ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab

ขอถาม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ว่าเอ็งเข้าใจไหมว่ามันเป็นธีม
ของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกในการชุมนุม
ครั้งนั้นอยู่แล้ว (9 ตุลาคม) และในการชุมนุม
มันมีการพูดถึงสังคมที่เป็นปิตาธิปไตย
พูดถึงเรื่องความเป็นอยู่ การกดขี่
กดทับจากสังคมชายเป็นใหญ่
มันเลยย้อนไปที่ประเด็นว่าทำไมร่างกาย
ของผู้หญิงอย่างหัวนม
มันถึงเป็นปัญหามากกว่าของผู้ชาย
ข้าไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไป
ถอดเสื้อแบบนี้ในทุกที่ แต่ข้าคิดว่า
มันควรจะแฟร์ ควรจะเท่ากัน ถ้าผู้ชาย
ไม่จำเป็นต้องใส่บรา ผู้หญิงก็ไม่จำเป็น
ต้องใส่ และในบางบริบทที่ผู้ชาย
ถอดเสื้อได้ ผู้หญิงก็ต้องทำได้เหมือนกัน
และข้าคิดว่าเพราะร่างกายของผู้หญิง
มันเป็นปัญหาเนี่ยแหละ ข้าถึงสามารถ
ใช้มันออกมาพูดแทนสัญญะได้
ในความเห็นข้า การเปลือยการประท้วง
มันเป็นวิธีที่สันติที่สุดแล้ว เพราะมัน
ไม่ได้สร้างความเสียหาย
ให้กับชีวิตทรัพย์สินของใครเลย
มันเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว แต่ข้าว่า
สังคมไทยมองสิ่งที่ข้าทำว่าผิดแปลก
ไปจากขนบ หรือแปลกแยกจาก
ชีวิตประจำวันของทุกคนมากกว่า
และในสังคมเราไม่ได้มีพื้นฐาน
การวิเคราะห์ที่หนักแน่นพอ ที่จะคิดว่า
อะไรมันถูกมันผิด อะไรมันทำได้
หรือทำไม่ได้ โดยไม่มองเรื่องเหตุผล
หรือบริบทประกอบด้วย
คือสังคมเราไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับ
การตั้งคำถาม แล้วพอมันมีอะไรที่ผิดแปลก
ไปจากปกติของสังคม คนก็มักจะต่อต้าน
มันไว้ก่อน โดยไม่ได้มองให้รอบด้าน
ไอ้หนึ่งเอ็งน่าจะเข้าใจประเด็น
สิทธิเหนือร่างกายตัวเองเลยแหละ
จริงๆ หลายอย่างที่ข้าทำพ่อแม่
ก็ไม่ได้ชอบนะ และถ้าข้าไปถามเขา
เรื่องการแก้ผ้าประท้วง เขาก็คงไม่อยาก
ให้ข้าทำเหมือนกัน เขาคงไม่ได้เห็นด้วย
หรือมองเหมือนข้า แต่มันเป็นแค่ความเห็น
ของข้าไง ข้าบรรลุนิติภาวะแล้ว
และข้าตัดสินใจอะไรในชีวิตข้าเองได้
แต่ถ้าเขาเตือนข้าก็ฟังนะ เพราะมันเป็น
ความเห็นหนึ่งจากคนที่หวังดีกับข้า
แต่ข้าฟังแล้วก็ต้องตัดสินใจเอง
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ถ้าถามว่า พ่อแม่อับอายแน่เลย
พ่อแม่จะพอใจหรอที่มีลูกแบบนี้
ข้ารู้สึกว่ามันเป็นสิทธิของข้าที่จะทำอะไร
และมันก็เป็นสิทธิของพ่อแม่เช่นกัน
ที่จะโอเคหรือไม่โอเค แต่ว่าเขาไม่มีสิทธิ
มาบอกว่าข้า ห้ามทำนู้นหรือทำนี่นะ
คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ผิด เขามีสิทธิ์เตือน
แต่คนที่จะตัดสินใจว่ามันผิดหรือไม่ผิด
มันคือตัวข้า สรุปชัดๆนะ ไอ้หนึ่ง
ตัวข้าเกิดมาไม่เคยใส่บรา และไม่มีใคร
มาบังคับให้ข้าใส่ได้ เพราะมันคือร่างกาย
ของข้า ปกติข้าอยู่คอนโด ข้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อ
อยู่แล้ว เวลาข้าลงไปซื้อของที่ร้านค้า
ชั้นล่างของคอนโด คนเขาก็เห็นแบบนี้
จนชินตา แต่เวลาข้าออกไปนอกคอนโด
ข้าก็หาาผ้ามาปิดหัวนม ข้ารู้ของข้า
เอ็งไม่ต้องสอน นามสกุลข้าก็ตั้งของข้าเอง
คือ พลอยประดับ ก็หัวนมของข้าไง
พลอยแดงสองเม็ด อิอิ
มีแค่พ่อกับแม่ของข้า ที่ข้าให้ร่วมใช้นามสกุล
ญาติโยม ฝั่งพ่อ และ ฝั่งแม่ของข้า
บอกเลยข้าตัดขาดหมดแล้ว
จะได้ไม่ต้องมา..ยุ่ง..กับชีวิตของข้า
Nattanan Ploypradab