านตรงนั้นมันก็ไม่เคยเป็นนี่หว่า หลายสิบครั้งแล้วที่ผ่านตรงนั้นด้วยรถที่ใช้หลายคัน ครั้งนี้แปลก พรุ่งนี้คงถอดมาเช็คตรวจดูอย่างละเอียด แล้วถือโอกาสล้างหม้อน้ำอีกครั้ง

 อ่านหนังสือ เห็นไหมครับ แค่สี่เดือน กับระยะทางน่าจะหลายหมื่นกิโลนะ(ไม่ได้จดไว้) ผมต้องกลับมาล้างหม้อน้ำอีกรอบ จะเห็นได้ว่า มันเตือนเราตลอดนะ สำคัญหมั่นสังเกตุความผิดปรกติให้ได้ก็พอ ทริ๊ปนี้สามวัน สองพันกว่านิดๆกิโล ตลอดปลอดภัยครับ ราบรื่นตลอด รถก็ไปกลับถึงมาตภูมิได้อย่างปลอดภัย โอเค ไม่เจ็บไม่จนครับไปแระ คำนับ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!