ของผมช่างตัดต่อขายึดด้านล่างใหม่ครับ

ของผมเคยเป็นแบบนี้เช่นกันครับ ของผมหม้อน้ำรั่วครับ

เทสง่ายๆ เติมน้ำให้เต็มหม้อน้ำ จอดรถทิ้งไว้สักหนึ่งคืน แล้วมาดูตอนเช้าถ้าน้ำลดไปเยอะ ก็หม้อน้ำรั่วครับผม

ให้เค้าเอาหลักฐานมายืนยันครับ ถ้าเค้ายืนยันได้ว่าแผลเก่าค่อยว่ากัน

ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะ แต่ราคาของรถควรลดลงมากกว่านี้นะครับ รถราคามันแพงไป

เรียน ป.โท วิศวกรรมไฟฟ้า สาขาวิศวกรรมสื่อสาร ทำงานวิจัยร่วมกับอาจารย์ 2 โครงการ โครงการละ 6500 บาทต่อเดือน รวม เงินเดือน 13000 บาทต่อเดือน ไม่มีโบนัส หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วไม่มีเงินเหลือ แต่ก็ไม่เป็นหนี้ 

ข้อดีของงานนี้ คือ ตื่นมาทำงานต่อไหนก็ได้ วันไหนไม่อยากทำก็หยุด
ข้อเสีย งานต้องเสร็จตามเป้าที่วางไว้ในแต่ละสัปดาห์

เป็นแนวทางหนึ่งสำหรับใครที่วางแผนจะเรียน ป.โท นะครับ

อุณหภูมิน้ำ น้ำมันเครื่อง ควรอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมนะครับ ร้อนไปไม่ดี เย็นไปก็ไม่ดี ปัญหาคือเหมาะสมอยู่ที่เท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับเครื่องคุณใช้วัสดุอะไร เหล็ก อลู ไทเท วัสดุแต่ละอย่างเกรดอะไร ปัจจัยมันเยอะครับ แต่ตอนน้าทำเครื่องช่างเค้าน่าจะแนะนำมาแล้วหรือเปล่าว่าอุณหภูมิแต่ละอย่างควรอยู่ที่เท่าไร ถ้าเค้าไม่แนะนำอุณหภูมิต่างๆ อาจจะเหมาะสมอยู่แล้ว แต่มีปัญหาที่อย่างอื่นหรือเปล่าครับ

รบกวนด้วยครับ
s.songkhao@gmail.com

ขอบคุณครับ

ผมเห็นคนเข้าใจผิดเรื่องของท่อยางน้ำมันทน E85 เยอะ ยังไงผมขอให้ความรู้ที่ถูกต้องนะครับ
พวกท่อน้ำมัน R6 R7 R9 R10 ไม่ได้บ่งบอกถึงการทน E85 นะครับ แต่บ่งบอกถึงการทนแรงดันนะครับ ดังข้อมูลด้านล่าง ซึ่งผม copy มาจาก http://standards.sae.org
Section 3 covers Coupled and Uncoupled Synthetic Rubber Tube and Cover (SAE 30R2).
Section 4 covers Lightweight Braided Reinforced Lacquer, Cement, or Rubber Covered Hose (SAE 30R3).
Section 5 covers Wire Inserted Synthetic Rubber Tube and Cover (SAE 30R5).
Section 6 covers Low-Pressure Coupled and Uncoupled Synthetic Rubber Tube and Cover (SAE 30R6), (SAE 30R7), (SAE 30R8).
Section 7 covers Fuel Injection Hose Medium-Pressure Coupled and Uncoupled Synthetic Rubber Tube and Cover (SAE 30R9).
Section 8 covers In-Tank, Low-Pressure, Uncoupled Fuel Hoses (SAE 30R10).
ดังนั้นการทน E85 ไม่ได้อยู่ที่ค่า R นะครับ แต่ค่านี้จะบอกว่าท่อนั้นเหมาะที่จะใช้กับส่วนใด

ผมว่าน่าจะรอให้พ้นหน้าฝนก่อนนะครับ

กล่อง Amp แอร์ รถปกติมีอยู่ทุกคันนะครับสำหรับ AE92-AE1xxx
แบ่งเป็นกล่อง Amp แอร์หัวฉีดกับคาบูครับ
ถ้าเครื่องเดิมก่อนเปลี่ยนเครื่องเป็นหัวฉีดก็ใช้ของเดิมได้ครับ
ถ้าเครื่องเดิมเป็นคาบูก็ต้องหากล่องหัวฉีดมาใส่แล้ว wiring สายใหม่ครับ สำหรับกล่อง Amp แอร์เครื่องหัวฉีดก็รหัส 450 หรือ 890 ครับผม
ยังไงก็ลองคุยกับช่างดูนะครับ

เครื่องเดิมเป็นคาบูหรือหัวฉีดครับ
1. ถ้าเครื่องเดิมเป็นหัวฉีดก็ต่อกล่องเดิมได้เลยครับ
2. ถ้าเครื่องเดิมเป็นคาบูมีหลายวิธีในการแก้
    2.1 วิธีแรกคือใช้กล่องแอร์เครื่องหัวฉีดครับ รหัสกล่องตัวหน้าจำไม่ได้จำได้แต่ตัวหลัง 450 และ 890 ครับ บางคนบอกของวีโก้ก็ได้ครับ แต่ต้อง wiring สายไฟกล่องแอร์ใหม่ครับ
    2.2 ทำวงจรหน่วงเวลาสัมผัสหน้าครัชคอมแอร์ หลังจากเรากดสวิทให้แอร์ทำงาน
ลองแก้ไขหรือปรึกษาช่างดูนะครับ

รบกวนสอบถามเรื่องการตั้งองศาไฟจุดระเบิดฝาดำหน่อยครับ ว่าควรเป็นเท่าไรเพื่อลดอาการเขกครับ
ทั้งแก๊สโซฮอล 95 แก๊สโซฮอล 91 E20 E85 และ LPG เชื้อเพลิงแต่ละชนิดควรตั้งองศาไฟจุดระเบิดเท่าไรครับ

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบด้วยนะครับ

ลองเช็ครีเลย์ไฟต่ำดูครับ

เป็นคลิปที่ดีมากเลยครับ
ขอบคุณมากนะครับ

ไฟไหม้เกิดจากท่อน้ำมันรั่วครับ แล้วเวลาไหม้มันก็ไหมตรงที่ท่อรั่วนั้นแหละครับ ผมเคยไหม้มาแล้ว 1 ครั้ง
ผมแนะนำว่าถ้าได้กลิ่นน้ำมันเข้ามาในรถ ให้เปิดฝากระโปรง ถ้าซ่อมเองไม่ได้ก็รีบโทรตามช่างเลยครับ อย่าขับหรือสตาร์ทเครื่อง

ถ้าไม่ใช้เหล็กรัดฝาเราจะใช้เชื่อมปิดได้มั๊ยครับเผื่อให้ร้านหม้อน้ำแถวบ้านเชื่อมให้ เห็นว่าราคาของใหม่AE เกือบหมื่น  แต่ของSoluna ปี 2002 ราคา 1,940 บาท ใช้ P/NO.77740-0D020  ใครรู้บ้างว่ามันแปลงใส่กันได้มั๊ย ถ้าได้10กว่าปีเปลี่ยนที่ก็คุ้มมากเลย

ผมว่าน่าจะใช้แทนกันได้นะครับ

ออโต้ เวลาเช็คโค๊ด ต้องกด O/D ด้วยนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่ากดให้ไฟแสดง O/D ดับหรือติด ครับ

น้า kampol ไม่เป็นไรครับ
ผมชอบคนตรงๆ ครับผม

อ้างอิงจากเอกสาร http://www.dede.go.th/dede/images/stories/file/executive_summary.pdf
ผมมองว่าเอกสารเป็นการทดลองอุปกรณ์ที่ทางผู้เขียนเอกสารสร้างขึ้นมามากกว่าครับ ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือทางวิชาการนะครับ (งานทางวิชาการต้องมีการทบทวนวรรณกรรม และต้องมีเอกสารอ้างอิงครับผม)

ผมไม่แน่ใจว่า FFV ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีกี่วิธี แต่ที่ผมทราบเกียวกับการเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงตอนนี้มี 2 วิธีครับ
1. เพิ่มระยะเวลาในการฉีดน้ำมันให้นานขึ้น โดยใช้หัวฉีดน้ำมันเดิม
2. ใช้เวลาในการฉีดน้ำมันเท่าเดิม แต่เพิ่มขนาดของหัวฉีดให้สามารถฉีดน้ำมันได้มากขึ้น
ซึ่งทั้งสองวิธีมีทั้งข้อดี และข้อเสียครับ
อย่างเช่นในข้อ 1 สามารถใช้อุปกรณ์หัวฉีดเดิมของรถได้ ส่วนในข้อ 2 คงต้องซื้อหัวฉีดใหม่

ถ้าข้อความของผมขัดใจใครผมต้องขอโทษด้วยนะครับ

อยากให้แชร์ความรู้กันเยอะๆคับ จะได้เป็นแนวทางในการตัดสินใจได้ 

  คงไม่มีใครกล้าแชร์หรอกครับ เพราะขนาดเขาทำ DATA มา มี RESULT ที่ผ่านทีมระดับ Dr.การันตี  ยังกล้าบอกว่าไม่น่าเชื่อถือกันเลย 555  แล้วไฉนเลยจะมีคนที่มีความรู้มา แชร์ล่ะท่าน 
           เขาจะพิมพ์ทีก็ลบทุกทีแหละ เพราะ บางครั้งเค้าก็จะคิดในใจ อยู่เฉย ๆ ดีกว่า 555    คนเราต้องกล้าที่รับ และ แลกเปลี่ยนครับ อย่าเพิ่งปฏิเสธ โดยที่ยังไม่เคยลองเลย ครับ 

ผมขอโทษนะครับเรื่องที่ผมวิจารย์เรื่องความน่าเชื่อถือของบทความ
ผมขอแก้นิดหนึ่งนะครับเรื่องบทความที่ว่ามี Dr. มาการันตี เค้าไม่ได้มาการันตีนะครับ เค้าแค่มาบรรยายให้ฟังในทีประชุม และรับฟังการบรรยายเท่านั้นครับ
ที่ผมพิมพ์นี้แค่ไม่อยากให้เข้าใจผิดนะครับ

ส่วนเรื่อง "เขาจะพิมพ์ทีก็ลบทุกทีแหละ เพราะ บางครั้งเค้าก็จะคิดในใจ อยู่เฉย ๆ ดีกว่า" ถ้าทำให้คนอื่นๆ รู้สึกแบบนี้ผมขอโทษนะครับ 
ผมแค่แสดงความคิดเห็น โดยอ้างอิงตามเหตุผลเท่าที่ผมทราบครับ

ส่วนสุดท้าย "คนเราต้องกล้าที่รับ และ แลกเปลี่ยนครับ อย่าเพิ่งปฏิเสธ โดยที่ยังไม่เคยลองเลย" ขอบคุณที่แนะนำครับ 

อ้างอิงจากเอกสาร http://www.dede.go.th/dede/images/stories/file/executive_summary.pdf
ผมมองว่าเอกสารเป็นการทดลองอุปกรณ์ที่ทางผู้เขียนเอกสารสร้างขึ้นมามากกว่าครับ ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือทางวิชาการนะครับ (งานทางวิชาการต้องมีการทบทวนวรรณกรรม และต้องมีเอกสารอ้างอิงครับผม)

ผมไม่แน่ใจว่า FFV ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีกี่วิธี แต่ที่ผมทราบเกียวกับการเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงตอนนี้มี 2 วิธีครับ
1. เพิ่มระยะเวลาในการฉีดน้ำมันให้นานขึ้น โดยใช้หัวฉีดน้ำมันเดิม
2. ใช้เวลาในการฉีดน้ำมันเท่าเดิม แต่เพิ่มขนาดของหัวฉีดให้สามารถฉีดน้ำมันได้มากขึ้น
ซึ่งทั้งสองวิธีมีทั้งข้อดี และข้อเสียครับ
อย่างเช่นในข้อ 1 สามารถใช้อุปกรณ์หัวฉีดเดิมของรถได้ ส่วนในข้อ 2 คงต้องซื้อหัวฉีดใหม่

ถ้าข้อความของผมขัดใจใครผมต้องขอโทษด้วยนะครับ