เหรียญมีสองด้านเสมอครับ
เรื่องรถคันแรกมันเป็นนโยบายประชานิยมจากรัฐบาล
คนที่ได้ประโยชน์ ก็พวกที่จะซื้อรถอยู่แล้วอันนี้ได้ประโยชน์เต็มๆ หรือพวกอยากเป็นหนี้เพิ่มก็รับกรรมกันไป
และคนที่ได้ประโยชน์ อีกพวกก็พวก บ.ผลิตรถ อย่าบอกว่าได้แต่ ตัว บ. ผมว่าพนักงานที่ทำงานอยู่ใน บ. ก็ได้งานเพิ่ม มีรายได้เพิ่ม
และอีกมากมายที่ตามกันมาเป็นลูกโซ่ แม้กระทั้ง แม่ค้าหน้า บ.ผลิตรถยนต์ก็ได้ประโยชน์ จากการที่มีคนมาทำงานเพิ่มเลยครับ ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศษฐกิจ "แต่สิ่งที่ได้มากกับสิ่งที่รัฐบาลต้องจ่ายไป มันจะคุ้มค่ากันหรือไม่ อันนี้ตอบไม่ได้ครับ ต้องรอดูกันไป"(ส่วนตัวผมมองว่าไม่คุ้ม)
และที่บอกว่าให้ทำระบบขนส่ง ที่กรุงเทพ และปริมณฑล ให้ดี อย่าลืมไปว่า คนที่ได้ประโยชน์ คือคนเมืองเท่านั้นนะครับ แล้วคนที่อยู่ต่างจังหวัดได้อะไรจากการทำขนส่งที่กรุงเทพ และปริมณฑล ถ้าจะทำขนส่งที่กรุงเทพ และปริมณฑล ให้ดีๆ ผมขอแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาพัฒนาระบบรถไฟไทยให้มันดีกว่านี้ได้ไหม คนต่างจังหวัดจะได้ประโยชน์บ้าง
ปล.คงไม่มีใครใช้รถคันเดิม คันแรกและคันเดียวไปจนตายหรอกครับ สมมุตินะครับ ถ้าวันหนึ่ง ae ของเราๆ ท่านๆ ถูกชนจนซ่อมไม่ได้ ซ่อมไม่คุ้ม แล้วเราพอที่จะมีกำลังซื้อรถใหม่ พร้อมได้เงินคืนมาอีก 100000 บาท ผมว่าเราๆ ท่านๆ อาจต้องคิดหนักเหมือนกันว่าจะเลือกแบบไหน
ดีคับ^^เราคุยกันด้วยเหตุและผลกันคับอิอิ เรื่องขนส่งมวลชนที่ผมเอ่ยถึงแค่กรุงเทพและปริมลฑล เพราะในกระทู้นี้เราพูดถึงเรื่องรถติดกันด้วย
นั่นก้อคงหมายถึงกรุงเทพ^^ ซึ่งระบบขนส่งมวลชนทุกอย่างควรได้รับการพัฒนาคับ ทั่วประเทศเลย(ต้องขออภัยตรงนี้ด้วยคับ^^) ส่วนเรื่องคืนภาษีรถคันแรกนั้น
อย่างที่ผมกล่าวคับว่าเงินส่วนนี้มันมาจากภาษีทุกภาคส่วนของประเทศ แต่คนที่ได้รับประโยชน์มันเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของประเทศคับ^^ พนักงานโรงงานผลิตรถยนต์
รวมไปถึงSub contactที่รับผลิตชิ้นส่วนให้โรงงานผลิตรถยนต์ แม่ค้าแม่ขาย และอื่นๆ ส่วนคนที่ได้ออกรถใหม่ก้อจะมีคนที่มีฐานะดี(ได้ประโยชน์ไปกับเค้าด้วย)
คนระดับกลาง(เงินเดือนไม่เกิน50000บาท) ซึ่งมีปริมาณไม่มากเท่าไร เกรงว่ามันจะไม่คุ้มอย่างที่ท่านว่าคับ^^ แล้วคนที่มีรายได้ต่อเดือนไม่มากนัก อย่าง15000-
20000บาท แล้วไปออกรถเพราะโครงการนี้เนี่ย เยอะมาก อย่างเราๆท่านๆที่ใช้รถกันก้อรู้กันดีว่า การใช้รถมันมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกเยอะมากมาย พอมีโครงการนี้เกิดขึ้น
โอกาสที่ประเทศจะมีหนี้เสียหรือnplเยอะมาก โอกาสเสียงสูง ซึ่งมันกลายเป็นหนี้สาธารณะไปโดยปริยาย(เงินในส่วนที่คืน100000บาท) ทุกคนมีสิทธิ์ซื้อรถยนต์คับ
แต่ผมมองว่า...เค้าควรจะซื้อด้วยกำลังของตัวเองโดยที่รัฐไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ หนี้เสียสาธารณะของประเทศจะได้ไม่มากขึ้นคับ เพราะเมื่อเค้าผ่อนต่อกันไม่ไหว
มันไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของเค้าแล้วคับมันกระทบไปหมด ถ้าเอาเงินตรงนี้ไปพัฒนาด้านอื่นโดยไม่มีความเสี่ยงแต่ประชาชนได้รับประโยชน์เต็มที่ เช่นซื้อเครื่องมือแพทย์
ที่ทันสมัย ให้โรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ เป็นต้นคับ คนรายได้น้อยจริงๆ เวลาเจ็บป่วยแล้วต้องเข้ามารักษาโรงพยาบาลในกรุงเทพเช่นศิริราช จุฬา รามา
คนรายได้น้อยลำบากมากคับ เอาไปพัฒนาเรื่องสุขภาพของคนรายได้น้อยทั่วประเทศดีกว่าให้คนที่พอจะมีกินมาออกรถคันใหม่แล้วถ้าผ่อนไม่ไหวก้อเป็นหนี้เสีย
หรือถึงจะผ่อนไหวก้อเหนื่อยสาหัส แทนที่จะได้กินดีอยู่ดีในแต่ละเดือน รถเอาเงินไปกินหมด คือผมว่าน่าจะเอาเงินคืนภาษีรถยนต์ตรงนี้ ไปพัฒนาส่วนอื่นของประเทศ
ที่มันสำคัญกว่านี้ คุ้มค่ากว่านี้ น่าจะดีกว่า พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภายในประเทศให้เข้มแข็งก่อนดีกว่าคับ ตอนนี้คนในประเทศอ่อนแอ เดี๋ยวมันจะกลายเป็น"พ่อแม่รังแกฉัน"
คือเราหวังดีอยากให้เค้ามีรถใช้ แต่มันกลับกลายว่าเราไปเพิ่มความลำบากในการใช้ชีวิตให้เค้าไปโดยปริยายคับ^^