หัวข้อ: ชีวิตที่อาจเรียกว่าเป็นสวรรค์บนดินของหลายๆคน เริ่มหัวข้อโดย: ADVAN RG ที่ 20 พฤศจิกายน 2553 00:52:53 http://www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=281128&content_category_id=1062
หัวข้อ: Re: ชีวิตที่อาจเรียกว่าเป็นสวรรค์บนดินของหลายๆคน เริ่มหัวข้อโดย: webslaf ที่ 20 พฤศจิกายน 2553 19:20:06 สวรรค์ทั้งบนดิน และใน(บ้าน)ดินคับ :emotn
หัวข้อ: Re: ชีวิตที่อาจเรียกว่าเป็นสวรรค์บนดินขอ เริ่มหัวข้อโดย: jedee ที่ 21 พฤศจิกายน 2553 05:27:44 :emom :emo2 :emotnขอบคุณสำหรับคลิบย้อนหลังดีๆ ให้แง่คิดในการดำรงชีพได้ดีมาก ประทับใจอยู่คำเดียว ของคุณโจนที่ว่า ผมทำงานอยู่กรุงเทพเจ็ดปี ทำงานวันละแปดชั่วโมง แต่ก็ยังเป็นหนี้ เลยต้องกลับสู่ถิ่นฐานย้อนกลับไปดูบรรพบุรุษ ว่าปีหนึ่งท่านทำงานแค่สองเดือน ที่เหลืออยู่แบบสบายๆ ทำงานสองเดือนได้ข้าวสี่ตันเก็บไว้ในยุ้ง ทานกันทั้งครอบครัวหกคนก็ไม่หมด แถมยังเหลืออีกก็แบ่งปันออกไป ทุกอย่างไม่ต้องซื้อมีผักสวนครัวรั้วกินได้ มีบ่อปลาอีกสองบ่อ โหนี่ล่ะสัจจะธรรมแห่งชีวิต ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าคุณโจน แอบไปอยู่แม่แตงเชียงใหม่สิบกว่าปีแล้ว เห็นผลงานอยู่ทั่วอิสานเลย แม้แต่บางวัดที่ผมไปทำบุญ คุณโจนยังไปสร้างกุฏฐิให้ท่านเจ้าอาวาสไว้เลย เย็นเจี๊ยบยังกะติดแอร์ แต่เย็นธรรมชาติครับ ผมเคยไปสัมผัสมาแล้ว :emoti
:emotq แต่ที่หดหู่ ก็คือ วิกฤตอาหารนี่ล่ะ วันนี้เราปล่อยให้บ.เพียงไม่กี่บริษัท มันผูกขาดเรื่องาเมล็ดพันธ์ครับ กำของคนในชาติ แต่ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ ไม่งั้นกฎแห่งความสมดุลย์จะไม่เกิด มีมืดมีสว่าง มีโลภมีไม่โลภ บ.เอากำไรสูงสุดเป็นตัวตั้ง คนกินไม่ได้ปลูก คนปลูกไม่ได้กิน เหมือนอย่างที่ว่าไว้เลย แต่อย่างกระนั้นเลย ความสมดุลย์นั้นมีแน่ครับ แต่จะมีสักกี่คนที่เชื่อล่ะ (จริงไหม) ทุกคนมุ่งแต่ตามหาสิ่งที่ตนหวังสิ่งที่ตนอยากได้อยากมีด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จนลืมไปว่า รอบตัวเราเกิดอะไรขึ้น ก็คงไม่ต่างอะไรกับการพายเรื่องในอ่าง วนไปวนมาอยู่เยี่ยงนั้นแล การพึ่งพาตนเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว แต่เราดันไปเชื่อนักวิชาเกิน ซึ่งเรียนรู้แค่ตำราซึ่งฝรั่งมันเขียน มันว่าอะไรไว้ก็ต้องเป็นเช่นนั้น ทั้งที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ครับ หาไม่แล้ว ทำไมตำรามันถึงได้เปลี่ยนไปเรื่อยล่ะ หากไม่มีเรื่องผลประโยชน์ เรื่องไม่ถูกตรงตามจริงเข้ามาเกี่ยวแล้วมันจะเปลี่ยนตำรากันทุกๆเทอมทำบิดามันทำไม วันนี้ลูกผมสามคน ขึ้นเทอมใหม่ ก็ต้องซื้อตำราใหม่ เราเป็นทาสโดยไม่รู้ตัวแล้วครับ ทั้งที่พ่อหลวงเราเลิกทาสมานับร้อยปีแล้วครับ วันนี้เรายังเป็นทาสในเรือนเบี้ยของคนโลภเหล่านี้อยู่ครับ วันหนึ่งหากกฎความสมดุลย์จำเป็นต้องทวงคืน วันนั้นอาจจะถูกทวงคืนด้วยดอกเบี้ยทบต้นจนคาดไม่ถึงก็ได้ครับ ไม่มีอะไรได้ฝ่ายเดียว มีสองด้านเสมอ คุณโจนพูดถูกเกือบทั้งหมด แต่มีติดอยู่สิ่งเดียวคือ เราไม่ได้เกิดมาแค่ชาตินี้ชาติเดียวครับ เราเกิดมาหลายชาตินับครั้งไม่ถ้วนแล้วครับ ผมมีโอกาสได้ดูเมื่อวานซืนตอนอยู่ที่พักพิษณุโลกครับ ออกอากาศช่วงเช้าเลย พอพูดถึงวิกฤตอาหาร วิกฤตพันธ์พืชแล้ว ผมถึงกับอึ้งเลย แต่ก็ดีใจที่ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ทำตรงนี้แล้วครับ จีเอ็มโอ ไม่มีทางครองโลกได้หรอกครับ ฝันไปเท่านั้นเอง แต่มันกำลังคืบคลานเข้ามาๆใกล้ตัวเราจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเราไปแล้วครับ ผมลองวิเคราะห์ดู ก็ได้ข้อสรุปว่า เรื่องแบบนี้ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเรื่องสำคัญมากถึงมากที่สุด แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้าม หรือไม่ให้ความสำคัญไป ไม่ก็ผ่านไปเลย เห็นเรื่องอื่นสำคัญกว่า ทั้งที่แท้จริงแล้วเกี่ยวข้องโดยตรงกับวิถีชีวิตของพวกเราเลยครับ ผมเคยเห็นคนแบบคุณโจน จันได มากมาย แต่หลายๆคน ปริกวิเวก มีนิวาสสถานอยู่ในป่าในเขา ไม่ก็อยู่ในสำนักปฏิบัติธรรม บางคนประสพความสำเร็จในทางโลกที่เขาสมุตติกันไว้ หากเอาเงินเป็นตัววัดแล้ว คนบางคนที่ผมกล่าวถึง มีมากกว่าพ่อใหญ่ทักษิณอีกครับ แต่สุดท้ายแล้วกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในป่าครับ น่าจะเกินสามสิบปีแล้วล่ะ ผมเคยได้มีโอกาสไปสัมผัสกับท่านและสนทนาธรรมด้วย ท่านยังทิ้งเงินหลายแสนล้าน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงช่วยเหลือผู้คนอยู่ในป่าเฉยเลยครับ แล้วพวกเราเคยย้อนกลับไปถามตัวเองบ้างไหม ว่า ทุกวันนี้เราอยู่เพื่ออะไรครับ ฝากให้คิดแค่นี้เด้อพี่น้อง แล้วหากว่างๆลองสละเวลาซักนิด ย้อนกลับไปเปิดดูตามลิ้งค์ที่คุณ จขกท.เขาให้มามั่ง พิจารณาดูอย่างมีสติ ไม่ต้องเชื่อ แล้วใช้สติคิดตาม ปัญญาก็จะบังเกิดเองครับ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคลิปดีๆที่ไม่ค่อยมีคนฟัง อิอิ :emo2 :emom :emok :emoth หัวข้อ: Re: ชีวิตที่อาจเรียกว่าเป็นสวรรค์บนดินของหลายๆคน เริ่มหัวข้อโดย: BOURDAENG ที่ 21 พฤศจิกายน 2553 06:10:33 ......ประทับใจมากมาย
หัวข้อ: Re: ชีวิตที่อาจเรียกว่าเป็นสวรรค์บนดินของหลายๆคน เริ่มหัวข้อโดย: ONIZAKI CM.524 ที่ 21 พฤศจิกายน 2553 07:28:43 :emom :emo2 :emotnขอบคุณสำหรับคลิบย้อนหลังดีๆ ให้แง่คิดในการดำรงชีพได้ดีมาก ประทับใจอยู่คำเดียว ของคุณโจนที่ว่า ผมทำงานอยู่กรุงเทพเจ็ดปี ทำงานวันละแปดชั่วโมง แต่ก็ยังเป็นหนี้ เลยต้องกลับสู่ถิ่นฐานย้อนกลับไปดูบรรพบุรุษ ว่าปีหนึ่งท่านทำงานแค่สองเดือน ที่เหลืออยู่แบบสบายๆ ทำงานสองเดือนได้ข้าวสี่ตันเก็บไว้ในยุ้ง ทานกันทั้งครอบครัวหกคนก็ไม่หมด แถมยังเหลืออีกก็แบ่งปันออกไป ทุกอย่างไม่ต้องซื้อมีผักสวนครัวรั้วกินได้ มีบ่อปลาอีกสองบ่อ โหนี่ล่ะสัจจะธรรมแห่งชีวิต ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าคุณโจน แอบไปอยู่แม่แตงเชียงใหม่สิบกว่าปีแล้ว เห็นผลงานอยู่ทั่วอิสานเลย แม้แต่บางวัดที่ผมไปทำบุญ คุณโจนยังไปสร้างกุฏฐิให้ท่านเจ้าอาวาสไว้เลย เย็นเจี๊ยบยังกะติดแอร์ แต่เย็นธรรมชาติครับ ผมเคยไปสัมผัสมาแล้ว :emoti :emotq แต่ที่หดหู่ ก็คือ วิกฤตอาหารนี่ล่ะ วันนี้เราปล่อยให้บ.เพียงไม่กี่บริษัท มันผูกขาดเรื่องาเมล็ดพันธ์ครับ กำของคนในชาติ จริงคับ เพราะมีบริษัทที่ผูกขาดทุกอย่างในชีวิตคนจน ตั้งแต่ เมล็ดพันธุ์ หมู เป็ด ไก่ ไข่ ฯลฯ มันก็เลยทำให้ชาวไร่ชาวนาอยู่กันลำบากมากๆ หัวข้อ: Re: ชีวิตที่อาจเรียกว่าเป็นสวรรค์บนดินของหลายๆคน เริ่มหัวข้อโดย: mengbuu ที่ 21 พฤศจิกายน 2553 08:57:55 เพิ่งลาออกมาได้ปีกว่าแล้วครับ
บ้านนอกมันช่างอากาศดี อาหารดี ผักผลไม้เพียบ มีความสุขจัง |