AE. Racing Club
26 กรกฎาคม 2568 08:51:47 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2  » 
1  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 0113-รับจัดกิจกรรมTeamBuilding ท่องเที่ยว ดีไซน์เส้นทท่องเที่ยวแล้วก็กิจกรรม เมื่อ: 01 ธันวาคม 2565 15:17:48
รับจัดกิจกรรมTeamBuilding พาเที่ยว เดินทางไม่เป็นอันตราย ราคาประหยัด รับจัดกิจกรรมTeamBuilding มีไกด์ดูแล บ้านพัก บังกะโล รับจัดกิจกรรมTeamBuilding สบายสะบาย ของกินอร่อย มีบุคลากรดูแลท่านตลอดเส้นทาง ยินดีให้คำแนะนำ รับจัดกิจกรรมTeamBuilding ปี2565 -2566
2  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 0987-ที่พักดานัง พาเที่ยว เดินทางปลอดภัย ราคาย่อมเยา มีไกด์ดูแล เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2565 04:17:53
ที่พักดานัง จัดทัวร์ศึกษางานเมืองนอก รับจัดกลุ่มทัวร์ส่วนตัว ที่พักดานัง รับจัดกลุ่มเหมา จัดกลุ่มส่วนตัวในประทศ ที่พักดานัง โดยคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการท่องเที่ยว ปี2565 -2566
https://bit.ly/3V2lzQH
3  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 0618-ทัวร์น้ำตกทีลอซู โดยคณะทำงานนำเที่ยวมือโปรชำนิชำนาญเส้นทาง ราคาประหยัด เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2565 00:53:52
ทัวร์น้ำตกทีลอซู จัดทัวร์ดูงานต่างถิ่น รับจัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัว ทัวร์น้ำตกทีลอซู รับจัดกลุ่มเหมา จัดกรุ๊ปส่วนตัวในประทศ ทัวร์น้ำตกทีลอซู โดยคณะทำงานผู้ที่มีความชำนาญ ด้านการท่องเที่ยว ปี2565 -2566
4  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 1196-ทัวร์เวียดนาม กรุ๊ปส่วนตัว ท่องเที่ยว ออกแบบทางท่องเที่ยวแล้วก็กิจกรรม เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2565 12:05:58
ทัวร์เวียดนาม กรุ๊ปส่วนตัว นำทาง เดินทางไม่เป็นอันตราย ราคาประหยัด ทัวร์เวียดนาม กรุ๊ปส่วนตัว มีไกด์ดูแล บ้านพัก เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ทัวร์เวียดนาม กรุ๊ปส่วนตัว สะดวกสะบาย อาหารอร่อย มีพนักงานดูแลท่านตลอดเส้นทาง ยินดีให้คำปรึกษา ทัวร์เวียดนาม กรุ๊ปส่วนตัว ปี2565 -2566
https://bit.ly/3tQT4JZ
5  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 1087-ทัวร์แม่ฮ่องสอน โดยทีมงานนำทางมืออาชีพชำนิชำนาญทาง ราคาประหยัด เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2565 05:23:54
ทัวร์แม่ฮ่องสอน จัดทัวร์ดูงานต่างถิ่น รับจัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัว ทัวร์แม่ฮ่องสอน รับจัดกลุ่มเหมา จัดกรุ๊ปส่วนตัวในประทศ ทัวร์แม่ฮ่องสอน โดยทีมงานผู้ที่มีความชำนาญ ด้านการท่องเที่ยว ปี2565 -2566
https://bit.ly/3UShTkF
6  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 0851-กรุ๊ปเหมาเวียดนาม ท่องเที่ยว ดีไซน์ทางท่องเที่ยวและกิจกรรม เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2565 07:36:12
กรุ๊ปเหมาเวียดนาม เราเป็นบริษัทนำเที่ยว พาท่านไปท่องเที่ยวทั่วโลก ราคาประหยัด ปี2565 -2566 กรุ๊ปเหมาเวียดนาม ทัวร์คุ้มค้าเงินที่ท่านจ่ายไป เดืนทางปลอดภัย มีไกด์ดูแลตลอดเส้นทาน กรุ๊ปเหมาเวียดนาม เรามีของกินแล้วก็ของหวานตลอดการเดินทาง กรุ๊ปเหมาเวียดนาม เราจัดกรุ๊ปเหมา เที่ยวแบบส่วนตัว รับทำ วีซ่า ทุกประเทศ
https://bit.ly/3twPJ2p
7  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 0215-meal-plan-bangkok อาหารของพวกเราย้ำที่ของกินจริงจากแหล่งพืช เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2565 08:35:59
meal-plan-bangkok เราเป็นช่วยทำให้คุณฟื้นฟูสุขภาพรวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ เพียงเล็กน้อย ที่ Plantiful เราเน้นที่การใช้ ส่วนประกอบที่คุณวางใจได้และได้รับ การสนับสนุน จากวิทยาศาสตร์ เรามั่นใจว่าสุขภาพเป็นความร่ำรวยสูงสุด meal-plan-bangkok และก็เป้าหมายของ meal-plan-bangkok ของกินของพวกเราเน้นย้ำที่ของกินจริงจากแหล่งพืชที่ไม่ผ่านผู้กระทำลั่น meal-plan-bangkok และผ่านกรรมวิธีการ
8  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 1003-เที่ยวบานาฮิลล์ ด้วยตัวเอง ท่องเที่ยว วางแบบทางท่องเที่ยวและก็กิจกรรม เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2565 18:06:14
เที่ยวบานาฮิลล์ ด้วยตัวเอง พาเที่ยว เดินทางปลอดภัย ราคาประหยัด เที่ยวบานาฮิลล์ ด้วยตัวเอง มีไกด์ดูแล บ้านพัก รีสอร์ท เที่ยวบานาฮิลล์ ด้วยตัวเอง สบายสะบาย อาหารอร่อย มีพนักงานดูแลท่านตลอดทาง ยินดีให้คำปรึกษา เที่ยวบานาฮิลล์ ด้วยตัวเอง ปี2565 -2566
https://bit.ly/3hzbKuQ
9  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 1018-สอบถาม ที่พักบาน่าฮิลล์ ท่องเที่ยว ออกแบบทางท่องเที่ยวและกิจกรรม เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2565 05:18:09
สอบถาม ที่พักบาน่าฮิลล์ จัดทัวร์ศึกษางานต่างถิ่น รับจัดกลุ่มทัวร์ส่วนตัว สอบถาม ที่พักบาน่าฮิลล์ รับจัดกรุ๊ปเหมา จัดกรุ๊ปส่วนตัวในประทศ สอบถาม ที่พักบาน่าฮิลล์ โดยคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการท่องเที่ยว ปี2565 -2566
https://bit.ly/3V1MxYB
10  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / เซ็นทรัล รีเทล ปิดไตรมาส 3 โตเกินเป้า กวาดกำไร 1,259 ล้านบาท โต 157% เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2565 04:55:01

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า "เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าสร้างธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปิดไตรมาส 3 /2565 ด้วยรายได้รวมอยู่ที่ 57,998 ล้านบาท (+40% YoY) และกำไรสุทธิ 1,259 ล้านบาท (+157% YoY) ขณะที่ผลประกอบการตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม - กันยายน 2565) สามารถกวาดรายได้รวมอยู่ที่ 171,098 ล้านบาท (+25% YoY) และกำไรสุทธิ 4,188 ล้านบาท (+292% YoY) ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำค้าปลีกแห่งอนาคตของเซ็นทรัล รีเทล ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจโมเดลใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมและสมบูรณ์แบบที่สุด"

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี ที่ทำให้มองเห็นสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน ทั้งมู้ดการจับจ่ายใช้สอยที่คึกคัก จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าเฉพาะเดือนธันวาคมนี้จะเป็นช่วงพีคที่สุดของปีที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาในไทยมากกว่า 2 ล้านคน รวมถึงรัฐบาลยังอยู่ในช่วงพิจารณามาตรการ "ช้อปดีมีคืน" เพื่อเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจับจ่ายของผู้บริโภคในช่วงปลายปีอีกด้วย ทั้งหมดนี้ถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะภาคค้าปลีกและบริการอย่างเซ็นทรัล รีเทล ที่ได้เตรียมพร้อมรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคผ่านสินค้าและบริการที่ครบครัน รวมถึงแพลตฟอร์ม Next - Gen Omnichannel ที่จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อให้กับลูกค้า นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังมีแผนเตรียมเปิดตัวศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สาขาราชพฤกษ์ ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ล่าสุดที่รองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าครอบครัวในอนาคต ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานตลอดทั้งปี จึงคาดว่าเซ็นทรัล รีเทล จะสามารถปิดปี 2565 ด้วยรายได้เติบโตอยู่ที่ 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป เพื่อมุ่งสู่ปีใหม่อย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เคย
11  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / 1063-เที่ยวซาปา ด้วยตัวเอง นำทาง เดินทางไม่เป็นอันตราย ราคาประหยัด มีไกด์ดูแล เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2565 07:06:12
เที่ยวซาปา ด้วยตัวเอง นำเที่ยว เดินทางไม่มีอันตราย ราคาประหยัด เที่ยวซาปา ด้วยตัวเอง มีไกด์ดูแล ที่พัก รีสอร์ท เที่ยวซาปา ด้วยตัวเอง สบายสะบาย ของกินอร่อย มีพนักงานดูแลท่านตลอดเส้นทาง ยินดีให้คำแนะนำ เที่ยวซาปา ด้วยตัวเอง ปี2565 -2566
https://bit.ly/3A6AelK
12  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / TKN โชว์ฟอร์มผลงาน Q3/65 นิวไฮฟันกำไร 180 ล้านบาท กลับมาเติบโตเท่าช่วงก่อนโควิด เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2565 17:57:19

TKN โชว์ฟอร์มผลงาน Q3/65 นิวไฮฟันกำไร 180 ล้านบาท กลับมาเติบโตเท่าช่วงก่อนโควิด ชี้กลยุทธ์ "Go Firm" เห็นผล ปักธงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตตามแผน เร่งเครื่องขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายครอบคลุมในและต่างประเทศ

บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ประกาศผลงานไตรมาส 3/65 ทำกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท ทำนิวไฮ กลับมาเติบโตเท่าช่วงก่อนโควิด-19 และมีรายได้จากการขาย 1,208.7 ล้านบาท ดันผลงานงวด 9 เดือนแรก ทำรายได้จากการขาย 3,135.1 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 313.6 ล้านบาท รับผลดีหลังดำเนินกลยุทธ์ "Go Firm" ปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็ว พร้อมบริหารจัดการต้นทุนราคาวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ เร่งเครื่องขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ปักธงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตตามแผน

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้แบรนด์ 'เถ้าแก่น้อย' รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 (กรกฎาคม - กันยายน) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 835% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 19.3 ล้านบาท ถือเป็นการทำกำไรสูงสุด (New High) ในรอบ 2 ปี นับจากช่วงเวลาก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่มีรายได้จากการขาย 1,208.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 830.7 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจาก 4 ส่วน ได้แก่

การมีผลิตภัณฑ์สาหร่ายที่หลากหลายทั้งแบบ ทอด อบ ย่าง (Product Mixed) ทำยอดขายเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายแบบอบและย่าง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง
การดำเนินกลยุทธ์ "Go Firm" ที่มุ่งปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็วขึ้นเพื่อลดต้นทุน ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนราคาวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
ใช้ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาทดแทนแรงงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทำให้มีต้นทุนสามารถแข่งขันได้ และ
การรวมโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน โดยย้ายเครื่องจักรการผลิตจากโรงงานนพวงศ์ ปทุมธานี ไปไว้ในพื้นที่โรงงานโรจนะ ทำให้ได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด (Economies Of Scale) และอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม - กันยายน 2565) มีกำไรสุทธิ 313.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 97.7 ล้านบาท มีรายได้จากการขาย 3,135.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 2,533.7 ล้านบาท และถือว่าทำผลงานได้ใกล้เคียงกับรายได้จากการขายทั้งปี 2564 ที่ทำได้ 3610.9 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จมาจากการดำเนินตามกลยุทธ์ 3 Go (Go firm - Go Brand - Go Global) ตามที่ตั้งไว้ ทำให้บริษัทฯ เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น และเห็นผลชัดเจนโดยเฉพาะ Go Firm ในการ Lean องค์กรให้มีความคล่องตัวพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทำให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร และรักษาอัตราการทำกำไรให้ดีขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2565 จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10 - 13% สำหรับการขยายตลาดในประเทศ TKN ได้มุ่งมั่นขยายเข้าสู่ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ซึ่งเป็นร้านโชห่วย หรือร้านขายของชำ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศและเข้าถึงคนท้องถิ่นได้ง่าย ขณะที่ช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านสะดวกซื้อ จะเน้นกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา TKN ได้ทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPD) ทั้งผลิตภัณฑ์สาหร่ายทอด สาหร่ายอบกรอบรสชาติใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สาหร่าย (Non-seaweed) และเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ Just Drink ที่จะออกรสชาติเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการทำกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งได้ร่วมกับ "BT21" ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนของ LINE FRIENDS ที่ออกแบบโดยวงไอดอลเกาหลีชื่อดังระดับโลก "BTS" ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภค

ส่วนตลาดต่างประเทศมียอดคำสั่งซื้อฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหลักในประเทศจีนแม้ยังมีสถานกาณ์การล็อคดาวน์ แต่ยังมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเฉลี่ย 130 - 150 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน และหากในปีหน้า เมื่อจีนเปิดประเทศคาดว่าจะมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายจากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวในไทยก็จะดีขึ้นตามลำดับ ด้านตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกานับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มียอดคำสั่งซื้อในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 เติบโต 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ถือเป็นการทำสถิติสูงสุด (New High) นับตั้งแต่เริ่มทำการตลาดปี 2561 โดยได้มุ่งเน้นเจาะตลาด Mainstream ที่เป็นชาวอเมริกันในท้องถิ่น และได้เตรียมเพิ่มช่องทางขายผ่านร้านค้าเครือใหญ่อย่าง 'เทรดเดอร์โจส์' (Trader Joe's) ที่มีสาขากว่า 500 แห่งในสหรัฐอเมริกา รวมถึงขยายตลาดแบรนด์ 'โนระ' (NORA) เข้าสู่ประเทศแคนาดา ผ่านการวางจำหน่ายสินค้าในห้างคอสโค (Costco) นอกจากนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศอังกฤษในการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้โมเดลธุรกิจในรูปแบบสหรัฐฯ

ขณะที่ตลาดในโซนเอเซีย อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ เวียดนาม บริษัทฯ ได้เข้าไปทำกิจกรรมทางการตลาดมากยิ่งขึ้น ผ่านการผลิตของพรีเมียม และร่วม Collaboration กับตัวการ์ตูนสุดฮิต เพื่อเพิ่มสีสันและการส่งเสริมการขายให้ดียิ่งขึ้น
13  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาคขานรับเงินเฟ้อสหรัฐ เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2565 17:27:34
ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาคขานรับเงินเฟ้อสหรัฐต่ำคาดเก็งเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด โดยดัชนี CPI ทั่วไปรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 7.7% ในเดือน ต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 7.9% และชะลอตัวจาก 8.2% ในเดือน ก.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับขึ้น 6.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 6.5% และชะลอตัวจาก 6.6% ในเดือน ก.ย.

ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ หรือปรับขึ้นในระดับ 0.50% และคาดว่าจะขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 66 ครั้งละ 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยสหรัฐจะอยู่ที่ระดับไม่เกิน 5% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 5.25%

นอกจากนี้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) ก็ปรับตัวลงแรง มาที่ระดับ 107.9 ดอลลาร์สหรัฐ หนุนสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ ประกอบกับค่าเงินบาทมีสัญญาณแข็งค่ารุนแรง มาอยู่ที่ระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์ หนุนเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง

ให้แนวรับ 1,620-1,612 จุด และแนวต้าน 1,635-1,650 จุด
14  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / ดอลลาร์แข็งค่าสอดคล้องบอนด์ยีลด์ดีดตัว หลังเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2565 01:40:18

ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก สอดคล้องกับการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ณ เวลา 18.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 1.44% สู่ระดับ 112.94 ขณะที่ดอลลาร์ดีดตัว 0.22% สู่ระดับ 148.22 เยน และแข็งค่า 0.754% สู่ระดับ 0.974 เทียบยูโร

เฟดจัดการประชุมนโยบายการเงินวานนี้ โดยมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในเดือนธ.ค.

อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแสดงความมุ่งมั่นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

คำกล่าวของนายพาวเวลส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยาวนานกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ตลาดปรับเพิ่มคาดการณ์เพดานสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ระดับ 5% หรือสูงกว่านั้นในปีหน้า จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.50-4.75%

ปอนด์ดิ่งลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ แม้มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้

ณ เวลา 18.07 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ดิ่งลง 1.15% สู่ระดับ 1.126 ดอลลาร์ และร่วงลง 0.41% สู่ระดับ 0.865 เทียบยูโร

นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดของ BoE ในรอบ 33 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2532 และจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 หลังจากเงินเฟ้อพุ่งทะลุ 10% ในเดือนก.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในเชิงรุกเหมือนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เนื่องจากเศรษฐกิจอังกฤษยังคงอ่อนแอ โดย BoE เตือนว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยยาวนานกว่า 1 ปี โดยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 จนถึงสิ้นปี 2566
15  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / KJL จ่อ เคาะราคา IPO 7 พ.ย.นี้ เปิดจอง 9-11 พ.ย.พร้อมเดินหน้าเข้า mai เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2565 17:24:25

บมจ.กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค (KJL) เตรียมกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้นในวันที่ 7 พ.ย.นี้ โดยจะเปิดให้จองซื้อในชาวงระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย.จากนั้นคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ภายในเดือน พ.ย.65

KJL ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คาดเคาะราคา IPO ? เปิดจองซื้อ - เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 พร้อมชูประสบการณ์ผลิตตู้ไฟ สวิตช์บอร์ดของประเทศมาเกือบ 3 ทศวรรษ เตรียมมุ่งสู่ "ผู้นำนวัตกรรม ตู้ไฟรางไฟ ขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่ออนาคต" รองรับ Digital Economy

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ KJL เปิดเผยว่า KJL ลงนามแต่งตั้งให้ บล.หยวนต้าฯ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย รวม 3 ราย ประกอบด้วย บล.เอเซียพลัส บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง

"KJL เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์อนาคต โดยทีมผู้บริหารและทีมงานที่มากประสบการณ์และคร่ำหวอดในธุรกิจมานานเกือบ 30 ปี ที่ตลาดอุตสาหกรรม ตลอดจนพันธมิตรระดับโลกรู้จักและให้การยอมรับ ทำให้มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ KJL จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน รวมถึงแผนการลงทุนที่ชัดเจนในการเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต นับเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน" นายพายุพัด กล่าว
ด้าน นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KJL กล่าวว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จและความภาคภูมิใจในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศในอุตสาหกรรม ภายใต้ค่านิยมองค์กร (Core Value) ซึ่งประกอบด้วย FLEXIBLE INNOVATION SPEED และ TRUSTWORTHY เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและมีความแตกต่างในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและคุณภาพที่รวดเร็วและตรงเวลา จึงได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามาเกือบ 3 ทศวรรษ

เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต, ติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop), ลงทุนศูนย์นวัตกรรม (KJL Innovation Campus) เพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม, ชำระคืนเงินกู้ในระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทและเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานปี 62-64 มีรายได้จากการขาย 753.67 ล้านบาท 708.18 ล้านบาท และ 845.78 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 5.93% ต่อปี ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.49 ล้านบาท 90.97 ล้านบาท และ 94.04 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 65 มีรายได้จากการขาย 502.89 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 65.79 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 64 ที่มีรายได้จากการขาย 424.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47.87 ล้านบาท

"การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จะช่วยให้ KJL มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น สามารถรองรับการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกระแสการใช้พลังงานสะอาดทั่วโลกที่กำลังเติบโต นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้และทำกำไรในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ผลักดันให้ผลการดำเนินงานของ KJL เติบโตอย่างก้าวกระโดด รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy ในฐานะผู้นำนวัตกรรม ตู้ไฟรางไฟ ขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่ออนาคตคุณ" นายเกษมสันต์ กล่าว
16  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / รายงานระดับโลกปีล่าสุดชี้ เฟดเอ็กซ์ช่วยดันเศรษฐกิจโลกให้เติบโตต่อเนื่อง เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2565 14:09:51

เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น ZNYSE: FDX) ประกาศ ผลสำรวจจากรายงานประจำปี 2565 เกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกของบริษัทในภูมิภาคสำคัญทั่วโลกเพื่อ เป็นการสรุปผลประกอบการ ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยการจัดทำรายงานนี้ได้รับการแนะนำจาก ดัน & แบรด สตรีต (NYSE: DNB) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจชั้นนำของโลกซึ่งเป็นครั้งแรกที่เฟดเอ็กซ์ได้ทำการศึกษา ผลกระทบของบริษัทต่อเศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กว่า 49 ปีที่เฟดเอ็กซ์ได้ขยายการบริการไปยัง กว่า 220 ประเทศ และได้ลงทุนในการสร้างเครือข่ายการขนส่งเพื่อช่วยให้ทุกภาคธุรกิจ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สามารถเชื่อมต่อกัน เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเติบโตให้เศรษฐกิจโลก

รายงานฉบับนี้ชี้ว่าเฟดเอ็กซ์มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือภาคธุรกิจต่าง ๆ ให้ฟื้นตัวได้จากวิกฤต โรคระบาดที่ผ่านมาด้วยการเอาชนะความท้าทายทางเศรษฐกิจและวิกฤตห่วงโซ่อุปทานครั้งใหญ่ ในปี 2565 นี้ เฟดเอ็กซ์มีพนักงานเกือบ 550,000 คนทั่วโลกที่ทำการขนส่งพัสดุกว่า 16 ล้านชิ้นต่อวัน ผ่านศูนย์กระจายสินค้า 5,000 แห่ง พร้อมความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่าย การขนส่งและการลงทุนด้านต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าของเฟดเอ็กซ์ ได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยการบริการที่ครอบคลุมทั่วโลก เฟดเอ็กซ์ได้ช่วยให้ลูกค้ารายบุคคล ธุรกิจต่าง ๆ และชุมชนฟื้นตัวจาก วิกฤตโรคระบาด ผ่านการขนส่งสินค้าและมอบบริการที่ช่วยเชื่อมต่อและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยในรายงาน ฉบับล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่าการทำงานในแต่วันของเรามีความสำคัญในการช่วยสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของชุมชนต่าง ๆ และเราขอเรียกสิ่งนี้ว่า 'FedEx Effect' " นายราจ สุบรามาเนียม ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว

เครื่องบ่งชี้ถึง FedEx Effect
เฟดเอ็กซ์ในฐานะบริษัทขนส่งมีบทบาทสำคัญต่อนวัตกรรมด้านพลังงาน การส่งเสริมการจ้างงาน ในชุมชนต่าง ๆ และช่วยสนับสนุนนผู้คนในท้องถิ่นและชุมชนในระดับภูมิภาคในหลายประเทศทั่วโลก

เฟดเอ็กซ์ทำงานร่วมกับผู้ผลิตกว่า 360,000 รายทั่วโลก เกี่ยวข้องกับการจ้างงานมากกว่า 16.5 ล้านคน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อชุมชนและตลาดในท้องถิ่น โดยคิดเป็นมูลค่ารวมต่อปีถึง 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ภาคธุรกิจขนาดเล็กคิดเป็น 88% ในห่วงโซ่อุปทานของเฟดเอ็กซ์ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีจำนวนพนักงานใน ธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 810,000 รายทั่วโลกที่เฟดเอ็กซ์ได้ให้การสนับสนุน
ในปีงบประมาณ 2565 เฟดเอ็กซ์ได้ลงทุนไปกว่า 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปี 2564 ถึง 15% โดยเป็นการลงทุนในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและพนักงาน เพิ่มศักยภาพของเครือข่าย และปรับปรุงสาธารณูปโภคขององค์กร ทั้งหมดนี้ช่วยให้เกิดความเติบโตทางเศรษฐกิจโดยตรงในแต่ละ ประเทศที่เฟดเอ็กซ์ดำเนินงานอยู่
ผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA)
บริษัทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ใน 100 กว่าประเทศและพรมแดนแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง อนุภูมิภาคอินเดีย และแอฟริกาซึ่งมีความเชื่อมโยงถึงกันสูง แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญและโดดเด่นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าระดับโลก และเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ข้อมูลจากรายงานพบว่าเฟดเอ็กซ์ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 13% โดยสนับสนุนให้เกิดตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นกว่า 58,000 ตำแหน่ง นอกเหนือจากจำนวนของพนักงานเดิม 37,000 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา (AMEA)

"ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสานต่อพันธกิจของเราที่เคยให้ไว้ต่อภูมิภาคนี้ เฟดเอ็กซ์จึงได้สนับสนุนเพื่อช่วยเหลือธุรกิจและชุมชนกว่าแสนรายให้รอดพ้นและสามารถฟื้นฟูจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19ได้" กล่าวโดย คาวาล พรีท ประธานภูมิภาค AMEA ของเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส และเสริมว่า "การลงทุนพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าในโอซาก้า และดูไบ ช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการและเพิ่มประสิทธิภาพของเส้นทางการบินสำหรับลูกค้าของเราได้ในช่วงที่สถานการณ์ของห่วงโซ่อุปทานมีความผันผวน นอกจากนี้การลงทุนและการปรับปรุงในสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ เช่น การปรับปรุง Clark Gateway ในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงการรวมศูนย์กลางของศูนย์กระจายสินค้าที่กรุงเดลี ยังช่วยให้เราสามารถเข้าถึงตลาดเกิดใหม่ได้มากขึ้น ตามมาด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น"

การดำเนินธุรกิจของเฟดเอ็กซ์ในภูมิภาคนี้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเฟดเอ็กซ์ได้เปิดให้บริการ Direct commercial presence ในประเทศกัมพูชา อียิปต์ ซาอุดิอาราเบีย และ จอร์แดน
นอกจากนี้เฟดเอ็กซ์ยังได้ประกาศแผนการขยายศูนย์กระจายสินค้าโดยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่ ในนครกว่างโจว ทางตอนใต้ของประเทศจีน
อีกทั้งเฟดเอ็กซ์ยังมีการลงทุนจัดตั้งศูนย์ นำเข้า-ส่งออกสินค้าจากต่างประเทศแห่งใหม่ด้วย งบประมาณกว่า 76 ล้านบาท ณ สนาบินบังกาลอ ประเทศอินเดีย เพื่อเสริมศักยภาพให้กับ ศูนย์กลางการขนส่งที่สนามบินนานาชาติเดลี
ในประเทศญี่ปุ่น เฟดเอ็กซ์ใช้งบประมาณกว่า 511 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการดำเนินธุรกิจในปี 2565 การขนส่งสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังภูมิภาคสำคัญต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2564 และ 2565 โดย 54.8% เป็นการขนส่งไปยังสหรัฐอเมริกา 47.5% ไปยังทวีปยุโรป 37.4% ไปยังทวีปอเมริกา และ 18.5% ไปยังตะวันออกกลาง อนุภูมิภาคอินเดียและแอฟริกา
เฟดเอ็กซ์เพิ่งเปิดศูนย์กลางการขนส่งแห่งใหม่ทางตอนใต้ของดูไบ เพื่อยกระดับการเชื่อมต่อในภูมิภาค และในระดับโลกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยศูนย์กลางการขนส่งแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณสนามบินดูไบ เวิลด์ เซ็นทรัล ที่พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและถูกออกแบบเพื่อการปฏิบัติงานแบบประหยัด พลังงานอย่างยั่งยืน
เฟดเอ็กซ์ยึดมั่นในพันธะสัญญาทางด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกในที่ทำงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติที่น่าทำงานด้วยที่สุดในโลก เป็นลำดับที่ 21 โดย Fortune Magazine อีกทั้งได้รับรางวัลหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา (AMEA) ซึ่งรวมถึงประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และไทย นอกจากนี้ในปี 2021 คาวาล พรีท ได้ลงนามในแถลงการณ์ของประธานบริษัทในวาระการสนับสนุนหลักการเสริมสร้างศักยภาพสตรี จัดทำขึ้นโดยองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และเครือข่ายกรอบความร่วมมือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact)

สร้างแรงกระเพื่อม
ข้อมูลจากรายงานแสดงให้เห็นว่าในปีงบประมาณ 2022 เฟดเอ็กซ์ได้บริจาคเงินมากกว่า 3 พันล้านบาทให้กับองค์กรการกุศลและองค์กรไม่แสวงหากำไรในท้องถิ่นและชุมชนที่สมาชิกในทีมอาศัยและทำงานอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา การสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการสำหรับเยาวชน และโครงการริเริ่มด้านการดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา (AMEA) นอกจากนี้บริษัทยังทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญสำหรับการจัดส่งความช่วยเหลือด้านอาหารให้กับผู้อยู่อาศัยในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในช่วงล็อคดาวน์ภายใต้การควบคุมโรคระบาดโควิด-19 และส่งมอบวัคซีนรวมถึงเวชภัณฑ์ที่สำคัญไปยังอินเดีย เกาหลี และเวียดนามเป็นต้น

เฟดเอ็กซ์ มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อโลกอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับการดำเนินงานที่สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2040 และเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร
17  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / WHART จ่อเปิดขายหน่วยเพิ่มทุนราคาไม่เกิน 10 บาท จอง 7-11, 15-18 พ.ย. เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2565 22:21:51

นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) เปิดเผยว่า กองทรัสต์ WHART เตรียมเสนอขายหน่วยหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม ระหว่างวันที่ 7-11 พ.ย.นี้ ในอัตราส่วน 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.0609 หน่วยทรัสต์ใหม่ ส่วนประชาชนทั่วไป เสนอขายระหว่างวันที่ 15?18 พ.ย.นี้ โดยมีราคาเสนอขายสูงสุดอยู่ที่ไม่เกิน 10 บาทต่อหน่วย สำหรับราคาเสนอขายสุดท้ายจะมีการประกาศผ่านเว็บไซต์ของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ทราบอีกครั้ง

สำหรับการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHART ครั้งนี้ จะเป็นการลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมของ WHA Group จำนวน 5 โครงการ รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,050.86 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าลงทุนแล้วเสร็จ คาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 65 จะส่งผลให้ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์แตะที่ระดับกว่า 51,956.40 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 1,743,696.80 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนที่จอดรถ 32 ,650.19 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าหลังคา 450,777.29 ตารางเมตร

ดังนั้น จะเป็นปัจจัยตอกย้ำในการเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรม ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากที่สุดในประเทศไทย โดดเด่นด้วยทรัพย์สินที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ของประเทศ และความหลากหลายของกลุ่มผู้เช่า ภายใต้สัญญาเช่าระยะยาว ซึ่งการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินหลักในครั้งนี้ ยังช่วยสร้างการเติบโตและมั่นคงให้กับรายได้ของกองทรัสต์อย่างมั่นคงและยั่งยืน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยอย่างสม่ำเสมอ

ทรัพย์สินที่มีการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ มีจำนวน 5 โครงการ โดยมีพื้นที่เช่าอาคารรวม ประมาณ 159,963 ตารางเมตร โดยประกอบด้วย

1.โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 3 ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

2. โครงการดับบลิวเอชเอ ซิกโนด แฟคทอรี่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

3. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม.21 ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

4. โครงการดับบลิวเอชเอ-เคพีเอ็น เมกกะ โลจิสติกส์เซ็นเตอร์บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 2 ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

5. โครงการดับบลิวเอชเอ เซ็นทรัล เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ วังน้อย 63 ตั้งอยู่ที่ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

"ทรัพย์สินคลังสินค้าประเภท Built-to -Suit ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของลูกค้า และสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้าน Operation ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งกลุ่มลูกค้าที่เช่าคลังสินค้า และโรงงานประเภทนี้โดยปกติจะทำสัญญาเช่าระยะยาว จึงทำให้กองทรัสต์ WHART มีความมั่นคงและมีฐานลูกค้าที่เช่าคลังสินค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด"
ด้านนายสาวิตร ศรีศรันยพงศ์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHART กล่าวว่า ธนาคารได้เปิดให้มีการจองซื้อให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมระหว่างวันที่ 7-11 พ.ย. และประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย.นี้ มั่นใจว่าจะมีการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทรัสต์ WHART มีความโดดเด่นด้านการเป็นผู้นำกองทรัสต์ในกลุ่มคลังสินค้าและอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทย มีความมั่นคงของรายได้จากสัญญาเช่าระยะยาว ประกอบกับคลังสินค้าที่ WHART เข้าลงทุนส่วนใหญ่เป็นคลังสินค้าประเภท Built-to-Suit และมีผู้เช่าระดับชั้นนำในกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะลงทุนเพิ่มเติมทั้ง 5 โครงการในครั้งนี้ จะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งเดิมให้กับกองทรัสต์ WHART และมีประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ภายหลังการลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งที่ 8 เท่ากับ 0.80 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบประมาณการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากทรัพย์สินเดิมของกองทรัสต์ WHART สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกัน ซึ่งเท่ากับ 0.78 บาทต่อหน่วย
18  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 200 จุดเช้านี้ ตลาดจับตาเงินเฟ้อ-เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2565 13:06:50

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุดช่วงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อและการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในสัปดาห์นี้

ณ เวลา 06.21 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 225 จุด หรือ -0.69% แตะที่ 32,203 จุด

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งหากดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท ก็อาจผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันอังคารที่ 8 พ.ย.นี้ ขณะที่ผลสำรวจของ Reuters/Ipsos ระบุว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่พึงพอใจต่อการทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าพรรคเดโมแครตจะพ่ายแพ้พรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้

การเลือกตั้งกลางเทอมดังกล่าว ถือเป็นการ.ครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งในวุฒิสภาจำนวน 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก

ทั้งนี้ หากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเหนือพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ ก็จะทำให้การบริหารประเทศปธน.ไบเดนในช่วงที่เหลืออีก 2 ปีเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยคาดว่าพรรครีพับลิกันจะขัดขวางการผ่านกฎหมายต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
19  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / ทีเอ็มบีธนชาต จัดแคมเปญ Tax Saving 2022 คัดสรรกองทุนรวมชั้นนำ เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2565 05:45:35
ทีเอ็มบีธนชาต จัดแคมเปญ "Tax Saving 2022" คัดสรรกองทุนรวมชั้นนำ เพื่อคว้าโอกาสการลงทุนรับผลตอบแทนดี พร้อมลดหย่อนภาษี

ทีเอ็มบีธนชาต จัดแคมเปญ "Tax Saving 2022 ลดหย่อนภาษีทั้งที เลือกให้ดี ไม่ใช่ กองไหนก็ได้" เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีปลายปี ทีทีบี คัดสรรกองทุนรวมชั้นนำ กองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF ที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำนักลงทุนมือใหม่เลือกลงทุนใน ttb smart port SSF ลงทุนง่ายกับ 5 รูปแบบ สามารถเลือกได้ตามความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวผู้ลงทุน หรือเลือกลงทุนในระยะยาว แบบ DCA โดยมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการลงทุนอย่าง Amundi และ Eastspring คอยปรับสัดส่วนการลงทุนให้โดยอัตโนมัติทุกเดือน พร้อมโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน RMF/ SSF ที่เข้าร่วมรายการ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าสร้างวินัยด้านการลงทุนอันเป็นรากฐานสำคัญเพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และในอนาคต

นางสาวอรทัย สิงหอุดมชัย หัวหน้าผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า "ทีเอ็มบีธนชาต จัดแคมเปญ Tax Saving 2022 ลดหย่อนภาษีทั้งที เลือกให้ดี ไม่ใช่ กองไหนก็ได้ เพื่อเป็นการตอบรับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก และคว้าโอกาสการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่ดี สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี พร้อมคำแนะนำการซื้อกองทุนที่เหมาะสมสำหรับช่วงปลายปี 2565 โดยธนาคารได้คัดสรรกองทุนรวมชั้นนำและกองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF ที่น่าสนใจ มีให้เลือกหลายรูปแบบการลงทุน พร้อมลดหย่อนภาษีได้ ด้วยการเริ่มลงทุนง่าย ๆ ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ttb touch (ทีทีบี ทัช) ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่วางแผนการออมเพื่ออนาคตระยะยาวควบคู่กับสิทธิลดหย่อนภาษี

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ แนะนำให้เลือกลงทุนใน ttb smart port SSF เพราะลงทุนง่าย เลือกได้ตามความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวผู้ลงทุน ตอบโจทย์นักลงทุนมือใหม่ที่อยากซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีแต่ยังไม่มีความรู้และกังวลว่าควรจะลงทุนในกองทุนไหนดี เพราะมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการลงทุนอย่าง Amundi และ Eastspring ที่จะคอยดูแลปรับสัดส่วนการลงทุนให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้สอดรับกับสถานกาณ์ของโลกในปัจจุบัน โดยสามารถเลือกลงทุนง่าย ๆ ด้วยโมเดลการลงทุนถึง 5 รูปแบบ ให้เลือกลงทุนได้ตามความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของตนเอง ได้แก่

1.tsp1-preserver-SSF กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ttb smart port 1 preserver (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว มีกลยุทธ์การลงทุนคือ ลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ 80% และตราสารหนี้ต่างประเทศ 20% เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมความเสี่ยงเป็นหลัก เน้นรักษาเงินต้น

2.tsp2-nurturer-SSF กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ttb smart port 2 nurturer (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว มีกลยุทธ์การลงทุนคือ ลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ 40% ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40% หุ้นต่างประเทศ 20% เหมาะกับคนที่ต้องการชนะเงินเฟ้อ และไม่ต้องการรับความผันผวน

3.tsp3-balancer-SSF กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ttb smart port 3 balancer (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว มีกลยุทธ์การลงทุนคือ ลงทุนแบบสมดุล 50/50 เพราะมีหุ้น 50% และตราสารหนี้ 50% มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหมาะกับคนที่อยากกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ผลตอบแทนกำลังพอดี ไม่เสี่ยงมากไป

4.tsp4-explorer-SSF กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ttb smart port 4 explorer (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว มีกลยุทธ์การลงทุนคือ ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 45% หุ้นในประเทศ 25% ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20% ตราสารหนี้ในประเทศ 10% เหมาะกับคนที่เน้นเรื่องการเติบโตโดยเฉพาะ และพร้อมจะรับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงขึ้นได้ในระยะเวลาที่ถือครอง

5.tsp5-gogetter-SSF กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ttb smart port 5 go-getter (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว มีกลยุทธ์การลงทุนคือ ลงทุนในหุ้น 100% แบ่งเป็นหุ้นในประเทศ 30% และหุ้นต่างประเทศ 70% เหมาะกับคนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนในหุ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่กังวลเรื่องความผันผวนของตลาด แนะนำเป็นการลงทุนแบบ DCA (ลงทุนรายเดือนอัตโนมัติ) เพื่อเป็นการลดความผันผวนของราคาตามสภาวะตลาดและเป็นการสร้างวินัยในการออมอีกด้วย

นอกจากนี้ ทีเอ็มบีธนชาตได้จัดโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน RMF/ SSF ที่เข้าร่วมรายการ หรือโอนกองทุน LTF จาก บลจ. อื่น เข้ากองทุน LTF ของ บลจ. 5 แห่งที่เข้าร่วมโปรโมชัน ทุก ๆ 50,000 บาท ของการลงทุนในแต่ละบลจ. (ตามบลจ. ที่ได้ลงทุน) รับเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) จำนวน 100 บาท ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธันวาคม 2565

สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/rmf-ssf-2022 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ttb investment line หรือ โทร. 1428 กด #4

คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน/ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน
20  AE Racing Club - Classified / ประกาศขาย (ของทั่วไป) / ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex เปิดบวก 35.54 จุด นลท.รอผลประชุมเฟด เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2565 03:58:20

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียเปิดตลาดในแดนบวกตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดีย เปิดวันนี้ที่ 61156.89 จุด เพิ่มขึ้น 35.54 จุด หรือ +0.06%

หุ้น Sun Pharma ปรับตัวขึ้น 2.54%, หุ้น Tech Mahindra เพิ่มขึ้น 2.32% และหุ้น ITC บวกขึ้น 1.39%

เมื่อคืนวานนี้ (1 พ.ย.) สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 437,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.7 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 9.85 ล้านตำแหน่ง

นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน จะเป็นปัจจัยหนุนการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ เนื่องจากพนักงานจะมีอำนาจต่อรองในการขอขึ้นค่าแรงต่อนายจ้าง

ตัวเลข JOLTS ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้
หน้า: [1] 2  » 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!