AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: Ae-RaNgSiT101-Ohana ที่ 07 พฤษภาคม 2553 14:05:22



หัวข้อ: เรื่องเล่าจากในวัง "ขอพระองค์จทรงพระเจริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: Ae-RaNgSiT101-Ohana ที่ 07 พฤษภาคม 2553 14:05:22
ขำขันจากในวัง


เรื่องเล่าจากในวัง- อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เบื่อ


ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็ นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดทีจังหวัดตากเมื่อพระเทพทรง
เสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสดและถามความเป็ นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด
แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา

ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า 'ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ'
แม่ค้าตอบว่า 'ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ'


เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน

---------------------------------------


เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย
ขอพูดสายกับฟ้าหญิง ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์  
นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
แต่พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ ก็ที่แบงค์จริงๆนะ
ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ .......... ขนลุกเลย ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง

------------------------------------


อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบ นบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง
ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทู ล ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ด ีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า


'ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่าบัดนี้มีอายุมากจึงเ ลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้า..'
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือ น ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว..
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป
ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลยและทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เด ียว'

เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไ ม่ยกเว้นแม้ในหลวง


------------------------------------


เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น


เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญา ตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกา
เป็นรุ่นพิเศษ ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า

'ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์'


--------------------------------------


เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดินและ
ไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเ ฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ ่งกราบบังคมทูลรายงานว่า

'ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อมข้าพระพุทธเจ้าพลตรี
ภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ'
เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า 'เออ ดี เราชื่อเดียวกัน...'  
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้


-----------------------------------


มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตรให้กั บนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า
'ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า'
ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า
'เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก'
เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร
อยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษ ฎรจนหมดแล้ว แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบ
บังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า 'ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์'ในหลวงทรงตรัสว่า 'ขอเดชะ พระหมดแล้ว '


------------------------------------


วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านต ามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย
พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบ าท
แล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่า 'ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง'  
แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมาย แต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
แต่พวกข้าราชบริพารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนน ั้นทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว
เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า 'เรียกว่ายายได้อย่างไรอายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก'

-------------------


ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพร ะอาการคัน
มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยว
ชาญทางราชาศัพท์ก็กราบบังคมทูลว่า

'เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ'
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า 'ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง

' แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า
เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะ เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป
เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรอธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า
มีเหตุขัดข้องบางประการทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้
ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า 'เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว'
และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ...
ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก
ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง "ขอพระองค์จทรงพระเจริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: noncook ที่ 07 พฤษภาคม 2553 14:38:41
"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง "ขอพระองค์จทรงพระเจริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: tunmk ที่ 07 พฤษภาคม 2553 14:46:22
ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง "ขอพระองค์จทรงพระเจริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: boil ที่ 09 พฤษภาคม 2553 08:24:33
ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากในวัง "ขอพระองค์จทรงพระเจริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: nui007 ที่ 09 พฤษภาคม 2553 13:29:29
อันสุดท้ายอ่านแล้วน้ำตาจะไหล   

...ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...