หัวข้อ: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 28 พฤศจิกายน 2550 20:08:33 >>เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะ > พยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่สำหรับคนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง > รวมทั้งคน > ดีทุกคน ล้วนเป็นคนเก่งทั้งนั้น.... >> LOVE IS FORGIVING FORGIVING AND FORGIVING >> >>++++++++++++++++++++ >> ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ตอนอายุ 4 ขวบ >>ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ >>ชายคนนั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน >>ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะแห่งซูริค >>ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า >>"สมองช้า ไม่ชอบสังคมและล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา" >>ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู >> >> >> >>ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์ >>ชายคนนั้น...ลองสมัครใหม่ดูอีกที >>ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง >>ชายคนนั้น...พยายามเป็นครั้งที่สาม >>ชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน >>ชายคนนั้น...ได้เป็นทหารสมใจ >>ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองได้สำเร็จ >>ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์" ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลก > ครั้งที่สอง >> >> >> >>ชายกลุ่มหนึ่ง...เป็นนักดนตรี >>ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ติ้ง >>ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า "เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา >>และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลังจะหมดสมัยแล้ว" >>ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน >> >> >> >>ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา >>ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม >>ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน >>ชายคนนั้น...ชื่อ "ไมเคิล จอร์แดน" >>หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุด > ในโลก >> >> >> >>ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน >>ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถในการฟังลงเรื่อยๆ >>ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี >>ชายคนนั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด >>ชายคนนั้น...ชื่อ "ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก >> >> >> >>ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6 >>ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมาตลอด >>ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุแล้ว >>ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี >>ชายคนนั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ >> >> >> >>ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี >>ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษาระดับกลางเท่านั้น >>ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนในวิชาเคมี >>ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์" >> >> >> >>ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง >>ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอเพรย์ไล่ออก >>ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลย แกควรกลับไปขับรถบรรทุก > มากกว่า" >>ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์" >> >> >> >>หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง >>หญิงคนนั้น...ทำงานให้กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ >>หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัท บลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า >>"เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯ หรือไม่ก็แต่งงานเสียดีกว่า" >>หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "มาริลีน มอนโร" > นั่นเอง >> >> >> >>ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก >>ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับมหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ >>ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา >>ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจโคลัมเบีย >>ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา >>ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินลงทุน > เพียง 100 เหรียญสหรัฐ >>ชายคนนั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะ >>อภิมหาเศรษฐีอันดับสองของ > โลก >> >> >>ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก >>ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ >>ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้าคอมพิวเตอร์" >>ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ >>ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี >>ชายคนนั้น...ปัจจุบันคือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ล > คอมพิวเตอร์ >>ชายคนนั้น...เคยถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก" >>ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก >> >>ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่สาม หรือที่รู้จักกันในนาม " > บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้ถือครอง > สินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ >> >> >>เราเชื่อว่าทุกคนเคยแพ้ และเชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว >>แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ล้มเหลว >>คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 28 พฤศจิกายน 2550 20:11:18 ผมว่าน้า เริ่มจะบรรลุแล้วอ่ะ :emots
หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: muta_cz#051 ที่ 28 พฤศจิกายน 2550 20:17:06 :emotn :emotn :emotn
หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 28 พฤศจิกายน 2550 20:43:22 > ใส่แว่นกันแดดตอนฝนตก มองเห็นชัด90% > > > บนถนนสายเอเชีย ประมาณตี 1 - ตี 3 คืนวันที่ 15 เข้าเช้ามืด 16 > กรกฏาคมที่ผ่านมา > เป็นรถคันที่ผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเป็นประสบการณ์ตรงล่าสุดที่อยากจะมาถ่ายทอดเป็นเชิงวิชาการแบบง่ายๆ > ครับ> > ขากลับจากพะเยา (ผมไปงานศพคุณแม่ของวิศวกรที่บริษัทครับ ) > ผมโชคดีได้พี่คนหนึ่งที่สนิทกันช่วยขับรถกลับให้ > เพราะต้องกลับกรุงเทพเหมือนกันผมนั่งคุยกับแกมาตลอดทาง > จนฝนตกหนักแกถามว่าในรถมีแว่นกันแดดไหมจึงหยิบให้เขาเขาให้ผมลองใส่ดูปรากฏว่าเห็นทางชัดเจนมาก > ทัศนวิสัยดีมาก > ถึงจะไม่เทียบเท่ากับตอนฝนไม่ตก แต่ก็เกือบ 90%> > > แล้วผมก็รีบเอาแว่นให้พี่เขาความรู้โดยบังเอิญตรงนี้พี่เขาก็เล่าสถานการณ์ให้ฟังผมก็ฟังไปด้วย > คิดถึงเหตุผล ไปด้วยจนค่อนข้างแน่ใจว่า> > > โดยคุณสมบัติของแว่นกันแดดแล้วจะทำหน้าที่กรองที่เกินความจำเป็นในการมองเห็นและทำอันตรายของดวงตาออกไปยิ่งมีคุณสมบัติดียิ่งมีการเคลือบหรือเทคนิคในการผลิตดีตามและราคาสูง > ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ควรประหยัด> > > เมื่อเม็ดฝนที่ตกหนักตามแรงโน้มถ่วงของโลก จากที่สูงขนาดของเม็ดฝนซึ่งมีขนาด> > > ต่างๆ > ตกกระทบฝากระโปรงหน้าด้วยแรงกระแทกมหาศาลทำให้เม็ดฝนแตกกระจายอย่างละเ.ยดรวมทั้งบนหน้ากระจกรถของเราด้วย> > > ในตอนกลางคืนหรือกลางวันก็ตาม จะมีแสงจากธรรมชาติอยู่แล้ว > หรืออาจจะมาจากที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็น> > แสงสว่างต่างๆเม็ดฝนมีการสะท้อนแสง > หรือบางขณะก็รวมตัวกันมากๆ แบบไม่เป็นระเบียบ> > > จึงทำให้ภาพที่เรามองไปข้างหน้าบนถนน มี"ตัวกลาง " มากั้น ซึ่งก็คือม่านน้ำฝน > และละอองฝน> > ซึ่งตัวมันเองก็มีค่าดัชนีหักเหอยู่แล้ว > เมื่อบวกกับการสะท้อนแสง ของละอองฝน ทำให้ทัศนวิสัยจึงแย่มาก> > > แว่นกันแดดจึงกรองแสงจ้าที่เกิดการสะท้อนจากละอองฝนและสายฝนที่อาบอยู่> > > บนกระจกหน้ารถ ชนิดที่เรียกว่า ที่ปัดน้ำฝน speedแรงสุดก็เอาไม่อยู่ ออกไป> > > จึงทำให้ทัศนวิสัยในขณะขับรถตอนกลางคืน ฝนตกหนักเยี่ยมมาก> > > ดังนั้นจึงสามารถใช้ความเร็วได้ในระดับหนึ่งและปลอดภัยมาก> > > ผมยังเชื่อว่าถ้าเป็นตอนกลางวัน และฝนตกหนักก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน> > > ถึงจะยังไม่ได้ทดลองแต่คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร> > > ผมหวังว่าความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรงครั้งนี้คงเป็นประโยชน์กับหนอนทุกคน> > > ถ้าใครได้ทดลองใช้ก็นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ > > > สุดท้ายนี้ภาพที่คมชัดขึ้นกับคุณภาพแว่นกันแดดด้วย หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 28 พฤศจิกายน 2550 21:05:27 ในวันสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส ฉันรีบไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อซื้อของขวัญที่ฉันไม่ได้ซื้อไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อฉันเห็นผู้คนทั้งหมดที่นั่น ฉันก็เริ่มบ่นกับตัวเอง ฉันคงต้องเสียเวลาเป็นชาติที่นี่แน่ๆ ฉันควรไปที่อื่นดีกว่า คริสต์มาสนี่ทำให้รู้สึกแออัดและน่ารำคาญขึ้นทุกๆปีจริงๆ สิ่งที่ฉันอยากจะทำคือเอนตัวลงนอนแล้วก็หลับไปและตื่นขึ้นมาเมื่อเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้วจริงๆ แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไปที่แผนกของเล่น และฉันก็เริ่มหัวเสียเกี่ยวกับราคาของมันและแปลกใจว่า เด็กๆเนี่ยเล่นของเล่นที่แพงขนาดนี้เชียวหรือ ขณะที่กำลังเดินดูของอยู่ในแผนกของเล่นนั้น ฉันสังเกตเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง อายุประมาณ 5 ขวบ กำลังอุ้มตุ๊กตาไว้แนบกับอก เขาค่อยๆลูบผมของตุ๊กตานั้นและมองดูอย่างเศร้าสร้อย ฉันสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้จะเอาตุ๊กตาไปให้ใครกัน เด็กผู้ชายคนนั้นหันไปหาหญิงชราที่อยู่ข้างๆ "คุณย่าแน่ใจหรือฮะว่าเงินของผมมีไม่พอ" หญิงชราตอบว่า "หลานก็รู้นี่ว่าหลานมีเงินไม่พอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้หรอก" หลังจากนั้นหญิงชราก็บอกให้เขารออยู่ตรงนั้นประมาณ 5 นาทีระหว่างที่เธอจะไปเดินดูรอบๆ แล้วเธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว เด็กชายยังคงอุ้มตุ๊กตาอยู่ในมือ ในที่สุดฉันก็เริ่มเดินเข้าไปหาเขา ฉันถามเค้าว่าเค้าจะเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปให้ใคร มันเป็นตุ๊กตาที่น้องสาวของผมชอบที่สุดฮะ และเธอก็อยากจะได้มันมากเป็นของขวัญวันคริสต์มาส เธอมั่นใจมากว่าซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตาตัวนี้แก่เธอ" ฉันบอกเค้าว่า ซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตานี้แก่น้องสาวของเขาแน่ๆ และก็ไม่ต้องกังวลหรอก (มาถึงตรงนี้ นึกหละสิครับว่า เรื่องนี้ จะเหมือนกับเรื่องปกติทั่วๆไปที่คุณเคยอ่าน เดาผิดแล้วหละครับ ลองอ่านต่อสิครับ...) แต่เขาตอบฉันด้วยท่าทางเศร้าสลดว่า "ไม่หรอกฮะ ซานตาคลอสไม่สามารถเอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอในที่ๆเธออยู่ตอนนี้ได้ ผมจะเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปให้แม่ แม่จะได้เอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอเมื่อแม่ไปที่นั่น" ดวงตาของเขาเศร้ามากขณะที่เขาพูดต่อไป "น้องสาวของผมไปอยู่บนสวรรค์ พ่อบอกว่าแม่ก็จะไปเหมือนกันในเร็วๆนี้ ผมก็เลยคิดว่าแม่น่าจะเอามันไปให้น้องสาวของผมได้" หัวใจของฉันเกือบจะหยุดเต้น เด็กชายเงยหน้ามองฉันแล้วพูดว่า "ผมบอกพ่อให้บอกแม่ว่าอย่าพึ่งไปให้รอผมจนกว่าผมจะกลับจากซุปเปอร์มาร์เก็ตฮะ " แล้วเขาก็หยิบรูปที่น่ารักมากของเขาซึ่งกำลังหัวเราะให้ฉันดู แล้วก็บอกว่า "ผมอยากให้แม่เอารูปนี้ไปด้วยฮะเธอจะได้ไม่ลืมผม ผมรักแม่ฮะและผมก็หวังว่าเธอจะไม่ต้องจากผมไป แต่พ่อบอกว่าเธอต้องไปอยู่กับน้องสาวของผม" แล้วเขาก็จ้องมองตุ๊กตาอีกครั้งอย่าอาลัย ฉันรีบคว้ากระเป๋าตังออกมาอย่างรวดเร็ว หยิบธนบัตรออกมา 2-3ใบ แล้วพูดว่า "ทำไมเราไม่ลองตรวจดูอีกที เผื่อว่าเราจะมีเงินพอ " "ตกลงฮะ" เขาพูด "ผมหวังว่าผมจะมีเงินพอนะฮะ " ฉันแอบใส่เงินของฉันลงในกระเป๋าตังของเขาโดยไม่ให้เขาเห็นแล้วเขาก็เริ่มนับมัน มันไม่ได้มีเงินแค่พอซื้อตุ๊กตาเท่านั้น แต่ยังเหลืออีกด้วย เด็กชายพูด "ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเงินให้ผมฮะ" เขามองฉัน แล้วพูดเสริมว่า "ผมอธิษฐานกับพระเจ้าก่อนนอนเมื่อวานฮะ ว่าขอให้ผมมีเงินพอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้เพื่อแม่จะได้เอาไปให้น้องสาวของผมฮะ แล้วพระองค์ก็ได้ยิน ความจริงผมอยากได้เงินที่จะซื้อกุหลาบสีขาวให้แม่ด้วยฮะ แต่ผมไม่กล้าขอมากเกินไป แต่พระองค์ก็ให้เงินผมมากพอที่จะซื้อทั้งตุ๊กตาและกุหลาบ แม่ของผมชอบกุหลาบขาวฮะ" 2-3 นาทีต่อมา หญิงชราก็กลับมา ฉันเดินออกมากับรถเข็นของฉัน(รถเข็นที่ใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตอะ) ฉันซื้อของจนเสร็จด้วยความรู้สึกที่ต่างจากตอนมาโดยสิ้นเชิง ฉันไม่สามารถเอาภาพของเด็กชายคนนั้นออกจากจิตใจฉันได้ หลังจากนั้นฉันก็จำข่าวที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เมื่อ 2 วันก่อนได้ มันบอกว่าคนขับรถบรรทุกที่เมาเหล้าคนหนึ่งขับรถชนรถอีกคันหนึ่งที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกับเด็กหญิงตัวเล็กๆในรถ เด็กหญิงคนนั้นเสียชีวิตทันที แต่แม่ของเธออยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส ครอบครัวของพวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะดึงปลั๊กเครื่องช่วยหายใจดีหรือไม่ เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถดีขึ้นไปกว่าขั้นโคม่าได้ ครอบครัวนี้จะเป็นของเด็กชายคนนั้นรึเปล่านะ 2 วันหลังจากได้พบกับเด็กชายคนนั้น ฉันอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่า หญิงสาวคนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว ฉันไม่สามารถหยุดตัวเองไว้ได้ที่จะไปซื้อกุหลาบช่อหนึ่ง แล้วไปที่ Mortuary ซึ่งร่างของหญิงคนนั้นได้ถูกเปิดให้คนได้ดูและอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝัง เธออยู่ในนั้น ในโลงศพของเธอในมือมีดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่งกับรูปถ่ายของเด็กชายคนนั้น และมีตุ๊กตาวางอยู่บนหน้าอก ฉันออกไปข้างนอกทั้งน้ำตารู้สึกว่าชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไปตลอดกาล ความรักที่เด็กผู้ชายคนนี้มีให้แม่และน้องสาวของเขานั้นจะยังคงอยู่ยืนยาวสุดแก่การจินตนาการ แต่เพียงแค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น คนดื่มเหล้าคนหนึ่งก็ได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเค้า หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: มู๋เเม้ว ที่ 28 พฤศจิกายน 2550 22:05:28 สุดยอดครับ
หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 29 พฤศจิกายน 2550 07:16:40 สุดยอดครับ ขอบคุณ อ่านหมดเปล่าหัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: Ake-Rattanathibet.CZ ที่ 29 พฤศจิกายน 2550 07:50:04 อ่านจบทุกบรรทัดครับน้า น้ำตาจะไหล (หิวเหล้า อ่ะ) :emob
หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: RPG.CZ ที่ 29 พฤศจิกายน 2550 08:23:15 ยาวจัง
หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: Toyota Corsa ที่ 29 พฤศจิกายน 2550 08:24:58 :emo2 บวกไปอีก 1 เรื่องดี ๆ แบบนี้ :emom หัวข้อ: Re: "สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้คือการยอมแพ้" ภูมิใจนำเสนอ ยาวหน่อย เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 29 พฤศจิกายน 2550 09:11:16 + คืนไป
|