คือคาบูเรเตอร์ทั่วไปเนี่ย...มันจะมีอยู่ 2 ลิ้นใช่มั้ยครับ
 ลิ้นนึงเปิดที่รอบต่ำ(ไม่ใช่รอบเดินเบานะครับ) 
 พอเราทำความเร็วไปถึงจุดหนึ่ง เช่นความเร็วรอบสัก 3000 รอบต่อนาที
 ไอ้เจ้าลิ้นสอง(ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีขนาดใหญ่กว่า)ก็จะเปิดครับ
 รถก็จะมีกำลังมากขึ้น 
 ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นต้นกำเนิดไอเดียของ T-VIS เลยมั้งครับ
 ทีนี้สมัยนู้นนนนเลย(นานจัด) ผมขับ FIAT 125P ครับ
 แล้วก็เคยคิดอยากจะโมฯด้วยการวางเว็บเบอร์เหมือนกันครับ
 สมัยนั้นลูกนึง 7000-8000 บาทครับ (แต่สำหรับค่าเงินสมัยนั้น ก็อ้วกแตกครับ)
 โดยผมได้หาอ่านจากนิตยสารนักเลงรถ พบว่า ที่น่าเล่นคือตระกูล DCNF และ DCOE ครับ
 แล้วผมก็จำฝังใจเลย ว่าไอ้สองตัวเนี้ยน่าเล่น 
 จนโตขึ้นมา ก็ไปเจอบทความที่เกี่ยวข้องกับคาบูเว็บเบอร์เข้าให้ครับ 
 มีคนบอกว่า ไอ้เจ้าสองตัวนี่ "จูนยากบรรลัย" ครับ
 แล้วหลายเสียงหลายบทความ ก็บอกว่า พวกคาร์บเดี่ยวแบบตั้ง แต่เปิดพร้อมกันสองลิ้นน่าเล่นกว่าครับ
 คือมันก็เอาลงไปแทนคาร์บทั่วไปที่เราใช้งานได้เลยครับ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องยนต์ 2E และ 4A-F
 ค่าตัวก็ไม่ได้ดุดันอะไรเลยครับ ประมาณ 8 พันบาทเท่านั้นเอง (ผมเทียบกับ 40-45DCOE ค่าตัวเกือบสองหมื่น แล้วต้องซื้อเป็นคู่นั่นน่ะครับ)
 ที่สำคัญ คาบูรุ่นนี้ ยังถูกนำไปผลิตเป็นคาบู OEM ติดรถยนต์หลายรุ่นหลายยี่ห้อด้วยกัน เช่น OPEL GT (ค.ศ. 1970)
 รวมทั้ง(ถ้าจำไม่ผิด) เมื่อมันถูกนำไปขายในบางประเทศ(เช่นออสเตรเลีย) มันยังอยู่ในบอดี้ของ Holly ด้วยครับ
 คาบูรุ่นนี้ในเมืองไทยเคยมีประวัติถูกสั่งนำเข้าเอามาโมดิฟาย Datsun ลงแข่งแรลลี่ด้วยครับ
 ที่สำคัญ ตัวมันเองได้รับการออกแบบให้ใช้ได้กับเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1200cc-2300cc แน่ะครับ
 (ผมถึงบอกว่าเหมาะกับ 2E กับ 4A-F ไง) 
 
  เสียงมันไม่ได้เห่าดังเหมือนพวกเล่นปากแตรหรอกครับ แต่เสียงเปลี่ยนไปแน่นอน (ผมเคยเอาคลิปมาลงไว้ทีนึงแล้ว)