สวัดดีน้า jedee ครับ
ผมเคยอ่านเรื่องราวของน้ามาบ้างครับติดตามอยู่ครับน้า
ผมเคยทำแต่มอไซค์ครับ มันต่างกันกับรถยนต์มากครับ ทั้งเหนื่อยและสนุกดีครับกับการซ่อมเองแต่ประสพการณ์ยังน้อยมากครับ
ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่เลย ทั้งเรื่องการประกอบ การล้างให้เข้าถึงทุกส่วน การดูมาร์ค และการเข้าไปคุยกับโรงกลึง ครับ...
ผมมีคำถามจะถามน้า jedee ที่มีประสพการณ์ก่วาผมเรื่องนึงครับ คือขั้นตอนเราส่ง เสื้อสูปกับข้อเหวี่ยงและก้านสูบ เข้าโรงกลึง ต้องแจ้งช่างให้ทำอะไรให้เราบ้างจะบอกยังไงดี กลัวสื่อสารกันไม่รู้เรื่องทำให้งานไม่ตรงกับงานที่ได้มา และอีกอย่างนึงคือ
ผมต้องเปลี่ยน ชุดชาฟร์ทั้งหมด ผมต้องซื้อชาฟร์ไปให้โรงกลึงก่อน หรือ ให้โรงกลึงเช็คเสื้อสูบกับข้อเหวี่ยงและก้านสูบดูก่อนว่าจะใช้เบอร์อะไรแล้วเราจึงวิ่งหาซื้อชาฟร์มาให้โรงกลึงทำ หรือให้โรงกลึงเขาจัดการไปทั้งหมดเลยดี เหตุผลของผมคืออยากได้ชาฟร์แท้ๆ ซึ่งไม่มีต้องสั่ง ร้านแถว วัรจักรเท่านั้น แล้วต้องรอเบิกอีกด้วยก็หลายวันอยู่
หรือน้า/หรือเจ้าของโรงกลึงท่านใดจะร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่ผมถามก็ร่วมเข้ามาตอบกันก็ได้นะครับ

เมื่อซักสามสิบปีที่ผ่านมา ผมกะโรงกลึงไม่เคยห่างเลย แต่ในตอนนั้น โรงกลึงที่อุบลราชธานียังไม่มีเครื่องมือละเอียดที่ทำได้ตามสเปคผม (ตอนนั้นทำแต่มอร์ไซค์ครับ แต่ไม่ซ่อมมันง่ายไป โมดิฟาย สถานเดียว ชื่อชอฟของผมในตอนนั้น ตร.เมืองอุบลหมายหัวเลยล่ะเพราะเอารถเออาร์ร้อยยี่ห้าในสมัยโน่น ไล่ยังไงก็ไม่มีทางทันครับ มันแค่กดปรื๊ดเดียวยืดเป็นหนังกะติ๊กเลย จนต้องออกปากว่าแก๊งค์เดอะฟูลฯ จับได้ต้องเอาให้หนัก แต่โทษทีครับ ลูกค้าผมมีแต่ลูกส.ส. ลูกพ่อค้าที่มีเงิน เรียกว่าเบิกเสื้อห้างมานั่งแยงกันเลยครับ แต่แก๊งค์อื่นมันไม่มีตังค์ ก็ลักเสื้อรถชาวบ้านเขามาทำดิ ตร.เข้าใจผิดตอนแรกๆ ถึงเข้ามาค้นในออฟฟิทผมเลยครับ พอรู้อะไรเป็นอะไร ก็เลิกราไปครับ ใครที่ติดสติกเกอร์ เพาเวอร์ บาย เดอะ ฟูล เรชซิ่ง ชอฟ (นั่นล่ะชื่อร้านของผม รับโมดิฟาย เป็นงานอดิเรกอย่างเดียว ไม่รับซ่อม) ผมต้องส่งโรงกลึงที่โคราชครับ มีอยู่สองโรง ที่เครื่องมือจัดได้ แค่การบาล้านข้อเหวี่ยงก็ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ ไม่งั้นที่รอบหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยรอบ ต้องสั่นเป็นเจ้าเข้า ไม่ก็กระจายครับ แทนที่แข่งจะได้เงิน เสียเงินไม่พอ รถพังอีก ในยุคกระโน้น ใคร(แมงกาไซค์)ที่ว่าแรงที่สุด ในพิกัดร้อยซีซี ผมตามสวนหมด จนวัยรุ่นบางคนเรียนช่างยนต์ กาลังห้าว มาท้าแข่ง ก็เสียเงินตามระเบียบครับ ทิ้งห่างกันเป็นทุ่ง (ระยะสองกิโล ผมทิ้งไม่ต่ำกว่าห้าร้อยเมตร) ตอนนั้นมีแต่สองจังหว่ะแรงสูงที่รีดแรงม้าได้ขนาดนั้น อาร์ซีร้อยดีจี ที่ผมใช้ ผมคำนวนรีดแรงม้าไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าตัว ที่รอบหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบรอบ ขยายพอร์ทไอดี ไอเสีย ตามที่คำนวนไว้ อาจารย์เราในตอนนั้น ก็ อ.ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่พิมพ์หนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างละเอียด ตอนนั้นผมมี แต่ปัจจุบันหาไม่เจอแล้ว กล่าวถึงวิธีโมดิฟายไว้อย่างละเอียดซึ่งผมอ่านเข้าใจ และทำตาม บวกกับตำราสูตรลับของช่างรุ่นเก๋าที่เคยให้วิชาเราไว้ จนเลิกลาวงการ ผมแข่งทุกครั้งได้เงินทุกครั้งครับ จนไม่มีใครมายุ่งกะผมหรือท้าแข่งกับผมในยุคกระโน้น บางรายอยู่ต่างอำเภอ ซ่าส์ๆ ท้าลูกน้องผม เพราะมันไปเปิดร้านซ่อมมอร์ไซค์ใกล้กัน แล้วดึงลูกค้าเขา มันก็รวมหัวกันกะจะล้มลูกน้องเรา เรียกว่ารุมกินโต๊ะ มันก็มาหา ขอให้จัดรถให้สักคัน ก็จัดให้ตามขอทำรถเสร็จ ผมก็เอาผ้าคลุมไป พอเปิดผ้าคลุมออก พวกมันถอดใจหมด ไม่มีใครกล้าแข่งด้วย กลัวเสียเงิน ตอนนั้นมันเอาอาร์เอ็กซ์เอส มาท้าสปริ้นท์เตอร์ ผมถนัดเครื่องซูอยู่แล้วเลยจัดเต็มไปเลย รถมีแค่ล้อกะเฟรม ถังน้ำมันยังใช้แค่ถังซีซีไอเลย มันเห็นลมจะจับ เบาหวิว แถมทำเสร็จ เอาซีบีอาร์สี่ร้อยวิ่งไล่จับ ซีบีอาร์ยังสับเกียรตามอยู่ข้างหลังครับ สองโลทิ้งเกือบสองร้อยเมตรเลย อ้าว มาได้ไงเนี่ย
เล่าให้ฟังขำๆ อย่าไปจริงจัง แบบว่ามันผ่านโลกมาเยอะ เลยมีเรื่องที่ไม่เคยเล่ามาเล่าให้ฟังไง ตอนผมเลิกจากวงการนี้ ตอนนั้นยังจิบเหล้าเบียรอยู่ เพื่อนคู่แข่งที่ชอบมาท้ามาลองกับอาร์ซีผม ของมันเล่นสปริ้นเตอร์แต่งสุด แต่ให้ช่างทำให้ ผมสูตรลูกทุ่งทำเองทั้งคัน แต่มันไม่เคยกินผมได้ซักที จนเลิกเล่นไปก่อน ไปเล่นของใหญ่ อาร์จีแกรมม่า สองร้อยห้าสิบ ผมนั่งจิบวุ้นอยู่ศาลาเนวาด้า มันก็เข้ามา ผมก็บอกว่ารถสวย ขอลองหน่อยได้ไหม มันก็โยนกุญแจให้ทันที แค่กลับรถออกไฟแดง ยังไม่ถึงตชด.เลย ดูไมล์มันเกินร้อยแปดสิบแล้ว ยังไม่ได้สับเกียรหกด้วยซ้ำ ผมก็เบรกแล้วกลับมาจิบเบียรต่อ เหอะๆๆ หมดเวลาของเราแล้ว เมื่อก่อนสองร้อยสี่สิบยังไม่เคยกลัวแต่คืนนั้น ยอมรับว่ามีความกลัวเกิดขึ้น ผมเลิกตั้งแต่วันนั้นครับ ถึงได้มีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะ เพื่อนผมที่เก่งๆ มันไปอยู่เมืองผีกันหมดแล้ว เหลือผมที่ไม่เก่ง เลยมีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะหน่อย อิอิ
เรื่องโรงกลึงที่ถาม กรณีฮอลเครื่องใหญ่ ผมฝากช่างช่วยส่งอีกทีครับ ถามว่ามีความเสี่ยงไหม ตอบได้เลยครับ มีมากครับ ไม่งั้นรถผมคงไม่ลูกสูบติดในเวลาไล่ๆกันเพียงแค่สองเดือนถึงหลายครั้งหรอก แต่ผมจะพยายามเลี่ยงโรงกลึง ยิ่งพยายามเปลี่ยนชาร์ฟอกชาร์ฟก้านด้วย แต่ที่ฮอลเครื่องสี่เจเอชวัน ครั้งแรกที่เปลี่ยนชาร์ฟอกก้าน นั้นให้อู่ที่วางยาทำครับ ไม่เสียหายอะไร แต่ที่เป็นคือ มันทำสมบูรณ์สองสูบ อีกสองมันวางยา คว้านเป็นวงรีให้เรา เลยเป็นสาเหตุทำให้ลูกติดครับ แล้วตัวออยเจทสเปร์ย มันก็ไม่ขันน็อตให้ครับ เลยเสียหายที่ลูก แหวนก่อน พังก่อนส่วนอื่นจะตามไป ตอนนี้ก็ใช้งานมาเกือบจะห้าพันกิโลแล้วครับ ทำเอง ข้อดีมันอยู่ตรงนี้ล่ะ ส่วนสามห่วง ผมมีเครื่องยกลงซื้อไว้เยอะครับ เลยสับเปลี่ยนกันได้ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวในการเคลียรริ่งระยะห่างของชาร์ฟครับ แต่เจ้าเรโนลต์กะโฮลเด้นนั้นเคยเปลี่ยน โชคดีที่ไม่ไม่เป็นรอยมากครับ เอาเบอร์เดิมใส่เข้าไป ก็จบครับ จะมีเคยขัดเพลาข้อเหวี่ยงก็แค่โฮเด้นท์ครับ แต่ช่างทำให้ สรุป ผมไม่เคยใช้โรงกลึงทำอะไรนอกจากฝากช่างที่รู้จัก ทำครับ ตรงนี้เราไม่ต้องสั่งอะไรมาก เอาใจวัดใจกัน ก็ไม่มีปัญหานะ ไม่ได้ทำกันทุกวันที่ไหน นานๆจัดกันที แต่หากเป็นสองจังหว่ะแรงสูงล่ะก็ เทียวโคราชเป็นว่าเล่นเลยครับ เรียกว่าไปนั่งเฝ้าหน้าเครื่องกลึงดูขั้นตอนการทำทุกขั้นตอนเลยครับ ต้อขออภัยจริงๆ รถยนต์ผมยังไม่เคยเสียหายหนักถึงขนาดที่กำลังจาฮอลครับ เลยไม่รู้จะแนะนำยังไง อีกอย่างก็อยู่ไกลด้วย ต้องอาศัยเพื่อนๆที่อยู่ทางนี้ล่ะว่ามีที่ไหน โอ ที่ไหนไม่ครับ โชคดีเน้อ กลับมาปิ๊งเร็วเน้อ
