AE. Racing Club
23 กรกฎาคม 2568 02:58:43 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 4A-FE AUTO/MANUAL  (อ่าน 2932 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
laongfong
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 431



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 19 มีนาคม 2553 14:01:59 »

จากกระทู้ก่อนหน้านี้(ตอนนี้หาไม่เจอแล้ว แป๊บเดียวเอง)มีพี่ๆที่ใช้ 4A-FE Auto มาคุยกันเรื่องรอบกับความเร็วคือรอบเครื่องที่ 3000 จะได้ความเร็วที่ประมาณ 120-130 กัน ผมเลยมีข้อสงสัยว่าแล้วเกียร์ธรรมดารอบเครื่องเท่ากัน จะได้ความเร็วเท่ากันหรือใกล้เคียงกันหรือไม่ ในกรณีที่สภาพเครื่องพอๆกัน เพราะของผมเป็นเกียร์ธรรมดา ตอนถอยมาเมื่อ ส.ค ปีที่แล้ว รอบเครื่องที่ 3000 ก็จะได้ความเร็วเท่านี้ แต่มีปัญหาคือเครื่องร้อนแล้วรอบตกเอาไปเข้าอู่ช่างบอกว่าวัดรอบเสีย เลยเปลี่ยนวัดรอบแต่ไม่ใจว่าเปลี่ยนเฉพาะตัววัดรอบหรือว่า ทั้งไมล์ ราคา 1800 แต่ถามหาซากช่างบอกว่ายำเละไปหมดแล้ว..งง.งง อยูแต่เปลี่ยนแล้วก็ไม่หายนะขอรับ ที่หายเพราะล้างปีกผีเสื้อ
แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมาที่รอบเครื่อง 3000 รอบจะได้ความเร็ว 100-105 มันจะเกี่ยวกันมั๊ยขอรับพี่ๆน้องๆรบกวนวิเคระห์ให้หน่อยขอรับ..
บันทึกการเข้า
Corolla3Hoop
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 298



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 มีนาคม 2553 14:05:44 »

ถูกแล้วครับ 3000 ได้ ร้อยนึง
บันทึกการเข้า
ร้านสยามแก๊ส 4a-fte
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 988


ไม่สนิท อย่าล้อเล่น


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 มีนาคม 2553 14:12:17 »

ตอนเป็นออโต้ รอบ3000 วิ่งได้130
เกียร์ธรรมดา รอบ3000 วิ่งได้103

รอบดูจาก OBD ความเร็วดูจาก GPS
บันทึกการเข้า
สมถวิล@ปทุมNO.9
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,670


ลำปางไม่หนาวเท่าลำพัง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 มีนาคม 2553 14:12:24 »

เกียร์ออโต้ยาวๆกินรอบต่ำกว่าคับ 3000 รอบ นี่ประมาณ 120 ได้
บันทึกการเข้า
laongfong
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 431



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 มีนาคม 2553 14:38:52 »

ถูกแล้วครับ 3000 ได้ ร้อยนึง
โห..ทำมัยน้อยจัง..เป็นเพราะอะไรขอรับอยากได้คำอธิบายเพิ่ม..
แล้วถ้าจะให้ทำให้ได้เท่าเกียร์ออโต้จะทำได้หรือไม่ขอรับ
บันทึกการเข้า
plew_ch
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,245


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 19 มีนาคม 2553 14:59:00 »

ที่มันต่างกันมาจาก 2 สาเหตุ รถออกห้างป้ายแดงมันก็ต่างกันอยู่แล้ว
1.อัตราทดเกียร์ ต่างกัน เอาเกียร์สุกท้ายนะครับ (เกียร์ออโตที่เกียร์4 เกียร์ธรรมดาที่เกียร์ 5 )
2.อัตราทดเฟืองท้ายก็ต่างกัน
แม้เกียร์ออโตใช้รอบน้อยก็จริง แต่มันเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าเกียร์ธรรม
ส่วนจะทำให้รอบน้อยลง ก็ง่ายสุดคือใส่ยางที่เส้นรอบวงใหญ่ขึ้น ยากหน่อยก็เปลี่ยนเฟืองท้าย(มันอยู่ภานในเสื้อเกียร์)ให้อัตราทดจาก 4.058 ให้ค่าน้อยลง อย่างออโตอัตราทดอยู่ที่ 2.821 และผลที่ได้ ตอนรถออกตัวจะอึดลง
บันทึกการเข้า
DAY101T
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 337



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 19 มีนาคม 2553 23:56:07 »

ผม 4a fe auto วิ่ง 120 รอบเครื่อง 3000 รอบ พอดีครับ
บันทึกการเข้า

จารย์ยุ่น
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 570


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553 02:17:41 »

เก็บข้อมูลก่อน  เผื่อวาง 4A-FE
บันทึกการเข้า

กล้อง  Full Frame  แล้วไง  ถ่ายรูปสวยไม่ได้อยู่ที่กล้อง  มันอยู่ที่สมองและโอกาส
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553 08:05:22 »

     ๓๐๐๐ รอบ โอโต้มันทำความเร็วได้ ๑๒๐ บวกถึง ๑๓๐ ครับ ตอนวางใหม่ๆก็ปรับตัวเยอะทีเดียวในการขับ  ตอนนี้สบายแล้วครับ ผมว่าหากขับเป็นโอโต้ก็ประหยัดใกล้เคียงแมนวลนะครับ

    มะวานผมตีจากอุบล ไปสุรินทร์ แล้วก็กลับถึงอุบลประมาณ เกือบหกทุ่ม นั่งไปสามคน สัมภาระประมาณห้าหกสิบกิโล เติมเต็มถังที่ศรีสะเกษ(แก๊ส ลิตรละ ๑๑.๙๕)  เป็นเงินประมาณ ๓๗๐ บาท วิ่งถึงสุรินทร์ ขากลับ แวะเติมเต็มถังที่ศรีสะเกษ ระยะทางวิ่ง ๒๒๗ กิโล เติมไปเต็มถัง ๒๗๐ บาท ใช้ความเร็วเฉลี่ย ๑๒๐- ๑๕๐ ครับ ตกกิโลละ ๑.๑๘ บาท ทั้งขากลับเกียรหนึ่งสองเปลี่ยนเกียรที่ระดับ ๕๐๐๐ รอบอั๊พ เพราะมีฟอร์จูนมาเล่นด้วย แต่ไล่ผมไม่ทัน ผมกดที่เกียร์สามทิ้งขาดที่ ๑๕๐-๑๖๕ หลังจากนั้นก็ไม่มาใกล้อีก ก็ลดลงมาระดับ ๑๓๐-๑๔๐ จนถึงบ้าน ก็ยังได้ตัวเลขที่บอกนี่ล่ะ


แต่ถ้าใช้เกียรเป็น จะได้ต่ำกว่าหนึ่งบาทครับ แค่วิ่งประคองไม่เกิน ๑๐๐ แล้วคลิ๊กเปลี่ยนเกียรสี่ให้เร็วๆ ไม่ต้องลาก เกียรสองผมเปลี่ยนที่ความเร็ว ๑๑๐ ครับ ที่เหลือก็พุ่งตลอด ทำเวลาได้ดีกว่าเครื่อง ๒อีธรรมดาที่เคยใช้แล้วยกลงแล้ว   


   เสียงมันประมาณหนึ่งวี๊ด สองวี๊ด สามเบาลงนิด พอสี่ก็หึ่งๆๆๆๆๆๆๆนั่นล่ะ   เล่นเกียรเป็นขับสนุกครับ  แต่ต้องกะระยะให้ดีนะไม่งั้นไหลเข้าท้ายรถช้า มันไม่เหมือนเกียรธรรมดาที่ยกคันเร่งแล้วยังมีเครื่องช่วยเบรค แต่โอโต้มันยกแล้วเหมือนจักรยาน เวลาเราหยุดปั่น มีไหลแถมอีก แรกๆก็ปรับตัวอยู่นานพอดู พอคุ้นแล้วก็ขับมันดีเหมียนกานเด้อ คริ คริ คริ
บันทึกการเข้า

snoopy
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,148



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553 11:13:56 »

ฟอร์จูนเนอร์ มันแรงกว่านี่คับ ไม่น่าเชื่อว่าจะทิ้งฟอร์จูนเนอร์ได้
บันทึกการเข้า

laongfong
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 431



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553 17:30:15 »

    ๓๐๐๐ รอบ โอโต้มันทำความเร็วได้ ๑๒๐ บวกถึง ๑๓๐ ครับ ตอนวางใหม่ๆก็ปรับตัวเยอะทีเดียวในการขับ  ตอนนี้สบายแล้วครับ ผมว่าหากขับเป็นโอโต้ก็ประหยัดใกล้เคียงแมนวลนะครับ

    มะวานผมตีจากอุบล ไปสุรินทร์ แล้วก็กลับถึงอุบลประมาณ เกือบหกทุ่ม นั่งไปสามคน สัมภาระประมาณห้าหกสิบกิโล เติมเต็มถังที่ศรีสะเกษ(แก๊ส ลิตรละ ๑๑.๙๕)  เป็นเงินประมาณ ๓๗๐ บาท วิ่งถึงสุรินทร์ ขากลับ แวะเติมเต็มถังที่ศรีสะเกษ ระยะทางวิ่ง ๒๒๗ กิโล เติมไปเต็มถัง ๒๗๐ บาท ใช้ความเร็วเฉลี่ย ๑๒๐- ๑๕๐ ครับ ตกกิโลละ ๑.๑๘ บาท ทั้งขากลับเกียรหนึ่งสองเปลี่ยนเกียรที่ระดับ ๕๐๐๐ รอบอั๊พ เพราะมีฟอร์จูนมาเล่นด้วย แต่ไล่ผมไม่ทัน ผมกดที่เกียร์สามทิ้งขาดที่ ๑๕๐-๑๖๕ หลังจากนั้นก็ไม่มาใกล้อีก ก็ลดลงมาระดับ ๑๓๐-๑๔๐ จนถึงบ้าน ก็ยังได้ตัวเลขที่บอกนี่ล่ะ


แต่ถ้าใช้เกียรเป็น จะได้ต่ำกว่าหนึ่งบาทครับ แค่วิ่งประคองไม่เกิน ๑๐๐ แล้วคลิ๊กเปลี่ยนเกียรสี่ให้เร็วๆ ไม่ต้องลาก เกียรสองผมเปลี่ยนที่ความเร็ว ๑๑๐ ครับ ที่เหลือก็พุ่งตลอด ทำเวลาได้ดีกว่าเครื่อง ๒อีธรรมดาที่เคยใช้แล้วยกลงแล้ว   


   เสียงมันประมาณหนึ่งวี๊ด สองวี๊ด สามเบาลงนิด พอสี่ก็หึ่งๆๆๆๆๆๆๆนั่นล่ะ   เล่นเกียรเป็นขับสนุกครับ  แต่ต้องกะระยะให้ดีนะไม่งั้นไหลเข้าท้ายรถช้า มันไม่เหมือนเกียรธรรมดาที่ยกคันเร่งแล้วยังมีเครื่องช่วยเบรค แต่โอโต้มันยกแล้วเหมือนจักรยาน เวลาเราหยุดปั่น มีไหลแถมอีก แรกๆก็ปรับตัวอยู่นานพอดู พอคุ้นแล้วก็ขับมันดีเหมียนกานเด้อ คริ คริ คริ
โอ้..แหล่มมากๆ อ่านแล้วมันดีจริงๆขอรับ แต่ผมชอบทามมะดา มากกว่าขอรับ..อิอิ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลทุกๆท่านขอรับ
บันทึกการเข้า
laongfong
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 431



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553 17:31:50 »

เก็บข้อมูลก่อน  เผื่อวาง 4A-FE
ตั้ม..เอาเครื่องมาแลกกันป่าวละ อากได้ 4E อะ..
บันทึกการเข้า
penglui
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 267



ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553 20:33:25 »

เหมือนกันครับ 4A-Fe เกียร์ธรรมดา
ความเร็ว 100 รอบอยู่ที่ 3000
ความเร็ว 120 รอบอยู่ที่ 3500

ล้อเดิมๆครับ
บันทึกการเข้า
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 21 มีนาคม 2553 07:53:00 »

ฟอร์จูนเนอร์ มันแรงกว่านี่คับ ไม่น่าเชื่อว่าจะทิ้งฟอร์จูนเนอร์ได้

แรงกว่า หนักกว่าเกือบเท่าตัว ถนนสายสังขะ ขุขันต์ มันมีแค่สองเลนส์ครับ แคบๆ แถมขณะนั้นเป็นเวลาสามสี่ทุ่มครับ รถล่องเยอะ ใครที่จะซ่าส์แถวนั้น หากชั่วโมงบินไม่ถึงห้าแสนก็มีสิทธิลงไปกลิ้งได้ครับ ผมไปทั่วไทย ชั่วโมงบินกว่าหนึ่งล้านครับ ไล่กันมาสามคัน ฟอร์จูน ฮอนด้านเอฟดี(ซีวิคใหม่)  ผมได้ที่สองครับ ฮอนด้าทิ้งหายวับไปกว่าสิบกิโล ถึงศรีสะเกษยังไล่ไม่ทันเลยครับ (แหะๆๆๆ มันบ้าแชงระยะกระชั้นชิด จนผมต้องเยียบเบรคหลบให้ครับ แล้วก็ไม่ตาม กลัวมันไปไม่พ้นแล้วผมจะไปเสยก้นซ้ำอีก เลยปล่อยให้ไป)    ส่วนผมกับฟอร์จูนนั้น ขับกันแบบมีมรรยาทครับ พักรถก็ปั๊มปตท.ที่สังขะด้วยกัน ออกมาก็พร้อมกัน แต่ผมเบรคให้เขาไปก่อน(คนละทาง) 

ได้สักสามกิโลก็แซงคืนที่ประมาณ ๑๒๐ ครับ หลังจากนั้นก็รอจังหวะรถช้าและรถสวนครับ ก็อยู่หน้ามาตลอด ภรรยาผมก็เปิดไฟป้อนอาหารเย็นในรถเลย พวกก็ตามมาทัน แต่แซงไม่ได้ครับ เพราะรถช้าตรึม รถหน้า(สิบแปดล้ออีกเพียบ)   แถมทัวร์เสื้อแดงอีกตรึม เรียงกันมาทีห้าหกคัน ล่องเข้ากรุงเทพ  มีจังหวะหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าฟอจูน กะเอฟดีมันไล่กันมา  อยู่ๆก็มีไอ้บ้าแชงในที่คับขันขึ้นมา ปิ๊กอั๊พข้างหน้าผมเบรกแล้วก็หลบลงข้างทางเกือบประสานงากับมันห่างแค่ฝ่ามือเองมั้ง ผมตามหลังมาก็กดเบรกซะจนเกือบสอยตูดรถปิ๊คอั๊พคันนั้น เบรกจนหยุดล่ะ แมร่งบ้าจริงๆ แซงขึ้นมาได้ไง ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ   จังหวะนี้ล่ะ เจ้าเอฟดีก็หักขวาพรวดขึ้นหน้าไป ผมเบรกให้แทบไม่ทัน แล้วก็ฟอร์จูนไล่ตามไปติดๆ   สองนาทีสองคันหายวับไปกับตาเลยครับ

ผมขับรถ มากว่ายี่สิบปี จากประสพการณ์จึงไม่ตามไป  เพราะพวกแซงแบบหวาดเสียวทั้งสองคัน หากรถหน้าไม่เบรกให้ก็โป้งทันทีล่ะ ในค่ำคืนนั้น มีเอฟดีสติแตกอยู่คัน แล้วมีฟอร์จูนคันที่ว่าตามไปเล่นด้วย   เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที ผมขับความเร็วเฉลี่ยครับ ที่ ๑๒๐ ถึง ๑๔๐ ก็เลยตามมาทันฟอร์จูนคันเดิม จังหวะปลอดภัยผมก็คลิกสอง กด ๑๑๐ แล้วก็เปลี่ยนสามกดต่อ ๑๖๕ ทิ้งยาวเลยครับ เออีมาไวกว่าฟอร์จูนนะครับ ตรงนี้ขอยืนยัน(ขับใช้เกียรให้เป็น จังหวะเราไวกว่าก็ขึ้นหน้าได้ครับ) รถแรงคนขับอาจจะใจแค่ปลาซิว เคยเห็นเฟอร์วิ่งที่ ๑๑๐ ไหม ฉันท์ใด  ลิงหลังพวงมาลัยสำคัญกว่ารถครับ คราวนี้ ผมทิ้งขาดเลยครับ แต่ไม่เห็นเอฟดีแล้ว แมร่งมันบ้าดีเดือดจิงๆ ถัดมา ก็มีวีโก กะดีแม๊กซ์ เกิดอุบัติเหตุอยู่ไหล่ทางด้านขวา ก็ติดยาวกันอีกยก   แบ่งปันประสพการขับรถเล็กน้อยให้ฟังครับ

รถแรงไม่แรง มันไม่สำคัญครับ มันมีเหตุปัจจัยอื่นอีกเพียบ อย่างคืนนั้นมันมืด ถนนแคบแค่สองเลสน์ รถก็เยอะทั้งขาขึ้นและล่อง อย่ามองแค่แรงม้าครับ ใครมีปัญญาเอาแรงม้าลงพื้นได้ไว้ และก่อน คนนั้นอยู่หน้าครับ ผมปล่อยให้ไปแล้ว แต่เขาทำความเร็วเฉลี่ยคงที่ไม่ได้เท่าผม เลยไล่มาทัน ก็จำเป็นต้องเยียบขึ้นหน้าออกไปแบบทิ้งขาดเลย     

ป.ล.   ไอ้ที่รถแรงๆ ผมเจอมาเยอะในถนนหลวง เราก็วิ่งของเราแค่นี้ล่ะ(แต่เป็นความเร็วเฉลี่ย) แล้วก็จังหวะเทพ ไม่ใช่วิ่งไปเยียบเบรกไป  พวกก็มาไล่ตามแล้วก็อาศัยความแรงของรถที่ใหม่กว่าเร่งแซงขึ้นหน้าไป   แต่มันดันไปเบรกขวางอยู่ข้างหน้า ไม่สามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้แบบเรา เจอโค้งมันก็เบรก เจอรถช้า ก็ไม่รู้จังหวะว่าหน้ามันช้าเท่าไร มิงควรเข้าไปใกล้แค่ไหน แล้วมีจังหวะไหนจะขึ้นได้ อ่านแค่ชั้นเดียว มันก็เบรกลูกเดียว ผมก็เจอมนุษย์แบบนี้เยอะในท้องถนนหลวงครับ สุดท้ายมันก็เลิกตามเรา เพราะไม่มีความสามารถที่จะขับที่ความเร็วเฉลี่ยในถนนหลวงแบบเราได้ครับ  ทีนี้ ดวงตาเห็นธรรมรึยังครับ     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มีนาคม 2553 08:11:38 โดย jedee » บันทึกการเข้า

snoopy
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,148



ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 21 มีนาคม 2553 08:57:50 »

ฟอร์จูนเนอร์ มันแรงกว่านี่คับ ไม่น่าเชื่อว่าจะทิ้งฟอร์จูนเนอร์ได้

แรงกว่า หนักกว่าเกือบเท่าตัว ถนนสายสังขะ ขุขันต์ มันมีแค่สองเลนส์ครับ แคบๆ แถมขณะนั้นเป็นเวลาสามสี่ทุ่มครับ รถล่องเยอะ ใครที่จะซ่าส์แถวนั้น หากชั่วโมงบินไม่ถึงห้าแสนก็มีสิทธิลงไปกลิ้งได้ครับ ผมไปทั่วไทย ชั่วโมงบินกว่าหนึ่งล้านครับ ไล่กันมาสามคัน ฟอร์จูน ฮอนด้านเอฟดี(ซีวิคใหม่)  ผมได้ที่สองครับ ฮอนด้าทิ้งหายวับไปกว่าสิบกิโล ถึงศรีสะเกษยังไล่ไม่ทันเลยครับ (แหะๆๆๆ มันบ้าแชงระยะกระชั้นชิด จนผมต้องเยียบเบรคหลบให้ครับ แล้วก็ไม่ตาม กลัวมันไปไม่พ้นแล้วผมจะไปเสยก้นซ้ำอีก เลยปล่อยให้ไป)    ส่วนผมกับฟอร์จูนนั้น ขับกันแบบมีมรรยาทครับ พักรถก็ปั๊มปตท.ที่สังขะด้วยกัน ออกมาก็พร้อมกัน แต่ผมเบรคให้เขาไปก่อน(คนละทาง) 

ได้สักสามกิโลก็แซงคืนที่ประมาณ ๑๒๐ ครับ หลังจากนั้นก็รอจังหวะรถช้าและรถสวนครับ ก็อยู่หน้ามาตลอด ภรรยาผมก็เปิดไฟป้อนอาหารเย็นในรถเลย พวกก็ตามมาทัน แต่แซงไม่ได้ครับ เพราะรถช้าตรึม รถหน้า(สิบแปดล้ออีกเพียบ)   แถมทัวร์เสื้อแดงอีกตรึม เรียงกันมาทีห้าหกคัน ล่องเข้ากรุงเทพ  มีจังหวะหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าฟอจูน กะเอฟดีมันไล่กันมา  อยู่ๆก็มีไอ้บ้าแชงในที่คับขันขึ้นมา ปิ๊กอั๊พข้างหน้าผมเบรกแล้วก็หลบลงข้างทางเกือบประสานงากับมันห่างแค่ฝ่ามือเองมั้ง ผมตามหลังมาก็กดเบรกซะจนเกือบสอยตูดรถปิ๊คอั๊พคันนั้น เบรกจนหยุดล่ะ แมร่งบ้าจริงๆ แซงขึ้นมาได้ไง ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ   จังหวะนี้ล่ะ เจ้าเอฟดีก็หักขวาพรวดขึ้นหน้าไป ผมเบรกให้แทบไม่ทัน แล้วก็ฟอร์จูนไล่ตามไปติดๆ   สองนาทีสองคันหายวับไปกับตาเลยครับ

ผมขับรถ มากว่ายี่สิบปี จากประสพการณ์จึงไม่ตามไป  เพราะพวกแซงแบบหวาดเสียวทั้งสองคัน หากรถหน้าไม่เบรกให้ก็โป้งทันทีล่ะ ในค่ำคืนนั้น มีเอฟดีสติแตกอยู่คัน แล้วมีฟอร์จูนคันที่ว่าตามไปเล่นด้วย   เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที ผมขับความเร็วเฉลี่ยครับ ที่ ๑๒๐ ถึง ๑๔๐ ก็เลยตามมาทันฟอร์จูนคันเดิม จังหวะปลอดภัยผมก็คลิกสอง กด ๑๑๐ แล้วก็เปลี่ยนสามกดต่อ ๑๖๕ ทิ้งยาวเลยครับ เออีมาไวกว่าฟอร์จูนนะครับ ตรงนี้ขอยืนยัน(ขับใช้เกียรให้เป็น จังหวะเราไวกว่าก็ขึ้นหน้าได้ครับ) รถแรงคนขับอาจจะใจแค่ปลาซิว เคยเห็นเฟอร์วิ่งที่ ๑๑๐ ไหม ฉันท์ใด  ลิงหลังพวงมาลัยสำคัญกว่ารถครับ คราวนี้ ผมทิ้งขาดเลยครับ แต่ไม่เห็นเอฟดีแล้ว แมร่งมันบ้าดีเดือดจิงๆ ถัดมา ก็มีวีโก กะดีแม๊กซ์ เกิดอุบัติเหตุอยู่ไหล่ทางด้านขวา ก็ติดยาวกันอีกยก   แบ่งปันประสพการขับรถเล็กน้อยให้ฟังครับ

รถแรงไม่แรง มันไม่สำคัญครับ มันมีเหตุปัจจัยอื่นอีกเพียบ อย่างคืนนั้นมันมืด ถนนแคบแค่สองเลสน์ รถก็เยอะทั้งขาขึ้นและล่อง อย่ามองแค่แรงม้าครับ ใครมีปัญญาเอาแรงม้าลงพื้นได้ไว้ และก่อน คนนั้นอยู่หน้าครับ ผมปล่อยให้ไปแล้ว แต่เขาทำความเร็วเฉลี่ยคงที่ไม่ได้เท่าผม เลยไล่มาทัน ก็จำเป็นต้องเยียบขึ้นหน้าออกไปแบบทิ้งขาดเลย     

ป.ล.   ไอ้ที่รถแรงๆ ผมเจอมาเยอะในถนนหลวง เราก็วิ่งของเราแค่นี้ล่ะ(แต่เป็นความเร็วเฉลี่ย) แล้วก็จังหวะเทพ ไม่ใช่วิ่งไปเยียบเบรกไป  พวกก็มาไล่ตามแล้วก็อาศัยความแรงของรถที่ใหม่กว่าเร่งแซงขึ้นหน้าไป   แต่มันดันไปเบรกขวางอยู่ข้างหน้า ไม่สามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้แบบเรา เจอโค้งมันก็เบรก เจอรถช้า ก็ไม่รู้จังหวะว่าหน้ามันช้าเท่าไร มิงควรเข้าไปใกล้แค่ไหน แล้วมีจังหวะไหนจะขึ้นได้ อ่านแค่ชั้นเดียว มันก็เบรกลูกเดียว ผมก็เจอมนุษย์แบบนี้เยอะในท้องถนนหลวงครับ สุดท้ายมันก็เลิกตามเรา เพราะไม่มีความสามารถที่จะขับที่ความเร็วเฉลี่ยในถนนหลวงแบบเราได้ครับ  ทีนี้ ดวงตาเห็นธรรมรึยังครับ     

ยังไงเออี + ฝีมือคนขับ ก็สุดยอดเสมอคับ ครืๆๆ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!