AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: PED.X ที่ 03 สิงหาคม 2554 10:37:19



หัวข้อ: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 03 สิงหาคม 2554 10:37:19
เกียร์ออโต้ จอดติดไฟแดงเหยียบเบรคเข้า D ไว้ สักพักรถยังไหลไปได้อีกต้องกดเบรคลงอีกจึงจะหยุด เป้นเพราะอะไรครับ แล้วการแก้ไขทำอย่างไร ราคาเท่าไรครับ  ขอบคุณครับ:emotn


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: chaiyasita ที่ 03 สิงหาคม 2554 13:10:45
ผมเคยเป็น ตอนซื้อมือสองมาใหม่ๆ ครับ ตอนนั้นผ้าเบรคหน้ามันแข็งมากๆ และน้ำมันเบรคเก่ามากๆ เปลียนทั้งผ้าทั้งน้ำมัน อาการหายครับ


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Handyman ที่ 03 สิงหาคม 2554 13:48:42
เกียร์ออโต้ จอดติดไฟแดงเหยียบเบรคเข้า D ไว้ รถมีโอกาสไหลและเปลืองผ้าเบรคครับ

แก้ไขด้วยการเข้า N ครับ  ไม่ต้องเสียเงินด้วย


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 03 สิงหาคม 2554 13:54:18
เกียร์ออโต้ จอดติดไฟแดงเหยียบเบรคเข้า D ไว้ รถมีโอกาสไหลและเปลืองผ้าเบรคครับ

แก้ไขด้วยการเข้า N ครับ  ไม่ต้องเสียเงินด้วย

 :emotv


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: smilegames ที่ 03 สิงหาคม 2554 14:04:04
เกียร์ออโต้ จอดติดไฟแดงเหยียบเบรคเข้า D ไว้ รถมีโอกาสไหลและเปลืองผ้าเบรคครับ

แก้ไขด้วยการเข้า N ครับ  ไม่ต้องเสียเงินด้วย
รอบเครื่องไม่ตก แอร์เย็นด้วย แต่สำหรับ ติดไฟแดงนานๆนะ ผมก็ทำเป็นประจำ


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Oon_Resist .CZ ที่ 03 สิงหาคม 2554 16:47:06
เปลี่ยนรถครับ อาการหายแน่นอน


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: PED.X ที่ 03 สิงหาคม 2554 16:52:32
เปลี่ยนรถครับ อาการหายแน่นอน

ไม่เอาอ่ะ จะมีจะจน เค้าก็จะซ่อมใช้


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: ืnorthromeo ที่ 04 สิงหาคม 2554 00:41:36
เกียร์ออโต้ จอดติดไฟแดงเหยียบเบรคเข้า D ไว้ รถมีโอกาสไหลและเปลืองผ้าเบรคครับ

แก้ไขด้วยการเข้า N ครับ  ไม่ต้องเสียเงินด้วย

 :emotv
เห็นด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: nuynui ที่ 05 สิงหาคม 2554 12:59:45
ผมเคยเป็นเหมือนกันครับไหลไปชนคันอื่นด้วยง่ะ     ก้อเลยไปหาช่างเขาบอกว่ายางหม้อลมเบรคบวมเลยให้ช่างเปลี่ยนหม้อลมเบรคของเชียงกง
ก้อหายนะครับ


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: nuynui ที่ 05 สิงหาคม 2554 13:01:03
ผมเคยเป็นเหมือนกันครับไหลไปชนคันอื่นด้วยง่ะ     ก้อเลยไปหาช่างเขาบอกว่ายางหม้อลมเบรคบวมเลยให้ช่างเปลี่ยนหม้อลมเบรคของเชียงกง
ก้อหายนะครับ


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: nuynui ที่ 05 สิงหาคม 2554 13:01:46
ผมเคยเป็นเหมือนกันครับไหลไปชนคันอื่นด้วยง่ะ     ก้อเลยไปหาช่างเขาบอกว่ายางหม้อลมเบรคบวมเลยให้ช่างเปลี่ยนหม้อลมเบรคของเชียงกง
ก้อหายนะครับ


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: channarit ที่ 05 สิงหาคม 2554 13:02:43
แม่ปั๊มเบรคเป็นตามดครับผม :emos :emos


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: Jub@92GTI ที่ 05 สิงหาคม 2554 16:30:43
1.หาชุดซ่อมแม่ปั้มตัวบน
2.หรือเปลี่ยนหม้อลมเซียงกง ชั้นครึ่ง และมีปั้ม ใหญ่ขึ้น

แก้ไม่ยากครับ งานนี้


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: KITTI 2616<NC.Z> ที่ 05 สิงหาคม 2554 17:22:33
เกียร์ออโต้ จอดติดไฟแดงเหยียบเบรคเข้า D ไว้ รถมีโอกาสไหลและเปลืองผ้าเบรคครับ

แก้ไขด้วยการเข้า N ครับ  ไม่ต้องเสียเงินด้วย
+1


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: osk100 ที่ 05 สิงหาคม 2554 18:19:53
ยุคหนึ่งเชื่อกันว่า ถ้าติดไฟแดงก็ควร "พักเกียร์"

ใช่ครับ ผมเองในอดีต 10 ปีก่อนก็ทำเช่นนี้บ่อยๆ คือเต็มใจปลดเกียร์เป็น N ทุกครั้งที่ติดไฟแดง โดยหวังว่าจะช่วยเป็นการพักเกียร์! แต่ความจริงกลับไม่ต้องทำเช่นนั้น

การใช้งาน AT ให้ยืนนาน ควรเข้าใจว่าทุกครั้งที่เรา "OFF Gear" น้ำมัน ATF จะหยุดแรงดันของมันทันทีครับ จำ "หลุมฉิ่ง" Orifice Valve ที่มีลูกปืนเม็ดเล็กๆ ทนๆ กลิ้งอุดและเปิดวาล์ว ATF ได้ไหมครับ ยามใดที่ ON Gear ลูกปืนในหลุมฉิ่งเหล่านี้จะเปิดให้ ATF ผ่านด้วยแรงดันน้ำมัน ATF ที่อัดอยู่เต็ม VB ( Valve body สมองเกียร์) เพื่อ hold ตำแหน่งเกียร์ D อยู่

แต่หากเราเข้าตำแหน่ง N เจ้า ATF ก็หยุดเดิน และไม่ "Standby" ลูกปืนเปิด-ปิด Orifice Valve ก็ปิดตัวลงนอนแอ้งแม้งใน "หลุมฉิ่ง" พอเราเข้าเกียร์ D เพื่อออกตัวในจังหวะไฟเขียว ...เท่านั้นละครับ ATF มันก็แย่งกันสูบฉีดด้วยแรงดันให้ไหลวกวนใน VB สมองเกียร์ จงคิดเอาเถิดครับว่า วันหนึ่งๆ หรือครั้งหนึ่งที่คุณได้ทำเช่นนี้ แรงดัน ATF มันจะขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา ไม่ Constant สักที ของเหลว (ATF) เมื่อเคลื่อนตัวไหลไป-มาด้วยแรงดันบ่อยๆ ความร้อนก็ไม่คลายแต่กลับเพิ่มขึ้นๆ สี่แยกแล้วสี่แยกเล่า หยุดแล้วหยุดเล่า Orifice Valve ต้องทำงานตลอดเวลา เดี๋ยวไหลเดี๋ยวหยุดกะปริบกะปรอย มันจะทนไหวหรือครับ ต่อไปนี้ให้ทำอย่างนี้ครับ

หากหยุดในชั่วแค่ 2-3 นาที ก็ควร "Hold D" เอาไว้ โดยเหยียบแป้นเบรกแทน แต่หากหยุดนานเกินกว่านี้ค่อยเข้า OFF Gear เป็น N อย่างน้อยก็ช่วยยืดอายุเกียร์ได้อีกโขเลยละครับ ด้วยวิธีง่ายๆนี้ จำไว้ต่อไปนี้หยุดแป๊บเดียวไม่ต้องปลดเกียร์  


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: TON-ผู้ชายอบอุ่น ที่ 05 สิงหาคม 2554 19:43:09
ยุคหนึ่งเชื่อกันว่า ถ้าติดไฟแดงก็ควร "พักเกียร์"

ใช่ครับ ผมเองในอดีต 10 ปีก่อนก็ทำเช่นนี้บ่อยๆ คือเต็มใจปลดเกียร์เป็น N ทุกครั้งที่ติดไฟแดง โดยหวังว่าจะช่วยเป็นการพักเกียร์! แต่ความจริงกลับไม่ต้องทำเช่นนั้น

การใช้งาน AT ให้ยืนนาน ควรเข้าใจว่าทุกครั้งที่เรา "OFF Gear" น้ำมัน ATF จะหยุดแรงดันของมันทันทีครับ จำ "หลุมฉิ่ง" Orifice Valve ที่มีลูกปืนเม็ดเล็กๆ ทนๆ กลิ้งอุดและเปิดวาล์ว ATF ได้ไหมครับ ยามใดที่ ON Gear ลูกปืนในหลุมฉิ่งเหล่านี้จะเปิดให้ ATF ผ่านด้วยแรงดันน้ำมัน ATF ที่อัดอยู่เต็ม VB ( Valve body สมองเกียร์) เพื่อ hold ตำแหน่งเกียร์ D อยู่

แต่หากเราเข้าตำแหน่ง N เจ้า ATF ก็หยุดเดิน และไม่ "Standby" ลูกปืนเปิด-ปิด Orifice Valve ก็ปิดตัวลงนอนแอ้งแม้งใน "หลุมฉิ่ง" พอเราเข้าเกียร์ D เพื่อออกตัวในจังหวะไฟเขียว ...เท่านั้นละครับ ATF มันก็แย่งกันสูบฉีดด้วยแรงดันให้ไหลวกวนใน VB สมองเกียร์ จงคิดเอาเถิดครับว่า วันหนึ่งๆ หรือครั้งหนึ่งที่คุณได้ทำเช่นนี้ แรงดัน ATF มันจะขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา ไม่ Constant สักที ของเหลว (ATF) เมื่อเคลื่อนตัวไหลไป-มาด้วยแรงดันบ่อยๆ ความร้อนก็ไม่คลายแต่กลับเพิ่มขึ้นๆ สี่แยกแล้วสี่แยกเล่า หยุดแล้วหยุดเล่า Orifice Valve ต้องทำงานตลอดเวลา เดี๋ยวไหลเดี๋ยวหยุดกะปริบกะปรอย มันจะทนไหวหรือครับ ต่อไปนี้ให้ทำอย่างนี้ครับ

หากหยุดในชั่วแค่ 2-3 นาที ก็ควร "Hold D" เอาไว้ โดยเหยียบแป้นเบรกแทน แต่หากหยุดนานเกินกว่านี้ค่อยเข้า OFF Gear เป็น N อย่างน้อยก็ช่วยยืดอายุเกียร์ได้อีกโขเลยละครับ ด้วยวิธีง่ายๆนี้ จำไว้ต่อไปนี้หยุดแป๊บเดียวไม่ต้องปลดเกียร์  






 :emo2


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: aotobort ที่ 05 สิงหาคม 2554 20:37:18
ผมพึ่งเป็นวันนี้เลยครับ เปลี่ยนยางในปั้มแล้วโดนไป 280 ค่าแรงเปลี่ยน 300 สรุป ต้องเหยียบแบบที่ว่า
มิดถึงหยุด สงสัยต้องเปลี่ยนปั้มไหม่ โดนอีกรอบ ช่างบอกถ้าเปลี่ยน แบบเดิมแต่ปั้มไหม่ 1800ไม่รวมค่าแรง
เลยยังไม่เปลี่ยน ใว้หาชั้นครึ่งเปลี่ยนเลยทีเดียว น่าจะดีกว่าไหม่ครับ
รวบกวนผู้รู้แนะนำทีครับ


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 05 สิงหาคม 2554 20:58:48
เปลี่ยนหม้อลมชั้นครึ่งเลย ผมเคยซื้อ 1500บาทเอง ตรงรุ่น 92 และ เอา โคโรน่า มาก็ใส่ได้ แต่หม้อจะเล็กกว่า ชั้นครึ่ง ใส่ได้เหมียนกัน


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: "Beer@RYZ" ที่ 05 สิงหาคม 2554 21:06:25
 :emotg :emo2 :emo2 :emo2


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: aotobort ที่ 05 สิงหาคม 2554 21:11:03
เปลี่ยนหม้อลมชุ้นครึ่งเลย ผมเคยซื้อ 1500บาทเอง ตรงรุ่น 92 และ เอา โคโรน่า มาก็ใส่ได้ แต่หม้อจะเล็กกว่า ชั้นครึ่ง เหมียนกัน
ของโคโรน่า ตัวไหนครับน้าใส่ได้ชัวเหรอครับผม พรุ่งนี้ว่าจะไปเดิน ซ. ศิริชัย นนท์ มีวิธีดูยังไงครับผมแนะนำทีครับ
แล้วของตรงรุ่นชั้นครึ่งใส่แล้วมันจะติดค้ำโช้คไหมครับผม ผมใส่ค้ำหน้า3จุดครับ  :emotn


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 05 สิงหาคม 2554 22:50:23
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=95618.msg3002130
มีภาพชัดเจน


หัวข้อ: Re: เบรคหยุดแล้วไหล
เริ่มหัวข้อโดย: aotobort ที่ 05 สิงหาคม 2554 23:28:12
ขอบคุณครับน้า