เท่าที่สังเกต ก้อยังไม่รุว่าจะจบยังไงนะคับ แต่อย่างน้อยก้อยังได้รับความยุติธรรมบ้าง

กมธ.ตร.ชี้ยิง'วิศวกร'อ้างค้ายาตร.ทำเกินกว่าเหตุ (ไอเอ็นเอ็น)
คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลง สรุปผลพิจารณาคดียิงวิศวกร ที่ จ.สกลนคร ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ไม่เชื่อ ยาเสพติดเป็นของผู้ตาย
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของ นายส่งเสริม แสงฤทธิ์ กรณี นายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ วิศวกรประจำนิคมอุตสาหกรรม จ.ระยอง บุตรชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สกลนคร ยิงเสียชีวิต และยัดย้าบ้าอย่างไม่เป็นธรรม ว่า ขณะนี้ กมธ. ได้พิจารณาเรื่องนี้เสร็จสิ้นแล้ว โดยผลการพิจารณานั้น ทาง กมธ. เห็นว่า เจ้าหน้าตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนในการตรวจค้น จับกุม ใช้อาวุธยิงไปที่รถยนต์ จน นายไพโรจน์ ถึงแก่ความตาย โดยไม่มีการตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนว่า รถยนต์คันดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวนั้นไม่ปรากฏว่าผู้ตายและพวกมีการต่อสู้ขัดขวางแต่อย่างใด ดังนั้นการขยายผลดังกล่าวจึงนับว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการป้องกันไม่เหมาะสมแก่พฤติการณ์ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 83 วรรคท้าย และถือว่ามีการกระทำการเกินกว่าเหตุ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ นิติรัฐ นิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังขัดต่อประมวลจริยธรรม และจรรยาบรรณของตำรวจ
นายสมชาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กมธ. ยังเห็นว่า ไม่เชื่อว่ายาเสพติดจำนวน 198 เม็ด เป็นของผู้ตาย เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้น บิดาของผู้ตายได้เข้าไปตรวจดูทรัพย์สินถึง 2 ครั้งโดยรายละเอียด ก็ไม่พบอะไร ซึ่งหากวัตถุดังกล่าวอยู่ในกางเกงบ็อกเซอร์ของผู้ตายจริง ก็น่าจะตกหล่นตั้งแต่ที่มีการเคลื่อนย้ายศพแล้ว เพราะผู้ตายนอนอยู่ในสภาพที่ห้อยขา
อย่างไรก็ตามหลัง จากนี้ ทาง กมธ. จะมีการแจ้งผลการพิจารณาให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทราบ เพื่อดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดีนะคับที่เจอนายแบบนี้ คนผิดว่าไปตามผิด ไม่ปกป้อง
อัพเดทคดีนี้ วันที่8 เมษายน 2555คับ

รายงานข่าวจากไทยรัฐออนไล ขอบคุณมา ณ ที่นี้คับ
http://www.thairath.co.th/content/region/258739สภาทนายเข้าร่วมไต่สวนชันสูตรศพ คดีตำรวจสกลนคร ไล่ยิงวิศวกรเสียชีวิต หากไต่สวนฟังได้ว่า วิสามัญฯ ของ ตร.ชอบด้วยหน้าที่ ก็จะไม่มีความผิด แต่ถ้าไม่ชอบ จะถูกฟ้องแพ่ง-อาญา และดำเนินคดี...
วันที่ 8 พ.ค.55 นายเกรียงศักดิ์ วรมงคลชัย อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการและโฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสกลนคร ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง นายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ ซึ่งมีอาชีพเป็นวิศวกรฝ่ายบริการของบริษัท มาร์เคม-อิ มาจ จำกัด ขณะขับรถฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ทะเบียน ญฎ 3884 กทม. พาเพื่อนหญิงไปรับประทานอาหาร โดยมี นายเด่นชัย แสงฤทธิ์ พี่ชาย นั่งโดยสารไปด้วย นายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ ถูกยิงที่ท้ายทอย เสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2554 เวลาประมาณ 21.30 น. บริเวณถนนทางเข้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท. หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ปรากฏว่า ได้มี นายส่งเสริม แสงฤทธิ์ บิดาของนายไพโรจน์ ร้องขอความช่วยเหลือต่อ นายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความ เพื่อขอให้ดำเนินการทางคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งนายกสภาทนายความได้รับเรื่องไว้ส่งให้คณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นควร ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ นายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ กับพวก โดยได้มีการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในการคัดค้านการไต่สวนการตายตามกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ต่อศาลจังหวัดสกลนคร ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ช.2/2555 ซึ่งศาลจังหวัดสกลนครจะเริ่มไต่สวนคดีตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป
โฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า ส่วนการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องนั้น สภาทนายความจะได้รวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเชิงลึกในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า คดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพนี้ หากการไต่สวนฟังได้ว่าเป็นการกระทำวิสามัญฆาตกรรมของเจ้าพนักงานที่ชอบด้วยหน้าที่ ตำรวจชุดจับกุมจะไม่มีความผิด เพราะหากศาลไต่สวนแล้วพบว่าผู้ตายไม่ใช่คนร้าย หรือตำรวจทำวิสามัญฯ โดยไม่ชอบ ทางญาติผู้ตายก็จะฟ้องเป็นคดีแพ่ง คดีอาญา ขณะที่ตำรวจชุดจับกุมก็จะถูกดำเนินคดีอาญาอีกส่วนหนึ่งด้วย และก่อนนี้ บิดาของผู้ตายได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อกองปราบปรามแล้ว.