AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: yoshio ae ที่ 08 เมษายน 2553 19:41:09



หัวข้อ: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: yoshio ae ที่ 08 เมษายน 2553 19:41:09
สุดท้ายข้อสรุปเลยลองวัดมันทั้ง 2 แบบ

เพื่อต้องการหาความต่างของการวัดแต่ละแบบ

1.วัดระดับน้ำมันเครื่องตอนเครื่องเย็น จอดทิ้งข้ามคืนคับ

เริ่มตั้งแต่ชักก้านวัดออกมาเช็ดให้สะอาดแล้ววัด 3-4 รอบ

(http://images.temppic.com/10-04-2010/images_vertis/1270867784_0.87901900.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?10-04-2010:1270867784_0.87901900.jpg)

ผลออกมาเป็นแบบในรูปคับ น้ำมันเครื่องอยู่ในระดับ F

(http://images.temppic.com/10-04-2010/images_vertis/1270867785_0.20923500.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?10-04-2010:1270867785_0.20923500.jpg)

2.ติดเครื่องทิ้งไว้โดยไม่เปิดแอร์ ประมาณ 10 นาที จนถึงอุณหภูมิใช้งาน แล้วดับเครื่อง ประมาณ 3 นาทีแล้ววัด

ผลออกมาตามรูป ระดับน้ำมันเครื่องลดลงจาก F เล็กน้อย

(http://images.temppic.com/10-04-2010/images_vertis/1270867785_0.56766900.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?10-04-2010:1270867785_0.56766900.jpg)

ต่อมาเป็นจากหลังดับเครื่องแล้วประมาณ 5 นาที ค่าตามรูปคับ ค่าไม่ต่างจาก หลังดับเครื่อง 3 นาทีคับ

(http://images.temppic.com/10-04-2010/images_vertis/1270867785_0.90615100.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?10-04-2010:1270867785_0.90615100.jpg)

3.สุดท้ายคือวัดจากหลังดับเครื่องแล้วประมาณ 10 นาที ค่าตามรูปคับ ค่าไม่ต่างจากดับเครื่องแล้ว 5 นาทีเลย

(http://images.temppic.com/10-04-2010/images_vertis/1270867786_0.37376000.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?10-04-2010:1270867786_0.37376000.jpg)


***ข้อสรุปแล้ว การวัดทั้ง 2 แบบ  คือ วัดตอนเครื่องเย็น และ ติดเครื่องไว้ แล้วดับเครื่อง ทิ้งไว้แล้ววัด

ผลออกมาต่างกันนะคับ สำหรับการวัดค่าทั้ง 2 แบบแต่ต่างกันไม่มาก  นะคับแต่ ขึ้นอยู่ กับใครจะยึดการวัดค่าแบบใด

แต่ค่าของติดเครื่องแล้ววัด ค่าปริมาณน้ำมันเครื่องแตกต่างจากเครื่องเย็นคือน้อยกว่า ค่า F แสดงชี้ชัดว่าปริมาณน้ำมันเครื่องไม่เต็มคับ :emots


**************************

เนื่องจากครั้งหนึ่ง ผมเคยไปอบรบเรื่องการใช้รถที่ถูกต้องมาครั้งหนึ่ง

แล้วมีเรื่องการวัดระดับน้ำมันเครื่องที่ถูกต้อง

โดยที่การอบรมนั้นให้ บอกวิธีวัดที่แม่นยำคือวัดตอนเครื่องเย็น จะได้ค่าที่เที่ยงตรงที่สุด

แต่ถ้าการวัดในกรณีที่ขับมาดับเครื่องต้องดับไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงวัดได้

แต่เมื่อผมมีการไปตอบกระทู้ในกระทู้นึงมีสมาชิกท่านนึงแย้งมาว่า

วิธีวัดที่ถูกต้องที่สุดคือ ต้องติดเครื่องจนได้อุณหภูมิใช้งานแล้วดับเครื่อง ประมาณ 3 นาทีแล้วจึงวัด

สุดท้ายผมอยากรู้ว่าวิธีที่วัดค่าได้เที่ยงตรงที่สุด คือวิธีใดกันแน่

เพราะผมอยากได้วิธีที่ถุกต้องจริงๆ เพราะถ้าผมจำในสิ่งที่ผิดๆมา จะได้แก้ไขความคิดใหม่ให้ถูกต้อง

แต่ถ้าสิ่งที่ผมเข้าใจถูกต้องอยู่แล้ว

จะได้บอกต่อสำหรับคนที่ยังเข้าใจผิดอยู่คับ

รบกวนด้วยคับ

ผมเอาลิ้งค์ที่ค้นหามาด้วยนะคับ

มีหลากหลายแบบเลยคับ

http://shop.chokeanan.co.th/article_oil.php

http://www.electron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=576&Itemid=4

http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?do=form_edit_topic&board=1&id=81753&user=clubsdmax

http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V9060698/V9060698.html

http://ag.kku.ac.th/adminwork/saraban/carnew/%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87.htm

http://www.ram6.ac.th/readnews.asp?id=342

http://www.toyotaaeknimitthai.com/tip/tip_005.html

เพื่อนๆพี่ๆ มีความเห็นว่ายังไงกันบ้างคับ

รบกวนด้วยนะคับ :emot


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: nut_spoon.CZ ที่ 08 เมษายน 2553 19:43:16
มารอรับความรู้ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hanuy90@LN.Z ที่ 08 เมษายน 2553 19:48:46
เจอแต่ละลิงค์ที่พี่แน๊ตลงไว้ก้อพูดยากจิงๆ   :emotq
แต่นิสัยผมนะ ผมจะเช็คตอนเช้าก่อนมาทำงาน หรือก่อนจะใช้งานครั้งแรกของวัน เพราะรถมันจะจอดข้ามคืน น่าจะแน่นอนสุดคับ  :emotn
รอคนต่อไปดีกว่าคับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: BUT_AE101 ~Lx~ ที่ 08 เมษายน 2553 20:06:50
เวลาผมเช็ค ผมชอบวัดตอนที่ จอดรถไว้แล้วทั้งคืนนอะครับ แล้ววัดตอนเช้า....


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ( . )jab-ben( . ) ที่ 08 เมษายน 2553 21:04:07
แบบข้ามวันหรือข้ามคืนอะคับ นมค.ที่คั่งค้างจะได้ไหลลงอ่างหมด แต่ถ้าติดเครื่องร้อนๆใช้กะตอบถ่ายคับ ส่วนตัวนะคับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: carboys ที่ 08 เมษายน 2553 21:05:50
น้ำมันเครื่อง มีมากมีน้อย คลาดเคลื่อน ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือ มีน้อยเกินกว่าจะปั๊มได้ครับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 08 เมษายน 2553 21:29:56
ผมเติมเต็มสุด วัดตอนเย็นเช้าๆก่อนไปไหนครับ จะได้ลงอ่างหมดก่อน


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: sOrn_7A ที่ 08 เมษายน 2553 21:55:14
รอความรู้ด้วยคน....

ผมวัดตอนเช้า หลังจากทิ้งไว้ทั้งคืน


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Jack_copy ที่ 08 เมษายน 2553 22:49:48
ทำตาม จขกท บอกถูกแล้วครับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: 9QC ที่ 08 เมษายน 2553 22:58:34
ผมอิงตามเล่ม Book service ของรถครับ ตามจขกท.เลย อุ่นเครื่องจนถึงอุณหภูมิทำงาน แล้วดับซักพักเพื่อให้น้ำมันเครื่องลงอ่างจนหมดค่อยวัด....


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: JOKE ที่ 08 เมษายน 2553 23:06:20
ตามคู่มือการใช้รถ (โคโรลล่า) หน้า 90
อุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงาน แล้วดับเครื่องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง เพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับ เครื่องต้องร้อนและวัดหลังจากดับเครื่อง 2-3 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงอ่างเสียก่อน


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ppong ที่ 08 เมษายน 2553 23:16:06
ผมว่าวัดตอนร้อนหลังดับเครื่อง2-5 นาทีนั้นคือให้อยู่ในระดับระหว่าง full กับ low ป่ะครับ จึงปกติ

แต่ถ้าจอดข้ามคืนบนพื้นราบถ้ารถปกติมันน่าจะอยู่ที่ขีด full 

แบบนี้รึเปล่า


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~RETRO RACE...つづく ที่ 08 เมษายน 2553 23:18:51
น้อยไม่น้อยไม่สนขอให้เต็มขีดตลอดเป็นพอลดนิดหน่อยก็เติม และหมั่นเช็ตทุกวันเลย


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: สมถวิล@ปทุมNO.9 ที่ 08 เมษายน 2553 23:57:57
ตอบยากคับ ความเชื่อของแต่ละคนมันแตกต่างกันไปคับ กรณีแรก จอดข้ามคืนแล้ววัด วิธีนี้น้ำมันลงมาที่อ่างหมดแน่ๆ กรณีที่สอง ติดเครื่องให้ได้อุณหภูมิแล้วรอสักพัก วิธีนี้ผมว่าไม่น่าจะแม่นเท่าไหร่นะคับ เช่นดูจากเกรดน้ำมันเครื่อง ภ้าถ่ายเป็นเบอร์ 40  มา กับเบอร์ 10w30 เบอร์หลังน้ำมันจะใสและลงอ่างไวกว่า ส่วนเบอร์แรกจากหนืดลงใด้ช้า 
ยังไงก็ลองเอาทั้งสองวิธีเลยก็ได้คับ ค่าที่ได้ก็น่าจะไกล้เคียงกันคับ :emotn


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: เฉื้อง...คุ...มิ... ที่ 09 เมษายน 2553 00:07:00
รอฟัง หลายความคิดเหน ครับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Prince of ae92gti (หนุ่ย) ที่ 09 เมษายน 2553 06:56:16
วัดตอนเครื่องเย็น ในแนวระนาบกับพื้น จะได้..ไม่ร้อนมือครับ ดีสุด


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Adtgroup ที่ 09 เมษายน 2553 07:55:58
ตาม Book Service น่าจะใช้วิธีนี้กับประเทศที่อากาศหนาวเย็น(มีหิมมะ)นะ เมืองร้อนไม่น่ามีปัญหาที่จะวัดก่อนหรือหลังอุ่นเครื่องแล้ว   
.......วัดน้ำมันเกียร์....งงกว่า


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: BUT_AE101 ~Lx~ ที่ 09 เมษายน 2553 08:15:21
ตาม Book Service น่าจะใช้วิธีนี้กับประเทศที่อากาศหนาวเย็น(มีหิมมะ)นะ เมืองร้อนไม่น่ามีปัญหาที่จะวัดก่อนหรือหลังอุ่นเครื่องแล้ว   
.......วัดน้ำมันเกียร์....งงกว่า
ถูกต้องเลยครับ วัดน้ำมันเกยีร์ออโต้ โคตะระงง มีทั้งขีด ร้อนกับขีดเย็น แล้วตอนไหนที่เรีกย่าเย็น หรือร้อนแน่ๆ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: aj dvd ที่ 09 เมษายน 2553 08:18:12
ปกติผมวัดตอนใช้งานแล้วดับเครื่องก็วัดทันทีต้องอยู่ในระดับกลางๆของขีดวัดครับ
แต่โดยปกติเครื่องไม่ได้startจะให้อยู่ F เพราะเหลือยังดีกว่าขาด
เติมFไว้ อย่างน้อยหากมันลดไวรั่วหรือหาย โชคดีเชคเจอทันยังพอมีโอกาสแก้ตัว
ไม่สนใจว่ารถจะอืด จะหนักหรือเปลืองอะไร ผมสนใจแค่ว่าอย่าให้ขาด แค่นั้นเองครับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: changyim ที่ 09 เมษายน 2553 08:24:17
ขอแจมนิดนึงนะครับ อย่างของเครื่องบิน ตามคู่มือเค้าบอกให้วัดระดับน้ำมันเครื่อง หลังจากดับเครื่องยนต์แล้วประมาณ5นาทีครับ


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: yoshio ae ที่ 09 เมษายน 2553 09:12:55
ขอบคุณทุกความเห็นคับ :emotn

ยังไงพรุ่งนี้ ผมจะลองวัดดูทั้ง 2 แบบ แล้วถ่ายรูปค่าความต่างของระดับน้ำมันเครื่อง

มาเปรียบเทียบให้ดู ให้ชัดเจนอีกทีคับ ว่ามันต่างกันแค่ไหน

หรือมันอาจจะไม่ต่างกันเลยก็ได้คับ  ต้องลองคับจะได้รู้....


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Toom ที่ 09 เมษายน 2553 10:43:53
ตาม Book Service น่าจะใช้วิธีนี้กับประเทศที่อากาศหนาวเย็น(มีหิมมะ)นะ เมืองร้อนไม่น่ามีปัญหาที่จะวัดก่อนหรือหลังอุ่นเครื่องแล้ว   
.......วัดน้ำมันเกียร์....งงกว่า
ถูกต้องเลยครับ วัดน้ำมันเกยีร์ออโต้ โคตะระงง มีทั้งขีด ร้อนกับขีดเย็น แล้วตอนไหนที่เรีกย่าเย็น หรือร้อนแน่ๆ

ถัาร้อน ก็น่าจะตอนเที่ยงอะนะ ครับ แดดแรงมากร้อนมาก...............ถ้า6โมงถึงทุ่ม ก็เย็นแล้วแหละ....
....
..   หุหุ ขำๆๆนะจร้า.....


หัวข้อ: Re: หลายคำตอบทำให้ผมเริ่มที่จะสับสนล่ะ ลองมาดูกันคับ
เริ่มหัวข้อโดย: plew_ch ที่ 09 เมษายน 2553 20:59:18
ผมลองวัดทั้ง2แบบ แล้วแต่สะดวก อารมณ์ ผลก็ไม่ต่างกันมาก เครื่อง4AFE


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: yoshio ae ที่ 10 เมษายน 2553 10:05:05
 :emoz


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: gewall ที่ 10 เมษายน 2553 10:17:57
ขอบคุณครับ :emotn :emotn :emotn


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: kandymans (อ้น) ที่ 10 เมษายน 2553 10:22:06
ผมว่าวิธีจอดข้ามคืนแล้ววัดน่าจะแม่นยำที่สุด คิดแบบง่ายๆ น๊ะครับ ถ้าวัดหลังจากดับเครื่อง 3 นาที จะมั่นใจได้อย่างได้ ว่า ระหว่างน้ำมันเครื่องไหลลงมากอง จะมีปริมาณเท่าไหร่ ถ้าน้ำมันเครื่องมีความหนืดมากๆ มันก็จะไหลช้า แต่ถ้าหนืดน้อยก็ไหลเร็ว ความเห็นส่วนตัวน๊ะครับ แค่ลองเอาบางปัจจัยของน้ำมัน มาลองคิดดู แต่อาจะมีปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่นึกไม่ถึง  อีกอย่างที่สงสัยคือ ว่าทำไมถึงต้องวัดหลัง เครื่องหยุดทำงานแล้วด้วยครับ อาจจะมีเหตุผลที่ดี ถ้าใครพอจะทราบเหตุผลก็ บอกหน่อยน๊ะครับจะได้คลายข้อสงสัย จะได้ใช้วิธีที่ถูกต้องจริงๆ ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: Rong Fuel-Up ที่ 10 เมษายน 2553 10:41:22
ความหนืดของน้ำมันเครื่อง มันต่างกันขนาด ไหลช้า -เร็ว เห็นชัดเลยหรือครับ?


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: -TOR@RAYONG- ที่ 10 เมษายน 2553 10:56:09
ขอแจมนิดนึงนะครับ อย่างของเครื่องบิน ตามคู่มือเค้าบอกให้วัดระดับน้ำมันเครื่อง หลังจากดับเครื่องยนต์แล้วประมาณ5นาทีครับ

เทียบกะเครื่องบินกันเลยทีเดียว :emoa


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: kandymans (อ้น) ที่ 10 เมษายน 2553 10:58:13
ความหนืดของน้ำมันเครื่อง มันต่างกันขนาด ไหลช้า -เร็ว เห็นชัดเลยหรือครับ?
เอามายกตัวอย่างแบบไม่รู้อ่ะคับ เห็นมันมีความหนืดแตกต่างกัน ของแต่ละเกรดน่ะครับ :emob


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: yoshio ae ที่ 11 เมษายน 2553 18:37:00
คิดยังไงกันคับสำหรับการวัดค่าทั้ง สองแบบ ที่ผลออกมาต่างกันคับ


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: arTO-TRD ที่ 11 เมษายน 2553 20:53:33
ผมเกิน F อ่ะ เด็กปั้มชอบเติมมาให้ หลังใช้บริการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

(เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ ไข ออกเอง อิอิ)


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: smilegames ที่ 11 เมษายน 2553 21:11:07
วัดทั้งสองแบบแตกต่างกันอยู่แล้ว วัดแบบทิ้งไว้ค้างคืน จะได้ปริมาณมากกว่า แต่ก็นิดหน่อยอ่ะครับ แต่ผมก็เคยวิตกจริต เพราะว่ามีคนเคยบอกผมว่า ถ้าระดับน้ำมันเครื่องสูงกว่า F จะทำให้วาร์วยันได้ พอผมไปเปลี่ยนน้ำเครื่องที่ร้านทีไร พอเช้ามาวัดเลย F ทุกที ก็เลยลองหัดทำเองดู สรุปว่า ครั้งแรก ก็เลย F เหมือนกัน เลยได้มีโอกาสคุยกับช่างที่ทำรถมานาน ได้เหตุผลว่า

การวัดแบบดับเครื่อง 3-5 นาที
1. เป็นเหตุผลด้านการเซอร์วิส ลองคิดดู เวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามศูนย์บริการจะรอข้ามคืนก็คงไม่ได้ มันจะเสียเวลาโดยไม่ใช่เหตุปริมาณก็ไม่ได้แตกต่างกันมากมาย
2. เวลาเดินทาง ต้องมานั้งรอ หรือมานอนรอ เพื่อวัดน้ำมันเครื่อง มันไม่ถูกต้อง บางคนไม่ได้วัดเอง ให้เด็กปั้มวัดให้ เด็กปั้มคงไม่มารอวัดให้อ่ะครับ ก็ตอนเราดับเครื่องเติมน้ำมัน พอเติมเสร็จก็ให้เด็กปั่มวัดให้เลย จุดสำคัญคืออย่าให้ต่ำกว่าขีด E เป็นพอ

จริงมีอีกหลายตัวอย่างที่คุยกับช่างมา แต่ 2 ข้อนี้ก็ทำให้ผมหายวิตกจริตไปเลยครับ


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: onice cadet ที่ 11 เมษายน 2553 21:18:31
วัดตอนเครื่องเย็นหรือเครื่องตอนถึงอุณหภูมิการทำงานก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่จำเป็นต้องเติมให้พอดีขีด F เป๊ะๆเสมอไป แค่รักษาระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ระหว่าง E และ F (พยายามอย่าให้ต่ำกว่า E และเกิน F) คือระดับที่เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ


หัวข้อ: Re: UP DATE สำหรับการวัดระดับน้ำมันเครื่องในหลายๆแบบคับ ลองจริงให้รู้...
เริ่มหัวข้อโดย: >> OaTzy << SZ#013 ที่ 13 เมษายน 2553 11:46:20
ส่วนใหญ่จะเช็คทุกครั้งก่อนเอาออกจากบ้าน มันก็อยู่ F ทุกครั้ง

ครั้งที่ใช้ Super Syn เบอร์ 40 พอกดแช่รอบสูงนาน ๆ วิ่งซัก 140-160 น้ำมันเครื่องหายไว

ตอนนี้ใช้ตัว Racing ไม่มีหายยยย ;D ;D ;D