AE. Racing Club

 เรื่องของเรื่องก็คือ เห็นหลายๆท่านติดเกจ์วัดกันหลายตัว สวยดี ผมก็เลยไปติดมั่งครับ
 ติดมาแล้ว 3 ตัวตอนนี้ก็คือ Volt Meter, Oil Pressure, Water Temp

 ทีนี้ไม่กี่วันก่อน คืนวันฮาโลวีน ผมไม่มีอะไรทำ ก็เลยขับรถออกไปดึกๆ ไปหาที่ซัดเล่น
 พฤติกรรมการขับของผมก็คือ ช่วงเกียร์ 1-4 ผมจะเปลี่ยนเกียร์เร็วครับ(ไม่ลากรอบ ไปไกลสุดไม่เกินสามพันรอบ)
 พอเกียร์ 5 แล้วผมก็ไหลยาว

 รอบเดินเบา แรงดันน้ำมันเครื่อง 3.2 บาร์ครับ พอกดคันเร่ง ขับสัก 80 แรงดันเพิ่มเป็น 6.0 บาร์
 ขับไปสักครู่ ไหลยาวๆจนตีนปลายได้สัก 160-170 ผมก็แช่ไว้อย่างนั้น
 สักพักหันมาดูเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง มันตกมาเหลือ 4.0 บาร์ครับ
 ผมก็เลยวิ่งช้าลงแล้วหาที่จอดรถ พออยู่รอบเดินเบา แรงดันเหลือ 2.0 บาร์ครับ (รอบเดินเบาประมาณ 950 รอบนะครับ)
 
 ไปถามบางที่ก็บอก "ปกติ" บางที่ก็บอก "ไม่ปกติ" แล้วตกลงมันปกติหรือไม่ปกติกันครับนี่?
 ผมอ่านกระทู้ของฝาดำที่ชาร์ฟละลายหลายคนแล้วก็ชักเสียวเหมือนกัน
 ก็เลยอยากจะถามผู้รู้ครับ ว่า ปั๊มน้ำมันเครื่องของ 3S-GE ไอดีกลมนี่ ไปหาเบิกได้ที่ไหนครับ? แล้วราคาเท่าไหร่?

ปล. ผมใช้น้ำมันเครื่อง Vavoline Maxlife 10W-40 semi-synthetic (ซื้อมาจากร้านดัง) เพิ่งใช้มาได้ประมาณ 2000 กม. ครับ
      ส่วนกรอง ใช้กรองน้ำมันเครื่องแท้ของ 3S-GTE (ลูกยาว)

     ไม่ทราบน้ำมันเครื่องกับกรอง มีผลกับค่าที่วัดได้หรือเปล่าครับ :emoj

ปล2. เกจ์วัดเป็น Defi BF ไต้หวันครับ อาจจะเพี้ยนบ้าง แต่ไม่น่าจะเยอะขนาดนี้ครับ :emotn :emotn :emotn

 น้ำมันเครื่องร้อนแล้วแรงดันตกครับ
 ขากลับผมเลย "คลาน" กลับบ้าน ขับ 80 พอ

 แรงดันน้ำมันเครื่องก็ค่อยๆกลับขึ้นมา จนอยู่ที่ประมาณ 4-5 บาร์ครับ

ความร้อนกับ นมค. มีผลกับแรงดันครับ

ตามนี้อ่ะ
เหนียวๆเจอร้อนมันก็เหลวได้ ครับ

ร้อนขึ้นแรงดันสูงขึ้น แต่ของผมต่ำลงนี่ครับ (ใช่หรือเปล่าหว่า :emoj)

แสดงว่าปกติเหรอครับ :emoj

ผมเข้าใจว่า นมค.เวลาร้อนจัด สถานะจากหนืดจะกลายเป็นเหลว แรงดันน่าจะตกอ่ะครับ

ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นครับ จนไปเจอลิงค์นี้ (ความเห็นที่ 3)
 ถึงได้งงครับว่าอันไหนถูก อันไหนผิดกันแน่  :emoto

http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/Question.asp?ID=2162

อ่าว กำ งงเลย

 น้ำมันเครื่องยี่ห้อนี้ กับกรองตัวนี้ ผมเปลี่ยนแล้วขับไปพัทยาเมื่อปลายเดือนกันยาที่ผ่านมาครับ
 ขับแช่ยาว 180-190 ไปตามมอเตอร์เวย์ (อยากลองด้วยครับ ว่ามีปัญหาอะไรไหม? จะได้แก้ไข)
 จนมาติดเกจ์แรงดันน้ำมันเครื่องเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เองครับ
 แรกๆก็ยังดีอยู่นะครับ จนเอาไป "ซัด" คืนฮาโลวีนนั่นแหละ งานงอกเลย :emoty

 ถ้าเป็นที่ผมเข้าใจ ก็คงต้องเริ่มจากถูกไปหาแพงก่อน

 1. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมกรองใหม่ (เอาสังเคราะห์ละทีนี้)

 2. เปลี่ยนปั๊มน้ำมันเครื่องใหม่

 แต่ถ้าไม่มีอะไรเสียเลย ก็เสียตังค์ฟรีครับ :emoty

ผมยังคงยืนยันเหมือนเดิมนะว่า ยิ่งร้อน แรงดันยิ่งตกครับ
ลองหา นมค.ตัวใหม่ มาเปลี่ยนดูก่อนครับ

ติดตั้งหมดไปเท่าไหร่ครับ

เท่าที่อ่านเค้าว่ายิ่งร้อนยิ่งหนืด แล้วแรงดันจะแปรผันตามรอบเครื่อง

ยังไง รอคนต่อไป อิอิ   :emob

เอาละไง
อันไหนถูกละครับ
ติดเกจยี่ห้อไรมา ขอดูหน่อยครับ

ติดเกจความร้อนน้ำมันเครื่องเพิ่มครับ น้ำมันเครื่องร้อนมากจะศูนย์เสียความหนืด ทำให้แรงดันตกครับ โดยเฉพาะรอบสูงๆแช่นานๆ ทำให้น้ำมันเครื่องร้อนมากขึ้น

Defi BF ไต้หวันไงครับ :emotia

ผมก็ว่าจะทำเช่นนั้นครับ :emotn

ขอบคุณครับ พอดีร้านที่ไปซื้อเขาบอกว่าของหมดครับ(อยากได้เหมือนกัน) :emotq

ปกติคับ วิ่งซัดๆ ผ่อนแล้วเกจจะตก ผมเครื่องซุบ เครื่องวิ่งร้อนมากๆ เดินเบาลงมา 60PSI

ยิ่งร้อน ยิ่งเหลว แรงดันยิ่งตกครับ  :emo2 :emo2

ตกลงเป็นที่น้ำมันเครื่องหรอครับน้า ...

ตอนนี้สงสัยว่าอย่างนั้นครับ
 เพราะถ้าขับรอบสูง แช่ยาว แล้วแรงดันตกครับ (5000 รอบนี่มันสูงหรือเปล่าเนี่ย :emot)

 แต่ผมก็กำลังหาราคาปั๊มน้ำมันเครื่องของ 3S-GTE อยู่ครับ คิดว่าน่าจะใช้ด้วยกันได้ และแรงดันสูงกว่า

มันคืออีก1เหตุผลที่ผมไม่อยากติดอะไรมาก พอเห็นอะไรผิดๆไปก็จะเริ่มคิดมากขับรถแบบเซ็งๆ    แต่อีกใจก็อยากสวยอิอิ

แต่ที่ติดเพิ่มเข้าไปนี่ก็มีประโยชน์มากเลยนะครับ
 ตอนไปพัทยา ผมไปจอดที่จุดแวะพักแล้วติดเครื่องคูลดาวน์เฉยๆไว้(นั่งในรถ)
 ปรากฎว่าเข็มความร้อนขึ้นครับ ขึ้นมาประมาณ 3/4 ได้
 ผมเลยเอาไปแก้ที่บางปะกง เปลี่ยนมอเตอร์ใหม่(มือสองแหละครับ)
 
 แต่ก็ได้แค่พอใช้ครับ กลับมาเลยติด Water Temp ก่อนตัวแรกเลย
 เอาแบบมีหน้าจอ LCD แสดงผลเป็นตัวเลข และเป็นเข็ม ในเรือนเดียวกัน (BF Advance มั้งครับ)
 แล้วก็สังเกตดู พบว่าความร้อนจะขึ้นไปอยู่แถวๆ 88-92 องศาเซลเซียสตลอดเลยครับ
 ไม่กี่วันก่อนมันขึ้นไป 94.5 องศาเซลเซียส
 ผมเลยรีบวิ่งเข้าอู่ แปลงเอาพัดลม 11 ใบใส่เข้าไปแทน ทีนี้ความร้อนตกลงเหลือแค่ 78-81 องศาเท่านั้นเองครับ

 แต่ของติดรถนี่น่ะเหรอ? มันอยู่ตรงกลางตลอด ตั้งแต่ 70 องศาแล้วครับ ขึ้นไป 95 ก็ยังอยู่ตรงกลาง
 ผมว่าพอมันกระดิกขึ้นไป ก็คงตอนขึ้นไป 100 (เดือด) แล้วนั่นแหละ :emoty

เกจ์วัดเอ๋อรึป่าวครับ เคยเห็นของก็อปพวกนี้ แกะกล่องเอามาต่อปุ๊บ เข็มขึ้นมั่วไปหมด วัดแรงดันนี่แหละ

อันนี้ของผมลองมาเมื่ออาทิตย์ก่อน

(http://upic.me/i/9x/552388_10151074187492245_115385147_n.jpg) (http://upic.me/show/40774383)

ดูเกจตัวซ้ายนะครับ เข็มซ้ายแรงดันนมค เข็มขวาตวามร้อนนมค อันนี้เป็นรอบเดินเบา ก่อนออกไปซัด

(http://upic.me/i/bd/69537_10151074188087245_79321777_n.jpg) (http://upic.me/show/40774393)

อันนี้เป็นรูปหลังจากออกไปวิ่งรอบสูงๆระยะทางประมาณ5กิโลเมตร แช่ยาวๆเกียร์ห้าประมาณกิโลเมตรกว่าๆ
แล้วจอดเข็มความร้อนนมคขึ้นไปพอควร แต่เข็มแรงดันนมคตกลงมาไม่เท่าตอนน้ำมันเครื่องเย็นกว่านี้แบบรูปแรก

น้ำมันเครื่องที่ดีต้องสูญเสียค่าความหนืดได้ยากเมื่ออุณหภูมิสูงเมื่อเทียบกับเกรดน้ำมันที่เท่ากันครับ ลองเปลี่ยนยี่ห้อน้ำมันเครื่องดูก่อนครับ เอาของถูกๆลองเปลี่ยนใส่ดู
แล้วเทียบกับตัวเก่าที่ช่วงอุณหภูมิเท่ากัน รอบเครื่องเท่ากันดูครับ เผื่อจะรู้เหตุผลมันมากขึ้น ผมก็อยากรู้เหมือนกัน :emotm :emotk

ผมว่าปกติแล้วครับ
ค่าที่ได้อาจแค่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง(ไม่ว่าเกจ์ไหนมันก็คงได้แค่ใกล้เคียงเพื่ออ้างอิง)
รถผมเดินเบาหลังวอร์มเครื่องแล้วอยู่ที่ 25 ปอนด์ ซัดแบบลากๆก็มองและดูไม่ให้เกิน 75 ปอนด์  ถ้าแช่แบบความเร็วปลายมันก็อยู่ไม่เกิน 60 ปอนด์ ครับจริงๆของผมควรอยู่แค่ 50 เองด้วย  เมื่อเราจำค่าของเกจ์วัดรถเราได้ มันก็ควรอยู่แบบนี้ไปตลอด  พอใกล้ระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ค่ามันก็จะแปลกไปนิดเดียว

เช่นเดียวกับเกจ์วัดค่าอื่นๆครับ ควรจำค่าที่มันแสดงหลังติดตั้งไว้ เพี้ยนไปจากเดิมก็ดูแลได้ทัน  ไม่ได้แค่สวยนะครับประโยชน์อ่ะเยอะ
แต่ไม่ถึงกับต้องแสวงหามาเพื่อติด  ไม่มีมันก็ขับได้เหมือนเดิม

Omori ของน้า สวยจังครับ :emotv
 แต่แรงดันตกลงไปเยอะกว่าของผมอีกนะเนี่ย :emote

ปัญหาคือ...น้ำมันเครื่อง Vavoline ที่ใช้อยู่นี่ มันมี "หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง" ผสมอยู่ด้วยน่ะสิครับ
 เลยไม่กล้าถ่ายออกมา :emotq

ของผมก็เป็นนะ เครื่องเย็นๆแรงดันจะสูง พอร้อนได้สี่ แรงดันมันจะลงมาเหลือประมาน 1.5-2.0 บาร์ อ่ะคับ

 อ่านของหลายๆท่านที่มีเกจ์เหมือนกัน แสดงว่าของผมรอบเดินเบา(เครื่องร้อนจัด) 2 บาร์ ก็ปกติซีครับ

 ขอบคุณครับ ค่อยหายกังวลไป 50%

 แต่รอบหน้าผมไปสังเคราะห์แน่ๆ  :emots

 โล่งอกไปที เป็นที่น้ำมันเครื่องแน่แล้วครับ (ทีแรกนึกว่าเป็นที่ปั๊มน้ำมันเครื่อง นอนหลับไม่สนิทไปหลายคืนเลย)

 คืนนี้ผมก็ไปเส้นเดิมๆ ลองดูอีกครับ แต่คราวนี้ขับแบบเรื่อยๆ ไม่อัดครับ
 วิ่ง 100 เดียวเกือบตลอดทาง แรงดันน้ำมันเครื่องรอบเดินเบา 3.2 บาร์ เหยียบคันเร่งแล้วได้ 6.0 บาร์ ความร้อนน้ำหม้อน้ำอยู่ที่ 78-81 องศาเซลเซียสตลอดเส้นทางนะครับ
 ขับไปสักพักใหญ่ๆ (ประมาณ 40 นาที) ชักง่วง เลยกดขึ้นไป 120 แรงดันก็ยังอยู่ที่ 6.0 บาร์ครับ
 จนใกล้จะถึงจุดหมาย มีรถกระบะขึ้นจากข้างล่าง มาถึงมาปาดหน้าผมที่เลนขวาเลย
 ผมก็เลย อ้าวววว อย่างนี้สวยสิว่ะ เล่นกันเลยดีกว่าม้าง :emoe
 ก็เลยวิ่งจ่อก้นกระบะไป ความเร็วแกว่งอยู่แถวๆ 130-140
 จนกระบะถึงที่ก่อน ลงที่ทางแยกไป ผมก็เลยลดความเร็วลงมาเหลือ 120 พอ

 ถึงตอนนี้พบว่าแรงดันเริ่มตกครับ เหลือ 5.5 บาร์
 พอลดความเร็วเหลือ 100 แรงดันเหลือ 5.0 บาร์

 ใกล้จะถึงบ้าน เห็นปั๊มแก๊สอยู่ข้างหน้า ก็เลยแวะเข้าไปเติมเสียหน่อย
 ระหว่างเติมผมก็ไปเข้าห้องน้ำห้องท่าซะ
 กลับมาจ่ายเงิน พอขึ้นรถบิดกุญแจ อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำขึ้นไปเลยครับ 85 องศาเซลเซียส
 คิดว่าน่าจะเกิดจากการดับเครื่องอย่างทันทีครับ (จริงๆผมมี Turbo Timer นะ แต่อู่ที่วางเครื่องไม่ได้ต่อไว้ให้)
 
 พอออกจากปั๊มแก๊สมา ทีนี้ได้เรื่องเลย แรงดันตกฮวบ รอบเดินเบาเหลือ 2.0 บาร์
 ขับ 100 แรงดันเหลือแค่ 3 บาร์
 จนใกล้จะถึงบ้าน ถึงได้ขยับขึ้นไปที่ 4 บาร์


 สรุปว่า ปั๊มน้ำมันเครื่องทำงานปกติครับ
 แต่น้ำมันเครื่องตัวนี้ไม่เหมาะกับการแช่รอบสูงๆเท่านั้นเอง
 แช่นานแล้วมันจะหลอมเหลวครับ ทำให้แรงดันตก

 อย่างไรก็ตาม สำหรับการขับไม่เกิน 140 สำหรับในเมือง ผมถือว่าเยอะมากแล้วครับ
 ดังนั้นไอ้ที่ว่าจะถ่ายทิ้ง ก็เลยเอาไว้ก่อน :emotq

ปรกติครับ

ยิ่งร้อนยิ่งเหลวครับ เนี่ยแหละข้อเสียของอินเตอร์เนตบางที แชร์เรื่องผิดๆมันก็ผิดกันยาวๆไป

ลองง่ายๆ ต้มน้ำมันเครื่องแล้วเทดู

10w-40
เคยอ่านเจอ
w คือ winter วัดที่ -18 องศาเซลเซียส น้ำมันจะมีความข้นใสเป็นเบอร์ 10
และที่ 100 องศาเซลเซียส ความหนืดจะเป็น เบอร์ 40
ถ้าร้อนแล้วน้ำมันเครื่องเหลวเกินไป การเคลือบเกาะจะน้อยลงและการสึกหรอมากขึ้น
แต่บ้านเราคงไปไม่ถึง -18 องศาอ่ะครับ


ผิดถูกขออภัยครับ

บ้านเราคงไม่ต้องใส่้ใจเลขตัวหน้าเท่าไหร่ ใช่มั๊ยครับ