AE. Racing Club

AE Racing Club - FreeStyle => Free Style - AE Racing Club => ข้อความที่เริ่มโดย: ooAmmYoo ที่ 20 ธันวาคม 2554 14:56:25



หัวข้อ: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ+รถสัญชาติไทยเพียวๆใครไม่เคยเห็นมาดูครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ooAmmYoo ที่ 20 ธันวาคม 2554 14:56:25
เว็บไซต์ต่างประเทศ เผยภาพรถยนต์ไฮบริดจ์สัญชาติกัมพูชา อังกอร์333(Angor 333) โดยเป็นการร่วมมือสร้างระหว่าง นายเนียน ผลึก ช่างยนต์วัย 52 ปีชาวกัมพูชา กับบริษัท เฮง ดีเวลลอปเม้นท์ของเวียดนาม

โดยนายเนียน ได้เริ่มผลิตรถอังกอร์มาตั้งแต่เมื่อปี 2543 โดยเขาเรียนรู้เรื่องเครื่องยนต์และการผลิตรถยนต์ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการเดินตามความฝันในวัยเด็กของเขา

ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว นายเนียน ได้ร่วมกับบริษัท เฮง ดีเวลลอปเม้นท์ของเวียดนาม สร้างโรงงานผลิตรถยนต์อังกอร์ ด้วยงบลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างโรงงานแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ และมีเป้าหมายว่า จะผลิตรถอังกอร์ให้ได้ 500-1,000 คันต่อปี

รถอังกอร์ 333 เป็นรถเล็กแบบเปิดประทุน ความเร็วโดยเฉลี่ย 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราคาขายในกัมพูชาคันละ 99,000-132,000 บาท

นายเนียน กล่าวว่า แม้รถที่เขาสร้างจะมีเทคโนโลยีสู้รถนำเข้าไม่ได้ แต่อังกอร์เป็นรถที่ประกอบมือจึงมั่นใจในคุณภาพ และการที่เป็นรถเล็ก จะช่วยลดปัญหาการจราจร อีกทั้งเป็นรถยนต์ไฮบริดจ์ ก็จะช่วยลดการปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

Mthai News

(http://t3.imgchili.com/3245/3245768_1188.pagespeed.ce.ct.jpg) (http://imgchili.com/show/3245/3245768_1188.pagespeed.ce.ct.jpg) (http://t3.imgchili.com/3245/3245770_191919.pagespeed.ce..jpg) (http://imgchili.com/show/3245/3245770_191919.pagespeed.ce..jpg) (http://t3.imgchili.com/3245/3245772_191919a.pagespeed.ce.jpg) (http://imgchili.com/show/3245/3245772_191919a.pagespeed.ce.jpg) (http://t3.imgchili.com/3245/3245773_191919b.pagespeed.ce.jpg) (http://imgchili.com/show/3245/3245773_191919b.pagespeed.ce.jpg)


เวปข่าว

http://news.mthai.com/world-news/146189.html


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Hunter_JIK.CZ48 ที่ 20 ธันวาคม 2554 15:02:00
มันขัดๆกันยังไงไม่รู้นะ "รถสัญชาติเขมรเพียวๆไม่เกี่ยวกับใคร"

แต่ "ร่วมมือสร้างระหว่าง นายเนียน ผลึก ช่างยนต์วัย 52 ปีชาวกัมพูชา กับบริษัท เฮง ดีเวลลอปเม้นท์ของเวียดนาม"


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: TAOTAO-TZ#056- ที่ 20 ธันวาคม 2554 15:06:37
มันพยายามตีกะเรา เพราะญาติมันในเวียตนามเพียบ ปิดด่านที ทางเวียตนาม ได้ประโยชน์อื้อซ่า


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ne_dnet ที่ 20 ธันวาคม 2554 15:08:00
เห็นแล้วก็คิดถึงเราเลย ทำไมไม่ยอมให้พัฒนารถใช้สักทีหว่า มัวแม่คิดแต่เรื่องนายทุนกัน (แต่ถ้าทำมาจะใช้เปล่าก็อีกเรื่อง เพราะ เรายังหาของตัวนอกใส่เลย) และอีกอย่าง ถ้าทำมาในไทย ก็น่าจะอัพราคาให้ถูกกว่า จำได้แต่ก่อนก็มี แต่ราคาก็พอ ๆ กับรุ่นตลาด ตรงนี้น่าคิด ทำเองน่าจะดรอปราคาให้ต่ำได้ แต่เป็นเพราะไร ทุกคนน่าจะรู้นะครับ


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: TAOTAO-TZ#056- ที่ 20 ธันวาคม 2554 15:17:53
เห็นแล้วก็คิดถึงเราเลย ทำไมไม่ยอมให้พัฒนารถใช้สักทีหว่า มัวแม่คิดแต่เรื่องนายทุนกัน (แต่ถ้าทำมาจะใช้เปล่าก็อีกเรื่อง เพราะ เรายังหาของตัวนอกใส่เลย) และอีกอย่าง ถ้าทำมาในไทย ก็น่าจะอัพราคาให้ถูกกว่า จำได้แต่ก่อนก็มี แต่ราคาก็พอ ๆ กับรุ่นตลาด ตรงนี้น่าคิด ทำเองน่าจะดรอปราคาให้ต่ำได้ แต่เป็นเพราะไร ทุกคนน่าจะรู้นะครับ

คนงาน ฮอนด้า โตโย + โรงงานชิ้นส่วน รวมๆกัน สามล้านกว่าคน อิ อิ อิ

ทำรถแบรนด์ไทยหล่ะ

พี่ต้า พี่ ฮอนด้า ได้ลดการผลิตแน่


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ooAmmYoo ที่ 20 ธันวาคม 2554 15:19:45
http://www.thairung.co.th/TRModels.php

(http://t3.imgchili.com/3246/3246313_image.jpg) (http://imgchili.com/show/3246/3246313_image.jpg)


อันนี้แบรนด์ไทยครับ ใช่ว่าจะไม่มี

 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ne_dnet ที่ 20 ธันวาคม 2554 15:28:23
เหมือนเชฟเลย คิดถึงตอนอิชุชุ ตอนจะทำเก๋งก็เอาฮอนด้ามาแปะตราเองง่า หวังว่ายังจำกันได้ ส่วนไทยรอต่อไปขนาดอีเต๋นยังไม่ยอมให้จดทะเบียนเลย ออกโรงงานพอได้ แต่ตาสี ตาสา จะไปจด ผมว่าไงก็ไม่ได้นะ เห็นว่ากันการขโมยรถมาชำแระและประกอบใหม่กันนะครับ นี่่คือเหตุผลที่ไม่ยอมใ้ห้หระกอบรถเองนะครับ


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ร้านสยามแก๊ส 4a-fte ที่ 20 ธันวาคม 2554 16:52:42
http://www.thairung.co.th/TRModels.php

(http://t3.imgchili.com/3246/3246313_image.jpg) (http://imgchili.com/show/3246/3246313_image.jpg)


อันนี้แบรนด์ไทยครับ ใช่ว่าจะไม่มี

 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2

มันเป็นรถดัดแปลงครับ ไม่ใช่ไทยผลิต+ดีไซน์เองทั้งหมด


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Aj.Moo ที่ 20 ธันวาคม 2554 16:57:19
ใครบอกไทยไม่มีรถ ลองอ่านนี่สิ


เปิดโชว์ตัว V.M.C



ในปี 1995 รถกระบะของไทยนาม V.M.C ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีรายละเอียดดังนี้


•เครื่องยนต์
•
• ดีเซลรุ่น VM425SLTRS /แบบ 4 สูบ Turbocharger/ ขนาด 2498cc แรงม้าสูงสุด117 แรงม้าที่ 4200 รอบ/ แรงบิดสูงสุด 24 กก-ม.ที่ 2200 รอบ/ ความกว้างกระบอกสูบ 92 ม.ม.ระยะชัก 94 ม.ม/ อัตราส่วนกำลังอัด 22:1/ ความเร็วสูงสุด 173 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

•มิติ
•
• ยาว 4870 ม.ม. / กว้าง 1690 ม.ม. / สูง 1608 ม.ม. / ความยาวฐานล้อ 2950 ม.ม. / ความกว้างล้อหน้า 1395 ม.ม.และหลัง 1385 ม.ม. / ระยะต่ำสุด 200 ม.ม. / น้ำหนักรถ 1400 กก / น้ำหนักบรรทุกรวม 2700 กก.

•ระบบส่งกำลัง
•
• คลัทช์แบบแห้งแผ่นเดียวทำงานด้วยไฮโดรลิค / ระบบเกียร์ GT5AM-:GRAZIANO / อัตราทดเกียร์ 1=3.54; 2=1.96; 3=1.36; 4=1.00; 5=0.79; R=3.21

•ระบบกันสะเทือน
•
• หน้าแบบดับเบิลวิชโบน ทอร์ชั่นบาร์ ช็อคอัพ / หลังแบบเพลาแข็ง แหนบ ช็อคอัพ

•ระบบเบรค
•
• หน้าเป็นดิสค์เบรค / หลังดรัมเบรคปรับระยะผ้าเบรคอัตโนมัติ

•ยาง
•
• ขนาด 195 R 14 C-8 PR


เนื่องจากความรีบร้อนในการเปิดตัวจึงทำให้มีจุดพกพร่องค่อนข้างมากในเรื่องของตัวถังที่ประกอบไม่ค่อยเรียบร้อยและหน้าตาดูแปลกตาจึงไม่เป็นที่นิยมของคนไทย ทั้งที่ถ้าจะว่ากันไปแล้วไอ้รูปทรงเหลี่ยมที่ดูเทอะทะและรูปร่างหญ่โตในตอนนั้นมันพึ่งจะมาได้รับความนิยมเมื่อไม่นานนี้เอง อีกอย่างก็คือเครื่องยนต์ของ วีเอ็มซี ที่จ้างบริษัทชั้นนำในอิตาลีออกแบบและประกอบซึ่งดัดแปรงมาจากเครื่องยนต์ที่วางในรถเก๋งซีดานยี่ห้อหรูของอิตาลีเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับรถกระบะยี่ห้ออื่นๆในยุคนั้น วีเอ็มซี เหนือกว่าทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นด้านความแรง อัตราการบริโภคน้ำมัน ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องควันดำที่ไม่ว่าจะเร่งเครื่องขนาดไหนก็ไม่มีควันให้เห็นเพราะใช้ปั๊มแรงดันสูงควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นระบบที่ใช้หลักการเดียวกันกับที่เรารู้จักในนามคอมมอนเรียวในปัจจุบันซ้ำตัวเรือนของเครื่องยนต์ยังเป็นเนื้อเดียวกับเสื้อสูบจึงสามารถรับแรงบิดได้มากกว่าและทนทานกว่าทุกยี่ห้อในยุคนั้น อีกอย่างก็คือเครื่องเดินเรียบและเงียบกว่ายี่ห้ออื่นๆ อีกทั้งมีช่วงล่างที่บึกบึนแกร่งเหนือกว่าใครทั้งหมดแต่แฝงไว้ด้วยการยึดเกาะที่หนึบหนับแถมนุ่มนวล ห้องโดยสารก็ถูกออกแบบให้มีขนาดกว้างนั่งสบายในแบบเก๋งไม่ว่าจะเป็นรุ่นมาตรฐาน รุ่นมีแค็ปหรือแม้แต่รุ่น4 ประตูที่ยี่ห้ออื่นๆต้องทำตามหลังจากนั้นอีก 2 ปีเลยทีเดียว และที่ประทับใจอีกอย่างก็คือวัสดุทุกชิ้นที่ใช้ประกอบล้วนเป็นวัสดุชั้นดีทั้งสิ้นที่แม้แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีรถกระบะยี่ห้อไหนที่ขายในเมืองไทยจะใช้วัสดุเกรดดีขนาดนั้น



น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง!



น่าเสียดายและน่าเสียใจที่รถกระบะที่คิดค้นและลุงทุนโดยคนไทย ออกแบบเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ถ้าเทียบกับยี่ห้อของต่างชาติในยุคนั้นแล้ว วี.เอ็ม.ซี มีคุณภาพก็เหนือกว่า ทนทานกว่า แบกน้ำหนักได้มากว่า ซึ่งถ้านำมาเทียบกับปัจจุบันแล้วยังเหนือกว่าหลายๆยี่ห้อด้วยซ้ำไป แถมเคาะราคาไว้ก็ถูกกว่ายี่ห้ออื่นเกือบแสนเลยทีเดียว แต่เนื่องจากความรีบร้อนหรืออาจจะเรียกได้ว่าการวางแผนที่ผิดพราดที่เร่งเปิดตัวในสภาพที่ไม่เรียบร้อยดีและความพร้อมของศูนย์บริการก็ยังไม่มี แถมการประชาสัมพันธ์ก็อ่อน จึงทำให้เกิดภาพลบในสายตาคนไทยตั้งแต่เริ่มต้น ในที่สุดโลโก้นี้ก็เลือนหายไปภายในระยะเวลาแค่ปีเดียว บางครั้งก็เห็นมีวิ่งบ้างตามถนนแต่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่ามันเป็นรถของคนไทย ยังคิดว่าเป็นรถนำเข้าเลย ซึ่งถ้าใครเห็นทุกวันนี้ล้วนถามไถ่ว่าเป็นกระบะยี่ห้อหรูจากชาติไหน? เพราะมันถูกมองว่าแปลกตายากต่อการยอมรับในยุค 1995 แต่ในลักษณะเดียวกันมันกับถูกยอมรับในภาพลักษณ์นี้หลังปี 2000 แสดงว่า วี.เอ็ม.ซี ล้ำหน้ากว่าชาวบ้านเขาทุกยี่ห้อเกือบ 10 ปี นี่ซิ! ฝีมือคนไทย.



**ความเคลื่อนไหวครั้งใหม่**



เมื่อต้นปีนี้เองได้มีความพยามครั้งใหม่ของกลุ่มผู้ผลิตรายนี้ที่จะดำเนินการเปิดไลท์การผลิตอีกครั้งหนึ่ง และยังต้อการมุ่งเน้นผลักดันให้เป็นรถยนต์แห่งชาติให้ได้ตามเจตนาเดิม โดยได้ขอความร่วมมือไปยังภาครัฐเพื่อให้ช่วยเหลือในด้านเงินทุนหรือช่วยหาแหล่งเงินทุนและค้ำประกันให้ เพื่อนำมาดำเนินการในเรื่องการผลิตและตัวแทนจำหน่ายรวมทั้งศูนย์บริการ รวมถึงการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเคาะราคาไว้ที่ไม่เกินคันละ 4 แสนบาท แต่กลับไม่มีการตอบรับใดๆจากภาครัฐจนทุกวันนี้ โดยส่วนตัวผมคิดว่าการเคลื่อนไหวครั้งใหม่นี้ถ้าทำได้สำเร็จน่าจะทำได้ดีกว่าครั้งแรกเพราะมีประสบการณ์ความล้มเหลวมาแล้ว สิ่งที่ขอติงคือเรื่องการประชาสัมพันธ์เพราะถ้าการประชาสัมพันธ์ดีๆหน่อยประกาศให้คนไทยได้รับรู้ ผมว่าแม้ภาครัฐจะไม่ให้ความช่วยเหลือไม่ว่าด้วยเหตุผลลับลมคมในแค่ไหนก็ตามเรื่องเงินทุนนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพียงแค่ขายหุ้นเพิ่ม ผมว่ายังมีคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่รักชาติและเห็นด้วยกับความคิดของท่านและพร้อมที่จะร่วมลงทุนกับท่าน จริงอยู่ที่ท่านกลัวว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของต่างชาติแต่ถ้าท่านใช้วิธีกระจายหุ้นแบบจำกัดจำนวนและขายเฉพาะคนไทยเท่านั้นก็น่าจะป้องกันได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งหละที่ชูสองจักแร้สนับสนุนและพร้อมจะควักเงินเก็บที่มี(อันน้อยนิด)ไปซื้อหุ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ตัวอย่างที่มีให้เห็นมาแล้วที่แมงกะไซค์ไทเกอร์ของคนไทยที่สามารถทำให้ตลาดราคารถถูกลงชั่วข้ามคืน ยิ่งบรรดารถกระบะที่ขายในบ้านเรามันแพงเกินความเป็นจริงมากไปที่น่าเจ็บใจก็คือไอ้พวกที่ผลิตในบ้านเราแล้วส่งไปขายต่างประเทศด้วย ทุกอย่างแทบจะเหมือนกันหมดแต่ราคาที่ขายในต่างประเทศกลับถูกกว่าในบ้านเราเกือบแสนทีเดียวมันเป็นไปได้ยังไงแล้วภาครัฐก็ไม่ได้ให้ความสนใจในการควบคุมราคาเลย(ไม่ทราบว่ามีอะไรปิดหูปิดตา) ยิ่งเขียนเลือดรักชาติก็ยิ่งเดือดครับกับความเอาเปรียบของบริษัทรถข้ามชาติ


ความจริงแล้วผมก็อยากติดต่อกับกลุ่มคนไทยท่านเหล่านั้นเพื่อให้กำลังใจครับ แต่อย่างที่บอกท่านอ่อนประชาสัมพันธ์เลยไม่รู้จะติดต่อไปที่ไหน ยังไงก็ตามผมขอใช้โอกาสนี้เชิดชูความกล้าหาญและแนวคิดของท่านเหล่านั้นด้วยความจริงใจ และขออวยพรให้ประสบผลสัมเร็จดังที่หวังและตั้งใจขอเป็นกำลังใจให้ครับ อยากเห็นครับรถกระบะของคนไทยในราคาไทยๆแต่คุณภาพเหนือกว่าของนอก เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าทำได้อีกไม่นานน่าจะติดตามด้วยเก๋งซีดานเพื่อคนไทยราคาไทยๆ ในอนาคตครับ ผมกลัวอยู่อย่างเดียวคือกลัวว่าท่านเหล่านั้นจะถูกตัดตอนจากบริษัทรถข้ามชาติไปก่อนที่รถยนต์แห่งชาติจะถือกำเนิดนะซิครับ

ที่มา : http://blog.eduzones.com/cars/12541


หัวข้อ: Re: Angor 333 รถสัญชาติเขมรเพียวๆ ไม่ได้เอี่ยวกะใครเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ooAmmYoo ที่ 20 ธันวาคม 2554 18:21:18
ใครบอกไทยไม่มีรถ ลองอ่านนี่สิ


เปิดโชว์ตัว V.M.C



ในปี 1995 รถกระบะของไทยนาม V.M.C ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีรายละเอียดดังนี้


•เครื่องยนต์
•
• ดีเซลรุ่น VM425SLTRS /แบบ 4 สูบ Turbocharger/ ขนาด 2498cc แรงม้าสูงสุด117 แรงม้าที่ 4200 รอบ/ แรงบิดสูงสุด 24 กก-ม.ที่ 2200 รอบ/ ความกว้างกระบอกสูบ 92 ม.ม.ระยะชัก 94 ม.ม/ อัตราส่วนกำลังอัด 22:1/ ความเร็วสูงสุด 173 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

•มิติ
•
• ยาว 4870 ม.ม. / กว้าง 1690 ม.ม. / สูง 1608 ม.ม. / ความยาวฐานล้อ 2950 ม.ม. / ความกว้างล้อหน้า 1395 ม.ม.และหลัง 1385 ม.ม. / ระยะต่ำสุด 200 ม.ม. / น้ำหนักรถ 1400 กก / น้ำหนักบรรทุกรวม 2700 กก.

•ระบบส่งกำลัง
•
• คลัทช์แบบแห้งแผ่นเดียวทำงานด้วยไฮโดรลิค / ระบบเกียร์ GT5AM-:GRAZIANO / อัตราทดเกียร์ 1=3.54; 2=1.96; 3=1.36; 4=1.00; 5=0.79; R=3.21

•ระบบกันสะเทือน
•
• หน้าแบบดับเบิลวิชโบน ทอร์ชั่นบาร์ ช็อคอัพ / หลังแบบเพลาแข็ง แหนบ ช็อคอัพ

•ระบบเบรค
•
• หน้าเป็นดิสค์เบรค / หลังดรัมเบรคปรับระยะผ้าเบรคอัตโนมัติ

•ยาง
•
• ขนาด 195 R 14 C-8 PR


เนื่องจากความรีบร้อนในการเปิดตัวจึงทำให้มีจุดพกพร่องค่อนข้างมากในเรื่องของตัวถังที่ประกอบไม่ค่อยเรียบร้อยและหน้าตาดูแปลกตาจึงไม่เป็นที่นิยมของคนไทย ทั้งที่ถ้าจะว่ากันไปแล้วไอ้รูปทรงเหลี่ยมที่ดูเทอะทะและรูปร่างหญ่โตในตอนนั้นมันพึ่งจะมาได้รับความนิยมเมื่อไม่นานนี้เอง อีกอย่างก็คือเครื่องยนต์ของ วีเอ็มซี ที่จ้างบริษัทชั้นนำในอิตาลีออกแบบและประกอบซึ่งดัดแปรงมาจากเครื่องยนต์ที่วางในรถเก๋งซีดานยี่ห้อหรูของอิตาลีเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับรถกระบะยี่ห้ออื่นๆในยุคนั้น วีเอ็มซี เหนือกว่าทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นด้านความแรง อัตราการบริโภคน้ำมัน ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องควันดำที่ไม่ว่าจะเร่งเครื่องขนาดไหนก็ไม่มีควันให้เห็นเพราะใช้ปั๊มแรงดันสูงควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นระบบที่ใช้หลักการเดียวกันกับที่เรารู้จักในนามคอมมอนเรียวในปัจจุบันซ้ำตัวเรือนของเครื่องยนต์ยังเป็นเนื้อเดียวกับเสื้อสูบจึงสามารถรับแรงบิดได้มากกว่าและทนทานกว่าทุกยี่ห้อในยุคนั้น อีกอย่างก็คือเครื่องเดินเรียบและเงียบกว่ายี่ห้ออื่นๆ อีกทั้งมีช่วงล่างที่บึกบึนแกร่งเหนือกว่าใครทั้งหมดแต่แฝงไว้ด้วยการยึดเกาะที่หนึบหนับแถมนุ่มนวล ห้องโดยสารก็ถูกออกแบบให้มีขนาดกว้างนั่งสบายในแบบเก๋งไม่ว่าจะเป็นรุ่นมาตรฐาน รุ่นมีแค็ปหรือแม้แต่รุ่น4 ประตูที่ยี่ห้ออื่นๆต้องทำตามหลังจากนั้นอีก 2 ปีเลยทีเดียว และที่ประทับใจอีกอย่างก็คือวัสดุทุกชิ้นที่ใช้ประกอบล้วนเป็นวัสดุชั้นดีทั้งสิ้นที่แม้แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีรถกระบะยี่ห้อไหนที่ขายในเมืองไทยจะใช้วัสดุเกรดดีขนาดนั้น



น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง!



น่าเสียดายและน่าเสียใจที่รถกระบะที่คิดค้นและลุงทุนโดยคนไทย ออกแบบเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ถ้าเทียบกับยี่ห้อของต่างชาติในยุคนั้นแล้ว วี.เอ็ม.ซี มีคุณภาพก็เหนือกว่า ทนทานกว่า แบกน้ำหนักได้มากว่า ซึ่งถ้านำมาเทียบกับปัจจุบันแล้วยังเหนือกว่าหลายๆยี่ห้อด้วยซ้ำไป แถมเคาะราคาไว้ก็ถูกกว่ายี่ห้ออื่นเกือบแสนเลยทีเดียว แต่เนื่องจากความรีบร้อนหรืออาจจะเรียกได้ว่าการวางแผนที่ผิดพราดที่เร่งเปิดตัวในสภาพที่ไม่เรียบร้อยดีและความพร้อมของศูนย์บริการก็ยังไม่มี แถมการประชาสัมพันธ์ก็อ่อน จึงทำให้เกิดภาพลบในสายตาคนไทยตั้งแต่เริ่มต้น ในที่สุดโลโก้นี้ก็เลือนหายไปภายในระยะเวลาแค่ปีเดียว บางครั้งก็เห็นมีวิ่งบ้างตามถนนแต่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่ามันเป็นรถของคนไทย ยังคิดว่าเป็นรถนำเข้าเลย ซึ่งถ้าใครเห็นทุกวันนี้ล้วนถามไถ่ว่าเป็นกระบะยี่ห้อหรูจากชาติไหน? เพราะมันถูกมองว่าแปลกตายากต่อการยอมรับในยุค 1995 แต่ในลักษณะเดียวกันมันกับถูกยอมรับในภาพลักษณ์นี้หลังปี 2000 แสดงว่า วี.เอ็ม.ซี ล้ำหน้ากว่าชาวบ้านเขาทุกยี่ห้อเกือบ 10 ปี นี่ซิ! ฝีมือคนไทย.



**ความเคลื่อนไหวครั้งใหม่**



เมื่อต้นปีนี้เองได้มีความพยามครั้งใหม่ของกลุ่มผู้ผลิตรายนี้ที่จะดำเนินการเปิดไลท์การผลิตอีกครั้งหนึ่ง และยังต้อการมุ่งเน้นผลักดันให้เป็นรถยนต์แห่งชาติให้ได้ตามเจตนาเดิม โดยได้ขอความร่วมมือไปยังภาครัฐเพื่อให้ช่วยเหลือในด้านเงินทุนหรือช่วยหาแหล่งเงินทุนและค้ำประกันให้ เพื่อนำมาดำเนินการในเรื่องการผลิตและตัวแทนจำหน่ายรวมทั้งศูนย์บริการ รวมถึงการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเคาะราคาไว้ที่ไม่เกินคันละ 4 แสนบาท แต่กลับไม่มีการตอบรับใดๆจากภาครัฐจนทุกวันนี้ โดยส่วนตัวผมคิดว่าการเคลื่อนไหวครั้งใหม่นี้ถ้าทำได้สำเร็จน่าจะทำได้ดีกว่าครั้งแรกเพราะมีประสบการณ์ความล้มเหลวมาแล้ว สิ่งที่ขอติงคือเรื่องการประชาสัมพันธ์เพราะถ้าการประชาสัมพันธ์ดีๆหน่อยประกาศให้คนไทยได้รับรู้ ผมว่าแม้ภาครัฐจะไม่ให้ความช่วยเหลือไม่ว่าด้วยเหตุผลลับลมคมในแค่ไหนก็ตามเรื่องเงินทุนนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพียงแค่ขายหุ้นเพิ่ม ผมว่ายังมีคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่รักชาติและเห็นด้วยกับความคิดของท่านและพร้อมที่จะร่วมลงทุนกับท่าน จริงอยู่ที่ท่านกลัวว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของต่างชาติแต่ถ้าท่านใช้วิธีกระจายหุ้นแบบจำกัดจำนวนและขายเฉพาะคนไทยเท่านั้นก็น่าจะป้องกันได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งหละที่ชูสองจักแร้สนับสนุนและพร้อมจะควักเงินเก็บที่มี(อันน้อยนิด)ไปซื้อหุ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ตัวอย่างที่มีให้เห็นมาแล้วที่แมงกะไซค์ไทเกอร์ของคนไทยที่สามารถทำให้ตลาดราคารถถูกลงชั่วข้ามคืน ยิ่งบรรดารถกระบะที่ขายในบ้านเรามันแพงเกินความเป็นจริงมากไปที่น่าเจ็บใจก็คือไอ้พวกที่ผลิตในบ้านเราแล้วส่งไปขายต่างประเทศด้วย ทุกอย่างแทบจะเหมือนกันหมดแต่ราคาที่ขายในต่างประเทศกลับถูกกว่าในบ้านเราเกือบแสนทีเดียวมันเป็นไปได้ยังไงแล้วภาครัฐก็ไม่ได้ให้ความสนใจในการควบคุมราคาเลย(ไม่ทราบว่ามีอะไรปิดหูปิดตา) ยิ่งเขียนเลือดรักชาติก็ยิ่งเดือดครับกับความเอาเปรียบของบริษัทรถข้ามชาติ


ความจริงแล้วผมก็อยากติดต่อกับกลุ่มคนไทยท่านเหล่านั้นเพื่อให้กำลังใจครับ แต่อย่างที่บอกท่านอ่อนประชาสัมพันธ์เลยไม่รู้จะติดต่อไปที่ไหน ยังไงก็ตามผมขอใช้โอกาสนี้เชิดชูความกล้าหาญและแนวคิดของท่านเหล่านั้นด้วยความจริงใจ และขออวยพรให้ประสบผลสัมเร็จดังที่หวังและตั้งใจขอเป็นกำลังใจให้ครับ อยากเห็นครับรถกระบะของคนไทยในราคาไทยๆแต่คุณภาพเหนือกว่าของนอก เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าทำได้อีกไม่นานน่าจะติดตามด้วยเก๋งซีดานเพื่อคนไทยราคาไทยๆ ในอนาคตครับ ผมกลัวอยู่อย่างเดียวคือกลัวว่าท่านเหล่านั้นจะถูกตัดตอนจากบริษัทรถข้ามชาติไปก่อนที่รถยนต์แห่งชาติจะถือกำเนิดนะซิครับ

ที่มา : http://blog.eduzones.com/cars/12541


รูปครับ เค้าบอกเป็นคอมมอนเรลด้วย ( ตั้งแต่ปี 1995 ) ไม่รู้จริงรึปล่าว

(http://t1.imgchili.com/3250/3250228_imag0139id.jpg) (http://imgchili.com/show/3250/3250228_imag0139id.jpg) (http://t1.imgchili.com/3250/3250229_images.jpg) (http://imgchili.com/show/3250/3250229_images.jpeg) (http://t1.imgchili.com/3250/3250230_ovey20070109195448__y.jpg) (http://imgchili.com/show/3250/3250230_ovey20070109195448__y.jpeg) (http://t1.imgchili.com/3250/3250231_u55b20070109195353__y.jpg) (http://imgchili.com/show/3250/3250231_u55b20070109195353__y.jpeg)


สุดยอดครับ ไม่นับตามวิทยาลัยเทคนิคต่างๆอีกครับ สร้างหุ่นยนต์เป็นแชมป์โลกได้ ฝีืมือช่างก็เทพประทานก็ปานนั้น น่าจะสนับสนุนให้มากกว่านี้เนาะ

 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2 :emo2