ตรวจสอบจนแน่ใจแล้วเหรอ  ว่าหม้อมันมีปัญหา....อยากให้หาปัญหาที่แท้จริงก่อนครับ

  ขับน้ำมันเป็นอย่างไรบ้างครับ  ผมว่าน่าจะดูระบบน้ำมันให้สมบูรณ์ก่อนครับ
           -หัวเทียน ตรวจดูว่าดีหรือเปล่า
           -องศาจุดระเบิด เวลาใช้น้ำมันอย่าให้เขก ตั้งให้พอดีครับ
ถ้าระบบน้ำมันสมบูรณ์ดีแล้ว เดี๋ยวมาไล่อาการกันครับ

  ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องฝาดำเท่าไหร่ แต่อยากช่วยงะ
           ไมทราบว่าฝาดำมันมีกล่องควบคุมแอร์หรือเปล่า น่าจะเป็นที่ตัวควบคุมชดเชยรอบเดินเบา รวมไปถึงการเดินสายไฟจากคอมแอร์ด้วย
           หรือไม่เช่นนั้นก็เซ็ตกล่องใหม่ โดยการถอดขั้วบวกออกประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วต่อใหม่ ลองดูอีกทีครับ ใจเย็นๆ เห็นใจมากๆ

  ลองไปเช็คดูนะครับ เครื่องจะติดได้ต้องมีองค์ประกอบดังนี้ครับ
           -เชื้อเพลิง ก็คือ น้ำมัน ระบบน้ำมันก็มีปั๊มแรงดันสูง(อยู่ในถังหรือเรียกว่าปั๊มติ๊กกันนั่นแหละ),หัวฉีด ถ้ามีปัญหาเช่นเสียไปบางหัว(อาการเดินไม่ครบสูบเพราะไม่จุดระเบิด) จะว่าตันก็ไม่น่าจะตันนะ ยากมากๆ
           -ไฟ ก็มีแน่ๆ หัวเทียน(พยายามให้เกรดเดิมก่อน), สายหัวเทียน(ดูด้วยนะ), จานจ่าย(น่าจะเป็นตัวเอกนะ...ถอดมาดูว่าคาปาซิเตอร์ยังดีหรือเปล่า ไม่แน่ใจก็เปลี่ยนไปเลยและอย่าลืมทำความสะอาดหัวนกกระจอกด้วย) ***ส่วนใหญ่สตาร์ทติดยากจะมาจากตัวคาปาฯ เน่าด้วย***
           -อากาศ ทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อด้วยนะครับ(ถอดออกมาล้างบ้างถ้ายังไม่เคย) , กรองอากาศ(ก็สำคัญไม่น้อย บางทีติดแต่เครื่องสั่นเนื่องจากอากาศไม่พอ)
  ลองตรวจสอบดูครับ ส่วนหลักที่จะทำให้เครื่องเราทำงานก็มีเท่านี้ครับ ตรวจเช็คดูครับไม่ยากอย่างที่คิดหรอก

  คาดว่าน่าจะเป็นที่การต่อโซลินอยล์วาวล์ของถังแก๊สกับหม้อต้มครับ เนื่องจากช่างจะต่อให้ทำงานก่อนสตาร์ทเพื่อที่จะได้มีแก๊สมารอก่อนที่จะสตาร์ท
           มันมีดีตรงที่ว่าจะสตาร์ทด้วยแก๊สง่ายดี หรือตอนเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก๊สเครื่องจะไม่สะุ่ดุด เพราะว่าไม่ต้องรอให้แก๊สเดินจากถังมาหม้อต้มแล้วถึงจะ
           มาที่เครื่อง  สรุปแล้วน่าจะเป็นเสียงการเดินของแก๊สครับ (ไม่เป็นปัญหาครับ) ของผมต่อพร้อมกับสตาร์ทเลย ต้องคอยเหยียบคันเร่งช่วยถ้าจะเปลี่ยน
           จากน้ำมัีนเป็นแก๊ส หรือสตาร์ทด้วยแก๊สตอนเช้านะครับ...

   ไปทำอะไรมาบ้างหรือเปล่าครับ  ถ้าเดิมๆ ลองตรวจสอบระบบทางเดินของน้ำมันไฮดรอลิก กับตัีวปั่นเพาเวอร์ดูก่อนครับ
             การทำงานก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียงน้ำมันเพาเวอร์ไปช่วยให้เบาแรงครับ เราไม่ต้องไปหมุนเฟืองตรงๆ

   รถผมเครื่อง 4E-FE ติดแก๊สมาประมาณ 2 ปี อาการคือพอเครื่องร้อนสตาร์ทยากมากต้องเหยียบคันเร่งช่วยตลอด ทั้งๆที่ตรวจสอบทุกอย่างแล้ว เป็นปรกติ
           ทุกอย่าง แล้วมีที่เพิ่มด้วยคือ กราวด์ไวร์(ฝีมือผมเอง ชอบ DIY.) ครีบอัดอากาศ ผมมี 2 อย่างนี้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาก อัตราเร่งดีขึ้นมาก
           ลากเกียร์ไม่มีสะดุด แถมได้ยาวด้วย ขนาดเกียร์ 3 ได้ 140 สบายๆ
  แต่พอมา ทำไมเครื่องร้อนสตาร์ทยากจัง เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา รับเดินกราวด์ไวร์เพื่อนๆที่ทำงาน ได้ไปประมาณ 20 กว่าคันได้ เลยได้มีประสบการณ์
            มาดูรถตัวเองบ้าง แล้วได้เพิ่มจุดต่างๆ ลงไป เนื่องจากได้ทดลองเพิ่มแล้ววิ่งดู ไม่น่าเชื่อว่า เล็กๆ น้อยๆ จะเป็นได้ขนาดนี้ อัดตราเร่งดีกว่าเดิม เครื่องยนต์
            นิ่มนวลกว่าเดิมมาก ทำไปทำมาเครื่องร้อนก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว   ส่วนลงตรงไหนบ้าง เสร็จจากงานหลวงจะถ่ายรูปมาให้ดูกัน

  เป็นข้อๆ เลยนะคร๊าบ.....แสดงว่าตั้งไฟแก่เวลาวิ่งแก๊สจะได้แรงใช่ม้า
          -สเปคเครื่องใช้น้ำมันอะไรก็พยายามตามนั้น ถ้าไม่ไหวก็น่าจะ โซฮอล์95
          -พยายามคืนค่าต่างๆให้เป็นค่าใกล้เคียงกับค่ามาจากโรงงาน ค่านี้เครื่องจะนิ่งที่สุด เช่น เบอร์หัวเทียน การตั้งไฟ(องศาจุดระเบิด)
          -การตั้งองศาไฟ ให้เอาน้ำมันเป็นหลัก ตั้งให้แก่ที่สุดของน้ำโดยไม่เขก แล้วให้จูนแก๊สทีหลัง
   สรุปแล้วให้เอาค่าต่างๆเป็นระบบของน้ำมันให้สมบูรณ์ก่อนครับ ส่วนแก๊สเราจูนได้ครับว่าจะแรงแค่ไหน   รถผม 1300 ไม่โบ ฟัดกับวีโก้ประจำ

http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=79883.0
การเลื่อนเบ้าโช๊ค กับ การเสริมสเปเซอร์บนนสปริงใต้หัวโช๊ค ก็ทำให้ค่าสปริงเปลี่ยนไป ไม่น่าจะเหมือนเดิม แต่วิธีที่ผมไปทำมา ผลออกมา ฟิลลิ่ง เหมือนเดิม

อันนี้ก็ดีครับ  แต่ผมขอออกความเห็นด้วย จริงๆก็เสียดายสปริงอยู่นะ แต่ลองเอาสปริงเดิมมาเทียบดูหรือยังครับ ผมว่าของเดิมถ้าโดนถังแก๊สเข้าไป
คงจะลงมาไม่น้อยเลยละ แถมนิ่มนวลอีกด้วย

e-100 ครับ สปริงหลัง 190 ขนาดล้อ 195-55-R15 ถังแก๊ส 58 ลิตร  ความสูงยังไม่เติมแก๊สประมาณ 3 นิ้วมือสอดครับ ถ้าเติมแก๊สก็ลงมาหน่อยหนึ่ง
อาการครับ เทียบกับสปริงเดิม(โช๊คมอนโร รุ่นกระบอกดำ) ให้อารมณ์ที่ดีขึ้นครับ อาจจะรู้สึกกระดอนขึ้นมานิดหนึ่ง แล้วเวลามีผู้โดยสารมาข้างหลังสบายเลยครับ
ลุยได้สบาย นุ่มหนึบ ตอนแรกก็ไม่ชินกับมิติและอาการ แต่พอใช้ไปใช้มารู้สึกชอบครับ ที่ความเร็วสูงจะนิ่งดีครับ ถ้ายังสงสัยก็สอบถามได้ครับ 081-398-9658 บิ๊ก
(บางครั้งอาจจะไม่รับสายแต่เดี๋ยวโทรกลับครับ)

O2 เซ็นเซอร์ ยังอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่าครับ  แต่ถ้าทุกอย่างทำงานปกติก็ไม่ใช่ปัญหาจากเฮดเดอร์หรอกครับ

>>>จริงๆ แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรมากหรอกครัุบ ใช้ๆกันไป ราคาเครื่องก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ เพียงแต่ดูแลใกล้ชิดมากขึ้นเท่านั้นเอง
*** แต่ควรจะดูแลระบบน้ำมันให้สมบูรณ์ เนื่องจากว่าเมื่อเวลาที่แก๊สมีปัญหา เราสามารถนำมาเป้นข้อเปรียบเทียบในการซ่อมว่า
อะไรเป็นเหตุในอาการทั้งหลายทั้งปวง
      รถของผมเองดูแลระบบน้ำมัีนไว้อย่างดี ตลอดจนการปรับแต่งเครื่องยนต์ก็อิงค่าจากโรงงานครับ เวลามีปัญหาก็จะไม่ปวดหัว
เพราะจะมีค่าที่ถูกต้องไว้เปรียบเทียบครับ

โช๊คที่พังเป็นของอะไรครับ ถ้าเป็นของเดิมหรือเกรดเดิมจากโรงงาน ผมว่าน่าจะมองหาโชีคที่อัพเกรดจากเดิมดีกว่าครับ
จ่ายแพงกว่ากันไม่มากนัก แต่ได้อะำไรมากกว่าเดิมเยอะเลย เช่น ความนิ่มนวล หนึบ เข้าโค้งแรงๆ หรือหักพวงมาลัยกระทันหัน
ก็ไม่เสียอาการมากนัก ของผมใช้มอนโรกระบอกดำ กับสปริงเดิม เวลานั่ง ๒ คน ยางล้อหน้าพอดีซุ้ม ล้อหลังเข้าซุ้มไปนิดหนึ่ง
แต่ใครๆ ก็บอกมาทำไมมันนิ่มจัง พอใจมากครับ ลุยได้ดีกว่ารถกระบะเดิมๆด้วยซ้ำ

ทีละขั้นตอนครับ
-สายสัญญาณที่ต่อพ่วงระหว่างอุปกรณ์ทุกเส้น ตรวจสอบสายกราวน์ว่าขาดหรือเปล่า
-มีการลงกราวน์ลงตัวถังรถ เช่น เพาเวอร์แอมป์ ฟรอน์ เป็นต้น(ต้องมีการลงกราวน์ที่ตัวถังรถด้วย อย่างน้อย ๑ จุด)
...ถ้าอุปกรณ์ปรกติดี สายสัญญาณดี ลงกราวน์ได้ถูกต้อง ไม่มีวี๊ดครับ   โดยไม่ต้องมีตัวกันวี๊ดด้วย     ลองตรวจสอบดูครับ
    รถผมเองตอนแรกวี๊ด หาสาเหตุไม่เจอเป็นเดือน สุดท้ายสายกราวน์ที่เดินจากฟรอนท์ไปครอส(สายRCA)ไม่แน่น เน้นนะครับ ไม่แน่น
    เอาคีบบีบให้แน่น เงียบกริบเลยครับ และไม่มีตัวกันวี๊ดด้วย...

ลองจูนที่หม้อต้ม จะมีตัวจูนสองตัว ตัวที่เป็นพลาสติดสีดำมันจะครอบสปริงไว้ สำหรับปรับแต่งการปล่อยแก๊สจากถังอาจจะน้อยไป เวลาเวคกัมเครื่องน้อยจะมีแรงดูดไม่พอกับเครื่อง เวลาเหยียบจะรู้สึกเบาดีครับ แต่อย่ามากไปนะจะทำให้กินแก๊สเกินจำเป็น

  จูนแก๊สเองตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่จูนอย่างไรรอบของแก๊สจะต่ำกว่าน้ำมัน ประมาณ 150-200 รอบ แล้วเวลาใช้งาน ขับมาระยะยาวๆ ถอนคันเร่ง
เหยียบครัช รอบตกวูบดับไปเลย
            เวลาจูน ไอเดิล เปิดไม่ได้เครื่องจะสั่นเหมือนจะดับ เลยต้องปิดไว้ ส่วน เซน ขนาดปิดจนจะสุด(หรือสุดแล้วก็ไม่รู้) เครื่องยังไม่ดับเลย      ตอนนี้เลยต้องตั้งรอบให้สูงเข้าไว้          

  ตอนนี้ผมใส่มาประมาณครึ่งปีแล้วครับ  จากประสบการณ์ก็พอจะสรุปได้ดังนี้
  - ควรหาราคาที่ไม่แพงมาก สรุปเอาถูกไว้ก่อน
  - อันนี้สำคัญมาก คือ ลักษณะการติดตั้ง รวมถึงตำแหน่ง เนื่องจากว่าในคู่มือแนะนำให้ติดบริเวณด้านกรองอากาศ
     รถผมไม่ค่อยเห็นผล  แต่เมื่อผมลองมาติดบริเวณปากมิกเซอร์(แก๊ส)ปรูดปราดใช้ได้เลยที่เดียว อันนี้ควรจะหาตำแหน่งด้วยตัวเองจะดีกว่า
  - สรุป ผมว่าคุ้มนะกับการได้อัตราเร่งดีขึ้นมา เพราะผมเคยลองถอดออก วิ่งแล้วอัตราเร่งสู้ใส่ไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่
  - ก่อนนำไปใช้ควรศึกษาการเดินทางของลมในท่ออากาศด้วยก็ดีครับ มันจะช่วยให้เราปรับแต่งให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เต็มที่จากเงินที่่จ่ายไป

    แบบนี้ต้องสละเวลาหน่อยนะครับ  หาร้านติดตั้งแก๊สที่เขาออกใบวิศวะฯได้ ให้เขาตรวจและออกให้ ตอนนี้น่าจะมีนะครับ
  (ส่วนของผมร้านมันปิดไปเปิดเป็นร้านคาร์แคร์แล้ว) ส่วนการเดิน สายไฟ สายแก๊ส ที่บริเวณถังแก็สควรเก็บให้เรียบร้อย
  เนื่องจาก ตอนไปนั่งรอตรวจสภาพที่ขนส่ง คันไหนเก็บสายไฟไม่เรียบร้อยต้องกลับบ้านก่อนเลย
    หลักฐานน่าจะมีใบวิศวะกรเป็นหลักนะ  ส่วนบิลซื้อขายน่าจะดูหมายเลขถังแก๊สเท่านั้นนะ

 
   -ลองเช็คบูชยาง ที่คอพวงมาลัยดูว่าสึกหรอหรือเปล่า หรือไม่ก็เปลี่ยนไปเลย น่าจะหายนะ
      รถผมก็แบบนี้แหละ

 

-ถ้าไม่เกี่ยวกับการรั่วตามข้อต่อต่างๆ
    -หม้อต้มบางรุ่นจะมีรูระบายแก็ส ซึ่งจะมีกลิ่นเหมือนแก็สรั่วแต่ไม่ฉุนมากนัก
    -หรืออาจจากการเผาใหม้ไม่หมด หรืออาจจะเปิดเพาเวอร์วาล์วมากไปซึ่งเป็นอาการของแก็สหนา  ลองตรวจดูครับ