AE. Racing Club

เรื่องนี้ไม่น่าจะถึงกับ เจ้าของรถต้องรับผิดชอบเสียทั้งหมดนะครับ
การไม่มีใบรับรถมิใช่เหตุที่จะชี้ขาดว่า เจ้าของรถจะต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในทันที
การไม่มีใบรับรถเป็นเพียงสาเหตุที่ทำให้เจ้าของรถต้องพิสูจน์ว่า ความผิดที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองมิได้เป็นผู้ก่อขึ้น ซึ่งหากมีใบรับรถก็ไม่ต้องพิสูจน์ให้ยากเย็นอะไร อย่างมากก็พิสูจน์เพียงว่า ใบรับรถมิใช่ของปลอมเท่านั้น
จากเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในข้อความ อนุมานได้ว่า ทางเจ้าของอู่ก็ยอมรับว่า เจ้าของรถได้เอารถมาเข้าซ่อมจริง แม้ไม่มีการออกใบรับรถก็ไม่เป็นปัญหาในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงข้อนี้ ยิ่งไปกว่านั้น การที่เจ้าของอู่บอกว่า ช่างขโมยรถออกไปขับเอง เจ้าของอู่มิได้รู้เห็นและไม่รับผิดชอบ เป็นการยอมรับโดยปริยายอีกว่า ความผิดที่ก่อขึ้น มิได้เกิดจากความผิดพลาดหรือกระทำโดยประมาทของเจ้าของรถ แต่เป็นการทำโดยละเมิดของช่างซึ่งเป็นลูกจ้างของอู่ ดังนั้น เจ้าของอู่ยังไงก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ทันทีที่เจ้าของรถเอารถเข้าไปซ่อม และส่งมอบกุญแจรถให้แก่อู่ไปแล้ว การครอบครองก็ตกเป็นความรับผิดชอบของอู่ไปแล้ว การที่อู่จะปฏิเสธความรับผิดชอบย่อมเป็นไปไม่ได้
กรณีดังกล่าว เจ้าของรถอาจต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายไปก่อน แล้วฟ้องเอาผิดกับช่างที่ขโมยรถไปขับจนเกิดความเสียหาย และอาจฟ้องเจ้าของอู่ซึ่งเป็นนายจ้าง ที่ประมาทในการเก็บรักษากุญแจรถของลูกค้าให้ดี จนถูกช่างขโมยไปขับ ก็ลองนึกดูซิครับว่า ถ้าเจ้าของอู่เป็นคนรอบคอบเก็บรักษากุญแจรถของลูกค้าไว้อย่างดี มีหรือที่จะถูกช่างขโมยเอาไปขับจนเกิดความเสียหายขึ้น  กรณีนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปกับเจ้าของอู่เก็บรักษากุญแจไว้ไม่ดี แล้วถูกใครก็ไม่รู้ขโมยรถไปขับจนเกิดความเสียหาย อย่างไรก็อ้างไม่รับผิดชอบยากครับ
 

ถูกมิถูกอย่างไร คงต้องใช้วิจารณญานในการรับชมครับ

 

ขอเอาใจช่วยคุณลุงให้รอดพ้นจากกรณีดังกล่าวโดยเร็ว



ขอใบรับรถจากอู่ทุกครั้ง เอารถไปซ่อม ... อย่าลืมขอใบรับรถด้วย ระวังตกเป็นจำเลยที่ 2

 

เรื่องมีอยู่ว่า........ลุงของผมได้เอารถไปซ่อมเครื่องยนต์ที่อู่แถวๆถนนสุขาภิบาล 1......ทางอู่ บอกว่าต้องใช้เวลา ประมาณสามวันจึงจะซ่อมเสร็จ    ด้วยความไว้วางใจ   ลุงของผมจึงได้ทิ้งรถโดยทางอู่ไม่ได้ออกใบรับรถไว้ให้......ปรากฎว่าวันรุ่งขึ้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมา

 

ที่บ้าน บอกว่า ช่างที่อู่เอารถออกไปขับแล้วชนคนตาย

 

และช่างได้หลบหนีไปทางอู่ก็ไม่ยอมรับผิดชอบโดยอ้างว่า

 

ช่างคนนั้นขโมยรถออกไปขับเอง

 

ทางอู่ไม่เกี่ยวข้อง.ใดๆทั้งสิ้น......ตำรวจก็พยายามจะเชิญ

 

ตัวลุงไปที่โรงพัก...เพราะลุงของผมเป็นเจ้าของรถ แม้ว่าจะไม่ต้องรับผิดชอบในทางคดีอาญา.....แต่ในทางแพ่งแล้ว ลุงต้องเป็นผู้รับผิดชอบ   แม้ว่าลุงของผมจะบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเจตนาของลุงเพียงต้องการเอารถไปซ่อมเครื่องยนต์เท่านั้น

 

 

 

ทำไมต้องมารับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้.........ทางตำรวจขอดูหลักฐานใบรับรถของอู่   ที่เอารถไปซ่อม แต่ปรากฎว่า ไม่มีหลักฐาน

 

เพราะเห็นว่าเป็นอู่ที่เชื่อใจกัน   และใช้บริการอยู่เป็น ประจำ

 

จึงไม่ได้ขอใบรับรถจากอู่     ตำรวจบอกว่าในเมื่อลุงของผมไม่มีหลักฐานในการเอารถไปซ่อม    จึงต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้และ    นำตัวลุงผมไปที่โรงพักเพื่อเจรจาค่าเสียหายกับพ่อแม่

 

ของผู้ตาย       ในครั้งแรกพ่อแม่ของผู้ตายได้เรียกค่าเสียหาย

 

เป็นเงินสูงถึง  500,000  บาท

 

     แต่ลุงผมบอกว่า ถ้าเรียกเงินสูงขนาดนั้นคงไม่มีปัญญาหามาให้แน่ ๆ    จึงได้ต่อรอง   และได้เล่าเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาให้กับพ่อแม่ของคนตายฟังทางตำรวจก็ช่วยไกล่เกลี่ยให้เพราะเห็นว่าลุงไม่รู้เรื่องจริงๆแต่ต้องมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น   ทางพ่อแม่คนตายจึงยอมลดเงินลงมาเหลือ   200,000  บาท เหตุการณ์ต่าง ๆจึงยุติลง   

 

      หวังว่าเหตุการณ์นี้คงเป็นอุทธาหรณ์ให้แก่เพื่อน ๆ   ทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ    และขอให้เพื่อน ๆ อย่าได้เจอเหตุการณ์อย่างที่ลุงของผมได้เจอะเจอมาเลย

เผาอู่เลย..จบ เงินตั้ง 200000

ถ้าว่ากันตาม ประสาชาวบ้านๆน่ะ
ผมว่าไม่แฟร์เลยที่เราจะต้องมารับ
ผิดชอบต่อการกระทำของคนอื่นทั้งที่เรา
ไม่ได้เป็นผู้กระทำ
แต่ถ้าตามกฏหมายคงต้องว่าไปตามนั้น
ถ้าคิดกลับกัน สมมุติว่ารถจอดไว้หน้าบ้าน
แล้วโดนขโมยไปตอนกลางคืน พอตอนเช้า
กำลังจะออกไปแจ้งความกลับมีตำรวจมา
บอกว่ารถเราชนคนตาย เราจะต้องรับผิดชอบ
ด้วยเหรอครับในเมื่อรถเราโดนขโมยไป
(อันนี้ความคิดผมคนเดียวนะที่คิดว่าเราจะต้องรับผิดด้วยเหรอ
ในเมื่อรถเราจอดอยู่ มันวิ่งไปได้อย่างไร ทำไมไม่ตามจับคนขับ
มารับผิดชอบล่ะ)

บางครั้งน่าจะมองจากสภาพความเป็นจริงมากกว่าจะยึดแต่กฏหมายเป็นหลัก
เอารถไปซ่อมแต่กลับต้องเสียเงิน แถมรถมีประวัติอีก
 :emox

 :emote :emote

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นได้ขนาดนี้ ขอบคุณที่มาเตือนกันครับ

ไม่ยุติธรรมเลยครับ ทำไมไม่จับคนที่ขโมยรถมาลงโทษง่ะครับ ไม่เข้าใจตำรวจของประเทศเราเลย ชอบจับแต่คนไม่ผิดให้ยอมรับผิด

 :emoe :emoe

ตำรวจชั้นประทวร ประเทศเราไม่ค่อยมีวิจารณญาณครับ....เลยทำให้ชั้นสูงๆ ต้องมาคอยแก้ไขปัญหาให้บ่อย บ้างทีก็แก้ผิดบ้างถูกบ้าง บ้างทีก็เห็นแก่เงินบ้าง  จึงเกิดเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องขึ้นมา  ..... สาธุ  ขอให้ ท่าน เสรี  อธิบดีกรมตำรวจ  จัดการให้ความรู้และศีลธรรมกับ  พวกชั้นผู้น้อย......จะทำให้ประชาชนเป็นสุขขึ้นเยอะ  ใครหัวหมอกับเรื่องพวกนี้ก้น่าจะโดน ซะบ้าง  รู้สึกเสียใจแทนคุณ ลุง  จขกท  จริงๆ 

แบบนี้เจ้าของอู่ต้องรับผิดชอบคนเดียวและสถานเดียวครับ เพราะสามารถสืบรู้เจตณาของลุงอย่างชัดเจนว่าได้นำรถเข้าไปซ่อมและทิ้งรถไว้เพื่อซ่อม เจ้าของอู่ต้องรับในฐานะที่ลูกจ้างก้อคือผู้ใต้บังคับบัญชา อย่ายอมจ่ายที่โรงพักครับเอาเรื่องขึ้นศาลไปเลยครับ(เพราะตำรวจไม่มีหน้าที่ในการชี้ว่าใครถูกใครผิด)ศาลจะพิจรณาหลายๆประเด็นเช่นอู่ซ่อมทั่วไปส่วนใหญ่ก้อไม่ค่อยได้ออกใบรับสักเท่าไหร่

ใช่ครับ ตามข้างบนนะ ....

ตำรวจทำแปลกๆ นะคดีนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะในเมื่อเจ้าของอู่ยอมรับว่าเจ้าของได้เอารถมาซ่อมไว้จริง

ตำรวจก็ต้องเรียกเจ้าของอู่ในฐานะนายจ้างผู้กระทำผิดมาร่วมรับผิดชอบ+ติดตามผู้ต้องหามาด้วย ไม่ใช่ให้ลุงมาเจรจา

กับญาติผู้เสียหายเท่านั้น...  :emok

อย่างงี้เรียกว่ากฏหมายมีช่องโหว่ครับ ทางแก้คือประกาศให้สื่อรับรู้ เป็นข่าวเมื่อไหร่ความถูกต้องถึงจะมีครับ

 :emo2

ผมรู้มาว่า ไม่ว่ารถเรา ใครจะเอาไป ขับ แต่ถ้ารถเป็นขื่อของเรา เราก็ต้องรับผิดชอบ อ่ะ คับ

แต่กรณีนี้ คือไม่มี ใบรับรถ นั่นก้อคือ ไม่มีหลักฐาน นั่นเอง

งั้น ก็ ใครเอารถไปซ่อม ก็ ขอไห้เอาใบรับรถ

แค่ หลักฐานเล็กๆ ก้อช่วยเราได้น่ะครับ

คำให้การของเจ้าของอู่ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักฐานยืนยันการนำรถไปซ่อมที่อู่ได้นิครับ :emoj

ถูกต้องครับ เพราะการนำรถเข้าไปซ่อมผลประโยชน์ก้อเกิดกับเจ้าของอู่ กรณีที่เจ้าของรถต้องรับผิดชอบทุกอย่างก้อคือการให้ยืมให้ไปใช้(กรณีนี้ต้องรับผิดร่วมกับผู้ที่ขับขี่) หรืออย่างผมมีรถบัสแล้วปล่อยเช่าถ้าเกิดเหตุขึ้นมาแบบนี้ผมรับเต็มๆ(เพราะการให้เช่านั้นผมได้ประโยชน์)
      ผมพิมมาก้อไม่ได้อ่านกกหมายอะไรหรอกครับแต่พิมมาตามความคิดเห็นของความน่าจะเป็น

 :emo2 :emo2

 :emotn :emotn :emotn :emotn

 :emo5 :emo5

 :emotj :emotj :emotj

ได้ใบรับรถทุกครั้งที่เข้าอู่