AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: BigGToCOβU ที่ 17 กันยายน 2554 15:26:28



หัวข้อ: จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราใช้น้ำยาแอร์ R-12 หรือ R-134a
เริ่มหัวข้อโดย: BigGToCOβU ที่ 17 กันยายน 2554 15:26:28
ผมใช้ Corolla ae92 gti วันนี้ไปเติมน้ำยาแอร์ ร้านเติม R-12 ให้ แต่เพื่อนบอกต้องใช้ R-134a เติมตัวไหนกันแน่ครับ เติม R-12 ไปแล้ว


หัวข้อ: Re: จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราใช้น้ำยาแอร์ R-12 หรือ R-134a
เริ่มหัวข้อโดย: ntp@wz ที่ 17 กันยายน 2554 15:48:11
ดูที่หัวเติมครับ 


หัวข้อ: Re: จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราใช้น้ำยาแอร์ R-12 หรือ R-134a
เริ่มหัวข้อโดย: ti61125 ที่ 17 กันยายน 2554 19:21:36
หัวเติม หรือ เพลตที่คอม


หัวข้อ: Re: จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราใช้น้ำยาแอร์ R-12 หรือ R-134a
เริ่มหัวข้อโดย: BigGToCOβU ที่ 19 กันยายน 2554 09:54:44
ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราใช้น้ำยาแอร์ R-12 หรือ R-134a
เริ่มหัวข้อโดย: ไปเรื่อย ㋡ ที่ 19 กันยายน 2554 14:22:06
ถ้าที่คอมแอร์เขียน134 เติม R12 ได้ครับไม่เป็นไร

ของผมคอม 134 เติม 134 แต่ระบบเดิมเป็น 12 เกิดอาการระบายความร้อนไม่ทันเวลารถติดอากาศร้อน

หัวเติมไม่แน่นอนครับ เค้าเปลี่ยนกันได้ครับ เพราะหัวเติมผม 12 แต่ที่รถเป็นน้ำยา 134 ถ้าจะเปลี่ยนน้ำยาก็ต้องล้างระบบ

แต่ถ้าไม่เปลี่ยนน้ำยา ของผม มันจะมีแรงดันภายในระบบสูงเนื่องจากความร้อน ก็จะทำให้คอมแอร์อายุสั้นลง ครับ


หัวข้อ: Re: จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราใช้น้ำยาแอร์ R-12 หรือ R-134a
เริ่มหัวข้อโดย: BigGToCOβU ที่ 26 กันยายน 2554 07:53:14
ถ้าที่คอมแอร์เขียน134 เติม R12 ได้ครับไม่เป็นไร

ของผมคอม 134 เติม 134 แต่ระบบเดิมเป็น 12 เกิดอาการระบายความร้อนไม่ทันเวลารถติดอากาศร้อน

หัวเติมไม่แน่นอนครับ เค้าเปลี่ยนกันได้ครับ เพราะหัวเติมผม 12 แต่ที่รถเป็นน้ำยา 134 ถ้าจะเปลี่ยนน้ำยาก็ต้องล้างระบบ

แต่ถ้าไม่เปลี่ยนน้ำยา ของผม มันจะมีแรงดันภายในระบบสูงเนื่องจากความร้อน ก็จะทำให้คอมแอร์อายุสั้นลง ครับ
ขอบคุณมากครับ สรุปของผมเติม R-12 Search ข้อมูลเจอตามนี้ครับ เอามาฝากเผื่อคนที่ไม่รู้อย่างผม







คุณเติมน้ำยาแอร์รถยนต์

ถูกต้องหรือไม่ ?






ท่านสามารถป้องกันอันตรายจากน้ำยาแอร์รถยนต์ปลอมปน

ผู้ขับขี่รถยนต์
1) ควรเติมน้ำยาแอร์รถยนต์ให้ถูกประเภท โดยรถที่ผลิตก่อนปี พ.ศ. 2539 เติมน้ำยาแอร์ R-12 และรถที่ผลิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เติมน้ำยาแอร์ R-134a
2) ก่อนเติมน้ำยาแอร์ ควรสังเกตชนิดของน้ำยาแอร์ที่ร้านซ่อมบำรุงจะเติมให้กับรถยนต์ว่าตรงกับประเภทของรถหรือไม่
3) ควรสังเกตวาล์วบริการ รถที่ติดตั้งระบบแอร์ที่ใช้กับน้ำยาแอร์ R-12 จะมีวาล์วบริการแบบเกลียว ส่วนรถที่ติดตั้งระบบแอร์ที่ใช้กับน้ำยาแอร์ R-134a จะมีวาล์วบริการแบบสวม

ผู้ประกอบการและช่างซ่อมบำรุงของร้านซ่อมแอร์รถยนต์ สามารถป้องกันการเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และลดค่าใช้จายที่ไม่จำเป็นได้โดย
1) ก่อนจะตัดสินใจซื้อน้ำยาแอร์ทุกครั้ง ควรทราบส่วนประกอบของสารทำความเย็นที่อยู่ในน้ำยาแอร์ที่จะซื้อก่อน โดยถามจากผู้ขายหรือสังเกตจากฉลากที่ติดอยู่ที่ข้างถังน้ำยาแอร์ เพื่อตรวจสอบดูรายละเอียดของส่วนผสมของสารในถังน้ำยานั้นๆ และหากไม่แน่ใจ สามารถตรวจสอบโดยใช้เครื่องตรวจสอบชนิดของสารทำความเย็น (Refrigerant Identifier) ซึ่งจะสามารถบอกส่วนผสมของสาร R-12, R-134a, R-22 และสารไฮโดรคาร์บอนที่มีอยู่ในน้ำยาที่ตรวจสอบได้

การผลิตระบบแอร์รถยนต์ในประเทศไทย ถูกออกแบบไว้ให้ใชักับน้ำยาแอร์รถยนต์ 2ชนิด คือ R-12 ใช้กับแอร์รถยนต์ที่ผลิตก่อนปี พ.ศ. 2539 และเป็นสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ที่จะเลิกใช้ภายในปี 2552 และ R-134a เป็นน้ำยาแอร์รถยนต์ทดแทน R-12 ใช้กับรถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 อันตรายจากการเติมน้ำยาแอร์ไม่ถูกต้อง หรือมีการปลอมปนสารชนิดอื่น
การใช้น้ำยาแอร์ไม่ถูกประเภทตามที่กำหนดไว้กับระบบแอร์รถยนต์ หรือการใช้น้ำยาแอร์อื่นๆ ที่ปลอมปนมากับสารทำความเย็น R-12 ก็จะก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อระบบแอร์รถยนต์ ผู้ขับขี่ และช่างซ่อมบำรุง ได้แก่


ช่างซ่อมบำรุงแอร์รถยนต์ - ร้านซ่อมบำรุงบางรายยังคงใช้วิธีการตรวจรอยรั่วโดยการใช้ตะเกียง (Torch) และสังเกตสีของเปลวไฟ ซึ่งถ้าหากระบบนั้นมีสารไฮโดรคาร์บอนอยู่และมีการรั่วซึม อาจเกิดการติดไฟและระเบิดได้


ผู้ขับขี่รถยนต์ - หากน้ำยาแอร์มีสารไฮโดรคาร์บอน ซึ่งเป็นสารที่ติดไฟได้ผสมอยู่ และมีการรั่วออกมาสู่ห้องผู้โดยสารแล้ว อาจเกิดการติดไฟและระเบิดได้ เป็นอันตรายอย่างมากต่อชีวิตและทรัพย์สิน
 
ระบบแอร์รถยนต์ - อุปกรณ์ในระบบจะเสียก่อนกำหนด สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างมาก เนื่องจากระบบแอร์ไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อให้ใช้กับน้ำยาแอร์ผิดประเภท หรือการปลอมปนน้ำยาแอร์รถยนต์

ดังนั้น กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก หามาตรการในการควบคุมการใช้สาร CFC-12 ( น้ำยาแอร์รถยนต์) ในภาคอุตสาหกรรมซ่อมแอร์รถยนต์ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ นั่นคือ การตรวจชนิดของสารทำความเย็นในระบบแอร์รถยนต์ว่าถูกตรงตามที่บริษัทผู้ผลิตรถกำหนดไว้หรือไม่ เป็นเงื่อนไขหนึ่งในการตรวจสภาพรถ เพื่อประกอบการพิจารณาจดทะเบียนใหม่และต่อภาษีรถประจำปี สำหรับรถที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวยังถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคอีกทางหนึ่งด้วย เพราะการตรวจสอบสารทำความเย็นนี้จะทำให้เจ้าของรถยนต์ทราบว่าสารทำความเย็นที่ใช้กับระบบแอร์รถยนต์ของตนถูกต้องตามที่กำหนดไว้หรือไม่ และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีหากพบว่าสารทำความเย็นที่มีอยู่ไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ให้ใช้



สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนเกี่ยวข้องอะไรกับแอร์รถยนต์


แหล่งข้อมูล: หน่วยบริหารจัดการโครงการเลิกใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน - http://www.pmuthai.org/kl03.php
 
2) ระมัดระวังในการให้บริการ คือห้ามใช้วิธีการตรวจรอยรั่วโดยใช้ตะเกียงไฟ (Torch) โดยเฉพาะรถที่ท่านไม่ทราบว่ามีน้ำยาแอร์ชนิดใดอยู่ในระบบ เนื่องจากหากน้ำยาแอร์ชนิดนั้นมีน้ำยาแอร์ไฮโดรคาร์บอนอยู่ อาจจะทำให้เกิดการติดไฟและระเบิดได้


หน้าแรก-แอร์รถยนต์ | อะไหล่แอร์-ล้างแอร์ | ความรู้เกี่ยวกับแอร์รถยนต์ | FAQ | Webboard | แผนที่ร้าน











ค้นหาข้อมูลจากเวบทั่วโลก
 

หน้าแรก-แอร์รถยนต์ | อะไหล่แอร์-ล้างแอร์ | ความรู้เกี่ยวกับแอร์รถยนต์ | FAQ | Webboard | แผนที่ร้าน


หัวข้อ: Re: จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราใช้น้ำยาแอร์ R-12 หรือ R-134a
เริ่มหัวข้อโดย: smilegames ที่ 26 กันยายน 2554 08:22:48
ผมก็ เติม 134a ตัวท่อระบบ ยังเป็น R12  แต่คอมแอร์ ที่ติดกับเครื่อง 4Afe เป็น R134a เลยเปลี่ยนน้ำยาทั้งระบบเป็น R134a  วันก่อนก็ยังไม่ว้ายทะเลาะกับช่าง เพราะช่างมันจะเติม R12 ให้ ระบบของรถเราต้องรู้ไว้มั่ง ช่างมันใช้ความเคยชิน บางทีช่างก็ไม่ดูว่ารถเราน้ำยาอะไร