สตาร์ทดังแก๊กๆ แสดงว่าไม่มีเสียงหมุนของไดสตาร์ทหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ก็แสดงว่าเฟืองไดสตาร์ทอาจจะไม่ได้ยื่นออกไปขบกับเฟืองฟลายวีล มันก็สตาร์ทไม่ได้ ต้องให้ช่างถอดออกมาตรวจใหม่อีกครั้ง ดูบริเวณโซลินอยด์หน้าคอนแทคสวิตซ์ และให้ช่างทดสอบดูจนโซลินอยด์ทำงานตามปกติ และมอเตอร์หมุนได้ตามปกติ ถ้ายังสตาร์ทไม่ติดอีก ก็ไปตรวจเรื่องไฟจุดระเบิด วงจรจ่ายน้ำมัน และรวมไปถึงท่อทางอากาศเข้าทางท่อไอดี และทางออกไปที่ท่อไอเสีย เป็นลำดับ

พอดีกำลังจะเปลี่ยนรถซึ่งได้รับตกทอดมาจากที่บ้าน ปัจจุบันใช้สามห่วงปี 1995 เครื่อง 1600 cc สภาพเดิมๆ ติดแก๊ส LPG ของ AC Stag 200 แต่เนื่องจำกัดด้วยที่จอดรถทำให้ไม่สามารถเก็บไว้ได้ กำลังดูว่าจะขายโดยวิธีใด เช่น โพสขายบนเนต, ขายเต๊นท์, ขายให้ผู้รับซื้ออิสระที่มาถึงที่ ไม่รู้ว่าปัจุจุบันราคากลางอยู่ที่เท่าไร ยังมีคนเล่นอยู่มากไหม เพราะดูในหลายเวบ เห็นโพสขายเยอะและค้างอยู่เป็นเวลานาน  สมาชิกท่านใดเคยมีประสบการณ์ แนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

ผมอัดบู๊ชปีกนกของ RBI เข้าไปในปีกนกเดิม ใช้มาประมาณ 3 ปี ระยะทางวิ่งประมาณ 1 แสนโล ก็ยังใช้ได้ดีอยู่ครับ ที่น่าจะต้องตรวจดูก่อนคือ เบ้าที่จะอัดบู๊ชปีกนกเดิมอยู่ในสภาพดีหรือเปล่าด้วย ถ้ามีอาการหลวมคลอนจะทำให้การยึดบูีชใหม่ไม่แน่น ช่างบางคนอาจใช้วิธีเชื่อมแตะเป็นจุดยึดไว้ 3-4 จุด ซึ่งความร้อนจากการเชื่อมทำให้ยางอายุสั้นลง ของผมอัดโดยไม่ต้องเชื่อมแตะครับ

ผมติดทั้ง 3 คัน ทั้งดีเซลและเบนซิน วิ่งระยะยาวเห็นผล จากเคยวิ่ง 12 โล/ลิตร ก็จะได้ประมาณ 16 โล/ลิตร คันสามหว่งผมติดตั้งครู่เดียวน้ำก็ไหลออกท่อไอเสีย รอบต่ำลดลง ลองใช้วิจารณญานครับ

ผมก็ใช้รุ่นสามห่วงอยู่ และสนใจกำลังศึกษาข้อมูลอยู่ ช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ
 - มีผลกระทบอื่นๆ ที่ตามมาหลังใช้งานไปสักพักหรือไม่ครับ
 - อัตราเร่งออกตัวดีขึ้นหรือไม่ครับ และคงที่ตั้งแต่หลังติดตั้งจนปัจจุบันหรือไม่ครับ
 - ที่ว่าติดแล้วรอบต่ำลง ทำให้เครื่องยนต์สั่นหรือเปล่าครับ
 - กลิ่นไอเสียหรือควัน ลดลงหรือไม่ครับ
 - สุดท้ายครับ เนื่องจากเป็นกล่องอีเลคโทรนิคที่ติดในห้องเครื่อง อายุการใช้งาน ใช้มานานหรือยังครับ

รถคันแรกเครื่อง 5 A fe ติดมาประมาณ10 ปี ผลกระทบไม่มี รอบเดิมประมาณ 8 9 ร้อย ลดลง ประมาณ 7 -750 รอบ เรื่องควันรถผมไม่เคยมีควันอยู่แล้วเลยไม่มีคำตอบ กล่องที่ติดคันแรกมีพนักงานมาติดตั้งให้เป็นส่วนรวมหลายคันในที่ทำงาน หลักจากนั้นปีสองปีเค้าจะมาตรวจสอบให้ สำหรับกล่องที่สองเป็นกล่องรับมาพร้อมกับกล่องแรกพี่เค้าบริจาคให้เลยเอามาติดไทเกอร์ดีโฟว์ดี น้ำออกท่อไอเสียเช่นกัน ส่วนกล่องที่ 3 ผมโทร.สั่งให้เค้าส่งมาติดตั้งเองถูกกว่าราคาปกติประมาณ 500 บาท ติดรถสามห่วงตั้งแต่ พ.ย.55 ถึงปัจจุบันยังใช้อยู่ไม่มีผลกระทบอะไร กลิ่นไอเสียบริสุทธิ์เพราะผมไม่ได้ทะลวงแคตตาไลติกออก การออกตัวเข้าเกียร์ 1 ค่อย ๆ ปล่อยครัชรถก็ไหลไม่ต้องแตะคันเร่ง โปรดอย่าเชื่อขอให้ใช้วิจารณญาน ผมแค่ผู้ใช้และมีประสบการณ์ด้วยตนเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทครับ

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ผมติดทั้ง 3 คัน ทั้งดีเซลและเบนซิน วิ่งระยะยาวเห็นผล จากเคยวิ่ง 12 โล/ลิตร ก็จะได้ประมาณ 16 โล/ลิตร คันสามหว่งผมติดตั้งครู่เดียวน้ำก็ไหลออกท่อไอเสีย รอบต่ำลดลง ลองใช้วิจารณญานครับ

ผมก็ใช้รุ่นสามห่วงอยู่ และสนใจกำลังศึกษาข้อมูลอยู่ ช่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ
 - มีผลกระทบอื่นๆ ที่ตามมาหลังใช้งานไปสักพักหรือไม่ครับ
 - อัตราเร่งออกตัวดีขึ้นหรือไม่ครับ และคงที่ตั้งแต่หลังติดตั้งจนปัจจุบันหรือไม่ครับ
 - ที่ว่าติดแล้วรอบต่ำลง ทำให้เครื่องยนต์สั่นหรือเปล่าครับ
 - กลิ่นไอเสียหรือควัน ลดลงหรือไม่ครับ
 - สุดท้ายครับ เนื่องจากเป็นกล่องอีเลคโทรนิคที่ติดในห้องเครื่อง อายุการใช้งาน ใช้มานานหรือยังครับ

ลองวิธีนี้ดูครับ หลังจากวิ่งเข้าที่เป็นปกติแล้ว ลองดับเครื่อง แล้วสตาร์ทใหม่ทันที และออกวิ่ง ดูว่าดีเหมือนเดิมก่อนดับเครื่องไหม ถ้าดีเหมือนเดิม ก็ทิ้งไว้นานๆ จนเครื่องเย็น แล้วกลับมาสตาร์ทใหม่ และลองวิ่ง ถ้าเริ่มมีอาการวูบ  ให้ลองตรวจสอบ Fuel Pressure Regulator ดูครับ ไดอะแฟรมอาจจะเริ่มรั่ว ไม่สามารถรักษาแรงดันเบนซินไว้ได้

อ้อ ลืมตอบที่ถามว่าควรเชื่อระดับน้ำมันเครื่องด้านไหน เชื่อด้านต่ำไว้ก่อน และตั้งใจวัดโดยชักก้านวัดแบบตรงๆ และตรวจสอบซ้ำให้มั่นใจ ที่เจอมาด้านต่ำมักถูกต้องเสมอ

วัดน้ำมันเครืองสองข้างไม่เท่ากัน ปลายก้านวัดเป็นแบบแบนตรงใช่ไหมครับ ของผมก็เป็น น่าจะมาจากระหว่างชักออกมาแล้ว ปลายวัดไปสีด้านข้างกระบอกก้านวัด น้ำมันเครื่องส่วนหนึ่งอาจติดอยู่ และถ้าวัดซ้ำทันที ระหว่างดึงขึ้นมาอาจจะไปปาดเอาน้ำมันเครื่องส่วนนั้นที่ยังไม่ไหลกลับลง อาจทำให้วัดได้ F หรือสูงกว่าด้านที่ไปปาดโดน เคยสังเกตปลายวัดที่เป็นเกลียว ไม่เจอปัญหานี้

จากที่อยากรู้ว่าอุปกรณ์เพิ่มออกซิเจนนี้ มีประยุกต์ใช้เฉพาะในเมืองไทยหรือที่ต่างประเทศก็มี ก็ไปอ่านเจอบทความตามเวบนี้ หลักการน่าจะเหมือนกัน เพียงแต่มีอุปกรณ์ตัวตรวจจับออกซิเจนทั้งก่อนเข้ากล่องและหลังออกจากกล่อง และนำไปประมวลผลร่วมกับออกซิเจนเซ็นเซอร์ของตัวรถ และจะปล่อยออกซิเจนเพิ่มตามความต้องการของเครื่องยนต์หากไม่พอ โดยมีวาวล์ควบคุมแบบอัตโนมัติทั้งขาเข้าและขาออกจากกล่องเพื่อเปิด-ปิดให้อากาศไหลผ่านกล่องเพื่อสร้างประจุและควบคุมปริมาณ ในส่วนของเราตามโฆษณาเท่าที่เข้าใจ น่าจะมีอัตราการสร้างประจุตลอดเวลาและปริมาณไหลในอัตราเดียว ไม่ว่าเครื่องยนต์ขนาดเท่าใด แต่แน่นอนว่าราคาของระบบทั้งสองคงต่างกันมาก จากหลักพันต้นๆแบบง่ายๆ กับหลายหมื่นบาทที่เพิ่มอุปกรณ์ตรวจจับและความซับซ้อนของการทำงาน

http://www.google.com/patents/US8176884

การสร้างประจุลักษณะนี้ในท่อไอดี ไม่แน่ใจว่าอาจทำให้เกิดประกายไฟจากไฟฟ้าสถิตได้หรือเปล่าครับ เพราะถ้าหากมีการั่วไหลของน้ำมันเบนซินที่มาจาก Fuel Pressure Regulator ที่ไดอะแฟรมรั่วและผ่านมาทางท่อ vacuum อาจติดไฟขึ้นได้

พอดีไปเห็นโฆษณาหนึ่งเกี่ยวกับกล่องเพิ่มออกซิเจนให้กับเครื่องยนต์ โดยต่อกับทางเข้าอากาศของเครื่องยนต์หลังไส้กรองอากาศ และปล่อยประจุเพื่อทำให้อากาศที่เข้าเครื่องแตกตัวเพิ่มเป็นออกซิเจนบริสุทธิ์ ทำให้เกิดการเผาไหม้สมบูรณ์ โดยเคลมว่าหลังติดตั้งแล้วจะมีน้ำไหลออกปลายท่อไอเสีย ลดควันดำ
ตามเวบ http://www.saveplusoil.com/saveplus/index.php/home
ไม่ทราบว่ามีสมาชิกท่านใดเคยติดไปแล้วบ้างครับ ช่วยแชร์ด้วยครับ ขอบคุณครับ

เพิ่มเติมสำหรับข้อ 1 หน่อยครับ อาการคอยล์เสื่อมที่ผมเจอมาคือ เวลาเครื่องร้อน จะมีอาการกระตุกมากจนบางครั้งเครื่องดับ แต่ดับเครื่องและรอให้เย็น สตาร์ทเครื่องใหม่ติดทันที ขับไปสักพักจนเครื่องร้อน ก็มีอาการอีก ยิ่งเร่งเครื่องยิ่งกระตุกมากขึ้น

อาการกระตุกเวลาขับเกิดได้หลายสาเหตุ แชร์จากประสบการณ์ที่เจอกับตัวเองนะครับ
1. ระบบไฟจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ อาจอาจเกิดจาก หัวเทียนบอด สายหัวเทียนรั่วลงกราวด์ คอยล์จุดระเบิดเสื่อม ส่วนใหญ่จะเป็นเกือบตลอด ไม่เจาะจงว่าเครื่องร้อนหรือเย็น และอาจสตาร์ทติดยาก ที่ผมเจอคือคอย์เสื่อม จะกระตุกตอนเร่งเครื่องเท่านั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับเกียร์
2. กระตุกเฉพาะตอนอยู่ในเกียร์ เกียร์ว่างไม่เป็น ก็เกิดจากในเกียร์ ดูที่น้ำม้นเกียร์ ตรวจสอบระดับและสีก่อน ลองแต้มน้ำมันเกียร์ใหม่ และที่อยุ๋ในเกียร์บนกระดาษทิชชู่สีขาวและเทียบสีดู ถ้าหมองกว่าของใหม่อย่างชัดเจน ก็ลองเปลี่ยนถ่ายดู ที่ผมเจอคือน้ำมันเกียร์สีหมอง เปลี่ยนใหม่อาการกระตุกตอนเปลี่ยนเกียร์ก็หาย
3. ที่เล่ามาไม่ได้บอกว่าใช้แก๊สร่วมด้วยหรือเปล่า ของผมใช้แก๊ส และพบว่าหม้อน้ำรั่วซีม ทำให้น้ำหล่อเย็นในระบบขาดหายไป และไม่ได้เติม ทำให้น้ำในหม้อต้มแก๊สขาดไปด้วย เวลาขับก็จะมีอาการกระตุกเป็นบางครั้ง พอเติมน้ำสักพัก อาการก็หาย ก็เลยเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ อาการก็หายสนิท

(เจ้าของกระทู้)
สังเกตเห็นมูเล่เริ่มมีอาการแกว่งมากขึ้น และมีเสียงหอนบางๆช่วงรอบ 1000-2000 รอบ  ก็เลยไปร้านบางไผ่อะไหล่ แถวสุขุมวิท ซื้อมาเก็บเตรียมไว้หนึ่งตัว ร้านมีจำหน่ายทั้งของแท้และเทียบ แต่ของแท้ต้องสั่งประมาณ 6000-7000 บาท ส่วนของเทียบมีสองแบบ คือ เหล็กตันล้วน 650 บาท และแบบมีแกนยางเหมือนของแท้ 850 บาท เห็นทางร้านบอกว่า แบบแกนยางเพิ่งออกมาไม่นาน ดูที่กล่องแล้วเป็นของบริษัท NYK Auto Corporation. ผมก็เลยซื้อแบบแกนยางมา แต่ยังไม่ได้เปลี่ยน น้ำหนักมากกว่าของแท้เล็กน้อย แกนยางยืดหยุ่นดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีความทนทานขนาดไหน สมาชิกท่านใดกำลังใช้อยู่ ช่วยแชร์ด้วยครับ ขอบคุณครับ

ผมเปลี่ยนตอนมันมียาง ปลิ้นออกมาแล้วเล็กน้อย แรกฯแก่วง นานฯเข้าเริ่มมีเสียงหอน จนเห็นมียางปลิ้นออกมา ก็เปลี่ยนสะ สายพานยังดีทุกเส้นเลย ไม่เบียดกัน
ส่วนที่ว่าเก่าญี่ปุน เก่าไทย คงยากที่จะมีใครบอกชัดได้ดอก อย่าคิดมาก 500 กะ 7000 ต่างกัน10กว่าเท่า มันใช้ได้ เกินปีก็คุ้มราคาแล้ว
ชิ้นส่วนรถยนต์ เคยฟังมาว่าจะมีรหัสทุกตัว สามารถสืบย้อนไปได้ว่า จากแหล่งผลิตที่ไหน ปีไหน ล๊อดไหน ยังไง ว่าแต่รู้ไปแล้วจะดีใจหรือเสียใจละ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

ขอถามเป็นความรู้เพิ่มเติมนะครับ ว่าจะประมาณอย่างไรว่า มีอาการแกว่งขนาดไหน ถึงสมควรเปลี่ยน
 - ผมมีรถอีกคัน เป็นมาสด้า ทรีบิว มีอาการแกว่งเล็กน้อยโดยสังเกตจากขอบมูเล่ไม่นิ่ง แต่ไม่มีเสียง ไม่กัดสายพาน แต่อะไหล่มือสองหายาก จึงเบิกศูนย์ เปลี่ยนใหม่ ราคาประมาณ 6 พันกว่าบาท ราคาถูกกว่า 4AFE เบิกศูนย์เล็กน้อย, หลังเปลี่ยน มองด้วยตา นิ่งจนไม่รู้สึกว่ามู่เล่หมุนอยู่ , ความต่างประมาณนี้หรือเปล่าครับที่สมควรเปลี่ยน
 - ตัวเก่าติดรถ 4AFE ผมเปลี่ยนเมื่อได้ยินเสียงหอนบริเวณแถวมูเล่สายพานที่ 1500 รอบ และมู่เล่มีอาการแกว่งจนสายพานไปเบียดกับขอบมูเล่ปั๊มเพาเวอร์จนเป็นรอยแซะไปรอบ, หลังเปลี่ยนเป็นของมือสองแล้ว เสียงหอนหาย, อาการเบียดของสายพานหายไป, อาการแกว่งยังคงมี แต่น้อยกว่าก่อนเปลี่ยน แต่ไม่นิ่งเท่าของใหม่ที่เปลี่ยนกับมาสด้า ทรีบิว, 4AFE ปัจจุบันอาการแกว่งเล็กน้อยก็ยังประมาณใกล้เคียงเดิมหลังเปลี่ยนมา ยังไม่มีอาการอื่นสังเกตเห็น, อาการประมาณนี้ เลยอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนไปเลย หรือรอดูไปก่อน เพราะเกรงว่ามือสอง อาจจะไม่ต่างกับที่ใช้อยู่
 - เนื่องจาก 4AFE ตกรุ่นไปนานมากแล้ว ที่ว่าอะไหล่ใหม่เบิกศูนย์ 7 พันกว่าบาทนั้น เป็นของทำในไทย หรือมาจากญี่ปุ่น มีท่านใดพอทราบบ้างไหมครับ, ถ้าเกิดทำในไทย ก็แสดงว่าต้องมีมือสองที่เป็นของไทย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ามือสองที่ผมได้มาและใช้อยู่นั้นมาจากที่ไหน
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจากทุกท่านนะครับ

 - ขอบคุณสำหร้บทุกความเห็นครับ.  อ้อแล้ว ราคา 500 หรือ 800 บาทนี่ เป็นของแท้มือสอง แบบมีแกนยางใช่ไหมครับ ไม่ใช่แบบเหล็กล้วน
 - เนื่องจากเป็นของมือสอง จะสังเกตได้อย่างไรครับว่า ใส่เข้าไปแล้ว จะไม่มีอาการแกว่ง เกรงว่าใส่แล้ว อาจไม่แตกต่างกับตัวที่ใช้อยู่
 - ผมสังเกตุจากอันปัจจุบันที่ใช้อยู่ที่เปลี่ยนมา ช่างจัดหาให้ ช่างบอกว่าดูแล้ว ยางอยู่สภาพยังดี ไม่ปลิ้น, แต่อันเก่าติดรถที่แกว่ง เมื่อถอดออกมาเทียบดู ก็มองไม่ออก ไม่เห็นความแตกต่าง
 - ใช้เป็นแบบเหล็กล้วน มีผลเสียหรือไม่ครับ เคยอ่านเจอในบางกระทู้ บอกว่ามีเสียงดัง

มู่เล่ข้อเหวี่ยงของเครื่อง 4AFE ตัวเดิมติดรถมีอาการแกว่ง วิ่งมาประมาณ 600,000 โล และมีเสียงครางเวลาเร่งรอบเครื่อง 1500 รอบ แต่ถ้าต่ำกว่าหรือเลยขึ้นไปไม่มีเสียง, เคยเปลี่ยนเป็นของแท้เซียงกงราคาประมาณ 1000 บาท ใช้มาได้ประมาณ 1 ปีกว่า หรืออีกประมาณ 30,000 โล เริ่มสังเกตอาการแกว่งน้อยๆ แต่ยังไม่ส่งเสียงคราง เข้าใจว่ายางที่เป็นแกนในเริ่มเสื่อม ลองสอบถามร้านอะไหล่ดู ของแท้ใหม่ราคาประมาณ 7 พันกว่าบาทแบบมียาง, ส่วนแบบเหล็กล้วน ราคา 650 บาท อยากสอบถามว่าสามารถใช้แทนกันได้ไหม มีข้อเสียอย่างไร ซึ่งทางร้านอะไหล่บอกว่าใช้แทนกันได้ ลองถามช่าง บอกว่าทำให้อายุสายพานสั้นลง เนื่องจากความร้อนจะถ่ายผ่านมาที่สายพานได้มากกว่าแบบมียาง ขอความเห็นสมาชิกที่มีประสบการณ์ด้วยครับ ขอบคุณครับ

ผมใช้ AE101 เครื่อง 4AFE LPG, เวลาเบรคชะลอรถจนหยุดนิ่งแล้ว โดยยังอยู่ในเกียร์ D, รอบเครื่องจะตกลงมาประมาณ 650-700 เครื่องสั่นเล็กน้อย ทำท่าจะดับ พอปล่อยเบรคในขณะยังค้างเกียร์ D, รถยังไม่ไหลทันที สัก 2-3 วินาที รอบเครื่องค่อยๆไต่ขึ้นมาประมาณ 800 รถก็เริ่มไหล แล้วถึงเร่งเครื่องออกตัวได้โดยไม่สะดุด, แต่ถ้าเร่งทันทีหลังหยุดนิ่ง เครื่องจะสะดุดทีหนึ่งแล้วถึงออกตัวได้ เป็นทั้งเบนซินและแก๊ส สมาชิกท่านใดเคยเจอลักษณะนี้ เกิดจากอะไรได้บ้าง แก้ยังไง ช่วยแชร์ด้วยครับ

ผมใช้ AE101 เครื่อง 4A-FE ช่วงขณะเดินเบาและจังหวะที่พัดลมหน้าเครื่องทำงาน รอบเครื่องตกจาก 850 rpm ตกลงมาช่วงประมาณ 750-800 rpm ประมาณ 1-2 วินาที และตีกลับขึ้นไปที่ 850 rpm เหมือนเดิมคงที่ ไม่สวิง เป็นทั้งระบบน้ำมันและ LPG, พอพัดลมหยุดทำงาน รอบเครื่องยังคงที่ที่ 850 และจะเริ่มเป็นอีกเมื่อพัดลมเริ่มทำงาน อาการนี้เป็นทั้งเมื่อเปิดและปิดแอร์ เพียงแต่ช่วงเปิดแอร์ รอบจะตกน้อยกว่าลงมาแค่ประมาณ 800 rpm และดีดกลับไป 850 rpm ทันที อยากสอบถามว่า ลำพังเพียงแค่พัดลมทำงานสามารถฉุดรอบเครื่องให้ตกได้หรือเปล่า หรือเป็นการฟ้องว่ามีอุปกรณ์ใดเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว สมาชิกท่านใดพอรู้ ช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ