tein มันก็มีหลายหลายถ้าชอบขับนุ่นๆ ไม่กระด้าง basic wagon ใช้กับเกียร์ auto นุ่มสบายถนนคอนกรีตขับช้าๆ ไม่รู้สึกถึงความกระด้าง ขับเร็วๆ ก็หนึบในระดับของมันแต่มันจะไม่กระชับเวลามุดเปลี่ยนเลนส์เร็วๆ เอาเป็นว่าแฟนผมชอบมาก FLEX ที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั่งสบายวิ่งเส้นบายพาสไปพัทยาถนนคอนกรีตหยาบๆ ทั้งเส้นขับไป 160-180 ลูกกับแฟนนั่งเล่นอยู่ข้างหลังไม่รู้สึกเลยว่าเร็ว แต่พอเปลี่ยนเป็นเกียร์ M/T ก็ต้อถอด basic wagon ใส่ FLEX ไปเลยเพราะเวลาสับเกียร์ basic wagon มันจะย้วย เอาเป็นว่าเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองมันไม่มีใครบอกได้หรอกครับว่าอันไหนดีกว่ากัน มันออกแบบให้ตอบสนองการใช้งานที่ต่างกันในแต่ละรุ่น ผมใช้ accord G5 ราคา tein flex สภาพแบบข้างบนทั้งชุดแค่ 20000 +/- 1000-2000 นิดหน่อยเองราคามาตรฐาน เลยไม่คิดมากระหว่าง tein กับโช๊คสตรัทใต้หวัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมขับ AE ผมก็จับ tein flex ไม่ไหวเหมือนกันครับ TEIN flex มือ 2 ของ AE ชุดนึงราคากระอักเลือดเลยครับมันก็เลยตัดสินใจลำบากเรื่องราคาของมือ1 กับมือ 2 นี่แหละ

ผมเลือกที่มีศูนย์ซ่อมครับ ตอนแรกก็ชั่งใจแบบนี้เหมือนกัน ราคาใกล้เคียงกันแต่ได้ของใหม่กับของมือ 2 สุดท้ายก็เอาของมือ 2 ที่ราคาเกือบเท่าของใหม่ เพราะถ้ามันเสียขึ้นมาก็เสียเพิ่มอีก 10000 โอเวอร์ฮอล์ลใหม่ทั้ง 4 ต้นได้ค่าน้ำมันตรงสเป็คใช้ยาวๆ อีกรอบ กับของใหม่ถ้าเสียขึ้นมาหาศูนย์ซ่อมไม่ได้ อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของผู้ใช้ครับ

อย่าลืมขาตั้ง 3 ขาซักคู่นะครับเพื่อความปลอดภัย ขนาดใช้แม่แรงตัวใหญ่ยกขึ้นเวลาจะมุดเข้าไปนอนใต้ท้องต้องตั้ง 3 ขาช่วยทุกครั้งกันพลาดนะครับ เดี๋ยวค่าแรงจะไม่คุ้มค่าซ่อมตัวเอง

อัตตราสิ้นเปลืองคิดเป็น กิโลเมตรต่อลิตรดีกว่าครับ บางปั๊มราคาไม่เท่ากันเติมเต็มถังแค่ตัดพอวิ่งไปซัก 200-300 โลเติมเต็มถังแค่ตัดดูว่าใช้ไปกี่ลิตร เอาไปหารระยะทางแบบนี้ชัวร์กว่าครับ เมื่อก่อนผมใช้ 7a แก๊สหัวฉีดวิ่งได้ 9 กิโลต่อลิตรยังลำบากเลย ถ้าจูนแก๊สแล้ววิ่งได้ 12-13 กิโลต่อลิตรนี้ก็สุดยอดไปเลยครับ

เกียร์ M/T เลือกใช้พักกลางนอก ปลายนอก ใส้ตรง 2.2 สภาพดีๆ ใส้ไม่ผุแล้วหาร้านเดินแป๊บดีๆ ก็จบเนียนๆ ก็ไม่ต่างกับท่อนอกทั้งเส้นแล้วครับสาระสำคัญมันอยู่ที่พักกลางกับปลายท่อ ถ้าเป็นพักกลาง ปลายท่อ บ้านเราผมขอผ่านครับบางเจ้าทำเสร็จแพงกว่าของนอก 2 เท่าแต่เวลาถอดออกขายได้แพงกว่าชั่งกิโลหน่อยเดียว   

ความหมายของเครื่องเดิมๆ เป็นแบบนี้หรือเปล่า คือทั้งตัวไม่ได้ทำอะไรเดิมสนิท กล่องก็ของ honda เดิมๆ แต่ reflash ECU ได้ลากรอบได้ยาวกว่าเดิม vtec เปิดเร็วกว่าเดิมใช้ E85 อีกต่างหากแถมคุณภาพเหนือว่ากล่อง piggyback มากมายด้วยงบที่ถูกพอๆ กับการใส่พวงมาลัยซิ่งซักวงเรื่องกล่องซิ่งมันเลยเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สำหรับตระกูล honda แต่ toyota กล่องเดิม reflash ไม่ได้ถ้าจะใส่กล่องก็เลยดูเป็นเรื่องใหญ่โตไป

Function ต่างๆ ของกล่อง ECU Honda
   - สามารถปลดล็อคความเร็ว 180 km/h
   - สามารถสั่งตัดรอบเครื่อง ตามที่กำหนด
   - สามารถสั่งตัดคอมแอร์ได้ตามรอบที่ต้องการ ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมปิดแอร์ในตอนขับรอบสูงๆ
   - สามารถปรับ VTEC ให้เปิดในรอบตามที่ต้องการ โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วงการทำงาน คือ High Load และ Low Load เพื่อให้ VTEC เปิดในรอบที่สูงขึ้นในช่วง Low Load ช่วยประหยัดน้ำมันในการวิ่งทางไกล
   - สามารถสั่งล็อครอบออกตัว ตามรอบที่เราต้องการไดั (missfire)
   - สามารถเลือกหัวฉีด ในกรณีที่ได้มีการเปลี่ยนหัวฉีดรุ่นอื่น
   - สามารถ Calibration เกียร์ในกรณีที่เป็นเกียร์ close หรือ เรียงเกียร์มาใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับโปรแกรม
   - สามารถสั่ง Port ต่างๆ ที่ว่างอยู่ทำงานได้ตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น สั่งพัดลมทำงาน ตามอุณหภูมิ,รอบ,ความเร็ว ที่กำหนด หรือสั่งให้ทำงาน 100% เลย
   - สามารถ Disable sensor ต่างๆ กรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้
   - สามารถเลือก Map Sensor ในกรณีที่ได้ทีการเปลี่ยน Map Sensor รุ่นอื่น
   - สามารถสั่งให้ไฟเช็ค Engine เป็น Shift Light เพื่อเตือนการเปลี่ยนเกียร์ โดยแต่ละเกียร์สามารถกำหนด RPM ให้ Shift Light โชว์ได้ตามที่ต้องการ

G7 ไม่มีอะไรน่ากลัวส่วนใหญ่จะเครื่องเดิม ถ้า G5 G6 หมก H23a เกียร์ทริปทรอนิคมาน่ากลัวกว่าเยอะครับแถมเอากล่อง honda บางรุ่นมาแปลงใส่กัน reflash rom จูน real time ได้งบไม่กี่พันบาทปลดล็อคได้ทุกพันธนาการ ถ้าลอยอยู่ 100-120 แล้วกดใส่กันถึงจะเป็น G9 ปี 2014 เครื่อง V6 ก็ยังโดนยาวๆ เลยนะครับ

เครื่อง N/A ผมใช้หม้อต้ม 140 ม้าที่ใช้กับเครื่องเดิม f22b 2200cc. 145แรงม้า พอเปลี่ยนเครื่อง H23a 2300cc. 200แรงม้ายังพอเลยครับปรับแรงดันเพิ่ม จากเดิม 0.8 เป็น 1.2 ก็พอถึงรอบปลายนะครับใช้แก๊สแช่ 220 km/h สบายๆ ลากรอบ 8000 ได้สบายตอนแรกก็คิดว่าเปลี่ยนเครื่องแล้วต้องเสียตังเปลี่ยนหม้อต้มเพราะตอนแรกจูนรอบปลายเกิน 5000rpm แล้วไม่พอ พอปรับแรงดันหม้อต้มแล้วจบเลยครับ ถ้าเครื่อง 1600cc. ผมว่ายังไงก็พอครับ ถ้าจะเล่นรอบสูงหนักๆ สุดทุกเกียร์ก็สลับใช้น้ำมันดีกว่าครับแก๊สเอาไว้ขับใช้งานทั่วไปก็พอครับ

แบบนี้มอเตอร์มันจะหมุนตัวปรับหนืดที่หัวโช๊คตลอดเวลา แล้วมันจะเสียเร็วทั้งตัวปรับที่หัวโช๊คและมอเตอร์หรือเปล่านี่ซิ

ถ้าจะใช้ E85 แล้วเปลี่ยนแค่หัวฉีดหรือดันแค่ระบบน้ำมันไปถมเพื่อให้ค่า a/f ไม่บางเอาแค่วิ่งได้ไม่สะดุด หรือพวกกล่องที่จูน auto น้ำมันอะไรก็เติมได้ e10 e20 e85 เติมได้หมดแบบนี้มันไม่ประหยัดหรอกครับวิ่งก็ไม่ดีด้วยใช้ LPG ง่ายกว่าประหยัดกว่าเยอะครับ เพื่อนผมใช้พวก E85 kit ทั้งหลายชุดละ 8000 กว่าบาทมาซักพักมีปัญหากลับไปแก้ก็ไม่หายไฟโชว์วิ่งสะดุดสุดท้ายต้องถอดทิ้งใส่กล่องซิ่งจูนน้ำมันจูนไฟได้ถ้าจะเอาให้สมบูรณ์แนะนำลงทุนกล่องซิ่งกับจูนเนอร์มือถึงๆ จูน E85 ให้สมบูรณ์ทั้งองศาไฟจุดระเบิดกับส่วนของอากาศและเชื้อเพลิงความแรงมันคือผลพลอยได้เพราะค่าออคเทนมันสูง อย่าไปคิดว่าที่ต้องจูนก็เพื่อความแรงอย่างเดียวจูนเอาความสมบูรณ์ครับส่วนผสมถูกต้องเผาไหม้หมดจรดอัตตราเร่งก็ย่อมดีแล้วความประหยัดมันก็ตามมาอีกทีครับ

จูนเนอร์เก่งๆ กล่องเดิม flash ecu ได้แรงกว่าจูนเนอร์มือไม่ถึงใช้จูนกล่องซิ่งราคาหลายหมื่นก็มีเยอะแยะนะครับ

ถ้าความสามารถของกล่องใกล้เคียงกันที่เหลืออยู่ที่จูนเนอร์มากกว่าครับ E85 ถ้าจูนดีๆ เนียนๆ เผาไหม้หมดจรดอัตตราการสิ้นเปลืองไม่ต่างกับเบนซิน 95 หรอกครับที่บอกว่า E85 จะกินกว่าเดิม 30เปอร์เซนต์น่าจะเป็นเพราะใส่หัวฉีดกันอย่างเดียวไม่มีการจูนองศาไฟจุดระเบิด ผมใช้ทั้ง LPG(หัวฉีด)และ E85 ตอนแรกผมใช้เบนซิน 95 เวลาจะซัดเล่นเห็นค่าน้ำมันแล้วเหนื่อยใจครับเลยศึกษาเรื่อง E85 จึงตัดสินใจจูน E85 ไปเลยเพราะ E20 ก็ไม่ได้ถูกมากมายไหนๆ จะลงทุนเพื่อเล่นกับโซฮอลลแล้วก็เอาให้ราคาถูกไปเลยถ้าลงทุนไปแล้วยังเป็น E20 ราคา 30 กว่าบาทก็ไม่น่าลงทุนครับผมคิดแบบนี้ ไม่อยากโหมใช้แก๊สกับรอบสูงๆ เลยจูน E85 มาไว้ซัดเล่นรอบสูงๆ ส่วน LPG เอาไว้ขับทางไกลประหยัดๆ พอจูนเนอร์จูน E85 เสร็จแล้วจูนแก๊สให้พร้อมเลยผลออกมาอัตตราเร่งแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง LPG และ E85 ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองของ E85 วิ่งทางไกล 140+km/h อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 11 km/L ส่วน LPG วิ่งยาวๆ 110-120km/h อัตตราการสิ้นเปลือง 10km/L ถ้าแช่เพลินๆ 140+km/h LPG จะเหลือประมาณ 8km/L กับเครื่อง H23a blue top 2300cc. กล่อง rom จูน realtime เปลี่ยนปั๊มติ๊ก walbro 255 ทน E85 อย่างเดียวหัวฉีดเดิมจูนได้เลยไม่มีอะไรจุกจิกท่อน้ำมันเปลี่ยนทีหลังก็ได้ครับเปลี่ยนเป็นแบบทน E85 , E100 ราคาไม่เกิน 2000 บาท ส่วนแก๊สปรับแรงดันหม้อต้มแล้วเจาะขยายรูหัวฉีดให้พอถึงรอบปลาย 220km/h สบายๆ ทั้งประหยัดทั้งแรงไม่มีปัญหาจุกจิกให้ปวดหัวถ้าทำถูกทาง เครื่องตระกูล 4A 1600cc. น่าจะประหยัดกว่าของผมนะครับ

ถามเพิ่มเติมนะครับ
1. หม้อต้มถ้าเราเปลี่ยนเป็นลูกใหญ่ขึ้น มีผลดียังไง
2. เจาะขยายรูหัวฉีดสำหรับเครื่อง 1600 ต้องเจาะรูขนาดเท่าไร ต้องจูนใหม่หรือเปล่าครับ

ถ้าไม่ได้ทำเครื่องเป็นเทอร์โบหรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ที่มีกำลังมากกว่าเดิมหม้อต้มเดิมก็น่าจะพอนะครับของผมที่ต้องทำเพราะเครื่องเดิม 2.2L  145 ม้าพอเปลี่ยนเป็นเครื่อง 2.3L 200 ม้าก็ต้องปรับแรงดันหม้อต้มจากเดิม 0.8 เป็น 1.2 ทีแรกก็คิดว่าหม้อต้มจะไม่พอพอช่างปรับแรงดันให้แล้วก็เลยพอ ส่วนหัวฉีดจากเดิมน่าจะ 1.4mm.ขยายเป็น 2mm. เพราะเวลารอบ vtec เปิดกราฟมันกระโดดของเดิมจึงไม่พอ ส่วนเครื่อง 4a ถ้าไม่ได้ทำอะไรหัวฉีดเดิมมันน่าจะพออยู่แล้วไม่ต้องขยายหรอกครับลองดูที่การจูนและคาริเบทหัวฉีดทั้ง 4 หัวเนื่องจากถ้าใช้มาเป็นเวลานานสปริงหัวฉีดมันจะล้าระยะยกเริ่มไม่เท่ากันจ่ายแก๊สไม่เท่ากันก็วิ่งไม่ออก กินแก๊ส ร้านติดตั้งแก๊สบางทียังไม่รู้เรื่องการคาริเบทหัวฉีดด้วยซ้ำจูนยังไงก็ไม่หาย ผมใช้ซัก 1-2 ปีเวลาเปลี่ยนชุดท่อยางก็จะคาริเบทหัวฉีดด้วยทุก 40000-50000 โลครับ

ถ้าความสามารถของกล่องใกล้เคียงกันที่เหลืออยู่ที่จูนเนอร์มากกว่าครับ E85 ถ้าจูนดีๆ เนียนๆ เผาไหม้หมดจรดอัตตราการสิ้นเปลืองไม่ต่างกับเบนซิน 95 หรอกครับที่บอกว่า E85 จะกินกว่าเดิม 30เปอร์เซนต์น่าจะเป็นเพราะใส่หัวฉีดกันอย่างเดียวไม่มีการจูนองศาไฟจุดระเบิด ผมใช้ทั้ง LPG(หัวฉีด)และ E85 ตอนแรกผมใช้เบนซิน 95 เวลาจะซัดเล่นเห็นค่าน้ำมันแล้วเหนื่อยใจครับเลยศึกษาเรื่อง E85 จึงตัดสินใจจูน E85 ไปเลยเพราะ E20 ก็ไม่ได้ถูกมากมายไหนๆ จะลงทุนเพื่อเล่นกับโซฮอลลแล้วก็เอาให้ราคาถูกไปเลยถ้าลงทุนไปแล้วยังเป็น E20 ราคา 30 กว่าบาทก็ไม่น่าลงทุนครับผมคิดแบบนี้ ไม่อยากโหมใช้แก๊สกับรอบสูงๆ เลยจูน E85 มาไว้ซัดเล่นรอบสูงๆ ส่วน LPG เอาไว้ขับทางไกลประหยัดๆ พอจูนเนอร์จูน E85 เสร็จแล้วจูนแก๊สให้พร้อมเลยผลออกมาอัตตราเร่งแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง LPG และ E85 ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองของ E85 วิ่งทางไกล 140+km/h อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 11 km/L ส่วน LPG วิ่งยาวๆ 110-120km/h อัตตราการสิ้นเปลือง 10km/L ถ้าแช่เพลินๆ 140+km/h LPG จะเหลือประมาณ 8km/L กับเครื่อง H23a blue top 2300cc. กล่อง rom จูน realtime เปลี่ยนปั๊มติ๊ก walbro 255 ทน E85 อย่างเดียวหัวฉีดเดิมจูนได้เลยไม่มีอะไรจุกจิกท่อน้ำมันเปลี่ยนทีหลังก็ได้ครับเปลี่ยนเป็นแบบทน E85 , E100 ราคาไม่เกิน 2000 บาท ส่วนแก๊สปรับแรงดันหม้อต้มแล้วเจาะขยายรูหัวฉีดให้พอถึงรอบปลาย 220km/h สบายๆ ทั้งประหยัดทั้งแรงไม่มีปัญหาจุกจิกให้ปวดหัวถ้าทำถูกทาง เครื่องตระกูล 4A 1600cc. น่าจะประหยัดกว่าของผมนะครับ

3s ไปเลยครับกำลังเยอะกว่าเวลาขับทางไกลประหยัดไม่ต่างกันเครื่อง 7a หรอกครับเพราะกำลังมันเยอะเวลาเร่งแซงมั่นใจกว่าเครื่องตระกูล A เรื่องแปลงสมัยนี้ไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่ 7a twin coil ความรู้สึกไม่ต่างจาก 4a fe เท่าไหร่ครับเคยใช้มาเหมือนกันวางเดิมๆ คิดว่าจะประหยัดก็ไม่ประหยัด จะแรงก็ไม่แรงมันกั๊กๆ น่ะครับ ถ้า 3s แรงม้าและแรงบิดต่อน้ำหนังรถดีกว่าอยู่แล้วถ้าใช้แก๊สก็ไม่ต้องกลัวครับคงกินไม่ต่างกับตระกูล A ซักเท่าไหร่เผลอๆ ขับทางไกลประหยัดกว่าด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องเค้นรอบเยอะกดแล้วมา ถ้าจะเอาประหยัดจริงวิ่งในเมือง 7a กับ 3s อาจจะไม่ใช่คำตอบครับเพราะต่างกันแค่ 200 cc.  

ผมใช้พลังงานทางเลือกเต็มระบบครับ E85+LPG(หัวฉีด) กับเครื่อง H23a เดิมๆ อาจจะไม่ใช่เครื่องของ toyota แต่เล่าให้ฟังเป็นแนวทางละกันนะครับตอนแรกๆ ก็ผมหาข้อมูลเรื่อง E85 ว่าต้องเปลี่ยนหัวฉีดจะกินน้ำมันเพิ่มขึ้น 20-30 เปอร์เซนต์แต่ได้ราคาต่อลิตรที่ถูกลงกล่องจูนก็มีขายตามท้องตลาดมากมายหลายราคาทั้งมือหมุน ทั้งจูนออโต้ ก็ว่ากันไป พอดีกล่อง P08 ของ honda มันจูน real time ได้ เลยตัดปัญหาเรื่องกล่องจูนไปแต่ต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กใหม่ใช้ WALBRO 255 แช่ถังทน E85 หัวฉีดเดิมถ่ายน้ำมันเก่าทิ้งทั้งหมดใส่ E85 เข้าไปใหม่ล้วนๆ ต้องปรับองศาไฟจุดระเบิดใหม่หมดครับกล่องดีๆ สั่งยกหัวฉีดได้ละเอียดอันนี้แล้วแต่จูนเนอร์ครับ แก๊สก็จูนใหม่พร้อมกัน ลองขับทางไกล 240 กิโล ขับยาว 140-180 อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ 11 กิโลต่อลิตรถ้าขับประมาณนี้แก๊สจะประมาณ 8 กิโลต่อลิตรแต่ถ้าขับ 110-120 แก๊สจะกินประมาณ 10 กิโลต่อลิตร แทบไม่ต่างกับเครื่องเดิมกล่องเดิมติดรถเลยครับกับเครื่อง 2300 CC. ความสิ้นเปลืองของ E85 แพงกว่า LPG อยู่ 0.5 บาทต่อกิโล ถ้า LPG ลอยตัวขึ้นเป็น 16-17 บาทก็คาวว่าจะถอด LPG ออกล่ะครับถ้าปั๊ม E85 มันมีเยอะขึ้น แต่ตอนนี้ปั๊ม E85 ยังน้อยก็ใช้มันทั้ง 2 อย่างสบายใจสุด น้ำมันแต่ละชนิดค่าออคเทนต่างกัน องศาไฟจุดระเบิดย่อมต่างกันถ้าต้องการให้ส่วนผสมสมบูรณ์ต้องจูนใหม่ครับก่อนหน้านี้ผมจูน 95 มา พอมาใช้ E85 เติมเข้าไปครั้งแรกมันจะบางครับถ้ากล่องปรับองศาไฟไม่ได้ก็เปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ถมน้ำมันเข้าไปมันก็เลยกินมากกว่าเดิม 20-30 เปอร์เซนต์อย่างที่ว่าแต่ถ้าจูนแล้วก็ต้องเติม E85 ตลอดนะครับ ถ้าเป็น toyota ก็น่าจะต้องลงทุนเรื่องกล่องดีๆ ซักใบจูนใหม่เนียนๆ จะจบกว่าครับ      

ต้องดูที่การใช้งานของเราเป็นหลัก ว่าใช้สถานะการ์ณแบบไหนบ่อย ถ้าถ่ายท่องเที่ยวหรือจะเอาไว้พอทเทรทตอนกลางวันบ่อย 70-200f4 ก็ยังได้อยู่ครับพอแสงน้อยก็นอนในกระเป๋ายาวแล้วครับ แต่ถ้าเป็นผมเลือก fix 85f1.8 ดีกว่าครับใช้งานได้จริงทุกสถานะการ์ณกับช่วงเทเลคุณภาพดีกว่า ราคาถูกกว่าได้แสงมากกว่า 2 สต๊อป

แต่ ถ้า 50มม.  ถ้าอยู่บนตัวคูณ  ระยะ มันก็ไม่ต่างกับ  85 บน FF  ไม่ใช่หรอพี่ 

เลนส์ normal 50mm. เมื่อนำมาใช้กับกล้องตัวคุณ จะเหมือนกับว่าได้เลนส์ 80 mm.ซึ่งเหมาะแก่การถ่าย portrait มากมาฟรีๆ ที่จริง perspective distortion ที่มีในเลนส์ 50mm. ยังคงมีลักษณะของเลนส์ 50 เหมือนเดิมที่เมื่อถ่ายภาพบุคคลครึ่งตัวหรือ head shots แล้วอาจจะดูบวมเล็กน้อย เพียงแต่เราเสียพื้นที่ด้านข้างของเฟรมไปจากการครอป ด้วยขนาดเซ็นเซอร์ที่เล็กกว่าไม่ต่างจากการใช้เลนส์ 50mm.ในกล้องฟูลเฟรมถ่ายแล้วนำภาพมาครอปภายหลังให้มีขนาดสมมุติเหมือนได้จากเลนส์ ช่วง 80mm. ถ้าเคยนำภาพมา crop ภายหลังคงจะพอจินตนาการตามออกนั่นแหละตัวคูณครับ แปลว่าพื้นที่หายไป หรือจะลองช่วงเทเลก็เช่นกัน เมื่อใช้กล้องฟูลเฟรมกับเลนส์ 300mm.ราคาประหยัด แล้วนำภาพที่ถ่ายได้มาครอปออกทั้ง 4 มุม จะเท่ากับ 480mm. ของกล้องตัวคูณ พูดให้ถูกใจก็คือได้เลนส์เทเลมาฟรีเหมือนกัน แต่ได้มาทีหลังการถ่าย ในคุณภาพที่ไม่แตกต่างกันเท่าไร

ต้องดูที่การใช้งานของเราเป็นหลัก ว่าใช้สถานะการ์ณแบบไหนบ่อย ถ้าถ่ายท่องเที่ยวหรือจะเอาไว้พอทเทรทตอนกลางวันบ่อย 70-200f4 ก็ยังได้อยู่ครับพอแสงน้อยก็นอนในกระเป๋ายาวแล้วครับ แต่ถ้าเป็นผมเลือก fix 85f1.8 ดีกว่าครับใช้งานได้จริงทุกสถานะการ์ณกับช่วงเทเลคุณภาพดีกว่า ราคาถูกกว่าได้แสงมากกว่า 2 สต๊อป

ย้อยแสงอีกซักรูป ไม่มี PS กล้องกับเลนส์สดๆ ครับ

EVO IX

ใช้แฟลชกี่ตัวยิงนิ

เดาจากเงา ตัวเดียว ยิงจากทางขวาเฉียงเข้าจากหน้ารถ

ใช้ 3 ตัวครับแต่ไล่กำลังไฟเอาครับ

EVO IX