หัวข้อ: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:00:45 เรื่องสยองขวัญๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกกลัวมากๆ
กลางดึกคืนหนึ่ง........... ประวิทย์.........ชายหนุ่มผู้ตั้งใจศึกษาเรื่องราวของผีปีศาจและอาถรรพ์ต่างๆ ในค่ำคืนนั้นเขาตั้งใจจะไปซื้อตำราศาสตราโบราณเพื่อนำมาศึกษา เขาจึงเดินทางไปร้านหนังสือเก่าแก่ร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่มีหนังสือและบันทึกเรื่องราวหน้ากลัว ต่าง ๆ ไว้อย่างมากมาย ขณะที่เขากำลังค้นหาหนังสือลึกลับอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ได้พบเจ้าของร้าน ซึ่งมีท่าทางน่ากลัวมาก ๆ เป็นชายแก่ ๆ ไว้หนวดเครา อายุไม่น่าจะต่ำกว่า 70 ปี มีสายตาที่เย็นชามาก ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้พบหนังสือเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการบันทึกเรื่องราวศาสตร์มืด หน้าปกก็เหมือนมีมนต์ขลังอะไรซักอย่าง เมื่อชายหนุ่มได้หยิบหนังสือและจะนำไปจ่ายเงิน ชายหนุ่มสังเกตุว่าเจ้าของร้านนั้น หน้่าซีดและดูหวาดกลัวหนังสือเล่มนั้นมาก............ เมื่อชายหนุ่มถามราคาเจ้าของร้าน เจ้าของร้านตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและแหบแห้งว่า " หนึ่งพันสองร้อยบาท สำหรับหนังสือเล่มนี้...." ชายหนุ่มเห็นสีหน้าท่าทางหวาดกลัวของเจ้าของร้านทันที...สายตาที่เริกลัก...ไม่กล้าสบตา ..เหงือเม็ดโตไหลซึมออกมาทั่วใบหน้าอันเ..เซนเซอร์..่ยวย่นของชายแก่....เมื่อเขาควักเงินจ่ายค่าหนังสือแก่เจ้าของร้าน ชายหนุ่มคล้อยตัวเดินออกจากร้านก็ได้ยินเสียงเจ้าของร้่านที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ "พ่อหนุ่มอย่าเปิดหน้่าสุดท้ายเด็ดขาด...จำคำฉันไว้ให้ดี......" เมื่อกลับถึงบ้านชายหนุ่มก็ได้เปิดหนังสือโดยปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าของร้านอย่างเคร่งครัด ว่าห้ามเปิดหน้าสุดท้ายอย่างเด็ดขาด เมื่ออ่านหนังสือสักพักด้วยความอ่อนเพลีย...ชายหนุ่มก็ได้เผลอหลับไป..... และขณะนั้นเอง.... เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น.... สายลมที่พัดโชยมาจากทางหน้าต่างซึ่งชายหนุ่มเปิดทิ้งไว้ทำให้หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ ค่อย ๆ เปืดออกที่ละหน้า... จนถึงหน้าสุดท้าย......... เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็พบว่า... มือทั้งสองข้างของเขารู้สึกเย็นเฉียบ..... แต่ภายในร่างกายของเขากลับรู้สึกร้อนรุ่มดังมีเพลิงแห่งความโกรธแค้นมาแผดเผา..ความเงียบเข้าปกคลุมเนินนานราวกับไม่มีวันจะสิ้นสุด เมื่อเขาได้พบข้อความสั้น ๆ ที่เขียนไว้ในบรรทัดสุด......... ข้อความนั้นเขียนไว้ว่า............... หนังสือเล่มนี้ราคา 35 บาท หัวข้อ: Re: เรื่องสยองขวัญๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกกลัวมากๆ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:04:07 เที่ยวลาว : ผู้หญิงไปกันเองโดยลำพังต้องระมัดระวังให้มาก อันตรายครับ
เที่ยวนี้ผมเข้าลาวเป้าหมายไปหลวงพระบาง-วังเวียง โดยเวียงจันทน์เป็นทางผ่าน ผมเข้าลาวตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 1 กพ.พักที่วียงจันทน์ก่อน รุ่งขึ้นเข้าหลวงพระบาง ที่หลวงพระบาง ผมเดินเที่ยวเองในเมือง เนื่องจากความตั้งใจต้องการไปวัด โบราณสถาน โรงเรียนและใส่บาตรข้าวเหนียวเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่สถานที่หลักๆก็อยู่ในเมือง ส่วนสถานที่อื่นๆ หากมีเวลาก็ไป พักอยู่สองคืนก็เดินทางย้อนกลับเข้าวังเวียง พักสองคืน ที่วังวียง เป้าหมายคือธรรมชาติ กระโดดน้ำ ถ้ำน้ำ ถ้ำอื่นๆ และหากอยู่แล้วชอบอาจพักหลายคืน เนื่องจากเที่ยวนี้พอมีเวลาแต่แล้วผมก็พักอยู่แค่สองคืน คืนที่สองผ่านไปรุ่งเช้าคือวันที่ 6 กพ. ผมเก็บข้าวของเดินทางรวดเดียวจากวังเวียง-กรุงเทพฯ ต่อรถเรื่อยๆไม่หยุดพักค้างคืนที่เวียงจันทน์หรืออุดรฯอีกคืน ทั้ง ที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะพักที่เวียงจันทน์หรืออุดรฯอีกคืนปิดท้ายการเดินทาง เนื่องจากได้รับรู้เหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาจะพบเห็น ทำให้ไม่สบายใจ เรื่องราวที่ไม่พึงปรารถนาจะพบเห็นและทำให้ไม่สบายใจ เกิดขึ้นที่วังเวียง เหตุการณ์เกิดตอน 1day trip ที่วังเวียง ผมซื้อความสบายหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีมีความปลอดภัย ไม่ต้องดิ้นรน หนึ่งวันจะประกอบด้วย นั่งห่วงยางลอดถ้ำน้ำ เลี้ยงอาหารกลางวันมีข้าวผัด บาบีคิว กล้วยน้ำว้าสองใบ มีน้ำดื่มให้หนึ่งขวดใหญ่ พายเรือคะยัค กระโดดน้ำ และพายเรือคะยัคต่อหรือล่องห่วงยางถึงวังเวียง แล้วแต่เวลา 1day trip ผมซื้อในราคา 90000 กีบโดยไม่ต่อราคา(เข้าใจว่าต่อได้) ในคืนวันที่ 4 กพ.ที่ไปถึงวังเวียง เช้าวันต่อมา 5 กพ. คนของทัวร์มารับยังที่พัก 9.30 น. พาขึ้นรถบรรทุกตะเวนรับนักท่องเที่ยวตามที่พักหรือสำนักงานขายทัวร์รวมกันไปด้วยรถบรรทุกสองคัน ช่วงที่รับคนญี่ปุ่นขึ้นรถ ได้ยินชาวลาวคุยกันว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นสวยด้วยแล้วก็หัวเราะกัน (ภาษาลาว แต่พอฟังออก) ทั้งหมดรวมกันประมาณ 24-27 คน ผมจำไม่ได้แน่นอน ใน trip นี้มีผมเป็นคนไทยคนเดียว นอกนั้น ผู้ชายชาวอินโดฯ 1 คน ชายชาวเกาหลีหนึ่งคนมากับผู้หญิงชาวลาว(คาดว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน) สาวญี่ปุ่น 4 คน นอกนั้นฝรั่งทั้งนั้นหลายชาติหลายภาษา รถบรรทุกขับพาลูกทัวร์ออกนอกเมืองไปประมาณ 15 กิโลฯทางที่จะขึ้นไปหลวงพระบาง เมื่อไปถึงรถเลี้ยวจากทางหลักเข้าซอยที่เป็นฝุ่นแดงไม่ไกลนัก คณะทัวร์ก็ลงจากรถเดินเข้าไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงถ้ำน้ำ ตรงนี้ไกด์จะจัดแบตเตอรี่พร้อมหลอดไฟมีสายคาดที่ศรีษะโดยให้หลอดไฟอยู่ตรงหน้าผากนักท่องเที่ยวพานั่งห่วงยางเข้าไปในถ้ำน้ำใช้เวลา ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงแล้วแต่เวลาเหมาะสม ตอนนี้ก็สนุกดี น้ำเย็น สะอาดอยู่ เหนื่อยนิดหน่อย ผมไม่ได้ถ่ายรูปเพราะกลัวเปียกน้ำ ไป คนเดียวถ่ายรูปตัวเองขณะนั่งห่วงยางลอดถ้ำน้ำก็ไม่ได้และเป็นภาระ นำแต่กระเป๋าเงินกับกุญแจห้องพักและกุญแจล็อคกระเป๋าเดินทางใส่ถุงพลาสติก ที่เตรียมมาจากบ้านเอง ใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นที่มีซิป(ทัวร์จะมีถุงกันน้ำให้ แต่ผมไม่ต้องใช้เพราะไม่เอาอะไรติดตัวไป หากใครนำผ้าเช็ดตัว หมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด กล้องถ่ายรูป และอื่นๆก็ต้องใช้ถุงกันน้ำ) อ่อ..ฝรั่งบางคนกล้องถ่ายรูปกันน้ำ เขาก็นำติดตัวไป เข้าใจว่าแพง ผมไม่มีปัญญาซื้อ ช่วงระหว่างลอดถ้ำน้ำ ไกด์จะเข้าไปด้วยบางคน บางคนก่อไฟปิ้งบาบีคิว เพื่อเป็นอาหารกลางวันสำหรับนักท่องเที่ยว หลังจากเสร็จจากถ้ำน้ำก็ทานข้าวกลางวันกันที่นั่น ไกด์มากัน 6 คน ก็ช่วยกันแจกข้าวกล่อง บาบีคิวคนละสองไม้ ขนมปังแบบฝรั่งเศส 1 ชิ้น กล้วยน้ำว้า 2 ใบ เมื่อทานเสร็จไกด์ก็เรียกนักท่องเที่ยวบอกเราจะไปถ้ำช้างกัน ช่วงนี้เองเริ่มมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น เรื่องผิดปกติคือเมื่อไกด์เรียกนักท่องเที่ยวไปต่อ ผมเดินขึ้นไปก่อน ส่วนคนอื่นๆก็เก็บข้าวของทยอยตามมา ช่วงที่รอคนอื่นผมก็ยืนคุยกับไกด์ชาวลาว สะดุดตรงคำพูดที่ว่า "ไกด์ : พี่มาคนเดียวหรือ กลับพรุ่งนี้หรือป่าว ค่ำนี้ค้างแถวสไลด์เดอร์เช้าเขาจะไปส่งที่พัก ผม : มีอะไรหรือ ถึงให้ค้างที่นั่น ไกด์ : ผู้หญิงญี่ปุ่น 4 คน ไม่มีผู้ชายมาด้วย เดี๋ยวผมจัดให้พี่หนึ่งคน (สาวญี่ปุ่นมากันสี่คนยังเด็กทั้งหมดเรียนหนังสืออยู่ เพราะได้ทักทายกันบ้างนิดหน่อย) ผม : พยักหน้า แต่ไม่พูดอะไร (ในตอนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าผิดปกติ ไกด์มีสิทธิ มีอำนาจสั่งคนญี่ปุ่นได้ขนาดนั้นหรือ และ"จัดให้" ที่ว่าหมายถึงอะไร)" พอนักท่องเที่ยวอื่นๆเดินมาถึงก็หยุดคุยกันและเดินต่อไปถ้ำช้าง ไปถึงผมก็เข้าไปไหว้พระ ไกด์ก็อธิบายให้นักท่องเที่ยวคนอื่นฟังเกี่ยวกับพระพุทธรูปและเรื่องราวทางศาสนา ผมไหว้พระเสร็จก็ออกมายืนฟัง เสร็จจากถ้ำช้างไกด์ก็เรียกขึ้นรถ รถขับพากลับไปทางที่จะเข้าวังเวียงประมาณ 5 กิโลฯ เพื่อเอาเรือคะยัคลงลำน้ำชอง ไกด์ก็อธิบายการพายเรือให้นักท่องเที่ยวฟัง แล้วก็จัดให้นักท่องเที่ยว ใครจะพายคนเดียว ใครจะพายสองคน ช่วงนี้ไกด์จัดให้คนญี่ปุ่นหนึ่งคนลงเรือคะยัคไปกับผม ผมปฏิเสธบอกพายเรือไม่เป็น ขอไปกับไกด์ดีกว่า เมื่อเรือคะยัคพายมาได้ช่วงหนึ่ง ถึงตรงกระโดดน้ำก็หยุด แวะให้นักท่องเที่ยวกระโดดน้ำ ผมโดดไปสองหนก็สนุกเที่ยวแรก เที่ยวหลังเริ่มไม่หวาดเสียวก็เลยพอ ยืนดูดีกว่า ฝรั่งสนุกสนานมากกินเหล้ากินเบียร์กัน ผมหันไป-มามองคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย หันไปเจอกลุ่มไกด์กำลังก่อไฟในเตาถ่านปิ้งปลาที่จับในลำน้ำชองกินกับข้าวเหนียว ไกด์กวักมือเรียกผม ผมก็เดินเข้าไป ไกด์ชวนให้กินด้วย ผมบอกอิ่มกินไม่ไหว ไกด์จึงล้วงขวดเหล้าออกมา ยี่ห้อเหล้าไม่คุ้น เข้าใจเองว่าเป็นเหล้าท้องถิ่นของลาวชวนผมกินด้วย ผมบอกกินเหล้าไม่เป็น ผมนั่งคุยกับไกด์ได้สักพัก เหล้าเหลือครึ่งขวด ไกด์ล้วงกระเป๋าสะพายดึงของออกมาสองซอง ฉีกแล้วเทลงขวดเหล้าที่เหลือครึ่งขวด (ผมเห็นแบบนั้นนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของไกด์ทันที "ผู้หญิงญี่ปุ่นสวยด้วย"ตอนเพิ่งขึ้นรถในวังเวียง กับ "พี่มาคนเดียว ค่ำนี้พักที่นี่ เดี๋ยวผมจัดคนญี่ปุ่นให้หนึ่งคน") ซองแบบนั้นผมเคยเห็นเมื่อตอนที่ไปแม่สายข้ามไปท่าขี้เหล็ก คนที่เคยไปคงนึกภาพออกถึงคนพม่าสะพายตะกร้าห้อยคอขายไวอะกร้าและสินค้าอื่นๆ รวมทั้งซองแบบนี้ด้วย บนซองจะมีภาพพิมพ์รูปผู้หญิง ผมบอกไกด์ปวดถ่ายเบาลุกเดินออกมา แล้วเดินไปหาที่ถ่ายเบา ในความคิดตอนนั้นเริ่มแน่ใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่มันอาชญากรรมแล้ว ผมจะจัดการกับเหตุการณ์นี้อย่างไร เมื่อถ่ายเบาเสร็จ ผมเดินไปดูตรงที่กระโดดน้ำ ซึ่งคนญี่ปุ่นสี่คนกระโดดน้ำแล้วมายืนอยู่แถวนั้น ผมยืนและครุ่นคิดในใจจะเอาไงดี จะบอกคนญี่ปุ่นดีหรือไม่ ผมมายืนตรงนี้หลังจากถ่ายเบาประมาณไม่ถึงนาที หนึ่งคนในคณะไกด์ก็เดินมาพร้อมขวดเหล้า ผมไม่ได้หันไปมอง ตาน่ะมองคนกระโดดน้ำ แต่หางตามองไปทั่ว สมองก็คิดเริ่มเครียด ไกด์ รินเหล้าใส่แก้วใสใบเล็กๆให้คนญี่ปุ่นกิน เขาก็กินแฮะ ชิมนิดหน่อย ไกด์กวักมือแสดงท่ากินให้หมด คนญี่ปุ่นก็ว่าง่ายกินหมดแก้ว จนครบ 4 คน ผมเข้าใจว่า คนญี่ปุ่นคงนึกว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของบริการใน trip อาจจะประกอบกับอาการสนุกสนาน ตื่นเต้น เหนื่อย ระคนกันไป ที่สำคัญยังเด็กด้วย ผมยืนอยู่ข้างๆห่างไม่เกินสองเมตรเห็นเหตุการณ์นั้น ไม่สบายใจเลย สักพักหลังจากคนญี่ปุ่นกินเหล้าครบทั้ง 4 คน ไกด์เรียกกลับแล้ว (เร็วกว่าเวลาตาม trip หนึ่งชั่วโมง) ร ะหว่างทางเดินจากที่กระโดดน้ำถึงเรือคะยัค ไกด์เดินมาคุยกับผมบอก จะแยกกรุ๊ปทัวร์ออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเขากับเพื่อนอีกคนจะพานักท่องเที่ยวพายเรือคะยัคกลับเข้าวังเวียงจบ trip แล้วแยกคนญี่ปุ่น 4 คนกับผมออกไปที่สไลด์เดอร์ โดยมีหนุ่มเกาหลีกับสาวกลางคืนชาวลาวและคณะไกด์ที่เหลืออีก 4 คนอยู่ด้วย โดยไกด์บอกผมว่าไปส่งนักท่องเที่ยวกลับแล้วเดี๋ยวจะกลับมา ตามโปรแกรมทัวร์ สไลด์เดอร์ไม่อยู่ในรายการ trip นี้ และคนที่เคยไปคงนึกภาพออกแถวสไลด์เดอร์มีร้านขายเหล้าเบียร์มีดนตรี และละแวกนั้นมีบังกะโลหรือจะเรียกกระท่อมเป็นหลังๆ ก็แล้วแต่จะเรียก คนไม่เยอะ ไม่เหมือนแถวกระโดดน้ำ ระหว่างพายเรือคะยัคจากจุดกระโดดน้ำถึงสไลด์เดอร์น่าจะประมาณไม่เกิน 10 นาที ผมนั่งมาในเรือกับไกด์เหมือนเดิม ถึงไลด์เดอร์ ไกด์พายเรือจะเข้าฝั่งส่งผม แล้วค่อยพานักท่องเที่ยวฝรั่งอื่นๆกลับวังเวียง พอเรือใกล้ฝั่งผมหันไปบอกไกด์ผมเหนื่อยมาก เพลียและเจ็บตัวจากที่ขาผมขูดกับเตียงนอนของที่พักเป็นแผล เมื่อโดนน้ำแล้วผมกลัวไม่สะอาดจะรีบกลับไปทำแผล แล้วผมไม่ชอบคนญี่ปุ่นชอบคนไทยมากกว่า เขาตอบกลับมาว่าเที่ยวนี้ไม่มีคนไทย อาทิตย์ที่แล้วสิคนไทย ผมได้ยินแบบนั้นก็ทำเฉยๆ บอก ไปอีกว่าผมกลับดีกว่า (ช่วงนั้นผมไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องอื่น คิดอยู่แต่เรื่องจะทำอย่างไรดี เอาไงดี รวมเวลาตั้งแต่ที่แน่ใจว่าจะเกิดเหตุอะไรคือเห็นฉีกซองใส่ขวดเหล้าจนถึง สไลด์เดอร์น่าจะประมาณ 15-20 นาที ) ไกด์จึงตะโกนบอกเพื่อนให้ชวนหนุ่มอินโดฯอยู่ด้วย หนุ่มอินโดฯก็เลือกที่จะอยู่ ที่ผมตัดสินใจกลับเข้าวังเวียง นึกอยู่ว่า นี่ต่างถิ่น ไกด์ 6 คนและอาจมากกว่า ส่วนผมคนเดียว เครื่องมือสื่อสารก็ไม่มี ผมตัดสินใจนิ่งเฉยปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไร ฉีกตัวเองออกจากเหตุการณ์ เมื่อ กลับถึงที่พักก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมานั่งสั่งข้าวกินที่รีสอร์ท ระหว่างกินไปก็ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ ลำดับเหตุการณ์ ยิ่งนึกก็ยิ่งไม่สบายใจ ใจอยากกลับเมืองไทยเดี๋ยวนั้น แต่ความจริงกลับไม่ได้หรอก ไปไม่ทันด่านปิดแน่ คืนนั้นผมนอนไม่หลับเกือบตลอดคืน ทั้งๆที่เหนื่อย เพลีย ปวดเมื่อยไปหมด นึกถึงแต่เหตุการณ์และการตัดสินใจของตนเอง ผมยอมรับนอนน้ำตาไหลบนที่นอน ทั้งๆที่เด็กสาวชาวญี่ปุ่นไม่เกี่ยวข้องกับผม ไม่ใช่ญาติพี่น้องผมเลย เช้าวันรุ่งขึ้นผม หารถ minivan (รถตู้เล็กฮุนได) กลับเข้าเวียงจันทน์ เช้าวันนั้น 6 กพ. ที่วังเวียงฝนตกหนักด้วย ถึงเวียงจันทน์ที่ตลาดเช้า ผมซื้อตั๋วขึ้นรถเที่ยวบ่ายสองกลับไทยโดยไม่แวะเที่ยวที่เวียงจันทน์แล้ว พูดถึงระยะเวลาของเหตุการณ์สั้นๆ 15-20 นาที ตอนนั้น แต่ในความรู้สึกผมมันช่างยาวนานมากเหลือเกิน คิด เลือกที่จะตัดสินใจกลับไป-มาหลายตลบเสมือนหนึ่งสับสนด้วย เครียดด้วย แล้วกับเด็กสาวชาวญี่ปุ่นทั้ง 4 คน คืนนั้นคงเป็นคืนที่ยาวนานมากกว่าผมหลายร้อยหลายพันเท่า ตอนที่คิดกลับไป-มาหลายตลบนั้นมีหลายหนทางเหลือเกิน -ชนเลยดีไม๊ -เลือกอยู่ต่อที่สไลด์เดอร์ดีไม๊ -เจรจากับไกด์ดีไม๊ -สุดท้ายผมตัดสินใจก่อนเรือถึงฝั่งที่สไลด์เดอร์ว่ากลับเมืองวังเวียง พร้อมทั้งนึกในใจพี่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ช่วยน้องเลย ที่ ผมตัดสินใจกลับวังเวียง เนื่องจากคิดว่าผมไม่ใช่ตัวละครในไดฮาร์ดหรือแรมโบ้ อยู่กลางเขาสายน้ำชอง ต่างถิ่น ใกล้ค่ำแล้ว เครื่องมือสื่อสารก็ไม่มี หากชนผมคงไม่ได้กลับเมืองไทย อย่างหนึ่งคือ ตอนนั้นผมนึกถึงข้อความที่คุณป้อมโพสไว้ในนี้ว่า "ที่ลาวให้ระวังคนดีมากกว่าคนร้าย" ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่สบายใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้เหตุการณ์ไม่ได้เกิดผลร้ายต่อผม เพียงถูกไกด์พยายามดึงให้เข้าไปมีส่วนร่วม ทำไมผมไม่โวยวายตรงกระโดดน้ำ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวฝรั่งเป็นร้อยเต็มไปหมด ทำไมผมกลับถึงเมืองวังเวียงไม่เล่าให้เจ้าของรีสอร์ตฟัง ทำไมผมไม่ไปแจ้งความกับตำรวจลาว ทั้งสามกรณีผมบอกได้เลยว่าตอนนั้นนึกไม่ออก ผม ไปลาวเที่ยวนี้ ตั้งใจไปไหว้พระทำบุญ ตักบาตรข้าวเหนียว แต่กลับมาด้วยความไม่สบายใจ พบเห็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่รู้ว่าตัวเองไปได้บุญหรือได้บาปกลับมา ไม่รู้ว่าตนเองเลือกหนทางถูกหรือไม่ ไม่รู้ว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือไม่ ผมนิ่งเฉยไม่ทำอะไรทั้งๆที่คาดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวชาวญี่ปุ่น ทั้ง 4 คน ผมได้แต่กลับมาเตือนคนไทยด้วยกัน ไปเที่ยวลาว ผู้หญิงไปกันเอง ใช่ว่าปลอดภัย หากแต่อันตรายมาก หัวข้อ: Re: เรื่องสยองขวัญๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกกลัวมากๆ เริ่มหัวข้อโดย: oilnarit ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:04:18 น้าเบิ้ลคือเจ้าของร้านใช่ปะ :emotr
หัวข้อ: Re: Forward mail เรื่องสยองขวัญๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกกลัวมากๆ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:06:27 :emotr :emotr
หัวข้อ: Re: Forward mail เรื่องสยองขวัญๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกกลัวมากๆ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:24:04 ภรรยาผู้ประเสริฐ
น่าอ่านมาก ๆ เลย แหละ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคู่แต่งงานใหม่หวานแหวว ที่เพิ่งผ่านพิธีมาได้สองอาทิตย์ ! ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน แต่ฝ่ายสามี ก็อดรนทนไม่ได้ที่จะนัด สหายหาญทั้งหลาย เพื่อไปสังสรรค์ด้วยกันในตัวเมือง สามีจึงเอ่ยกับภรรยาใหม่ว่า 'ที่รักจ๋า ผมไปข้างนอกสักครู่นะ เดี๋ยวกลับมาจ๊ะ' ภรรยาถามสามีว่า ' สุดที่รักจะออกไปไหนเหรอคะ' คนสวยของผม ขอผมไปที่บาร์หน่อยนะ ไปดื่มเบียร์สักแก้วสองแก้วเดี๋ยว เสร็จแล้วก็กลับจ๊ะ สามีส่งเสียงอ้อนวอนภรรยา ที่รักอยากได้เบียร์ทำไมไม่บอกล่ะคะ ว่าแล้วก็เปิดประตูตู้เย็นค้างไว้ ให้สามีเห็นว่า เธอได้เตรียมเบียร์ไว้ให้มากกว่า 25 ชนิด จาก 12 ประเทศ :เยอรมัน ฮฮลแลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย และอื่นๆ สามีได้ยินดังนั้น ก็อึ้งไป ก่อนจะเอ่ยกับภรรยาว่า เยอะจังเลย ที่รักน่ารักที่สุดในโลกเลย รู้มั๊ย....แต่ว่า...ที่บาร์เค้ามีแก้วแช่แข็งด้วยนะ.. ก่อนที่สามีจะพูดจบประโยค ภรรยาก็ได้ขัดจังหวะสามี 'โถ น่าเอ็นดูจริง อยากได้แก้วแช่แข็งก็ไม่บอก นี่คะชั้นเตรียมไว้แล้ว ' ภรรยาพูดพลางหยิบแก้วที่แช่แข็งออกมาจากตู้เย็น แก้วเย็นมากขนาดที่เธอรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที ฝ่ายสามีเริ่มหน้าซีด ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า ' ที่รักจ๋าที่บาร์มีออร์เดิร์ฟอร่อยๆให้เลือกเยอะเลย ผมคง ไปไม่นานหรอกเสร็จแล้วจะรีบกลับทันทีเลย ดีมั๊ยจ๊ะ ' ' แหมอยากได้ออร์เดิร์ฟก็ไม่บอกกันแต่แรก ชั้นเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ ' ภรรยาเดินไปเปิดเตาอบและนำ ออร์เดิร์ฟ 5 อย่างออกมาวางตรงหน้าสามี อันได้แก่ ปีกไก่ หมูห่อผัก เห็ดยัดไส้ และหมูแดดเดียว สามีพยายามอ้อนวอนภรรยาต่อไป 'แต่ว่า ที่บาร์มีอย่างอื่นนะ อย่างเวลาคุยกันกับเพื่อนๆ ที่นั่นเราใช้คำไม่สุภาพหรือคำหยาบบ้าง มันก็ได้บรรยากาศดีนะคนดี' อ๋อ อยากได้บรรยากาศก็ไม่บอกแต่แรก ฟังให้ดีนะ ไอ้ควาย ..คุณ..เอาเบียร์ไปใส่แก้ว แช่แข็งห่าเหวไรเนี่ยกระแทกปาก..คุณ..ซะ แล้วก็..หม่ำ..ๆ ไปซะไอ้ออร์เดิร์ฟ..น่ารัก..ๆเนี่ย แล้ว..คุณ..ก็จำไว้ให้ดีนะ ว่าคืนนี้... ..คุณ..ต้องไม่ไปไหน เป็นอันขาด ....เข้าใจมั๊ย ไอ้สาดดดดดด หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:47:35 (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=0&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||)
(http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=1&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=2&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=3&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=4&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=5&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=6&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=7&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) (http://by133w.bay133.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=8&messageId=749016f4-7c4e-4d0d-90d1-4ee4898f2576&Aux=44|0|8CBA2CB23A6A030||) :emo2 :emo2 :emo2 หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: ป้านู๋อ้อ_TZ#051 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:51:04 นึกถึงตอนตัวเองไปวังเวียงเลย
แต่ไม่เห็นมีใครให้กินไร :emoa :emoa :emoa หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:52:53 นึกถึงตอนตัวเองไปวังเวียงเลย แต่ไม่เห็นมีใครให้กินไร :emoa :emoa :emoa วังเวียน ? ที่ไหนอะป้า หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: ป้านู๋อ้อ_TZ#051 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:53:48 นึกถึงตอนตัวเองไปวังเวียงเลย แต่ไม่เห็นมีใครให้กินไร :emoa :emoa :emoa วังเวียน ? ที่ไหนอะป้า อย่าบอกนะว่าโพสต์ แต่ไม่ได้อ่านเลย :emots หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 18:54:28 ไม่ได้อ่าน ใครจะไปอ่าน ยาวซะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: Pencom.CZ 49 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 19:23:29 ใครจะอ่านเนี้ย :emoto
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: ป้านู๋อ้อ_TZ#051 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 19:27:24 หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: Pencom.CZ 49 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 19:34:35 เหลาให้ฟังหน่อยสิป้า :emotq หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: ป้านู๋อ้อ_TZ#051 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552 19:43:59 เหลาให้ฟังหน่อยสิป้า :emotq อ่านไปก็บ่นไป ทำไมมันยาวอย่างงี้เนี้ย :emote หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 08:15:46 อิอิ
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: Pencom.CZ 49 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 08:35:29 หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 08:47:48 อาวๆ บอกแล้วว่ายังไม่ได้อ่านเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: Pencom.CZ 49 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 08:55:23 :emo6
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 08:55:49 เอ็งอ่านแล้วสรุปสิ นายไผ่
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: Pencom.CZ 49 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552 09:11:52 ไม่อ่านอ่า ยาวสุดๆ :emoto
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 18:04:52 10 วิธีฆ่าเมีย ใครเคยดูแล้วอย่าว่ากันนะ ลองอ่านดู
1. มันอยากกินอะไรซื้อให้มันกิน จนมันคาเรสโตรอลสูงไขมันอุดตันในเส้นเลือดเดี๋ยวไม่เกิน 50 ปีมันก็ตาย 2. มันอยากได้เครื่องเพชรก็ซื้อให้มันพอแสงเพชรมันสะท้อนเข้าตามันมากๆเข้า เดี๋ยวตามันก็จะบอด พอมันตาบอดแล้วเราก็เอามันไปทิ้งที่ไหนก็ได้มันหาทางกลับบ้านไม่ถูกแล้ว 3. มันชอบรถก็ซื้อให้มัน ยิ่งแพงๆยิ่งดี เครื่องมันแรงดีมันจะได้ขับเร็วๆ ความเสี่ยงสูง 4. มันอยากไปเที่ยวไหนก็พามันไปต้องมีซักที่แหล่ะที่มันพลาดเดินล้มหัวฟาดพื้นตายได้ 5. งานบ้านอย่าไปให้มันทำ เราต้องแย่งมันทำให้หมด ไม่เปิดโอกาสให้มันได้ออกกำลังกาย เดี๋ยวมันก็ไม่แข็งแรง แล้วมันก็ตายเอง 6. ต้องพาเมียไปหาหมอบ่อยๆ ดูดิคนไม่ค่อยไปหาหมอไม่ค่อยเป็นไรหรอก คนที่ไปหาหมอบ่อย เดี๋ยวๆก็ตายแล้ว 7. เงินเดือนออกมาเท่าไหร่ให้มันไปให้หมดใครๆก็รู้ว่าเงินน่ะเป็นที่สะสมเชื้อ โรคสารพัด เราแกล้งเอาเชื้อโรคให้มันเก็บไว้เดี๋ยวมันก็เป็นโรคตายเราเองไม่ต้องเก็บ เชื้อโรคไว้ สุขภาพแข็งแรง..เย้ 8. ปลูกบ้านหลังใหญ่ๆให้มันอยู่ กว้างๆยิ่งดีเวลาจะเดินจากห้องนั้นไปห้องนี้ทีมันจะได้เหนื่อย เผลอๆอาจหอบตายระหว่างทางได้ 9. เช้า-เย็นกราบมันทุกวัน มันจะได้อายุสั้น 10. รักเมียให้มากๆ ไม่เคยได้ยินเหรอ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์พอมันทุกข์มากๆ มันก็ตรอมใจตาย หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 18:33:06 วิธีแก้ TAXI มอมยา
วันนี้ ( วันเสาร์ ) ได้หยุด 1 วัน ก็เลยมาจตุจักร พอประมาณ 6.30 น ก็โบกแท็กซี่หน้าจตุจักรเพื่อที่จะมาวิภาวดีซอย 20 ปกติ เป็นคนระวังตัวอยู่แล้ว ขึ้นรถปั๊บ สิ่งที่ทำสิ่งแรกคือ มองดูทะเบียนรถแล้วก็สังเกตคนขับ อ่านจากฟอร์เวิร์ดเมล์ต่างๆ ขอบอกว่าพวกนี้มีประโยชน์มากๆๆๆๆๆนะคะ วันนี้ที่รอดมาได้ก็เพราะอ่านเมล์ที่เพื่อนๆกรุณาส่งมาให้อ่านนี่ล่ะ เคยอ่านว่า พวกนี้จะชอบเอามือมาอังไว้ที่แอร์หรือไม่ก็หมุนหน้าปัดวิทยุ ไอ้เจ้าคนขับคนนี้มันทำทั้ง 2 อย่าง แล้วขอบอกมันนิ่งมากๆ ทีแรกพอมันเอามือมาอังที่แอร์ เราก็เริ่มเอะใจว่ามันจะมอมยาตรูป่าววะเนี่ย แล้วมันไม่ได้อังแบบหน้าเกลียดนะ มันแค่เอาปลายนิ้วไปแตะไว้ตรงหน้ากากแอร์อันทางขวาช่วงล่างๆ นิดเดียว ถ้าคนไม่คอยมองก็อาจจะไม่สังเกต... สัก พัก มันก็เอื้อมมือไปหมุนหน้าปัดวิทยุอีก แล้วสักพัก เราก็รู้สึกวูบ...เร็วมากๆ คือหูจะเริ่มอื้อหายใจไม่สะดวก จะรู้สึกอึดอัดมากๆ ตาพร่า และแขนขาไม่มีแรง... อาการแบบนี้เราคุ้นเคยนะ...จากการโดนวางยาสลบผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้เรามั่นใจ ว่ามันเป็นยาสลบแน่ๆ เสี้ยว วินาทีนั้น เราก็ยื่นหน้าสูดหายใจให้ลึกที่สุด ตอนนั้นรถยังวิ่งอยู่ตรงห้าแยกลาดพร้าว แล้วก็บอกว่า พี่ จอด...ขอลงตรงนี้ แล้วก็ควานหาน้ำมากิน เพราะอ่านเมล์อันนึงเค้าบอกว่า ตอนที่เค้ามึนๆ อ่ะ คนขับก็ยกน้ำขึ้นจิบบ่อยมาก ...เรา ก็เลยคิดว่ามันอาจจะช่วยให้เราดีขึ้น แล้วมันก็ช่วยจริงๆ ....อาการวูบหายไป แขนขาเริ่มมีแรง มีอาการมึนหัวเข้ามาแทนที่ ทั้งๆ ที่ก่อนขึ้นรถสมองปลอดโปร่งมาก.... อย่าง ที่บอกอ่ะ มันนิ่งมากๆ แล้วมันคงจะรู้ว่าเรารู้ตัวแล้ว มันคงอยากให้เราลงจากรถมันเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนั้นอยู่เลนขวาสุด เข้าซ้ายไม่ได้ มันก็บอกว่า ลงได้ จะลงเลยมั๊ย แล้วก็ทำท่าจะหักพวงมาลัยกลับรถไปจอดให้ฝั่งตรงข้าม ตอนนั้นนึกได้ว่าเรามีกล้องดิจิตอล และมือถืออยู่ ..... ก็ เอาวะ บอกมันว่าไม่ต้อง .....ไปส่งให้ถึงที่น่ะแหละ แล้วเราก็กดโทรศัพท์หาพี่ บอกว่าตอนนี้เราอยู่ที่แยกลาดพร้าวนะกำลังจะไปถึง ตอนนี้อยู่ในแท็กซี่ อีก 10 นาที จะไปถึงออกมารับด้วยล่ะ แท็กซี่เขียวเหลืองนะ เลขทะเบียน มข. 768 ช่วยจำด้วย อีก 10 นาที ใกล้ถึงแล้ว จะโทรหาอีกที เราเปิดกระจกไว้ตลอด แล้วนั่งให้ชิดประตูมากที่สุด เราก็หยิบ กล้องขึ้นมา แต่ไม่กล้าถ่ายภาพนิ่ง เพราะตอนนั้นก็เกือบทุ่ม แสงน้อย แล้วอีกอย่างไฟถนนมันสว่างกว่าในรถ ถ้าใช้แฟลช มันรู้ตัวแน่ ก็เลยปรับเป็นถ่ายวีดีโอ แต่จะไม่ส่องที่ตัวมันโดยตรง แพนกล้องไปเรื่อยๆ หยุดอยู่ที่มันเป็นระยะ แล้วมันคงจะเป็นมืออาชีพ .. ที่ตลอดเวลา มันไม่หันหน้ามาให้เราเห็นเลย ข้างๆ ก็ไม่หันอ่ะ มีเหลือบๆ มองที่กระจกบ้าง .. แล้วภาพที่ถ่ายออกมาก็ค่อนข้างมืด แต่ก็พอระบุรูปพรรณได้เหมือนกัน เพราะมันค่อนข้างผมหยิกและผอม ........ ก็มาถึงที่หมาย ตรงนั้นมีรปภ. นั่งอยู่หลายคน พอ ลงจากรถแล้วมันก็ไม่ยอมไป เราก็เลยเดินไปตรงที่มีรปภ. นั่งอยู่เยอะๆ มันก็เลยขับออกไป....โทรไปเล่าให้พี่คนนึงฟัง เค้าก็บอกลองโทรไปที่ 1644 ก็เลยเล่าให้เค้าฟัง สักพักก็มีคนโทรกลับมา บอกว่าให้เราพูดออนแอร์กับคุณพรสวรรค์ สวพ. 91ร่วมด้วยช่วยกัน ตื่นเต้นเล็กๆ เค้าก็ถามถึงวิธีเอาตัวรอด ไม่รู้จะมีใครเอาไปใช้ได้มั๊ย แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้นะ ตอน นี้กลับมาถึงบ้านโดยปลอดภัย แต่ก็รู้สึกคลื่นไส้และมึนๆอยู่ ปกติไม่ค่อยชอบนั่งแท็กซี่เท่าไหร่ เพราะก็กลัวๆ เรื่องพวกนี้เหมือนกัน ไม่นึกว่าจะเจอจริงๆ อืมนะ ...........ใกล้ตัวมากๆ เพื่อนๆ ก็ระวังตัวกันด้วยนะ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรารอดพ้นจากสถานการณ์บัดซบพวกนี้ได้ ต้องขอบคุณคุงเม้ง(ที่น่ารัก) จริง ๆ เลยที่เอามาลง หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 18:37:32 ทำไมบักหม่องพาเพื่อน..แห่กันไปเที่ยว ผับ.. ทีละ 18 คน..
ก็เ พราะหน้าผับ ....... เขาประกาศไว้ว่า ........... ต่ำกว่า 18 ห้ามเข้าน่ะ สิ !! ------------ * บักหม่อง..ไปร้านขาย ทีวี.. ! ถามคนขายว่า ' ไม่ ทราบว่า..ที่นี่มีทีวีสีขายรึเปล่า ? คนขายตอบว่า.. ' มี ' บักหม่องเลยบอกว่า ................ ' งั้นเอาสีเขียวมาเครื่อง นึง ' ------------ บักหม่อง..เข้าไปเดินดูของในร้านจี ฉ่อย เห็นกระติกน้ำทำจากโลหะอันหนึ่ง วางอยู่ บักหม่องถาม อาอึ้มว่า ' อึ้ม.. **ที่ วอบแวบสีเงินๆ นั่น! อะไร ' อึ้มต อบว่า ' กระติกน้ำไง (** ฟาย)' ' แล้วมันทำ อะไรได้มั่ง ' ' ก็ใส่ ของ ร้อน-ก็ร้อนนาน ใส่ของเย็น-ก็เย็น นาน ' บักหม่อง..เห็นว่าน่าสนใจ............. เลยตกลงซื้อมาอันนึง เช้าของวันใหม่..อากาศแจ่มใส บักหม่อง..ก็เอากระติกน้ำที่เพิ่งซื้อมา.. ไปที่ทำ งาน.. ; ตั้งอวดบนโต๊ะ..อย่างภาคภูมิ หัวหน้าบักหม่องเห็น เข้า................เลยถามขึ้น ' อะไรนั่น น่ะ..บักหม่อง ' ' กระติกน้ำ ครับ ' ' แล้วมันมีอะไรพิเศษรึ ' ' ก็ใส่ของร้อน..เก็บความร้อนได้ หรือใส่ของเย็น..ก็เก็บความเย็น ได้ ' หัวหน้าเลยถาม ว่า.. ' แล้วใส่อะไรมาล่ะ ' บักหม่องยืด..ก่อนจะตอบว่า.. ' กาแฟร้อน 2 แก้ว.. กับไอติม 1 ถ้วย ครับ ' -------------- ทุก ครั้ง..หลังถ่ายเอกสารเสร็จ บัก หม่อง..จะเอาฉบับก๊อปปี้-มาตรวจทาน..เทียบกับต้นฉบับ เพื่อเช็คดูว่า..มีคำไหนสะกด ผิดรึเปล่า -------------- บัก หม่อง..จะยิ้มทุกครั้ง................ที่ฟ้าผ่า เพราะนึกว่า..มีคนกำลังถ่ายรูปเขา อยู่ -------------! รู้ป่าว ว่า...ทำไมบักหม่อง................ถึงกดโทรศัพท์เบอร์ฉุก เฉิน 911.. ไม่ได้ ก็เพราะ.....เขาหา เบอร์ 11 ( สิบเอ็ด) ..................บนแป้นไม่ เจอ ---- ------------- บักหม่อง..เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์มาใหม่ เครื่องหนึ่ง เล่นไปซักพัก..ก็เจอ ปัญหา บักหม่อง..เลยลองกด ที่ HELP บนแป้น F1 ผ่านไปพักใหญ่... &nb sp; บัก หม่องหงุดหงิดมาก เลยโทรไปต่อว่า..ร้านที่เขาซื้อคอม มา ' ผมกด F1 ตามที่ เครื่องบอก.. เวลา! ที่มีปัญหา แล้วก็รออยู่เป็น ชั่วโมง.. ยังไม่เห็นมีใครมา ช่วยเลย ' คนขาย : '(**...)' (!!) วันรุ่งขึ้น บักหม่อง : เครื่องคอมพิวเตอร์ คุณนี่ห่วยมาก อีีกแล้วนะผมเสียเงินซื้อไปตั้งเยอะมีแต่ปัญหาไม่รู้จบหน่ำซ้ำ พอโทรมาสอบถามพนักงานงานขายของ คุณก็ดันตอบไม่รู้เรื่อง ผู้จัดการ : มี ปัญหาอะไรให้ดิฉันรับใช้ได้ค่ะ ( เสียงสั่นเครือมากด้วยอาการที่หวาดกลัว จะถูกลูกค้าด่ากลับ ) บักหม่อง : ก็หน้า จอคอมพิวเตอร์ของคุณน่ะ รายงานผลว่า ' ซีตุ๊ป - ซีตุ๊ป ' ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผู้จัดการ : บอกว่าเธอก็ไม่รู้ว่าไอ้ซี ตุ๊ป-ซีตุ๊ปเนี่ยมันคืออะไร ช่วงนั้นก็น้! ำตาเกือบ ไหล เพราะกะว่าถ้าตอบปัญหาลูกค้าไม่ ได้ ต้องถูกไล่ออกแน่เลยตู จนกระทั่ง..... ผู้จัดการ : คุณลอง สะกดคำว่า ' ซีตุ๊ป - ซีตุ๊ป ' หน่อยสิคะว่าสะกดอย่างไร บักหม่อง : S - E - T - U - P - S - E - T - U - P ผู้จัดการ : คุณนี่ สุด ยอด จริง ๆ อ่านได้งัย ซีตุ๊ป – ซีตุ๊ป -------- ----- บ! ักหม่อง..ไปหาหมอ...ในสภาพหูบวมแดงน่ากลัว หมอถามว่า.. ' ไปโดน อะไรมาครับ ' บักหม่องตอบว่า.. ' ผมกำลังรีดผ้า อยู่.. แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แต่แทนที่จะหยิบโทรศัพท์มาพูด ผมดันเผลอ..เอาเตารีดขึ้นมาแนบหูน่ะ สิ ' ' โอ้ว..เดียร์ ' หมออุทานเป็นภาษาฝรั่ง...............ด้วยความ เวทนา ' แล้วหูอีกข้าง..ทำไมถึงแดงเหมือนกัน ล่ะ ' .. หมอถามต่อ ' ก็** บ้านั่น...เสือ _ โทร.กลับมาอีกรอบ..อ่ะดิหมอ ' ------------------------------ * หลังจาก...ใช้ความ พยายาม................ต่อจิ๊กซอว์อยู่นาน ในที่สุด..บักหม่องก็ต่อเสร็จ เขาเอา ไปอวดเพื่อน..ด้วยความภูมิใจ ' เป็น ไง ........ ....... เนี่ยฉันใช้เวลา ต่อ..แค่ 5 เดือน เองนะโว้ย ' เพื่อน บักหม่องงง..ที่เขากล้าอวด ' 5 เดือน เหรอ ! แถวบ้านฉันเรียก ว่า..! โคตรนานเลยนะ นั่น ' ' แกนี่ไม่รู้ อะไร ' บัก หม่อง..ไม่ยอมลดละ ' ดูที่กล่อง นี่ ............... เห็น มั้ย ................ มันบอก ว่า... ' สำหรับ 4-7 ปี ' แต่.. ฉันใช้เวลาแค่ 5 เดือนเองนะเฟ้ย.. (!!) หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 19:02:07 ตำรายา
1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง 2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว 3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด 4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี 5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง 6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง 7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป 8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี (ไม้เมืองหนาว) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้ 9.. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้ 10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้ 11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี 12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย 13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง โดยเฉพาะรำข้าวกะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว ' คลอเลสเตอรอล ' ได้ ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้ พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นภูมิปัญ ญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน ไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของ เราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป. 14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี 15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน 16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้ 17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก 18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี 'โมโรอันแซตเทอเรต' 19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี 20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย 1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จ ะรู้ได้ มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบากหรือมีการขยายตัวของต่อมใน ลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้ อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ 2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อ 3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง 4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง 5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด 7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะอาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ 8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย 9.. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษาหรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน 10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที 11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร 12. มะเร็งทรวงอก - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1ตำลึง ก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม จากนั้นให้ดื่มจนหมดชาม สรรพคุณในการรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่ 13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ ****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใ ช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคือ อาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้ 14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย 15. มะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma)คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ด ทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิด สำหรับมะเร็งจะหายภายใน 6 วัน วิธีรักษา ***ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็นเงินค่ารักษา และขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวโดยเด็ดขาด หากท่านผู้อื่นรับทราบด้วยใจศรัทธาและกุศลจิตของท่าน ท่านและครอบครัวจะประสบแต่ความสุข หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: ป้านู๋อ้อ_TZ#051 ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 19:08:04 :emotn :emotn :emoty
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 19:19:49 คำเตือน : 9 เคล็ดลับ...สำหรับสุภาพสตรี และบุคคลทั่วไป
1 . เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด้ " ข้อศอก" คือจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย หากถูกทำร้าย หรือกำลังจะถูกทำร้าย และคุณอยู่ในระยะที่ใกล้พอ จงใช้ข้อศอกให้เป็นประโยชน์ ( ถองกบาลหรือกกหูมันแรง ๆ ) 2 . ข้อแนะนำจากหนังสือแนะนำ นักท่องเที่ยวเมืองนิวออร์ลีนส์ หากถูกโจรจี้และขอกระเป๋าถือหรือ กระเป๋าสตางค์ อย่ายื่นกระเป๋าให้โจร แต่ให้เขวี้ยงกระเป๋าไปไกล ๆ เพราะเป็นไปได้ว่าเจ้าโจรนั่น อาจสนใจแค่เงินหรือข้าวของในกระเป๋า มากกว่าตัวคุณ มันจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าที่คุณโยนออกไป ทีนี้ก็จงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ไปในทิศทางตรงกันข้าม 3. ถ้าถูกจับขังในฝากระโปรงท้ายรถ พยายามทุบให้ไฟท้ายรถหลุดออก จากนั้นยื่นแขนออกมาจากรูโหว่แล้วโบกสุดฤทธิ์ คนขับมองไม่เห็นคุณ แต่รับรองชาวบ้านเห็นแน่ ๆ วิธีนี้ช่วยชีวิตคน มานักต่อนักแล้ว 4. อย่านั่งแช่ในรถ สาวๆ ทั้งหลาย เมื่อเสร็จภารกิจช้อปปิ้ง กินข้าว เลิกงาน ฯลฯ สาว ๆ เมื่อก้าวขึ้นรถแล้ว ก็มักจะ นั่งแช่ ทำอะไรต่อมิอะไรกระจุกกระจิก เป็นต้นว่า ดูสมุดบัญชี จดลิสต์รายการ ข้าวของ หรือเรื่องที่จะต้องทำ หรืออื่น ๆ ขอเตือนว่า..อย่าทำเช่นนี้เป็นอันขาด ผู้ร้ายอาจกำลังจับตาเฝ้าดูคุณอยู่ การที่นั่งจ่อมอยู่อย่างนี้แหละ จะเป็นโอกาสอันงาม ที่มันจะก้าวขึ้นมานั่งในรถข้าง ๆ คุณ เอาปืนจี้แล้ว สั่งให้พาไปไหนต่อไหน เพราะฉะนั้นก้าวขึ้นนั่งในรถเมื่อไร ให้รีบล็อคประตูแล้วออกรถทันที 5. ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคุณต้องเดินไปยังรถที่จอดในลานจอดรถ โรงจอดรถ หรืออาคารที่จอดรถ ก. สำรวจรอบตัวมองข้างในรถทั้งที่นั่งข้างคนขับ พื้นรถรวมถึง เบาะหลังด้วย ข. ถ้ารถคุณจอดอยู่ข้างรถตู้คันใหญ่ แนะนำให้ขึ้นรถด้านประตูผู้โดยสาร ผู้ร้ายส่วนใหญ่มักฉวยโอกาสจังหวะที่เหยื่อกำลัง เปิดประตูรถลากตัวเหยื่อขึ้นรถตู้ ค. ดูรถที่จอดอยู่ข้างรถคุณทั้งฝั่งซ้ายและขวา หากมีผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวตรงเบาะด้าน ที่ใกล้รถคุณ ควรหลีกเลี่ยงด้วยการ เดินกลับเข้าไปในห้างหรือที่ทำงาน แล้วขอให้เจ้าหน้าที่ห้าง หรือ รปภ. หรือเพื่อนชายเดินกลับมาส่งที่รถ ปลอดภัยไว้ก่อน ดีกว่าต้องเสียใจทีหลัง (โดนหาว่าประสาทยังดีกว่าต้องซี้ม่องเซ็ก) 6. ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงทางบันได บันไดเป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดถ้าอยู่คนเดียว รวมทั้งเป็นจุดที่เกิดอาชญากรรมได้ดีที่สุด 7. หากผู้ร้ายมีปืน และคุณยังไม่ได้ถูกจี้ ..วิ่งหนี!!! โอกาสที่มันจะยิงโดนคุณมีเพียง 4 ใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าเคลื่อนที่) และถึงจะยิงโดน ก็เป็นไปได้มาก ว่า จะไม่ถูกอวัยวะสำคัญเพราะงั้นวิ่งลูกเดียว! 8. อย่าใจอ่อน ผู้หญิงมักขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจ งานนี้อย่าเชียวนะ!! เพราะอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย ข่มขืน หรือฆาตกรรมได้ กรณีนี้มีตัวอย่างมาแล้ว ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งในอเมริกาชื่อ เท็ด เบินดี้ม เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีการศึกษา ใช้กลวิธีเรียกร้องความสงสารจากเหยื่อเพศหญิง ซึ่งไม่ได้เกิดความสงสัยสักนิด เขาหลอกลวงเหยื่อให้ตายใจด้วยการเดินโดยอาศัยไม้เท้า หรือแสร้งทำขากะเผลก แล้วขอ 'ความช่วยเหลือ'จากเหยื่อ ให้ช่วยพยุงขึ้นรถ จากนั้นก็ใช้จังหวะนั้น ลักพาตัวไป......ฆ่า???? 9. ให้ร้องว่า ' ไฟไหม้ ' แทนคำว่า ' ช่วยด้วย' จากหนังสือภัยจาก 108 มงกุฏ เมื่อคุณกลับบ้านในเวลากลางคืน หากถูกคนร้ายจี้ ชิงทรัพย์ ฯลฯ เวลาร้องขอความช่วยเหลือ คำว่าไฟใหม้จะทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้น ตกใจตื่นและออกมาดูสถานการณ์ได้เร็วกว่า หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 19:22:02 ชาวนากับหมู (ไม่ใช่งูเห่านะจ๊ะิ)
ชาวนาบ้านนอกคนหนึ่ง ต้องการจะเปลี่ยนอาชีพมาทำฟาร์มเลี้ยงหมู แต่ด้วยความที่ไม่เคยได้ศ ึกษาวิธีการเลี้ยงและดูแลหมูมาก่อนเลย จึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หมูทั้ง 20 ตัว ที่เค้าเลี้ยงมาหลายเดือน ไม่เคยออกลูกมาให้ซักตัวนึง แถมมารู้ทีหลังว่าเป็นตัวเมียทั้งหมดอีกต่างหาก ด้วยความกลุ้มใจในความผิดพลาดนี้ ชาวนาได้เอาเรื่องไปปรึกษาเกษตรตำบล และได้รับคำแนะนำให้ทำการผสมเทียม ไอ้ครั้นจะถามว่า 'ผสมเทียม' คืออะไร ก็จะเป็นการเสียหน้า ชาวนาจึงได้แต่เลี่ยงๆไปว่า 'หลังจากผสมเทียมแล้ว เราจะรู้ได้ยังไงว่าหมูมันท้องและจะมีลูกได้แล้ว' 'อ๋อ...ไม่ยากหร อก ถ้าเริ่มตั้งท้อง แม่หมูมันจะชอบมานอนคลุกโคลนเล่น สังเกตดูก็จะรู้' เกษตรตำบลตอบ อืม...ผสมพันธุ์ธรรมดา คือ หมูตัวผู้ผสมกับหมูตัวเมีย แล้วไอ้ผสมเทียมนี่ล่ะ หรือจะหมายถึง คนผู้ชายผสมกับหมูตัวเมีย ถึงจะติดลูกได้? แม่ไอ้แดงก็ยังมีหัวปีท้ายปีได้นี่หว่า คิดได้ดังนั้น ชาวนาของเราก็จัดแจงต้อนหมูสาวทั้ง 20 ตัวขึ้นรถบรรทุกเล็ก มุ่งหน้าเข้าป่าเพื่อประกอบกิจxxxและกลับมาเข้านอนด้วยความสุขใจ วาดหวังถึงลูกหมูหลายสิบตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เช้าวันรุ่งขึ้น หมูทั้ง 20 ตัวยังวิ่งเล่นหยอกล้อกันอย่างร่าเริง ไม่ยักกะนอนคลุกโคลนซักตัวเดียว เอ...หรือว่าตัวละทีมันยังน้อยไป เอาใหม่ ชาวนาต้อนหมูทุกตัวขึ้นรถอีกครั้ง ไปปฏิบัติการที่จุดเดิม แต่คราวนี้หมูทั้ง 20 ตัวได้รับการ 'ผสมเทียม' ถึงตัวละ 2 ที ด้วยความเหนื่อยอ่อนจนแทบจะจับไข้ เช้าวันนี้ ชาวนาของเราไม่อาจลุกไปดูผลงานของเขาได้ด้วยตัวเองซะแล้ว 'แม่ไอ้หนู ช่วยดูให้ทีซิ ว่าวันนี้หมูของเรามันเป็นยังไงกันมั่ง ไปนอนคลุกโคลนกันบ้างรึยัง' 'โอ้ยย...อยู่ ๆ หมูมันจะไปนอนคลุกโคลนทำไมกั๊น ไม่มีหรอกพ่อ โน่นแน่ะมันขึ้นไปอยู ่ท้ายรถพ่อกันทั้ง 19 ตัวนั่นแหละ อีกตัวที่นั่งหน้าก็กดแตรเรียกพ่ออยู่นั่นไง' หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: landslots รัก ในหลวง ที่ 21 พฤศจิกายน 2552 16:25:48 เด่วมาอ่านต่อน่ะน้าเบิ้ล ไม่ไหวจริงครับ.....
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 21 พฤศจิกายน 2552 16:29:02 อ่านอีกรอบก็ยังรู้สึกดี ^_^
ผมและเธอบนทางเส้นขนาน - ผมบอกว่าความรักก็เหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ หากขาดไปแล้วผูกอย่างไรก็มีปม - เธอบอกว่าความรักเหนียวแน่นคงทนกว่านั้นมันเปรียบเสมือนผืนผ้ามากกว่า แม้เส้นด้ายจะขาดไปสักเส้นผ้าก็ยังเป็นผ้าได้อยู่ - ผมไม่พกมือถือ ด้วยเหตุผลว่าพระนเรศวรทรงกู้เอกราชได้โดยไม่ต้องใช้เครือข่าย GSM - เธอพกมือถือ 2 เครื่อง ด้วยเหตุผลว่าที่ไทยเสียเอกราชไปเพราะไม่มีเครือข่ายGSMใช้ - ผมใส่กางเกงตัวละ 129 บาทด้วยเหตุผลว่าจะยี่ห้ออะไรก็ปิดไอ้นั่นได้มิดเหมือนกัน - เธอใส่กระโปรงราคาตัวละหลายพันบาท ด้วยเหตุผลว่า มันปลอดภัย ถ้าเกิดไฟไหม้ กระโปรงที่เธอใส่ เนื้อผ้าจะไม่ละลายติดเนื้อผิวของเธอ - ผมไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่ ผมว่าขนมครก อร่อย! และถูกกว่าเป็นไหน ๆ - เธอไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่ เธอชอบกินพิซซ่า ด้วยเหตุผลที่ว่า ขนมครกบางร้านเท่านั้นที่อร่อยแต่พิซซ่าฮัททุกร้านมีมาตรฐานเดียวกัน - ผมใช้ปากกาด้ามละ 5 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไงมันก็เขียนได้ และมันมักจะหายไป ทุกครั้งก่อนที่ไส้จะหมด - เธอใช้ปากกา ยี่ห้อ cross ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไงมันก็เขียนติดกระดาษไม่ต้องสะบัดก่อนใช้ และไม่เลอะเทอะกระเป๋าเสื้อของเธอ - ผมชอบทำงานอิสระ ทำตามจินตนาการของตัวเองไม่ต้องให้ใครบังคับ ไม่ต้องผูกมัด กับระบบ - บัตรตอกทำงานของเธอไม่เคยขึ้นตัวแดง เธอกลับค่ำทุกวัน เพราะงานทำให้เธอมีระบบ ระเบียบ และเห็นคุณค่าของชีวิต - ผมรักตัวของผมเองมากกว่าใคร ๆด้วยเหตุผลว่า ไม่ว่าเราจะทำดีเพื่อใคร ๆ มากมายขนาดไหนความสุขทางใจที่เราได้ก็ได้กับตัวเอง - เธอรักครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งใด ๆ ด้วยเหตุผลว่าถ้าไม่มีพวกเขาก็คงไม่มีเธอเกิดมาให้ป่าวประกาศว่าฉันรักตัวฉันเอง - คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่ผมว่าหาดทรายจะแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งตามคลื่นที่กระทบฝั่ง แต่แม้จะเปลี่ยนอย่างไรทรายก็ยังเป็นทราย และคลื่นก็ยังเป็นคลื่นไม่เปลี่ยน - คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่เธอว่าไม่ว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงอย่างไรคลื่นก็ยังขยันซัดกระทบฝั่ง - ผมบอกว่าถ้าไม่มี 'ความว่าง' แล้ว'ความมี' ก็ไร้ความหมายเพราะความมีต้องวางลงบนความว่าง - เธอบอกว่าถ้าไม่มี 'ความมี' แล้ว'ความว่าง' จะมีประโยชน์อะไรมันคงไร้ความหมายเพราะมีความมีความว่างจึงก่อเกิดการเปรียบเทียบ - คนอื่นบอกว่า ผู้หญิงรักผู้ชายจาก 0-100 แต่ผู้ชายรักผู้หญิงจาก 100-0 ผมแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายแค่ 0-1 เหมือนไบนารี่ทำดีมากมายขนาดไหนก็เป็นเพียงแค่ 1 หากผิดพลั้งไป จะเหลือเพียง 0 - เธอแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายไม่ใช่ 0-1 และไม่ใช่ 0-100 แต่เป็นจาก 100-200 หญิงรักชายได้ 100 และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่เธอปรารถนา - ผมมองคนที่ความคิด - เธอแย้งว่าความคิดไม่ใช่นิสัย ผมเหมือนกับแก้วใส ๆจะเห็นคุณค่าตัวเองก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นน้ำมาเติมเต็ม เธอเหมือนกับน้ำใส ๆเธอจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีภาชนะมารองรับ ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ถึงแม้จะไม่มีวันบรรจบกัน แต่เราก็จะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ เพราะเธอชอบกินไข่แดง แต่ผมชอบกินไข่ขาว เราจึงอยู่ด้วยกันได้ ในไข่ใบสีน้ำเงินแห่งนี้ ความรัก กับ ความผูกพันธ์ เนื้อความความรัก..กับ ความผูกพัน หน้าตาคล้ายกัน .. เหมือนซ้าย-ขวา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ .. รู้สึกว่า .คิดถึง .. แล้วมาหา คือ .............. รัก รู้สึกว่า .. เคยมาหา .. เลยมาหาคือ . ผูกพัน รู้สึกว่า .. หิว .. แต่อยากรอ คือ .. รัก รู้สึกว่า ..อิ่มแล้ว .. อยากเอามาฝาก คือ .. ผูกพัน รู้สึกว่า .. อยากให้เวลากันและกันคือ .............. รัก รู้สึกว่า .. อยากใช้เวลา ด้วยกัน คือ .. ผูกพัน รู้สึกว่า .. หงุดหงิดคือทำให้อีกคนไม่สบายใจ คือ .. รัก รู้สึกว่า .โกรธคือทำให้อีกคนสำนึกบ้าง คือ .. ผูกพัน รู้สึกว่ า ....ไม่มีนาทีไหนไม่คิดถึง คือ .. รัก รู้สึกว่า .. นาทีไหนที่ว่างจะคิดถึง คือ.... ผูกพัน ขอบคุณเหลือเกิน .... ความผูกพัน .. ที่ทำให้รัก ขอบคุณเหลือเกิน .. รักที่เป็นมากกว่า .. ความผูกพัน ----------------------------------------------------------- ........... เคยไหมรักใครคนหนึ่ง ด้วยความรู้สึกว่า .... เคยผูกพันเหมือนเคยรักกันแล้วพลัดพราก ต้องมาตามหากันเป็นแรมปี ถ้าเคยรู้สึกอย่างนี้ ยามที่มองแววตาใครคนนั้น แล้วรู้สึกอยากอยู่ข้าง ๆ เพื่อคอยกางแขนปกป้องและดูแลไปตลอดชีวิต ความรู้สึกนั้น .. เรียกว่ารักและผูกพัน ความรู้สึกที่ .. มิอาจพรากจากกัน ได้อีก แม้เพียงหนึ่งเสี้ยววินาที หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 09 ธันวาคม 2552 17:35:56 a: วันก่อนคับ
b: ทำไมวะ a: ไปสยามมาคับ b: แล้วไงวะ a: เดินผ่านหญิง เค้าหันกลับมามองเลยคับ b: โห เมิงหล่อมาก ! a: ป่าวคับ เหยียบตีนเค้า a: แล้ววันก่อนคับ b: ทำไมวะ a: ไปเที่ยวกลางคืนมาคับ b: เออ เปนงัยวะ a: หิ้ว ญ กลับมาคนนึงคับ b: โหย เปยงัยวะ a: นม งี้ดูไม่ได้เลยคับ b: เห้ยทำนมหรอวะ a: เค้าไม่ให้ดู คับ a : แล้ววันก่อนคับ b: ทำไมวะ a: เมาเหล้าคับ b: เหย ธรรมดาๆ a: แล้วปวดฉี่ คับ b: แล้วทำไงวะ a: เลยไปฉี่ตรงศาลพรภูมิ b: เห้ย แล้วไหว้รึป่าว a: กลับมาจู๋บวมเลยคับ b: เมิงไม่ไหว้อะดิ a: ซิบหนีบจู๋ คับ a: แล้ววันก่อนคับ b: ทำไมวะ a: วาเลนไทน์คับ b: เปนไงๆ a: ผู้หญิงที่คณะวิ่งถือดอกไม้มาหาผม ทุกคนเลย b: โห เมิงป๊อปมากเลยนะเนี่ย a: ป่าวคับ เค้าเอามาขาย a: แล้ววันก่อนคับ b: ทำไมวะ a: ไปคัดตัวนักวิ่งมาคับ b: เออ เปนงัยวะ a: 100 ม. ผมวิ่งได้ 4 วิ คับ b: โห หยั่งงี้ติดทีมชาติเลยนะเนี่ย a: วิที่ 5 ล้มคับ a: แล้ววันก่อนคับ b: ทำไมวะ a: พ่อพาผมไปโรงพัก b: เออ แล้วไงต่อๆ a: คนไหว้พ้อผมทั้งสน.เลยคับ b: โห พ่อเมิงใหญ่มากเลย a: พ่อเป็นพระคับ a: แล้ววันก่อนคับ b: ทำไมวะ a: ไปบ้านเพื่อนมาคับ b: แล้วไงต่อวะ a: เหนแม่เพื่อนถือถาดมาให้ b: แม่มาเสิร์ฟน้ำเลยหรอวะ a: ขายลอตตารี่คับ หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: จี่จี๋ รักในหลวง ที่ 10 ธันวาคม 2552 19:18:19 โห แต่งนิยายได้เลยนะน้า :emotq
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 10 ธันวาคม 2552 20:45:42 FW มาครับ
หัวข้อ: Re: Forward mail ใครชอบอ่าน เชิญ เริ่มหัวข้อโดย: nuvo3816 ที่ 10 ธันวาคม 2552 20:51:03 อาการของ การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศ สัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด นื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ ได้ 2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่อง ท้อง 3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศ สัมพันธ์ > มีปัญหา เกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง 4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการ ปวด ตามข้อต่าง ! ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของ ช่องท้อง 5. มะเร็ง ปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่าง ฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 6. มะเร็ง ตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ ชัด 7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ 8. มะเร็ง สมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็น อัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มี อาการ เหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย 9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่อ! งจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือ เป็นเวลานาน 10. มะเร็งในล ำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึก ได้ 11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ 12. มะเร็งทรวงอก อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนา ขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิด ขึ้น ที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียก ว่า ซีสต์ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกัน แน่ 13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอา! การปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ ****ซึ่ง มีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษ ทิช ชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำ นั่น คือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้ 14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบาง ส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา ( Melanoma )คือ เนื้อ งอกที่ประกอบด ้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติ |