หัวข้อ: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: มันเศร้าน่ะอยู่คนเดียว ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 14:32:39 คือผมนั่งกินเหล้าอยู่ครับเพื่อนในวงเหล้ามันหาว่ากวนตี..มัน มันต่อยและตีหัวผมบวมและหน้าก็บวมมีทั้งแผลทั้งๆทีผมไม่ได้กวนอะรัยมัน
ผมรักเพื่อนทุกคนครับแต่ผลทีได้กับมาเจ็บตัว....ใจ... (ผมเพิ่งรู้จักกับคนที่ต่อยผมไม่นานครับ)และผมได้แจ้งความและเอาบาดแผลไปใหตำรวจดูตำรวจส่งไปโรงพยาบาลมีใบรับรองแพทย์มีเพื่อนอีกคนอยู่ด้วยตอนเกิดเหตุอย่างนี้ผมต้องทำยังงัยครับ (คนที่อยู่ในเหตุการมันสนิทกับคนที่ต่อยผมครับ) :emotib หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: eak ae saraburi ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 15:26:18 ทำรายร่างกาย +เมาสุรา
ขึ้นโรงพัก เรียกค่าเสียหายได้ ครับ เราเป็นผู้เสียหาย+มีบาทแผล ไม่ต้องกลัวคับ พยานเป็นแค่ส่วนประกอบ ของคดี คับ หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: poky ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 15:46:22 อุ้ย มาเอาใจช่วยครับ เด่วคงมีทนายดีๆในนี้มาตอบ เอาใจช่วยนะคับ :emotn
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Funky_nu_NoO : ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 17:11:06 บางคนเวลาเมาแล้วอันตรายนะครับ ปกติจะนิสัยดีพอเหล้าเข้าปาก ตาขวางเฉย
บ้างก็ว่าคนพวกนี้เก็บกดหรือโดนทารุณตอนเด็ก เป็นไปได้ควรหนีห่างและไม่ต้องเชิญเข้าวงอีก ส่วนเรื่องกฎหมาย ตามท่านๆครับ :emotid หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: มันเศร้าน่ะอยู่คนเดียว ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 17:30:04 :emotw เจออย่างนี้ก็แย่ครับผมเพื่อนก็เยอะแต่ไม่เคยโดนเลยสงสัยเลิกกินเก็บกินแต่งAE ดีกว่า :emotp
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: New. ที่ 15 พฤศจิกายน 2553 17:46:50 แจ้งความเอาเรื่องเลยครับ แบบนี้ไม่เรียกว่าเพื่อนแล้วล่ะครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: มันเศร้าน่ะอยู่คนเดียว ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 11:55:47 ผมแจ้งความไว้แล้วครับแต่กลัวว่าเขามีเส้นสายครับเลยแบบกังวลอยู่เหมือนกันว่าตอนที่เกิดเรื่องจะแจ้งความดีมั้ย
ผมมาทำงานที่นี้ไม่ค่อยรู้จักใครด้วยอ่ะดิครับเซงๆๆ :emotib หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: taufhun ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 13:25:15 เคยมีประสพการณ์ครับ ตอนให้การกำ ตร.ถ้าคุณบอกว่าเขาทำร้ายคุณ แต่คุณไม่ได้โต้ตอบ เขาจะรับแจ้งทำร้ายร่างกาย และถ้าคุณตอบตอนให้การว่าคุณได้โต้ตอบไปบ้าง เข้าจะหาว่าทะเลาะวิวาท ต่างคนต่างจ่ายค่าปรับ แม้คุณจะเจ็บมากกว่าคู่กรณีก็ตาม ก็ลองดูครับเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ROMEo@MAN_u ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 13:33:23 เคยมีประสพการณ์ครับ ตอนให้การกำ ตร.ถ้าคุณบอกว่าเขาทำร้ายคุณ แต่คุณไม่ได้โต้ตอบ เขาจะรับแจ้งทำร้ายร่างกาย และถ้าคุณตอบตอนให้การว่าคุณได้โต้ตอบไปบ้าง เข้าจะหาว่าทะเลาะวิวาท ต่างคนต่างจ่ายค่าปรับ แม้คุณจะเจ็บมากกว่าคู่กรณีก็ตาม ก็ลองดูครับเป็นกำลังใจให้ อันนี้จริงครับ ระวังเจอข้อหาทะเลาะวิวาท นะครับ อีกอย่างผมมีเรืองสงศัยครับ *ถ้ามันจะต่อยเราจริง แล้วทำไมในกลุ่มที่กินเหล้าด้วยกันไม่ห้ามกันบ้างครับ หรือในกลุ่มที่กินเหล้าด้วยกัน เป็นฝ่ายเค้าหมด จึงไม่มีคนห้าม* หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: มันเศร้าน่ะอยู่คนเดียว ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 14:15:10 ครับเค้าทำผมก่อนฝ่ายเดียวครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Funky_nu_NoO : ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 14:58:21 นั่นสิครับ ไหงเพื่อนไม่ห้าม
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: มันเศร้าน่ะอยู่คนเดียว ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 15:06:58 เขาบอกว่าห้ามไม่ทันมันตัวหย้ายครับผมเลยเจ็บตัวเลย :emox
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Funky_nu_NoO : ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 16:09:13 ซวยไปครับ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง แปลงแผลเป็นเงินเลยครับ แจ้งความนัดคุยโลด
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: dutchchun ที่ 16 พฤศจิกายน 2553 16:53:57 เค้าถูกปรับ 500
เราเสียเพื่อน (น่าจะไม่อยากคบอยู่แล้ว) เลิกเหล้าเถอะครับ มันอันตราย (สติสำคัญสุดในตัวเรา แต่ครอบครัวสำคัญสุดสำหรับเรา) หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: AE_111_20BT ที่ 17 พฤศจิกายน 2553 02:40:33 เลิกเหล้า........น่าคิด
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 17 พฤศจิกายน 2553 07:51:47 น้ำเปลี่ยนนิสัยครับ เอาใจช่วยครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: พณฯท่าน บรรหาร ที่ 17 พฤศจิกายน 2553 17:00:06 มาตราที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามข้อเท็จจริงนี้นะครับ
1.เป็นความผิดลหุโทษ ตามมาตรา 391 คือทำร้ายร่างกายแต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กาย 2.เป็นทำร้ายร่างกาย ตามมาตรา 295 คือ ทำร้ายร่างกายจนเป้นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย 3.ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามาตรา 297 อธิบาย 3 ข้อหานี้ง่ายๆ คือ 1.ดูที่บาดแผลว่าอย่างไรอันตรายแก่กาย ตามคำพิพากษาฎีกาว่าไว้ประมาณว่า หากบวมแดงไม่ถึงกับถึงผิวหนังชั้นในคือเลือดออก อันนี้ศาลบอกว่าไม่อันตรายแก่กายจะเป็น 391 2.หากมีแผลแตกเลือดออกจะเป็น 295 ซึ่งอันนี้เป็นความผิดที่ตำรวจเปรียบเทียบปรับไม่ได้นะครับเพราะเป็นความผิดที่อยูในภาคความผิดต้องดำเนินคดีเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ตำรวจไม่อยากทำคดีจะให้ตกลงและทำสำนวนเป็น 391 และทำให้คดีจบไป 3.แม้บวมแดงแต่ผลของการทำร้ายทำให้มีอาการเจ็บปวดจนทำงานไม่ได้เกิน 20วัน หรือได้รับทุขเวทนาเกินกว่า 20 วันเป็นเรื่องทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอัตรายสาหัสตามมาตรา 297 ซึ่งโทษจะหนักกว่า 295 และ 391 แนวทางแก้ไข 1.เก็บใบรับรองแพทย์ไว้แม้ตำรวจไม่ทำคีดเราฟ้องคดีเองได้ 2.เรื่องการทะเลาะวิวาทแล้วทำตำรวจปรับทั้งคุ่นั้นเป็นกรณีเรื่อง สมัครใจวิวาท ซึ่งถือว่าไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีที่จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้ แต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย หากฝ่ายไหนทำร้ายคนอื่นแล้วเกิดผลเท่าใดก็โดนข้อหานั้นไปเช่น ทำร้าย 295 ทำรายสาหัส 297 หรือ ทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 290 ซึ่งฝ่ายที่สมัครใจวิวาทไม่สามารถยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการได้เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยเนื่องจากเป็นการสมัครใจเข้าร่วมทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยกฎหมายไม่คุ้มครอง 3.ยืนยันเรื่องการถูกทำร้ายก่อนโดยหากมีการต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันก็อ้างว่าป้องกันตัวตามมาตรา 80 ซึ่งจะได้รับการยกเว้นความผิด ปล.อยู่ที่รูปคดีแม้จะสมัครใจวิวาทแต่สร้างรูปคดีได้ด้วยการวิ่งเต้นและทำพยานให้รูปเรื่องเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การป้องกันต้องพอสมควรด้วย เช่น ใช้มีดแทงไป1ครั้งโดยไม่ได้มองว่าถูกที่ใด หากแทงหลายๆครั้งอาจไม่ใช่การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายแต่อาจเป็นเรื่องการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามาตรา 69 ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงไรก็ได้ "ความผิดอาญาต้องสู้ด้วย 1.อ้างป้องกัน มาตรา 68 ไม่มีความผิด คือไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา 2.อ้างความจำเป็น มาตรา 67 ไม่ต้องรับโทษ คือรับผิดทางแพ่งอย่างเดียว 3.อ้างบันดาลโทสะ มาตรา 72 ได้รับโทษน้อยกว่าที่กำหนดไว้เพียงไรก็ได้ 4.อ้างไม่มีเจตนาที่ทำความผิดก็ดีที่สุด แต่ดูรูปคดียากสืบยาก หัวข้อ: Re: สอบถามกฎหมายหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: yoshio ae ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 10:06:00 มาตราที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามข้อเท็จจริงนี้นะครับ 1.เป็นความผิดลหุโทษ ตามมาตรา 391 คือทำร้ายร่างกายแต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กาย 2.เป็นทำร้ายร่างกาย ตามมาตรา 295 คือ ทำร้ายร่างกายจนเป้นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย 3.ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามาตรา 297 อธิบาย 3 ข้อหานี้ง่ายๆ คือ 1.ดูที่บาดแผลว่าอย่างไรอันตรายแก่กาย ตามคำพิพากษาฎีกาว่าไว้ประมาณว่า หากบวมแดงไม่ถึงกับถึงผิวหนังชั้นในคือเลือดออก อันนี้ศาลบอกว่าไม่อันตรายแก่กายจะเป็น 391 2.หากมีแผลแตกเลือดออกจะเป็น 295 ซึ่งอันนี้เป็นความผิดที่ตำรวจเปรียบเทียบปรับไม่ได้นะครับเพราะเป็นความผิดที่อยูในภาคความผิดต้องดำเนินคดีเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ตำรวจไม่อยากทำคดีจะให้ตกลงและทำสำนวนเป็น 391 และทำให้คดีจบไป 3.แม้บวมแดงแต่ผลของการทำร้ายทำให้มีอาการเจ็บปวดจนทำงานไม่ได้เกิน 20วัน หรือได้รับทุขเวทนาเกินกว่า 20 วันเป็นเรื่องทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอัตรายสาหัสตามมาตรา 297 ซึ่งโทษจะหนักกว่า 295 และ 391 แนวทางแก้ไข 1.เก็บใบรับรองแพทย์ไว้แม้ตำรวจไม่ทำคีดเราฟ้องคดีเองได้ 2.เรื่องการทะเลาะวิวาทแล้วทำตำรวจปรับทั้งคุ่นั้นเป็นกรณีเรื่อง สมัครใจวิวาท ซึ่งถือว่าไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีที่จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้ แต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย หากฝ่ายไหนทำร้ายคนอื่นแล้วเกิดผลเท่าใดก็โดนข้อหานั้นไปเช่น ทำร้าย 295 ทำรายสาหัส 297 หรือ ทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 290 ซึ่งฝ่ายที่สมัครใจวิวาทไม่สามารถยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการได้เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยเนื่องจากเป็นการสมัครใจเข้าร่วมทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยกฎหมายไม่คุ้มครอง 3.ยืนยันเรื่องการถูกทำร้ายก่อนโดยหากมีการต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันก็อ้างว่าป้องกันตัวตามมาตรา 80 ซึ่งจะได้รับการยกเว้นความผิด ปล.อยู่ที่รูปคดีแม้จะสมัครใจวิวาทแต่สร้างรูปคดีได้ด้วยการวิ่งเต้นและทำพยานให้รูปเรื่องเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การป้องกันต้องพอสมควรด้วย เช่น ใช้มีดแทงไป1ครั้งโดยไม่ได้มองว่าถูกที่ใด หากแทงหลายๆครั้งอาจไม่ใช่การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายแต่อาจเป็นเรื่องการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามาตรา 69 ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงไรก็ได้ "ความผิดอาญาต้องสู้ด้วย 1.อ้างป้องกัน มาตรา 68 ไม่มีความผิด คือไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา 2.อ้างความจำเป็น มาตรา 67 ไม่ต้องรับโทษ คือรับผิดทางแพ่งอย่างเดียว 3.อ้างบันดาลโทสะ มาตรา 72 ได้รับโทษน้อยกว่าที่กำหนดไว้เพียงไรก็ได้ 4.อ้างไม่มีเจตนาที่ทำความผิดก็ดีที่สุด แต่ดูรูปคดียากสืบยาก ยกนิ้วให้คับ |