เมื่อพูดถึงการวางแผนด้านการเงินและสุขภาพ หลายคนอาจลังเลว่าจะเลือกทำ
ประกันPA หรือ ประกันโรคร้ายแรง ดี เพราะทั้งสองแบบต่างก็มีจุดประสงค์เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินในยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่รายละเอียดความคุ้มครองนั้นแตกต่างกันพอสมควร
ประกันPA (Personal Accident Insurance) เป็นประกันอุบัติเหตุที่เน้นคุ้มครองเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุจากการทำงาน การเดินทาง หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันในชีวิตประจำวัน หากเกิดการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ประกันPA จะช่วยจ่ายค่าชดเชย รวมถึงค่ารักษาพยาบาลในบางกรณี เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์เดินทางบ่อย ทำงานเสี่ยง หรืออยากมีหลักประกันไว้สำหรับเหตุไม่คาดคิดในชีวิตประจำวัน
ในอีกด้านหนึ่ง ประกันโรคร้ายแรง (Critical Illness Insurance) เน้นคุ้มครองเมื่อถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจวาย ไตวาย หรือโรคเรื้อรังที่ต้องใช้เวลารักษานานและมีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อแพทย์ยืนยันการเจ็บป่วย บริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนให้ทันที ผู้เอาประกันสามารถนำไปใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล รายจ่ายประจำวัน หรือแม้แต่รองรับรายได้ที่หายไปในช่วงพักรักษาตัว
คำถามสำคัญคือ แล้วเลือกแบบไหนคุ้มกว่า? คำตอบขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน หากคุณกังวลเรื่องอุบัติเหตุในชีวิตประจำวันและอยากได้ความคุ้มครองฉับไว ประกันPA คือคำตอบ แต่ถ้ากังวลเกี่ยวกับโรคที่ต้องรักษาใช้เงินจำนวนมากในระยะยาว ประกันโรคร้ายแรง อาจตอบโจทย์มากกว่า
อย่างไรก็ตาม หลายคนเลือกทำทั้ง ประกันPA และ ประกันโรคร้ายแรง ควบคู่กัน เพื่อปิดทุกความเสี่ยงให้ครอบคลุมที่สุด เพราะอุบัติเหตุกับโรคร้ายแรงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และการมีหลักประกันทั้งสองแบบก็ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าจะมีเงินรองรับทุกสถานการณ์
สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ประกันPA หรือ
ประกันโรคร้ายแรง ต่างมีความคุ้มค่าในแบบของตัวเอง การเลือกขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล งบประมาณ และแผนชีวิตในอนาคตของคุณ
